ตอนที่ 66 แสร้งทำไม่รู้จัก
1/
ตอนที่ 66 แสร้งทำไม่รู้จัก
ชายาเจ้าเล่ห์ เจ้าอย่าหนี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 66 แสร้งทำไม่รู้จัก
ตนที่ 66 แสร้งทำไม่รู้จัก หลังจากที่ล่าสัตว์กลับมา จางชิงเอ๋อก็ไม่ได้ออกจากห้องเลย คิดทบทวนอยู่ตลอดเวลา นางคิดว่าตัวเองจะมายอมแพ้แบบนี้ไม่ได้ นางชอบเหว่ยหมิงมาหลายปี จะมาแพ้ให้กับเด็กสาวที่ไม่ใสสะอาดแบบนี้ได้ยังไงกัน ต่อให้นางจะต้องแพ้ แต่จะมาแพ้แบบอนาถแบบนี้ไม่ได้ เมื่อเปิดประตูห้องมา ก็เห็นจางหายยืนอยู่หน้าประตู กำลังยกมือเคาะประตู จางชิงเอ๋อหันหน้านี้ แล้วพูดว่า: “ท่านมาทำไม ท่านยังจำได้อีกหรอว่ามีน้องสาวอย่างข้าด้วย?” “งั้นเจ้าเคยจำด้วยหรอว่ามีพี่ชายอย่างข้า? ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่” นางงอนไปหลายวัน จางหายรู้ดีว่าเป็นเพราะเรื่องของเหว่ยหมิง แต่ตั้งแต่กลับมา อารมณ์ของเหว่ยหมิงไม่ดีเลย สองคนนี้หาเรื่องให้เขาปวดหัว สีหน้าของจางชิงเอ๋อเปลี่ยนไป เต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจจ นางก้มหน้าแล้วบ่นว่า “ใครบอกให้ท่านเอาแต่ช่วยคนนอก ข้าเป็นน้องสาวของท่านแท้ๆ แต่ท่านกลับช่วยแต่เซี่ยอีอี ยังมีหยางเฉียนหลิงอีก พวกท่านสองคนเอาแต่ลับๆล่อๆอะไรก็ไม่รู้ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าพวกท่านสองคนแอบทำอะไรกัน” ปกติจางหายก็เป็นคนชอบไม้อ่อนไม่ชอบไม้แข็งอยู่แล้ว จางชิงเอ๋อรู้จุดนี้ดี จางหายเห็นน้องสาวตัวเองน้อยอกน้อยใจ ในใจก็รู้สึกปวดใจ เขาแตะไปที่หัวของนาง แล้วปลอบใจว่า: “เอาล่ะ อย่าพูดว่าพี่ชายอย่างข้าไม่ช่วยเจ้าอีกเลย ช่วงนี้เหว่ยหมิงอารมณ์ไม่ค่อยดีเพราะเรื่องของเซี่ยอีอี พรุ่งนี้เจ้าไปดูเขาหน่อยล่ะกัน อย่าไปปั้นหน้าพูดอะไรที่เขาไม่อยากฟังล่ะ เขาชอบเซี่ยอีอีเรื่องนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ เจ้าต้องหัดเอาใจเขาบ้าง ไม่ใช่เอาแต่จะจัดการคนอื่น อีกอย่างแม่นางหยางนางทำอะไรให้เจ้า อยู่ดีๆไปพาลใส่นางทำไม นางบาดเจ็บขนาดนั้น เจ้าสบายใจหรอ?” จางชิงเอ๋อไม่ชอบหยางเฉียนหลิงเหตุผลก็ไม่ได้ใหญ่อะไร แต่ว่าเพราะนางสนิทกับเซี่ยอีอี แล้วก็ตัวติดกับพี่ชายกับนางทั้งวันก็เท่านั้น แต่ว่าในเมื่อจางหายยอมช่วยนาง นางก็ไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องของคนอื่นอีก จางชิงเอ๋อยิ้ม จากนั้นก็ไปเกาะแขนของจางหาย “ท่านพี่ใจดีที่สุดเลย ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านไม่มีทางไม่สนใจข้าข้ารับปากท่านต่อไปจะไม่หาเรื่องหยางเฉียนหลิงอีก ไม่งั้นต่อไปเกิดนางมาเป็นพี่สะไภ้ข้าข้าจะลำบาก” เมื่อได้ยินดังนั้น จางหายก็อึ้งไป “เจ้าเด็กคนนี้นี่ พูดจาเหลวไหล พี่สะไภ้อะไรกัน เจ้าไปเอามาจากไหน?” เห็นหน้าตาจางหายจริงจัง จางชิงเอ๋อทำหน้าทำตารังเกียจ “โย่ว ปฏิเสธหรอ ตอนนั้นท่านพานางกลับบ้านมาด้วยทำไม ปกติพวกท่านก็ตัวติดกันตลอด ท่านอย่าบอกข้านะว่าท่านไม่ได้ชอบนางเลยแม้แต่น้อย” “ข้า ......” จางอวายอยากจะอธิบาย แต่ว่าก็หยุดไป เขาสะบัดมือจางชิงเอ๋อทิ้ง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า: “นางเป็นผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน ชื่อเสียงจะมาเสียเพราะข้าได้ยังไง? ข้าขอเตือนเจ้าก่อนนะ คำพูดแบบนี้อย่าไปพูดข้างนอกนะ ข้าชอบอยู่กับนางเพราะข้าชื่นชมในตัวนาง มันไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าพูด อีกอย่าง ข้าก็มีคนในใจแล้ว แต่ว่าไม่ใช่หยางเฉียนหลิง” คำพูดประโยคนี้จางชิงเอ๋อรู้สึกแปลกใจ จางหายเป็นคุณชายเจ้าสำราญที่ขึ้นชื่อ ยังเคยบอกว่าชาตินี้จะไม่แต่งงานด้วยซ้ำ แต่วันนี้เขากลับยอมรับว่ามีคนที่ชอบแล้ว มันน่าแปลกมาก “ท่านพี่ ท่านคงไม่ได้เอามาหลอกข้าใช่ไหม? บนโลกใบนี้มีผู้หญิงที่ทำให้ท่านชอบได้ด้วยหรอ เป็นหญิงโคมเขียวของที่ไหนล่ะเนี้ย?” เมื่อได้ยินดังนั้น จางหายก็ตกใจ รีบพูดเตือนว่า: “อย่าพูดเหลวไหล ไม่งั้นข้าจะโกรธแล้วนะ” ท่าทางของเขาตอนนี้ไม่เหมือนกำลังแหย่นางเล่น จางชิงเอ๋ออึ้งไป ไม่ทันได้สติ จางหายก็หันแล้วเดินออกไป หลังจากที่นางได้สติกลับมาแล้ว เห็นเงาสุดท้ายของจางหายกำลังเดินไป นางรีบตามไป แล้วพูดว่า: “เฮ้ ท่านพี่ รอข้าก่อน ท่านบอกข้ามาก่อนว่านางเป็นใคร ข้าจะไปสู่ขอให้!” ------------ วันต่อมา ณ ภัตาคาร จางชิงเอ๋อนั่งก่ายโต๊ะแบบขี้เกียจอยู่บนโต๊ะ สีหน้าแบบไม่พอใจ “ท่านพี่นี่ก็จริงๆเลย เมื่อวานเพิ่งบอกข้าว่าไม่ชอบหยางเฉียนหลิง วันนี้กลับชวนนางมาด้วย ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่หาเรื่องนางแล้ว ท่านก็ไม่น่าจะไม่ไว้ใจขนาดนี้ไหม” เสียงรินน้ำหยุดลงพร้อมกับคำพูดของจางชิงเอ๋อ จางหายวางกาน้ำชาลง แล้วพูดว่า: “ก็แค่กินข้าว หรือว่ากินได้กับแค่คนที่ชอบเท่านั้น หากเป็นอย่างนั้น