ตอนที่ 116 การรุมล้อมของนักข่าว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 116 การรุมล้อมของนักข่าว
ต๭นที่ 116 การรุมล้อมของนักข่าว “เอฟครับ เตรียมรถให้ผมหน่อย พวกเราจะไปงานเลี้ยง” เมื่อกวินมองจากระเบียงเห็นรถคันที่นั่งมาขับออกไป ก็หันไปบอกเอฟ “ครับ คุณหนู” เอฟได้โทรหาเอ แล้วก็ลงไปชั้นล่างพร้อมกับกวินที่กำลังดีใจ เขายังไม่ได้ให้ของขวัญกับแดดดี้เลย จะพลาดได้ยังไง คฤหาสน์บ้านธัมรุจินันท์ก็ไม่ไกลมาก ตามที่คาดไว้ ทาวัตให้คนไปเชิญชยุตมางานด้วย เพราะในสายตาของเขา เขาก็ยังเป็นพ่อของวรินทร จึงจะต้องเอาหน้าไว้ก่อน เนื่องจากเป็นงานวันเกิด เดิมที่ทาวัตไม่ได้อยากจัดหรูหรามาก เพียงแต่ว่าคืนนี้จะแนะนำกวินให้สาธารณะชนรู้จัก ทาวัตจึงจัดเตรียมงานไว้ล่วงหน้าเป็นพิเศษ แล้วยังเชิญนักข่าวมาอีก เรื่องนี้ เขากะจะให้คนทั้งประเทศรับรู้ แต่เขากลับยังไม่รู้ว่า วรินทรได้สร้างปัญหาให้เขามาครึ่งนึงแล้ว เมื่อวรินทรกับคาร่ามาถึงบ้านธัมรุจินันท์ ก็ก่อนงานจะเริ่มสิบนาที ถ้าหากไม่ใช่เพราะคนขับรถเป็นกังวลว่าจะถึงงานช้าแล้วต้องโดนทาวัตลงโทษ ก็คงจะไม่เสี่ยงชีวิตขับรถเร็วราวกับบินมาอย่างนี้ พูดง่ายคือมันเสี่ยงมาก “วริน ผู้ขับรถของบ้านเธอนี่เท่ห์จริงๆ ดูหน่อยว่าผมฉันเสียทรงหรือเปล่า?” คาร่ายังคงรู้สึกเมารถตั้งแต่ที่ลงจากรถมา ชี้ไปที่ผมของตัวเอง แล้วถามวรินทร “ของบ้านทาวัต ไม่ใช่ของบ้านฉัน” ;วรินทรหันไปหาเธอ แล้วก็ควงมือกันเข้าไปในบ้านธัมรุจินันท์ โดยปกติทรงผมของเธอเมื่อโดนลมพัดแล้วจะยุ่งเหยิงเหมือนรังไก่ จึงเห็นเธอเอาแต่เอามือลูบผม การที่คาร่าเป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดนอนกับรองเท้าแตะแล้วลงไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตคุณยังจะคาดหวังให้เธอทำผมทรงอะไร? ด้วยเหตุนี้ วรินทรได้แต่ถอนหายใจ พลังแห่งรักนั้นมันช่างยิ่งใหญ่จริงๆ “ยังไงต่อไปมันก็เป็นของเธออยู่แล้วไม่ใช่หรอ? จะไปเกรงใจอะไรเขาอีก เขาติดค้างเธอไว้เยอะ ใช้หนี้เท่าไหร่ก็ไม่หมด” คาร่าก็ไม่ได้ใส่ใจ หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา ส่องหน้าผ่านจอมือถือแล้วก็แต่งหน้าของตัวเอง พอคิดไปสักพักก็เห็นคนที่ตัวเองรัก อยู่ดีๆก็พูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ นี่คือหลังจากตอนที่วรินทรเดินไปนานขนาดนี้ เขาได้บอกกับตัวเองเป็นครั้งแรกว่า จะต้องให้เขาประทับใจให้ได้ ทางด้านคาร่าที่เตรียมพร้อมจะต่อสู้ ทางด้านวรินทรก็เดินเชิดไหล่เข้าไปในประตูของบ้านธัมรุจินันท์ แปะๆ ทั้งสองได้เปิดประตูเข้าไป ก็ได้ยินเสียงแปะดังขึ้น กลีบดอกไม้หลากสีสันก็ถูกโปรยลงมา แล้วร่วงหล่นมาติดอยู่บนไหล่และเส้นผมของพวกเธอ ทำให้พวกเธองงไปชั่วขณะ “อ๋อ!