ตอนที่ 63 ชีวิตของเขาฉันเอาแน่!   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 63 ชีวิตของเขาฉันเอาแน่!
๕อนที่ 63 ชีวิตของเขาฉันเอาแน่! ส่วนน้อยมากที่วริทรจะใส่ชุดสีแดงดุเดือด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เหมาะ เธอมั่นใจแล้วว่าทาวัตเป็นคนส่งมา แต่ให้เธอใส่แบบนี้ออกไปก็มีความท้าทายพอสมคววร ตอนที่วรินทรเหม่อลอยกวินแอบดึงกล่องมา ด้านในยังมีสร้อยคอที่แบรนด์เดียวกัน เขาหัวเราะเขี้ยวลากดิน แอบหยิบกล้องแอบถ่ายออกจากกระเป๋าแล้วใส่เข้าไปในช่องว่างสร้อยคอ มองดูวรินทรที่ยังคงเหม่อลอย แอบดันกล่องกลับไปที่เดิม เขาไม่ยอมรับหรอกว่าเขาอยากเห็นตอนที่แดดดี๊กับม๋ามี๊หวานกัน กวินไม่ได้เรื่องซะเลย! ―――― งานโชว์อยู่ที่พิพิธภัณฑ์คริสตัล นี้คือ cr จัดเพื่องานโชว์โดยเฉพาะ ยามค่ำคืน ทั้งพิพิธภัณฑ์คริสตัลที่อยู่ในยามดึกโดดเด่นมาก สว่างแสบตา ฉายบนอาคารโปร่งใส เสมือนเพ้อฝัน งดงามจนเหมือนไม่ใช่ความจริง งานโชว์จำกัดคนอย่างเคร่ง นอกจากนักข่าวก็คือนักข่าว แน่นอนผู้ที่ไม่มีชื่อเสียงไม่ได้รับคำเชิญอยู่แล้ว ผู้ที่ได้รับคำเชิญก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไปแน่นอน ครบทั้งงาน วรินทรผู้ที่เป็นตัวเอกของงานโชว์ครั้งนี้เลย มาถึงที่นี้ตั้งเช้าก็เป็นเรื่องปกติ แต่ยังไม่เริ่ม จึงเดินเล่นที่พิพิธภัณฑ์คริสตัล “คุณวรินทร งานโชว์จะเริ่มขึ้นแล้ว หวังว่าคุณอย่าไปไหนจะดีกว่า” ปกเกศค่อยเตือนและเดินตามหลังวรินทรที่เดินไปทั่ว วรินทรหยุดเดินกระทันหัน หันหลังมองปกเกศ “ปกเกศ คุณยังไม่มีแฟนแน่นอนใช่ไหม” เป็นประโยคแน่นอน “ใช่ครับ”ปกเกศสีหน้าไม่ตะลึง ตอบตามความจริง แต่แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆพูดถึงเรื่องนี้ “ฉันจะบอกคุณ ตั้งแต่หัวจรดเท้าบ่งบอกว่าคุณโสดตัวโตๆ?” วรินทรหัวเราะเขี้ยวลากดิน เป็นรอยยิ้มที่สดใสน่ารักซือๆชัดๆ แต่กลับทำให้คนรู้สึกว่าเลวร้ายตลอด โสดตัวโตๆ? บนใบหน้าของปกเกศไม่มีสีหน้าความรู้สึกอะไรเลย มองวรินทรเดินเข้าไปในห้องน้ำ ยืนห่างออกอย่างรู้ตัวเอง “โอกาสมีแค่ครั้งเดียว อย่าให้ทาวัตรู้ตัว”หลังจากที่วรินทรทำอะไรเสร็จกำลังจะเปิดประตูออกไป ก็ได้ยินประโยคนี้ เป็นเสียงผู้หญิง พูดเสียงต่ำ เพราะฉนั้นเลยแยกไม่ออกว่าเป็นเสียงใคร วรินทรเอามือลงจากกลอนประตู ฟังทะลุผ่านทางชั้นประตูที่กั้นไว้ ห้องน้ำเป็นสถานที่แผนเยอะที่สุด วรินทรคิดอย่างทำอะไรไม่ถูก “ฉันไม่สนว่าคุณจะทำยังไง ยังไง ชีวิตของเขาฉันเอาแน่! เสียงต่ำร้ายกาจ เสมือนฉีดยาพิษ ทำให้วรินทรกังวลและหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจ ทาวัต ชีวิตของเขา…… ตัวอักษรพวกนี้ก็เหมือนกับเถาวัลย์ที่เกาะอยู่ในจิตใจของวรินทร มีคนอยากได้ชีวิตของทาวัต! เสียงเดินยิ่งอยู่ยิ่งไกลออกไป วรินทรพิงประตูแล้วค่อยๆนั่งลง ฝ่ามือเปียกด้วยเหงื่อ ใจก็ยังคงเต้นตุ่มตุ่มตุ่ม เธอรู้ว่าในเมือง c คนส่วนมากกลัวอำนาจและฝีมือของทาวัต และรู้ว่ามีคนมากมายอยากได้ชีวิตเขา แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ก็ปลอดภัย คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี่ เธอจะเป็นคนได้ยิน พอนึกถึงเสียงที่ร้ายกาจนั้น วรินทรก็จะรู้สึกหวาดกลัว ความรู้สึกที่เหมือนจะเสียอะไรไป ผ่านไปประมาณสิบนาที วรินทรที่หน้าซีดเหมือนไก่ต้มถึงเดินออกมา ขณะนั้นคนในพิพิธภัณฑ์คริสตัลก็รวมตัวกันได้พอสมควรแล้ว ปกเกศเห็นวรินทรเดินออกมาจึงเดินไปตรงหน้าเธอ “ไปเถอะครับ”วรินทรยกดวงตาขึ้นมองแล้วมองอีก ระแวงรอบๆ ใบหน้าซีดจางไปหมด คิ้วที่สวยงามก็ขมวด ลังเล เธอไม่แน่ใจว่าคนพวกนั้นอยู่แถวนี้หรือเปล่า เธอไม่ได้บอกปกเกศ กลัวพวกเขารู้ตัว เก้าโมงกลางคืน ห่างจากเวลาที่งานโชว์จะเริ่มอีกครึ่งชั่วโมง หลังจากที่วรินทรเปลี่ยนชุดเสร็จก็ปฏิเสธช่างแต่งหน้าที่เลขานิธูรส่งมา นั่งอยู่ที่ห้องคนเดียวสักพัก ถือโทรศัพท์มือถือแล้วเดินไปมาบนพรมนุ่ม ๆ บนมือถือแสดงการแจ้งเตือนตลอดเวลา ข้อความที่วรินทรส่งไปในแชทก็ไม่ตอบ ความกังวลในใจของวรินทรยิ่งอยู่ยิ่งหนัก “คุณวรินทร ถึงเวลาแล้ว” ปกเกศเคาะประตู พูดจากข้างนอก ปกเกศ! วรินทรตาโต เดินไปข้างประตูไม่กี่ก้าวแล้วเปิดประตูด้วยความรวดเร็ว “ปกเกศ คุณชายบ้านคุณมาหรือยัง?” ปกเกศตะลึงสักพัก เก็บมือที่เคาะประตูกลับ รู้สึกแปลกใจกับความตื่นตัวของวรินทร “คุณชายถึงแล้ว” ใจที่หนักแน่นของวรินทรในที่สุดก็เบาลง หันสายตาไปมา กำลังอยากจะเตือนปกเกศก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางนี้ แอบด่าในใจนิดหน่อย วรินทรยิ้มกับปกเกศแล้วพูด “ไปกันเถอะ” คนในพิพิธภัณฑ์มากันพอสมควรแล้ว จำนวนคนจำกัดได้พอดี เพราะฉนั้นที่พิพิธภัณฑ์ไม่แออัดเลยแม้แต่นิด เวทีตรงข้ามกับประตูต้องห้าม กว้างใหญ่สว่าง