ข้ากับพี่หมิงของเจ้าคงได้คู่กันไปนานล่ะมั้ง? อีกอย่างข้าก็บอกเจ้าแล้ว ข้ากับแม่นางหยางเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่มีอะไรอย่างอื่น” “เหอะ เพื่อนหรอ ท่านเห็นนางเป็นเพื่อน นางอาจจะไม่ได้คิดอย่างนั้นก็ได้ ข้าว่านะ นางจะต้องชอบท่านแน่ๆ ไม่งั้นนางคงไม่มาทุกครั้งที่ท่านชวนนางหรอกจริงไหม?” ประเด็นนี้พูดมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ นางยังไม่ยอมจบสักที จางหายก็ขี้เกียจจะอธิบายแล้วและเริ่มหงุดหงิด “บอกเจ้าไปไม่รู้จะกี่รอบแล้ว คนที่ข้าชอบไม่ใช่หยางเฉียนหลิง แต่เป็นคนอื่น ทำไมเจ้ายังคงกัดไม่ปล่อยสักทีนะ?” “ข้าจะไปรู้ได้ไงว่าท่านจริงหรือว่าโกหก ท่านไม่ยอมบอกชื่อ ที่อยู่ แล้วทำไมข้าจะต้องเชื่อท่านด้วย” เมื่อคืนวอแวอยู่ทั้งคืนก็ทำให้เขาพูดไม่ได้ เขาเคยรับปากนางเอาไว้ว่าจะไม่บอกชื่อของนางกับใคร แต่นี่มันแปลกเกินไปไหม เขาเป็นถึงหมิงเหวียนซื่อจื่อ กลับทำเพื่อคำมั่นสัญญาและยอมที่จะคิดถึงแต่แต่งด้วยไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้นั่นก็คิดได้สองอย่าง หนึ่งคนๆนั้นหยิ่งจนเขาไม่สามารถจัดการได้ สองคนๆนี้ไม่มีอยู่จริง แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นแบบไหน นางก็อยากจะรู้ หากเป็นอย่างแรก งั้นนางก็อยากจะรู้ ว่าคนๆนั้นจะแน่สักแค่ไหนที่ทำให้พี่ชายของนางรักษาคำพูดได้ขนาดนี้ แต่หากเป็นอย่างที่สอง งั้นก็หมายความว่าเขาหลอกนางเพื่อปกป้องหยางเฉียนหลิงล่ะสิ? “เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เจ้า พูดกับเจ้าไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะนางก็หายไปแล้ว พิสูจน์อะไรให้เจ้าเห็นไม่ได้ แต่ว่าสักวันหนึ่ง ข้าจะต้องหานางให้เจอ” พูดจบ จางหายก็ก้มหน้าแล้วยิ้ม จากนั้นก็พูดว่า: “นางมีดวงตาคู่หนึ่งที่น่าหลงใหล กลมใส ดูลึกลับ ทำให้คนเข้าไม่ถึง นางเป็นคนเดียวในโลกที่พิเศษ ต่อให้เอาผู้หญิงทั้งโลกมารวมกันก็เทียบนางไม่ได้” จางชิงเอ๋อลูบไปที่คางของตัวเอง แล้วก็พูดด้วยความไม่เกรงใจว่า “พิเศษ? ใช่ซิ คนที่จู่ๆก็หายตัวไปก็ต้องพิเศษซินะ ไม่แน่นางอาจจะเป็นโจร หรือไม่กำลังหนีคดีอยู่ก็ได้” คำพูดของจางชิงเอ๋อทำให้จางหายมองนางด้วยความดุ “เจ้าน่ะสิเป็นโจร เจ้าคิดว่าใครๆก็เหมือนเจ้าไปหมดหรือไงกัน วันๆเอาแต่กินเที่ยว นางจากไปเพราะมีสาเหตุ อีกอย่างนางทำอะไรไม่เหมือนคนทั่วไป