ตอนที่ 161 คำถามของทัตติ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 161 คำถามของทัตติ
ต๭นที่ 161 คำถามของทัตติ นิธานเห็นท่าทีของชยานีที่กำลังจะหมดเรี่ยวแรง ก็อดไม่ได้ที่จะจูบและลูบไล้ไปที่เส้นผมของชยานี ดวงตาอันกลมหมดของชยานีเบิกกว้างออก มองไปที่นิธานอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “คุณออกไปเลยนะ!” “โอเคนี!” นิธานคิดที่จะทำแบบนั้นจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่พยายามที่จะควบคุมอารมณ์ไว้ แต่สิ่งที่ชยานีเคยพูดไว้นั้นก็ถูก ผู้ชายพอได้อยู่บนเตียงก็เหมือนพวกคนบ้า คนลามก ทั้งๆที่เขาก็ไม่อยากจะปล่อยเธอไป ถึงขนาดที่หวงแหนเธอยิ่งกว่าอะไร อยากจะทะนุถนอม แต่ทุกครั้งที่ได้เจอหน้าเธอ ได้อยู่ใกล้ๆกับตัวเธอนั้น เขากลับไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้เลย “เหนื่อยมากเลยใช่ไหม พออาบน้ำเสร็จพวกเราก็ออกไปกันเถอะ!” นิธานดึงเสื้อผ้าคลุมอาบน้ำและนำมาห่อตัวชยานีให้แน่น คาดคิดว่าชยานีเองก็คงไร้เรี่ยวแรงจึงปล่อยให้เขาอุ้มเธอขึ้นมา ชยานีเหนื่อยจนพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงแค่จ้องมองนิธาน เป็นการแสดงความในใจออกมาว่าเธอกำลังไม่พอใจ กับข้าวไปเย็นหมดแล้ว นิธานจึงสั่งให้คนไปทำใหม่อีกชุด ก็เป็นนวตาที่นำกับข้าวเข้ามาส่ง และเธอก็อดคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เพราะเขาเห็นทั้งสองคนผู้ในผ้าคลุมชุดอาบน้ำ มันแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้งสองคนคงจะ......... นวตยายิ้มราวกับปีศาจ ก่อนที่เธอจะวิ่งจากไปนั้น เธอได้มาแสดงความโกรธต่อหน้าของชยานี “ฉันล่ะโกรธจริงๆ!” นิธานเป็นแบบนี้ คิดไม่ถึงว่านวตาเองก็จะมาเป็นแบบนี้อีก “รีบกินได้แล้ว! ”นิธานจับลูบและจูบเส้นผมของชยานี “ไม่หิวเหรอไง” “คุณคิดว่ายังล่ะ! ” …… ฝั่งทัตติของนั้นเพิ่งจะมาถึงเมืองนภา ชามาได้รู้แล้วว่าเขามาที่เมืองนี้ ชามาโดนบริษัทคำล้อม ควบคุมบริเวณของตัวเองไว้ เพราะฉะนั้นวันนี้ทัตติจึงไม่เข้าบริษัท และได้ให้เหตุผลว่าไปทำธุรกิจต่างจังหวัด แต่แท้จริงแล้วเมืองที่เขาบอกว่าจะมาทำธุรกิจนั้นคือเมืองนภานั่นเอง มันช่างบังเอิญเสียจริงๆ ชามาเป็นคนอย่างไรนะเหรอ เมื่อรวมกับเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นมานั้น เพียงแค่ลมพัดบนใบหญ้าก็สามารถทำให้เธอกลายเป็นลูกไก่ที่ดิ้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าการที่ทัตติมาที่นี่ด้วยตัวเองนั้นจะทำให้เธอเป็นอย่างไร ชามาอดคิดไม่ได้ว่าทัตตินั้นได้รู้ความจริงแล้วเหรอ หรือว่าทัตติจะรู้ว่าแล้วที่จริงแล้วคนที่ชื่อปาลีนั้นมีความคล้ายคลึงกับชยานีมาเสียจริง ยิ่งชามาคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว ความกลัวทุกๆอย่างกำลังรัดตัวเธอเอาไว้ เธอรู้สึกเหมือนต้องการอากาศหายใจ ชามาอยากจะออกไปหาทัตติใจจะขาด แต่เธอไม่สามารถทำแบบนั้นเพราะเรื่องราวในครั้งที่แล้วของบริษัทอัลฟ่าก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เสร็จ พรยศสั่งให้เธออยู่แค่ในบริเวณเขตพื้นที่ในห้องของโรงแรมเท่านั้น