สะอาดสะอ้าน แสงไฟส่องที่ด้านบนเต็มๆ พื้นกระเบื้องที่สะอาดมีแสงส่องเป็นชั้นๆ ผ้าสีแดงบังอะไรไว้ข้างหลัง ทันใดนั้น แสงดับวูบ ข้างล่างเวทีก็มืดไปหมด ได้แต่ใช้ไฟอ่อนๆมองที่ผ้าสีแดงเลือดหมูบนเวที รู้สึกลึกลับระเบิด วรินทรยืนอยู่ล่างเวทีมองที่ฝูงชน สายตากวาดหาแต่ร่างของทาวัต “ปกเกศ ตรงที่ฉันปลอดภัยดีมาก คุณไปอยู่กับทาวัตเถอะ” วรินทรไม่มีวิธีไหนแล้ว ได้แต่พูดกับปกเกศเช่นนี้ มีปกเกศอยู่ด้วย อย่างน้อยเขาจะปลอดภัย ปกเกศลังเลไปสักพัก วันนี้วรินทรแปลกประหลาดมาก แต่คุณชายสั่งไว้ว่าให้เฝ้าดูเธอไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว เขาไม่สามารถขัดคำสั่งของคุณชายได้ “คุณชายบ้านคุณต้องการคุณมากกว่าฉัน จริงๆนะ ปกเกศ ฉันไม่ได้ล้อเล่น” วรินทรพูดอย่างจริงจัง เก็บความเฮฮ่าของปกติเข้าไป เคร่งนิดหน่อย “ต่อจากนี้ ขอเรียนเชิญนักออกแบบของงานโชว์ครั้งนี้ ผู้ที่ได้รับตำแหน่งใหม่นักออกแบบ cr คุณวรินทรขอเรียนเชิญครับ” พิธีกรพูดจบแล้ว ต่อมาก็คือวรินทรขึ้นเวที “ถ้าคุณยังตามฉันอีกเชื่อไหมเดี๋ยวฉันจะลวนลามคุณ?” วรินทรมองปกเกศที่ตามหลังตน ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วจริงๆ พูดอย่างโหดๆ เป็นอย่างที่คิด ปกเกศรีบหยุดเดิน มองวรินทรด้วยความกลัว “กลับไปหาคุณชายคุณซะ ฉันไม่ต้องการให้คุณมาปกป้อง” วรินทรพูดด้วยความได้ใจ หันตัวเดินขึ้นเวที ปกเกศส่ายหัว คิดสักแปปแล้วทำตามที่วรินทรบอก ไปหาทาวัต ถึงจะท่ามกลางฝูงชนมากมาย ปกเกศก็สามารถหาทาวัตเจอโดยเร็ว ทาวัตนั่งอยู่บนโซฟาที่จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะอยู่ทางเฉียงของเวที มีบอดี้การ์ดยืนอยู่รอบๆตัว สภาพแวดล้อมแข็งแกร่ง ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ทาวัตยกแก้วไวน์แดงขึ้น หนีบไว้ระหว่างนิ้วค่อยๆหมุนๆๆ ดวงตาที่ดำเสมือนหมึกดำเสมือนอินทรีมองที่ร่างเพรียวบางบนเวทีอย่างแม่นยำ ริมฝีปากที่มีสีคล้ายสีกุหลาบยิ้มขึ้นอ่อนๆ ท่าทางอารมณ์ไม่เลว วันนี้เขาตั้งใจใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว อีกอย่างแขนเสื้อเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวนี้ มีรอยฟันกัดสองรอย เสื้อเชิ้ตตัวนี้ คือยัยวรินทรหน้าโง่ให้มา รอยฟันกัด แน่นอนก็คือฝีมือของวรินทรเอง “คุณชาย”ปกเกศเดินไปตรงหน้าทาวัต ก้มหน้าพูดด้วยความเคารพ 
已经是最新一章了
加载中