เจ้าไม่รู้เรื่องอะไรก็อย่าพูดจาเหลวไหล” เมื่อเห็นจางหายพูดข้อดีของนางมากมายขนาดนี้ จางชิงเอ๋อยิ่งสนใจคนๆนี้เข้าไปอีก สามารถกำราบคนเจ้าสำราญอย่างเขาได้ หากนางไม่เป็นเทพก็ต้องเป็นเซียนแน่ๆ? ขณะที่ทั้งสองกำลังเถียงกันอยู่ ด้านนอกประตูก็มีเสียงเรียกดังขึ้น เมื่อหันหน้าไปดู จางหายถึงกลับอึ้งไป ส่วนจางชิงเอ๋อก็แอบยิ้มร้ายๆ “แม่นางหยางจะกลับแล้วหรอ?” เสียงเรียบๆนิ่งทำให้หยางเฉียนหลิงตกใจ สีหน้าของนางซีดเซียว นางส่ายหน้าอย่างไม่เป็นตัวเอง แล้วรีบพูดว่า: “คำนับท่านอ๋อง” “ตามสบาย” เหว่ยหมิงพูดอย่างเรียบง่าย จากนั้นก็มองหน้านางต่อ เหมือนกำลังรอคำตอบของเขาเมื่อกี้ หยางเฉียนหลิงรู้สึกเขินๆ แล้วอธิบายว่า: “ข้า ...... ข้าเพิ่งมา แต่ลืมไปว่าอยู่ห้องไหน กำลังจะลงไปถามพอดี” เมื่อพูดจบ คนข้างหลังคนนั้นก็เปิดประตู จางหายเดินออกมา เห็นทั้งสองจึงทักทาย: “ทำไมพวกเจ้าช้าจังเลย ข้าคิดว่าข้านัดกินข้าวเย็นซะอีก” เหว่ยหมิงไม่ได้พูดอะไรมากเดินเข้าไปในห้อง หยางเฉียนหลิงหันไปมองจางหาย ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน จากนั้นก้มหน้าลง แล้วเดินเข้าไปด้านใน หลังจากเดินเข้าไป จริงๆแล้วหยางเฉียนหลิงอยากจะนั่งห่างจางชิงเอ๋อ แต่ใครจะคิดว่านางจะเขยิบเข้ามาหาเอง เมื่อเห็นดังนั้น จางหายก็รู้สึกไม่ค่อยดี แต่เมื่อคิดว่าเมื่อวานนางก็รับปากแล้วว่าจะไม่หาเรื่องหยางเฉียนหลิง ก็เบาใจลงหน่อย ข้าวมื้อนี้หยางเฉียนหลิงแทบจะกินไม่ลงเลย แถมยังเหม่อลอยอยู่หลายครั้ง พวกเขาเรียกนางก็ไม่ได้ยิน จางชิงเอ๋อนั่งอยู่ข้างๆนางก็พูดไม่หยุด แต่ว่าสิ่งที่นางพูดกับทำให้รอยยิ้มของหยางเฉียนหลิงไม่เป็นตัวเอง “กินเยอะๆ” จางชิงเอ๋อคีบอาหารวางในชามของหยางเฉียนหลิง จู่ๆนางก็ใจดีขึ้นมา หยางเฉียนหลิงไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เมื่อหันไปมองนาง กลับเห็นนางยิ้มแปลกๆ หยางเฉียนหลิงตกใจแต่ไม่ทันได้พูดอะไรออกมา จางชิงเอ๋อก็พูดจาประชดประชันด้วยเสียงเบาๆไปว่า: “เมื่อกี้เรื่องที่ข้าคุยกับพี่ชายของข้าพูดกัน เจ้าน่าจะได้ยินหมดแล้วใช่ไหม” เมื่อได้ยินดังนั้น มือที่ถือตะเกียบของหยางเฉียนหลิงก็สั่น จนเกือบหล่น นางพยายามจับตะเกียบให้แน่น แล้วย้อนถามไปว่า: “คำพูดของแม่นางจางข้าฟังไม่เข้าใจ ข้าไม่ได้ยินอะไรเลย” จางชิงเอ๋อคีบอาหารใส่ชามของหยางเฉียนหลิงอีก “อ๋อ? ไม่ได้ยินหรอ หรือว่าไม่อยากได้ยินกันแน่? พี่ชายข้าก็พูดชัดอยู่แล้ว