ไม่อนุญาตให้เธอเดินออกไปข้างนอก เพราะฉะนั้นชามาจึงทำได้แค่อดทนเก็บความ แต่เหมือนสวรรค์เป็นใจช่วยชามา คิดไม่ถึงเลยว่าโรงแรมที่ทัตติมาพักนั้นจะเป็นโรงแรมเดียวกันกับพวกของพรยศ ทัตติเพิ่งจะมาจากการไปพบปะกับชยานีมานั้น ตอนที่เขากดประตูลิฟต์ ก็บังเอิญเจอกับพรยศและปวีณ พวกเขาทั้งสวมคนเจอกันอย่างจังๆ รู้สึกแปลกประหลาดใจอย่างมากที่ได้เจอกัน แต่เป็นปวีณที่เอ่ยปากขึ้นก่อน “ทัตติ นายก็มาที่เมืองนภาเหมือนกันเหรอ มาธุระเรื่องของชามาเหรอ” ทัตติขมวดคิ้ว “ออกมาทำเรื่องธุรกิจนอกพื้นที่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับชามาเหรอ” ทัตติแกล้งทำท่าทางเป็นไม่รู้เรื่อง “คุณลุงมาทำอะไรเหรอครับ” “เอ่อ.......”พรยศเกิดความลังเลชั่วครูหนึ่ง “เหอะๆ พอดีว่าที่นี่มีธุระที่ต้องมาจัดการสะสางให้เรียบร้อยสะหน่อย นายเพิ่งมาถึงเหรอ” “อ่อครับ บินมาวันนี้แหละครับ” ทัตติพยักหน้าตอบรับ จากนั้นก็มองที่ปวีณ “นายก็มาด้วยเหรอ” ปวีณจ้องมองไปที่ทัตติ และพนักหน้าเล็กน้อย สีหน้าที่เรียบเฉย ไม่แสดงถึงความร่าเริงหรือใดๆ ก็ใช่ พวกเขาเคยเป็นพี่น้องที่ดีกันในอดีต ก่อนนั้นพวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ตั้งแต่ที่ปวีณกลับมาและรู้ว่าชยานีนั้นได้ตายไปแล้ว ทัตติกับชามาก็สนิทกันขึ้นเรื่อยๆ เห็นท่าทีของพรยศที่มีต่อคนอื่นๆในครอบครัวตระกูลกองแก้ว ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาต้องการให้ทัตติเป็นลูกเขยของเขาในอนาคต ทัตติเองก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรแม้แต่ประโยคเดียว สิ่งๆนี้ห้ามไม่ได้ที่จะทำให้ปวีณโกรธ ความสัมพันธ์ของทัตตินั้นจึงมีความบาดหมางในใจ “คุณลุงจะออกไปข้างนอกเหรอครับ” “ใช่แล้วแหละ”พรยศพนักหน้า ไม่รู้ว่าทำไม ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใหญ่ แต่พออยู่ต่อหน้าทัตติทีไรความรู้สึกมักจะถูกลดตัวลงทุกครั้ง ความรู้สึกแบบนี้นั้นไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ “งั้นคุณลุงเดินทางดีๆนะครับ ผมไปข้างบนก่อน” ทัตติพูดจะกำลังจะขึ้นไปชั้นบน แต่พรยศก็ได้เรียกเค้าไว้ก่อน “ทัตติ ลุงถามหน่อยได้ไหม นายมาทำงานอะไรเหรอ” ทัตติหรี่ตามอง “เรื่องเกี่ยวกับการทำงาน เป็นเรื่องภายในของบริษัทคำล้อมจำกัด คุณลุงก็ต้องการที่จะรู้เหรอครับ” ทัตติโดนเขากระแทกด้วยคำพูด ทำได้เพียงแค่ยิ้มอกมาพลาง “ชามาก็อยู่ที่นี่ กำลังพักผ่อนอยู่ที่ด้านบนพอดี เรื่องราวการแข่งขันในครั้งนี้ นายคงรู้แล้วสินะ” ทัตติขมวดคิ้ว และพยักหน้า “รู้บ้างเพียงเล็กน้อยครับ ไม่กี่วันมานี้ยุ่งมากๆเลย ก็เลยไม่มีเวลาโทรคุยกันกับชามาเลยครับ เธอยังไม่ได้กลับไปเหรอครับ” “ยังไม่ได้กลับไป!” พรยศมองทัตติที่ท่าทางราวกับว่ายังไม่รู้ความเป็นมาของเรื่องที่เกิดขึ้น “คุณลุงคะ พวกเราต้องไปแล้วครับ!”