ที่แท้เรื่องที่คุณชายจะเซอไพร์สก็คือคุณนายแห่งบ้านธัมรุจินันท์นี่เอง!” ในขณะที่กำลังยืนงงอยู่นั้น วรินทรก็ได้ยินคนในงานพูดกัน แล้วก็รู้สึกว่ามีแสงแฟลชแว๊บขึ้นตรงหน้าของตัวเอง หลังจากที่ตาหายเบลอ ก็มองไปสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จากทางเข้ามีพรมแดงวางอยู่จนสุดทาง ที่ยืนอยู่ทั้งสองด้านคือผู้สื่อข่าวและบางคนที่เธอคุ้นเคย แต่คนส่วนใหญ่นั้นเธอไม่รู้จัก ตรงสุดทางของพรมแดง มีคนที่คุ้นเคยกำลังยืนอยู่ใต้เงาของโคมไฟคริสตัลสวารอฟสกี้บนบันไดวน คนๆนั้นใส่สูธที่ตัดเย็บพิเศษยี่ห้อชื่อดังของอิตาลี สีดำนั้นเข้ากับร่างกายเขาได้ดี แสดงให้เห็นลมหายใจที่เย็นชาแต่ดุดันที่ทำให้คนไม่กล้ามองหน้า เมื่อแสงส่องไปที่ใบหน้าใบนั้น ก็เกิดแสงสะท้อนบนเส้นผม บนบ่า ดวงตาที่ดำสนิทก็มองมาที่เธอ ริมฝีปากที่งดงามก็เริ่มยิ้ม ราวกับยิ้มอ่อนๆให้เธอ วรินทรไม่ใส่ใจจะมองเขา ผู้ชายตรงหน้านั้นราวกับสร้างขึ้นด้วยเวทย์มนท์จากสวรรค์ จึงง่ายต่อการหลบสายตา ภายใต้สายตาที่กำลังตกตะลึงเขาก็ยังคงไม่เคลื่อนไหว แต่ก็ทำให้คนหลงจนลืมตัว เมื่อเธออยู่ในสายตาของผู้ชายที่อยู่ด้านตรงข้าม ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นภาพที่ทำให้เขาอยากละสายตา ชุดราตรีของวรินทรวันนี้เป็นชุดที่ธาวัตสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยการนำงานที่เธออกแบบมาสร้างสรรค์ให้เป็นชุดที่ตระการตา ชุดราตรีชุดนี้มีสีขาวหิมะเหมือนชุดเจ้าสาว ถูกออกแบบให้เข้ากับไหล่และช่วงเอว ช่วงกระโปรงก็ถูกออกแบบให้เป็นระลอกของคลื่น ซึ่งเมื่อเธอเดินแล้วกระโปรงก็จะพลิ้วไหวเหมือนคลื่นน้ำในทะเล ราวกับเป็นผู้หญิงจากนิยายตะวันตก ที่ทำให้คนที่ได้เห็นตกตะลึงไปตามๆกัน ในงานเลี้ยงมีก็ผู้หญิงที่มีชื่อเสียงมาร่วมงาน เมื่อพวกเธอได้เห็นวรินทรแล้ว ก็แทบจะสูญเสียความมั่นใจ “คุณวรินทร ได้ยินมาว่าเมื่อ 5 ปีก่อนคุณได้ไปจากประเทศจีน ขอถามว่าคุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” เมื่อนักข่าวเห็นวรินทร ก็เหมือนกับว่าจะได้มีข่าวหน้าหนึ่งในวันพรุ่งนี้ จึงนำกล้องมาล้อมรอบวรินทร คาร่าที่อยู่ข้างๆก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ “ทำไมในตอนแรกคุณถึงไปต่างประเทศคะ? เป็นเพราะคุณทาวัตทิ้งคุณจนเสียใจเลยจากไปหรือเป็นเพราะเขาบังคับให้คุณแต่งงานด้วย?” “รบกวนช่วยตอบคำถามหน่อยนะครับ?” วรินทรกวาดสายตาไปมองนักข่าวที่กำลังตื่นเต้นกับเรื่องนี้ บางคนก็ขมวดคิ้วราวกับเดือดเป็นร้อนแทน เธอไม่อยากตอบคำถามพวกนี้ และมันก็ไม่ใช้หน้าที่ของเธอที่จะตอบพวกเขา นี่แสดงให้เห็นว่านักข่าวที่ตื่นเต้นพวกนี้ไม่สามารถไปถามทาวัตได้ แล้วจะปล่อยวรินทรไปได้ยังไง? วรินทรอยากจะดึงคาร่าออกไปมาก แต่พวกนักข่าวกลับล้อมรอบพวกเธอราวกับเป็นสระน้ำ ดูเหมือนว่าถ้าวันนี้เธอไม่พูดอะไรออกไปให้พวกเขาพอใจพวกเขาก็คงจะไม่ปล่อยพวกเธอออกไปแน่ๆ ที่วรินทรกลัวคือ เธอไม่อยากสร้างความลำบากให้กับทาวัต แต่คาร่าไม่สามารถทำได้ เธอเริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียว และยอมไม่ได้ที่เห็นเพื่อนสาวโดนแกล้ง จึงผลักนักข่าวคนหนึ่งจนล้มไปทางด้านหลัง เพราะยังไงเธอก็ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียง ไม่ใช่ดารา เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง เธอถึงไม่กลัว ว่าคนพวกนี้จะเล่นงานเธออย่างไร “นักข่าวสมัยนี้ไม่ได้กินข้าวกันรึไง ถึงได้ชอบเอาเรื่องส่วนตัวของชาวบ้านมาเป็นประเด็นร้อนแบบนี้?” คาร่าพูดด้วยความเย็นชา ทำให้นักข่าวกลุ่มนั้นมองบน ท่าทางราวกับว่าไม่กลัวฟ้าดิน “คุณผู้หญิงคนนี้ ถึงคุณจะเป็นเพื่อนของคุณวรินทรก็จะมาผลักคนอื่นตามใจชอบไม่ได้นะ? ถ้าเกิดทำเขาตายจะทำยังไง? ” คิดไม่ถึงว่านักข่าวพวกนี้นั้นเล่ห์เหลี่ยมจัด ถือเอาเรื่องที่คาร่าทำเป็นความผิด มีใบหน้าที่ดุดัน แบบที่ใครๆมองก็ไม่ชอบ วรินทรก็ดึงตัวคาร่ามาที่ด้านหลังของตัวเอง แล้วมองที่พวกเขา “ก็ผลักไปแล้วพวกคุณจะเอาอะไรอีก?มีปัญญาไล่ฉันออกนอกประเทศสิ มาโวยวายแบบนี้มันจะมีประโยชน์อะไร? ” หยิ่งผยอง การปฏิเสธแบบหยิ่งพยอง นักข่าวกลับมีความตื่นเต้นมากขึ้น ราวกับว่าเจอประเด็นร้อน กล้องก็ถ่ายรูปกันไม่หยุด! แล้วยังไงล่ะ พวกเขาแทบจะลืมไปแล้ว ถึงวรินทรจะไม่กลับมาตั้ง 5 ปี แต่ทาวัตล่ะ จะให้พวกเขามารังแกแม่ของลูกหรอ? ชีวิตที่เป็นแบบอย่างนี้มันไม่น่าอดทนเลย ทาวัตก็เดินมาตามพรมแดง มือทั้งสองข้างอยู่ในกระเป๋ากางเกง เดินมาทางวรินทร นักข่าวพวกนั้นเมื่อเห็นทาวัตเดินมา ก็หลีกทางให้เดินโดยอัตโนมัติ ให้ทาวัตเดินผ่านไป ทาวัตมองไปที่นักข่าวที่อยู่รอบตัวของวรินทรอย่างเย็นชา แล้วยังเห็นนักข่าวบางคนพยามยามดันคนอื่นให้ไปแตะตัวของวรินทรอีก สายตาของเขาก็เริ่มไม่พอใจ เดินไปโอบเอวของวรินทร แล้วหันไปมองนักข่าวที่จงใจทำคนนี้ เขาค่อยๆก้มหน้าไปมองป้านชื่อที่หน้าอกของนักข่าวคนนั้น แล้วก็ยิ้มมุมปาก “สำนักพิมพ์ส้มโอ?”
已经是最新一章了
加载中