เจ้าเป็นคนลาด น่าจะเข้าใจนะ” เห็นในชามเต็มไปด้วยอาหาร หยางเฉียนหลิงกลับไม่อยากจะกินอีก คิดไว้อยู่แล้วว่าจางชิงเอ๋อไม่ได้มาดีแน่ๆ แต่นางแค่ไม่คิดว่านางจะกล้าแม้แต่อยู่ต่อหน้าท่านหยงอ๋องกับจางหาย นางหันหน้าหนี ไม่อยากจะไปสนใจนาง “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไรอยู่” นางหัวเราะเบาๆ จางหายจ้องไปที่นาง แต่นางกลับเข้าไปใกล้หูของหยางเฉียนหลิง เหมือนกระซิบอะไรบางอย่าง “ในเมื่อเจ้าบอกไม่รู้ งั้นข้าก็จะบอกเจ้า พี่ชายข้าไม่ชอบเจ้า เจ้าก็ตัดใจซะเถอะนะ แต่ว่าชาตินี้เขาคงไม่แต่งกับผู้หญิงเพียงคนเดียวแน่ๆ หากเป็นอนุเจ้าก็ยังพอมีโอกาส แต่ว่าเจ้าไม่ต้องคาดหวังว่าจะได้อยู่เหนือข้า เพราะเจ้าไม่มีคุณสมบัตินั้น” คำพูดของจางชิงเอ๋อปกปิดการกระทำของตัวเองได้อย่างมิดชิด แต่สีหน้าของหยางเฉียนหลิงมันไม่ได้เป็นไปตามที่ใจนางอยากให้เป็น เมื่อเห็นดังนั้น เหว่ยหมิงก็มองไปที่จางหาย จางหายจ้องไป เห็นหยางเฉียนหลิงสีหน้าซีดเซียวไม่มีเลือดฝาด ก็รีบลุกขึ้นมาแล้วถามว่า: “แม่นางหยาง เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม ทำหน้าสีหน้าไม่ดีอย่างนั้นล่ะ?” จู่ๆจางหายก็เรียกมันทำให้หยางเฉียนหลิงมีข้ออ้างที่ดีมาก นางส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ไม่เป็นไร ก็แค่รู้สึกอึดอัด ท่านอ๋อง ซื่อจื่อ พวกท่านค่อยๆกินกันไปนะ ข้าขอตัวกลับก่อน” หยางเฉียนหลิงลุกขึ้น จางชิงเอ๋อก็รีบลุกขึ้นตาม นางดึงมือของหยางเฉียนหลิงเอาไว้ ยิ้มแบบสนิมสนม “อย่าเพิ่งไปซิ หากเจ้าอึดอัดหรือเบื่อ เดี๋ยวเรากินข้าวเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นกัน หากเจ้าไปแล้ว ก็เหลือข้าแค่คนเดียวกับผู้ชายสองคนมันน่าเบื่อนะ เจ้าอยู่ต่อเถอะนะ” ท่าทางของจางชิงเอ๋อไม่ได้ทำให้จางหายแปลกใจ เขามองตามขางชิงเอ๋อไปแล้วพูดว่า: “เราก็กินกันจะเสร็จแล้ว หากเจ้าเบื่อ เดี๋ยวเราไปเดินเล่นเป็นเพื่อนเจ้าเอง นานๆได้ออกมาสักที ทำไมถึงรีบกลับล่ะ?” เมื่อเห็นหยางเฉียนหลิงไม่พูดอะไร จางชิงเอ๋อก็จับแขนของนาง ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้ม แล้วแอบกัดฟันพูดว่า: “รีบนั่งลงเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นข้าจะป่าวประกาศให้ทั่วเมืองหลวงเลยว่าเจ้ามันเป็นผู้หญิงหน้าไม่อาย แอบชอบพี่ชายข้า” เมื่อได้ยินดังนั้น