ปวีณพูดออกมาเป็นเรื่องเตือนพรยศแบบอ้อมๆ พรยศจึงพยักหน้าตอบรับ “โอเค งั้นพวกเราไปก่อนนะ ทัตติ ถ้านายมีเวลาก็แวะเข้าไปดูชามาหน่อยล่ะ ช่วงนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” “ได้ครับ! ” เมื่อถึงที่นี่แล้วทัตติไม่อาจจะที่จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าชามาอยู่ที่นี่ได้อีก และยิ่งเจอกับพรยศด้วยเมื่อกี้นี้ ทัตติจึงกลับไปที่ห้องของตัวเองก่อน แล้วโทรหาชามา“เมื่อกี้ฉันเจอคุณลุงที่ด้านล่าง คุณลุงบอกว่าเธอยังอยู่ที่เมืองนภาอยู่” “ทัตติ คุณกำลังหมายความว่าคุณเองก็อยู่ที่เมืองนภาเหมือนกันหรอคะ”ชามาตกใจเป็นอย่างมากและทำได้แค่บีบกำปั้นตัวเองแน่น “ใช่ค่ะ ฉันยังอยู่ที่นี่ ทัตติ นี่คุณ...........” “เธออยู่ที่ห้องไหน ฉันจะไปหาเธอ!” “เอ่อไม่! เอ่อฉันอยู่........”จริงๆแล้วสิ่งที่ชามากลัวมากที่สุดคือการที่เค้าจะต้องเจอกันกับทัตติ แต่ว่าเธอก็อยากเจอทัตติแบบเร่งด่วนอยู่ดี ตอนนี้เธอเหมือนพวกตีตนไปก่อนใคร่ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็กระทบทำให้เธอกลัวไปซะหมด เพียงแค่ทัตติมาที่เมืองนภา ก็เป็นได้ไปว่าเขาอาจจะรู้เรื่องของปาลีผู้หญิงคนนั้นแล้ว ชามาก็ยิ่งหวาดกลัวมากกว่าเดิม ไม่นานทัตติก็มาหาเธอ ชามาเปิดประตูห้องและชวนทัตติเข้ามา สีหน้าของเธอไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก เพราะเธอจงใจแต่งหน้าตาให้ดูเซื่องซึงและโทรม “ทัตติ คุณเข้ามาสิคะ”ชามาเอ่ยปากเชิญ ทัตติหรี่ตาลง และมองลงไปที่ตัวของชามา ก็เห็นว่าสีหน้าของเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะตรงที่เบ้าตาลึกของเธอ “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” “ปะ ปะ ปะเปล่าค่ะ! ทัตติ คุณอยากดื่มอะไรไหมคะ” “อะไรก็ได้!”ทัตติตอบ จากนั้นก็หาที่นั่ง แต่ชามากลับคิ้วขมวด สถานการณ์แบบนี้ของชามาน้อยมากนักที่ทัตติจะมีโอกาสได้เห็น และยิ่งเห็นท่าทีของชามาแบบนั้น มันบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังมีเรื่องบางอย่างปิดบังอยู่ “เธอมีอะไรอยากพูดกับฉันไหม” “เอ่อ พูด พูดอะไรเหรอคะ” ชามาแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร “ฉันไม่มีอะไรจะพูดเลยค่ะ” “ชามาเกี่ยวกับเรื่องที่เธอปลอม และไหนจะยังลอกความคิดมาอีก” ทัตติเตือนสติเธอ “ทัตติคะ เรื่องๆนี้จะมาโทษฉันไม่ได้นะคะ ก่อนหน้านั้นฉันไม่ได้พูดกับคุณไปแล้วหรือว่า นี่คือสิ่งที่นีทุ่มเทอย่างสุดตัว ฉันไม่อยากให้สิ่งที่เธอสิ่งที่เธอทุ่มเทนั้นต้องเสียเปล่า และคุณเองก็ได้เห็นด้วยกับฉันแล้วไม่ใช่เหรอคะ” ชามามองไปที่ทัตติ ด้วยท่าทางที่ทำตัวน่าสงสาร แต่ในตอนนี้ภาพในสมองของทัตติมีแต่ชยานีเท่านั้น ถึงแม้จะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นภรรยาของนิธาน แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะไปดูให้เห็นกับตา ว่านั้นคือชยานีของเขาเอง คิดถึงคำพูดพวกนั้นของชยานี ทัตติก็ยิ่งทำท่าทีเคร่งขรึมในชามา “เธอแน่ใจใช่ไหม ว่าเธอไม่ได้มีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่” “ฉันจะมีเรื่องอะไรที่ต้องปิดบังคุณ!” ชามาก้มหน้าเอามือกุมที่หน้าของเธอ “เกี่ยวกับเรื่องของนี ไม่ใช่ว่าฉันบอกคุณไปหมดทุกอย่างแล้วเหรอว่านีเค้าตายไปแล้ว เค้าไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว ฉันไม่อยากให้สิ่งที่เธอทุ่มเทแบบเป็นแบบตายนั้นต้องสูญเปล่า” “ชามา เธอคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆเหรอ เธอคิดอย่างนั้นจริงๆใช่ไหม”เสียงของทัตติเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเหลือเกิน น้ำเสียงนั้นช่างเย็นชาเหลือเกิน ชามานิ่งอึ้ง หัวสมองของเธอโล่งคิดอะไรไม่ออก เธอกัดริมฝีปาก สายตาของเธอนั่นแหละที่เป็นตัวทำให้เธอมีพิรุธ “คุณรู้หมดแล้วเหรอคะ” ทัตติถอนหายใจออกมา “ก่อนหน้านั้นเธอเป็นคนบอกฉันเองว่า มีคนกำลังขโมยความคิดของviviไป และเธอก็ต้องการที่จะจัดการ และใส่ร้ายเขาทุกอย่าง ชามา ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าวิธีการของเธอนั้นมันร้ายกาจขนาดไหน ” “ฉัน.....”ชามาเม้มปาก “แต่เธอเป็นคนที่กำลังลอกเลียนแบบงานของนีนะคะ ” “พอได้แล้วชามา คนๆนั้นฉันก็ได้ไปเจอมาแล้ว เธอคนนั้นคือภรรยาของนิธาน เธอก็รู้คำว่านิธาน สองคำนี้ ในเมืองนภาแล้ว เป็นตัวแทนอะไรสำหรับคนทั้งประเทศ เธอคิดว่าภรรยาของคนอย่างคุณนิธานนะเหรอ จะมาลอกเลียนแบบงานของคนอื่นเค้า! ” “แต่ว่า.........”ชามากัดริมฝีปากของตัวเอง “คุณเธอปาลี ผู้หญิงคนนั้นแล้วจริงๆเหรอ” “ใช่! ทำไมเหรอ”ทัตติถามกลับ และจ้องเขม่นไปที่หน้าของชามา ในหัวสมองของเค้าก็นึกขึ้นมาได้ว่า ก่อนหน้านั้นปาลีพูดกับตัวเองว่า สิ่งที่เธอพูดออกมานั้นเขาไม่ได้สงสัยอะไรเลยเหรอว่าทุกอย่างนั้นก็เพื่อชยานีๆ แต่เธอนั้นคนนี้กับชยานีก็มีความร้ายกาจที่เหมือนกัน นั่นมันเพราะอะไร ไม่ว่าทัตติไม่เคยสงสัยอะไรเลย แต่เป็นเพราะเมื่อก่อนความรู้สึกที่ชามาและชยานีมีต่อกันนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ดังนั้นทัตติจึงไม่ค่อยอยากที่จะเชื่อสักเท่าไหร่ ชามายังรู้สึกไม่โล่งอกสักเท่าไหร่ และเดาไม่ออกเลยว่าทัตติกำลังคิดอะไรอยู่ “หรือว่าคุณไม่ได้รู้สึกจริงๆหรือว่าเธอกับชยานีนั้น........” “คล้ายกับนีมากเลยใช่ไหม”ทัตติถามคำถามนี่แทนชามา “ก็ใช่ไงล่ะ ถ้าเกิดว่านีไม่ได้ตายจากโลกนี้ไปแล้วฉันคงคิดแล้วว่าปาลีคือนี” “แต่เธอไม่ใช่!”อยู่ๆชามาก็มีท่าทีตื่นตระหนก ตะโกนออกมาเสร็จแล้วเพิ่งจะมีสติแล้วรู้ว่าท่าทีของตัวเองนั้นไม่เป็นปกติ “ทัตติ ผู้หญิงคนนั้นมันร้ายกาจจริงๆนะคะ ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับนีทั้งนั้น คุณไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเธออะไร เธอ.......” “ปาลีบอกฉันแล้ว ว่าเธอเคยเข้าไปพบปาลีเป็นการส่วนตัวก่อนที่จะทำลายชื่อเสียงของเธอ หวังว่าเธอจะสามารถมาช่วยทำงานที่สตูดิโอได้ใช่ไหม” ทัตติย้อนถาม ชามาเหงื่อออกไหลท่วมไปทั้งตัว กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก “ฉันแค่รู้สึกว่าสไตล์การออกแบบของเธอกับของนีนั้นคล้ายคลึงกัน ดังนั้นฉันจึง........” “เธอสู้ไม่ได้ เทียบเขาไม่ติด เธอจึงคิดจะใส่ร้ายปาลี แต่เธอคงนึกไม่ถึงเลยสิว่า ปาลีคือภรรยาของคุณนิธาน” ทัตติพูดออกมา “ไม่ บางทีเพราะเธอรู้ เป็นเพราะว่าคุณปาลีนั้นมีหน้าตาที่คล้ายกันกับนีมากๆ เธอก็เลยเกลียดคุณปาลีใช่ไหม จงใจใส่ร้ายให้กับเธอ เพราะเธอรู้ว่าปาลีนั้นไม่เป็นที่รักของคนในครอบครัว คุณนิธานไม่รักเขา เธอจึงยื่นมืออกมา ใช่ไหมล่ะ” 
已经是最新一章了
加载中