ตอนที่ 85 ผมอยากพบคุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 85 ผมอยากพบคุณ
ต๭นที่ 85 ผมอยากพบคุณ วรินทรก็สั่นหัว แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ากวินถูกทาวัตพาตัวไปตั้งแต่เมื่อคืน ดูท่าจะไม่ได้กินอาหารเช้าของกวินแน่ๆ ตอนนี้ มือถือก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงตะกึตะกักที่ดังขึ้นบนโต๊ะ สายที่โทรเข้ามากลับไม่ใช่ทาวัต วรินทรมองไปที่จอ เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก “ฮัลโหล?” “วริน” เป็นเสียงที่ใสๆ ราวกับสายลมอ่อนๆที่เมื่อพัดมาแล้วจะทำให้คนรู้สึกถึงความอ่อนโยน ช่างคุ้นเคย ตาทั้งสองข้างของวรินทรได้เบิกกว้าง เริ่มมีรอยยิ้มที่มุมปาก แล้วตอบไปอย่างหวานๆว่า “ประภาพ?” ประภาพเหมือนจะรู้สึกถึงความสุขอีกด้านของโทรศัพท์ จึงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา มือทั้งสองข้างก็ล้วงกระเป๋ากางเกง ขณะที่กำลังยืนอยู่ที่สนามบินก็เงยหน้ามองท้องฟ้า และตอบไปว่า “อืม” ความดีใจของวรินทรเป็นเรื่องที่เห็นได้ง่ายมาก เมื่อได้ยินเสียงของประภาพพูดมาว่า “ผมกลับมาแล้วนะ” “จริงหรือหลอกกันเนี่ย? ไม่ใช่ว่าคุณต้องอยู่อีกสองปีถึงจะกลับมาได้หรอ?” วรินทรรู้เรื่องของครอบครัวประภาพหนิดหน่อย ครอบครัวเขามีพ่อคนเดียว ใช้ชีวิตกับพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ อยู่ที่จีนสองสามปีก็ย้ายไปอังกฤษ ในตอนแรกแบบถูกบังคับ แต่สุดท้ายตัวเขาก็ไม่อยากกลับจีนซะเอง พ่อเขาไม่มีทางเลือก จึงให้คนไปตามตัวกลับมา วรินทรเจอประภาพเมื่อตอนที่ประภาพหลบคนที่พ่อเขาใช้ให้มาหาตัวเขา ตอนนั้นฐานทัตได้กลับฝรั่งเศสไปแล้ว วรินทรกลัวว่าคนจะหาเธอเจอจึงปฏิเสธข้อเสนอของฐานทัตที่จะพาเธอกับกวินกลับฝรั่งเศสไปด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่า พวกคนที่มองสองแม่ลูกคู่นี้ก็อดทนไม่ได้แล้ว วรินทรรู้สึกขอบคุณประภาพอย่างไร้ข้อกังขา จนถึงตอนสุดท้าย เขาก็กลายเป็นเพื่อนสนิทของเธอ “ไม่มีทางอื่น ที่บ้านเคร่งครัดมาก กลับมาดีที่สุด” ประภาพพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความรู้สึกที่ไร้ทางเลือก แต่แฝงไปด้วยความปิติยินดี “มีเวลามั๊ย ผมอยากเจอคุณ” ประภาพถามไปตรงๆ แต่ก็ไม่อยากให้คนตกใจ เพราะถ้าการใช้ชีวิตที่อังกฤษมานานขนาดนั้น ถ้าเป็นการโดนขังไว้ นั่นจึงเป็นปัญหา วรินทรก็ไม่ปฏิเสธ หันไปมองนาฬิกาบนกำแพง แล้วพูดว่า “ฉันคุ้นเคยกับที่นี่มากกว่าคุณ คืนนี้ฉันขอเลี้ยงข้าวที่ร้านอาหารที่อร่อยที่สุดที่ฉันรู้จักละกันนะ” “โอเค แล้วเจอกันนะ” เมื่อประภาพพูดจบพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วก็วางสาย ตอนนี้ รถโรลส์-รอยซ์มาจอดที่ด้านหน้า เขาได้เปิดประตูเข้าไป และที่ตามเขามาก็คือเงาของอีกคนหนึ่ง “จะมาโกหกเธอแบบนี้มันดีแล้วหรอ?” เสียงๆนั้นเหมือนจะไม่พอใจ เริ่มจะบ่น ประภาพมองไปหน้าต่างด้านอก ดวงตาที่เยือกเย็นทั้งสองข้างก็หงอยเหงา “เรื่องพวกนี้สำคัญด้วยหรอ?ขอแค่ฉันได้สิ่งที่ต้องการก็พอแล้ว ขับรถไปเถอะ” ในที่สุดร่างนั้นก็หยุดพอ จนไม่มีอะไรจะพูดอีก ได้แต่มองไปที่นอกหน้าต่าง วรินทรได้วางสายลงก็เพิ่งรู้ว่าในบันทึกข้อมูลการโทรนั้นมีโทรศัพท์หลายสายที่ไม่ได้รับ และส่วนใหญ่คือเบอร์ของทาวัต เธอจึงสงสัยว่า ต้องรอให้ตัวเธอเองคิดได้ก่อนแล้วค่อยกลับไปหาเขาไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงใจร้อนอย่างนี้? ช่างเป็นวันที่แย่จริงๆ สายที่โทรเข้ามานี้คือกวินใช้มือถือของทาวัตโทรมาทั้งนั้น ทาวัตก็ได้แต่รอให้เธอมาเอง จนถึงตอนนี้กลายเป็นเขาที่กังวลไปเอง จะโทษใครดี “หม่ามี้ก็ยังไม่มารับโทณศัพท์” กวินบ่นมาอย่างไม่ค่อยพอใจ ปกติ มีเสียงเรียกเข้าแค่สองสามครั้ง หม่ามี้จะมารับโทรศัพท์ แต่ต่อนี้ก็ยังไม่รับสายซะที เพราะว่าเขาใช้โทรศัพท์ของแดดดี้โทรไปหรอ? กวินได้จับขอบโทรศัพท์เล่น โทรศัพท์เครื่องนี้ค่อนข้างบางและหน้าจอใหญ่ มือของเขาไม่อาจจับไว้ได้ โทรศัพท์ก็ตกพื้น เพราะเขาไม่ได้ระวัง เขาได้สร้างเรื่องเข้าให้แล้ว กวินหุบปากเงียบ หันไปมองทาวัตอย่างบริสุทธิ์ใจ เขาไม่ได้ตั้งใจ แดดดี้คงจะไม่ตีก้นเขาใช่มั๊ย? ทาวัตกลับทำหน้าเฉยๆแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากพื้น มองดูหลายๆรอบ วางมันไว้บนโต๊ะ แล้วพูดออกมาว่า “เปลี่ยนเครื่องใหม่ละกัน” แค่นี้ก็ไม่ใช้ต่อแล้ว? กวินทำตาโตแบบอึ้งๆ โอเค แดดดี้คงมีเงินจริงๆ กวินอิจฉาจังครับ ถ้าหากเอฟพวกเขาได้ยินทาวัตพูดแบบนี้ ไม่รู้เลยว่าจะเขาจะใช้เงินฟาดหัวกวินมาหรือเปล่า พวกเขาห้าคนรวมเป็นหนึ่งครอบครัวมีเงินเป็นอย่างน้อยร้อยล้าน เพิ่มเติมด้วยทรัพย์สินมรดกของตระกูลเาวงค์ที่อยู่ในมือพวกเขา ทรัพย์สินเหล่านี้แค่ส่วนเดียวก็สามารถให้คนนำไปใช้อย่างฟุ่มเฟือยได้กี่เดือนแล้ว คนที่สืบทอดมรดกเหล่านี้ จะเป็นใครไม่ได้นอกจากกวิน แต่ก็ไม่เข้าใจจริๆว่าทำไมถึงต้องอิจฉา ประมาณว่ากวินไม่รู้เลยว่าตัวเองมีทรัพย์สินมากขนาดนี้..... “จ๊อกๆ” ท้องของกวินก็ส่งเสียงออกมา เป็นเสียงที่ดังกลางๆ แต่ดังพอที่จะทำให้ทาวัตได้ยิน ทาวัตยิ้มที่มุมปาก มองหน้ากวินที่อยู่ดีๆก็หน้าเสียขึ้นมา เขาลุกขึ้น เข้าไปจูงมือของกวิน “ป่ะ เดี๋ยวพาไปกินข้าว” กวินเริ่มจะกัดปาก หน้าตาก็เริ่มแดง ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ “คุณลุงครับ หนูรู้จักร้านที่อาหารอร่อยนะ หนูไปกินข้าวที่นั่นกับแม่บ่อยๆ..... “ กวินพูดออกมา คุณลุง? ทาวัตเริ่มขมวดคิ้ว นี่เขาเพิ่มระดับจากน้าเป็นคุณลุงแล้วหรอ? “บอกแล้วไงว่าผมเป็นพ่อแก!” ยัยวรินทรนี่ ถ้าเขาได้ตัวมา จะต้องให้เธอมาบอกให้กวินยอมรับว่าเขาเป็นพ่อแน่ๆ ------- ร้านอาหารใบเมเปิ้ล ร้านอาหารร้านนี้อยู่ในซอยเล็กๆ เป็นร้านที่ไม่ได้โด่งดังอะไร คนจีนมีน้อยคนที่จะรู้จัก วรินทรเป็นคนที่ชอบกิน ราวกับว่าเธอช่ำชองกับอาหารที่อร่อยในร้านอาหารทั่วประเทศจีน สามารถบอกได้ว่าเธอเป็นคนชอบกินจริงๆ ร้านอาหารใบเมเปิ้ลนี้ตั้งอยู่ในซอยลึก จุดเด่นของร้านคือตำแหน่งที่ตั้ง แต่สภาพรอบร้านนั้นเงียบ วรินทรได้เป็นลูกค้าประจำของที่นี่มานานแล้ว ถึงคนจะน้อย แต่ก็สะอาดสะอ้าน ลูกค้าประจำอย่างวรินทรจึงชอบมาที่นี่มาก พอวรินทรมาถึง ก็พบว่าประภาพได้มารอเธออยู่ที่นี่นานแล้ว เขานั่งที่โต๊ะริมหน้าต่าง เขาเป็นคนที่โดดเด่นจากฝูงชน มีหน้าตาที่สะอาดสะอ้าน กลมกลืนไปกับวิวด้านนอก ราวกับเป็นรูปภาพที่วาดอย่างประณีตสวยงาม มันให้ความรู้สึกเหมือนแสงอุ่น ๆ ที่ส่องจากดวงอาทิตย์ เช่นเดียวกันกับชนุตร์ เขาเป็นคนสุขุมเงียบๆ ซึ่งทำให้คนรอบข้างอยากจะเข้าใกล้ วันนี้เขาใส่เสื้อลำลองสีขาว ดูๆแล้วเหมือนพี่ใหญ่ที่เป็นที่เพิ่งของบ้าน และวันนี้ วรินทรก็สวมชุดลูกไม้สีขาวยาวคลุมหัวเข่า ท่อนบนก็ใส่เสื้อรัดรูป เพื่อโชว์สัดส่วนโค้งเว้าอันงดงามของเธอ ท่อนล่างใส่กระโปรงพลีต ใส่รองเท้าบูธสั้นสีดำ ซึ่งพอได้ดูแล้วก็รู้สึกถึงความบริสุทธิ์และมีพลัง 
已经是最新一章了
加载中