หยางเฉียนหลิงสีหน้าแย่ลงไปอีก นางมองไปที่จางชิงเอ๋อ เห็นท่าทางร้ายกาจของนาง หยางเฉียนหลิงในใจรู้สึกลำบากใจ แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป ทำได้แค่ทำตามที่นางพูดคือนั่งลง -------------- ที่ถนน เสื้อชุดแดงตัดขาว เงาของคนสองคนกำลังเดินอยู่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซูซิงเฟิงมาเมืองหลวง ดังนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าของในเมืองหลวงแปลกใหม่อะไร เขาบอกว่าอยากเดินเล่น ก็แค่อยากให้ใครบางคนเจียดเวลามาอยู่เป็นเพื่อนเขาให้มากหน่อยเท่านั้น เซี่ยอีอีรู้จักเขามานานหลายปีขนาดนี้ รู้อยู่แล้วว่าเขาคิดอะไร แต่ยังไงก็ว่างอยู่ เดินเป็นเพื่อนเขาสักหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร อีกอย่างนานๆเขามาที คำร้องของ่ายๆแบบนี้นางก็ไม่อยากปฏิเสธ “ก่อนหน้านี้ให้เจ้ากระจายข่าวเรื่องเปิดเหมียวเฉ่าเจียน เจ้ายังจำได้ไหม?” เขาหันไปมองคนที่ใช้ผ้าแดงปิดหน้า ซูซิงเฟิงพูดว่า: “นานๆเจ้าจะเอ่ยปากขอที ข้าจะลืมได้ยังไง? แต่ว่าข้าแค่ไม่เข้าใจว่า ปกติเจ้าไม่ชอบเปิดเผย ทำไมครั้งนี้ถึง ......” เซี่ยอีอีรู้ว่าเขาคิดจะพูดอะไร นางยิ้ม “เพราะอยากจะหาเงินเทาๆสักหน่อย แต่ก็ไม่อยากรอนาน” การกระทำของนางบ้าคลั่งแค่ไหนนางรู้ดี แต่ไม่มีทางเลือก ในใจของนางเหมือนปีศาจร้าย เอาเงินของคนอื่นมาเพื่อดูพวกเขาตายทั้งเป็น ความรู้สึกแบบนี้มันสะใจ “เงินเทาๆ? เงินก้อนไหนเจ้าไม่ได้โขกมาบ้างล่ะ เจ้าพูดแบบนี้เหมือนไม่ได้พูดเลย” ซูซิงเฟิงยิ้ม ต่อให้เขาพูดเบาแค่ไหน แต่หูของเซี่ยอีอีก็ได้ยินอย่างชัดเจน นางเหลืองจ้องไป ซูซิงเฟิงเบะปากแล้วไม่พูดอะไรอีก ถนนที่คึกคัก สายตาของชายชายหญิงหญิงก็สะดุดตาของเซี่ยอีอี เมื่อนางเห็นคนกลุ่มนั้นเดินหัวเราะกันมา สายตาของนางก็เริ่มไม่พอใจ เหมือนจะเริ่มโกรธมากกว่า นางคิดว่านางไม่อยู่จะทำให้เขาคิดถึงนางหลายวันหน่อย แต่ในความเป็นจริง ผู้ชายก็เชื่อไม่ได้ นาทีที่แล้วให้คำมั่นสัญญากับเจ้าได้ นาทีต่อไปก็สามารถไปเดินกับผู้หญิงคนอื่นได้เช่นกัน นังคนนั้นนี่มันนิสัยดีกว่าเหมียวตู๋เซียนอย่างนางซะอีก ไม่เพียงแค่เรียกเมื่อไหร่มาเมื่อนั้น ก็ตัวติดกันแจอีก ตาบ้า ไม่ถูกถลกหนัง เจ้าคงไม่รู้ว่าเหมียวตู๋เซียนอ่อนโยนแค่ไหนใช่ไหม “เฮ้ เจ้าเป็นอะไรไป? ทำไมทำหน้าเหมือนจะกินคนอย่างนั้นล่ะ?” ซูซิงเฟิงเห็นสายตาของนางไม่ปกติ ก็เลยยื่นมือปัดที่หน้าของนาง เซี่ยอีอีนิ่งไป ซูซิงเฟิงรีบเก็บมือไป “เจ้าอย่ามาจ้องข้าแบบนี้นะ ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้าสักหน่อย” คนสวมชุดแดงบนถนนเด่นาก คนแรกที่สังเกตเห็นนางคือคนที่เฝ้าคิดถึงนางมาตลอดหลายเดือนอย่างจางหาย เขาเดินหน้าเข้าไปหา เห็นเป็นนางจริงๆ ก็รู้สึกดีใจมาก “ท่านหมอเทวดา เป็นท่านจริงๆด้วย ท่านไปไหนมา ท่านรู้เปล่าข้าตามหาท่านแทบแย่” นางก็เดินไปเดินมาทำให้เขาลำบากใจทุกวัน เขากลับบอกว่าตามหานางแทบแย่ เซี่ยอีอีหัวเราะจนจะบ้าอยู่ในใจ แต่สีหน้ายังคงนิ่งอยู่ “หมิงเหวียนซื่อจื่อ ไม่เจอกันนานเลย” “ใช่ ไม่เจอกันนานเลย ท่านหมอไปไหนมาหรอ ทำไมตอนนั้นจากไปโดยไม่ได้บอกลาเลย ท่านรู้หรือเปล่าข้า ......” เขาอยากจะบอกว่าเขาร้อนใจ แต่คิดๆดูแล้ว เขากับหน้าก็ไม่ได้สนิทสนมขนาดนั้นแม้แต่หน้าก็ไม่เคยเห็น เขาจะไปมีสิทธิอะไรร้อนใจ? “ข้ามีเรื่องจำเป็นจะต้องไปก่อน ช่วงนี้ถึงกลับมา ตอนนั้นไปโดยไม่ได้ลาท่าน ข้ารู้สึกเสียใจจริงๆ” “ไม่ไม่ไม่ ไม่ต้องเสียใจหรอก ท่านหมอมีงานมาก ไม่ทันได้ร่ำลาก็สมเหตุสมผล ไม่ต้องใส่ใจมาก” แค่มาปรากฎตัวต่อหน้าจางหายอีกครั้งแค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว เขาคิดว่าชาตินี้คงไม่มีวาสนาได้เจอนางอีก วันนี้ได้พบอีกครั้ง เขารู้สึกขอบคุณสวรรค์มาก คนที่รู้จักเหมียวตู๋เซียนไม่ได้มีแค่จางหายคนเดียว จางหายดีใจจนไม่ทันได้สนใจคนที่อยู่ข้างหลัง เหว่ยหมิงเดินเข้ามาเขาถึงนึกขึ้นได้ว่าควรจะแนะนำ แต่ว่าจางหายยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เหว่ยหมิงก็พูดขึ้นมาก่อน “ท่านหมอมาถึงเมืองหลวงได้ เป็นเกียรติจริงๆ” “ท่านนี้คือ .......” เซี่ยอีอีเหลือบไปมอง แล้วทำเป็นไม่รู้จัก คำพูดของเหว่ยหมิงรู้จักหมอเทวดาคนนี้แน่ๆ จางหายแปลกใจว่าพวกเขารู้จักกันได้ยังไง แต่ พอเซี่ยอีอีพูดออกมา จางหายแปลกใจเข้าไปอีก เขาคือหยงอ๋อง ด้วยนิสัยของเขา ไม่เคยเดินเข้าไปทักใครก่อนต่อให้เขาจะรู้จัก แต่ว่าตอนนี้เขากลับเอ่ยปากทักก่อน แต่อีกฝ่ายทำเหมือนไม่รู้จักเขา มันประหลาดมาก เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ จางหายก็เลยแนะนำว่า: “เขาเป็นพี่น้องของข้าเอง ชื่เหว่ยหมิง เขาเป็น.........” จางหายกำลังจะพูด ก็มีเสียงของซูซิงเฟิงหลุดออกมาด้วยความตกใจว่า “เจ้าคือหยงอ๋องหรอ?” เมื่อได้ยินดังนั้น ไม่เพียงแต่จางหายกับเหว่ยหมิงที่แปลกใจ แม้แต่เซี่ยอีอีก็อึ้งไป ตำหนักหลินหลางเก๋อไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชสำนัก ไม่สนใจคนที่เกี่ยวข้องกับราชสำนักทั้งหมด แต่เขากลับได้ยินแค่ชื่อก็รู้ว่าเขาคือหยงอ๋อง ตาบ้านี่คิดกบฏหรือไงกันนะ? สำหรับเหว่ยหมิง ซูซิงเฟิงมองพริบเดียวก็จำได้แล้วว่าเขาคือคนที่เมืองหวินเฉิงในตอนนั้น เขามีคิ้วกับตาที่เหมือนกับเด็กน้อยสองคนนั้น ชาตินี้เขาไม่มีทางลืม ตอนแรกเขายังแปลกใจอยู่เลยว่าทำไมเซี่ยอีอีถึงได้ลืมคนแบบนี้ได้ ตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่า ที่แท้ไม่ใช่ว่านางไม่รู้จัก แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้จัก แต่เพราะอะไรนั้น เขาไม่อยากไปคิดถึงมัน ส่วนที่ว่าทำไมซูซิงเฟิงถึงได้รู้จักเหว่ยหมิง ก็เพราะในจวนหยงอ๋องมีคนที่ชื่อหงอีอาศัยอยู่ ถึงแม้หงอีจะเคยพูดว่าจะไม่ไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเซี่ยอีอี แต่เรื่องที่ตอนนี้เขาอาศัยอยู่ในจวนหยงอ๋องเขาก็ไม่ได้ปิดบังซูซิงเฟิง ซึ่งในเมื่อเขาพูดไปแล้ว ก็ต้องเล่าที่มาที่ไปว่าเพราะอะไรด้วย ดังนั้น ซูซิงเฟิงถึงได้รู้ว่าในเมืองหลวงมีคนสูงศักดิ์มาคอยตามจีบตามตอแยนางไม่ห่าง และเพราะแบบนี้เขาถึงได้ร้องขอให้นางมาเดินเล่นด้วย เพียงแค่เขาคิดไม่ถึงว่า การมาเดินเล่นจะได้มาเจอเขาจริงๆ ยิ่งคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะคือหยงอ๋อง ความโกรธในใจไม่รู้จะระบายยังไง ซูซิงเฟิงจึงยื่นมือไปโอบเอวของเซี่ยอีอีต่อหน้าเหว่ยหมิง เซี่ยอีอีตกใจแต่ก็ไม่ได้มีท่าทางปฏิเสธ ถึงแม้ละครฉากนี้นางจะไม่ได้เป็นจัดขึ้น แต่ว่าการกระทำของซูซิงเฟิงก็ช่วยนางได้เยอะ นางไม่รู้ว่าเหว่ยหมิงจะรู้จักนางดีแค่ไหน ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถปิดเขาได้ไหม ครั้งนี้เจอกันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่หากถูกจับได้เร็วแบบนี้ เรื่องที่นางจะทำหลังจากนี้คงทำต่อไปไม่ได้แน่ๆ เมื่อเห็นมีมือโอวเอวของนาง จางหายก็อึ้งไปใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาชี้ไปที่มือของซูซิงเฟิงแล้วชี้ไปที่เขา “เจ้า ... เจ้าทำไม ...... ทำไมเจ้าถึงได้ ......”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 66 แสร้งทำไม่รู้จัก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A