ตอนที่ 163 ฉันเป็นคนที่ชอบรังแกผู้อื่น แล้วทำไมเหรอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 163 ฉันเป็นคนที่ชอบรังแกผู้อื่น แล้วทำไมเหรอ
ต๭นที่ 163 ฉันเป็นคนที่ชอบรังแกผู้อื่น แล้วทำไมเหรอ ชยานีขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าชามาจะยอมขอโทษจริงๆ แต่เธอก็ได้ขอโทษแล้ว จะให้อภัยหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับชยานี เธอพูดอย่างยิ้มๆ“ที่เธอพูดคำขอโทษออกมาเมื่อกี้นั้น มันออกมาจากใจของเธอ หรือโดนบีบบังคับให้ขอโทษ เพราะโดนโจมตีจนโงหัวไม่ขึ้น ก็เลยต้องยอมแพ้ใช่ไหมล่ะ” “แล้วมันสำคัญตรงไหนกันล่ะ” ชามาไม่หยุดที่จะถามกลับไป ดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ เป็นเรื่องยากมากเลยถ้าจะให้ชยานีเพิกเฉย ชยานีมองที่หน้าของชามาอย่างยิ้มๆ “คุณทัตติเห็นแล้วใช่ไหมคะ ว่าคุณชามา ไม่ได้ที่อยากจะขอโทษจริงๆ เพราะฉะนั้นไม่มีความจำเป็นอะไรที่พวกคุณจะมาทำอย่างนี้ คนอย่างฉันปาลีก็ไม่ใช่ขาดคำขอโทษจากคุณแล้วฉันจะดำเนินชีวิตต่อไปไม่ได้!” “คุณปาลี ได้โปรดผ่อนปรนทุกเมื่อ เมื่อมีโอกาส”ทัตติพูดออกมา ดวงตาของชยานีเปล่งประกายขึ้นมา “ผ่อนปรนงั้นเหรอ พูดได้ดีหนิ งั้นฉันขอถามคำถามคุณทัตติหน่อยนะคะ ถ้าหากว่าฉันไม่ได้เป็นภรรยาของคุณนิธาน แล้วเป็นแค่นักออกแบบเสื้อผ้าธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่มีอำนาจใด จุดจบของคุณชามาในตอนนี้ก็อาจจะเป็นจุดจบของฉันเอง! ไม่สิ บางทีอาจจะต้องอนาถมากกว่าเดิม แต่ตอนนี้คุณชามาก็ยังดูปกติ ไม่ใช่เหรอคะ ถ้าหากว่าฉันเป็นคนที่ไม่มีอำนาจใดๆเลย ฉันก็คงเป็นหมาหัวเน่า มีแต่คนตะโกนไล่ตี คุณทัตติคิดว่าใช่ไหมคะ” ทัตติเม้มปากและไม่พูดอะไร เพราะเขานั้นรู้ดีว่าสิ่งที่ปาลีพูดนั้นมันถูกต้องทั้งหมด ถ้าเกิดว่าเธอไม่มีอะไรสักอย่างเลย ไม่เป็นภรรยาของคุณนิธาน คนที่ต้องโดนโจมตีก็คงต้องเป็นเธอ “เพราะฉะนั้น ต้องให้สิทธิ์อะไรในการที่ฉันจะผ่อนปรนให้กับเธอ คุณดูสิ ! ตอนนี้คุณชามาเองไม่ได้รู้สึกสำนึกว่าตัวเองกำลังทำอะผิดด้วยซ้ำ หรือว่าหลังจากที่กลับไปแล้วค่อยมาทำท่าโศกเศร้าเสียใจและสำนึกผิดทีหลังเหรอคะ ” “ปาลี เธอมันรังแกคนอื่นเกินไปแล้ว !” ชามากำที่มือของตัวเองแน่น “ฉันก็ขอโทษคุณไปแล้ว แล้วคุณยังจะมาทำแบบนี้อีก!” แค่เธอยอมมาขอโทษก็ดีเท่าไหร่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่ายัยปาลีนั้นจะมาลูกเล่นแบบนี้ “ฉันเป็นคนที่รังแกคนอื่นแล้วยังไงเหรอ ทีเธอและครอบครัวตระกูลกองแก้วยังไม่ใช้ธุรกิจในการรังแกคนอื่นเลย ข้างหลังของฉันนั้นคือคุณนิธานคนใหญ่คนโต แล้วทำไมฉันจะรังแกคนอื่นบ้างไม่ได้ล่ะ ฉันกล้ารับประกันเลยว่าไม่ว่าฉันจะเป็นปาลี หรือว่าจะเป็นภรรยาของคุณนิธาน ฉันก็จะข่มขู่เธอไปตลอด จะคอยรังควานบริษัทอัลฟ่าไปตลอด ฉันจะไม่ให้นิธานทำลายตระกูลกองแก้วทิ้ง เพราะฉันจะให้ตระกูลกองแก้วค่อยๆตายทั้งเป็น ตายอย่างช้าๆ และให้เธอได้ลิ้มรสชาติของการที่ตายอย่างช้าๆด้วยความทรมาน ถ้าหากว่าเธอไม่เชื่อฉัน ก็คอยดูแล้วกัน!” “ปาลี แก........” “เงียบปาก!”ทัตติตบหน้าชามาอย่างหนัก “ถ้าเธอเป็นบริษัทอัลฟ่า เธอก็ลองใช้สมองคิดดีๆก็แล้วกันนะ” ชามาทำให้ทัตติโกรธอย่างมาก ชยานีมองที่ทัตติและชามาด้วยสายที่เย็นชาอย่างสุดๆ “ดูเหมือนกันคุณทั้งสองคนยังไม่ตกลงกันมาให้ดีๆ ฉันคงไม่เสียเวลาคุยกับพวกคุณต่อแล้วแหละ!” ชยานีเบะปากและเดินขึ้นตึกไป ชามาเอามือกุมที่ใบหน้าของตัวเอง มองทัตติด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง “นึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะตบหน้าฉันต่อหน้าคนอื่น ทัตติ!คุณก็เห็นว่าปาลีหล่อนจงใจ!” “จะถือว่าจงใจก็แล้วอย่างไรล่ะ หรือที่เธอพูดมานั้นมันไม่จริง หรือถ้าไม่อย่างนั้นเธอก็ลองให้บริษัทอัลฟ่าทำอย่างที่หล่อนพูด แล้วเธอก็ลองดูว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร” ชามาเอามือทั้งสองปิดหน้าตัวเอง และไม่กล้าพูดจาใดๆ “ก่อนที่เธอจะทำเรื่องอะไรลงไป เธอไม่ได้ใช้สมองคิดเลย ตอนนี้เธอให้คุณปาลีโมโหสุดๆ เธอเชื่อหรือไม่เชื่อล่ะ ว่าหล่อนจะให้นิธานทำลายบริษัทอัลฟ่า” “ทัตติ คุณไม่ต้องมาขู่ฉันหรอกนะ ปาลีหล่อนก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้นแหละ คุณคิดว่าบริษัทเอ็ม.เจ.จำกัดจะยอมให้นิธานยอมทำเรื่องแบบนี้เพราะเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างนั้นเหรอ”ไม่ว่ายังไงชามาก็ไม่เชื่อว่านิธานจะทำร้ายบริษัทอัลฟ่าเพราะเพียงแค่ผู้หญิงคนเดียว ต้องรู้ว่าการที่ทำลายล้างบริษัทอัลฟ่าทั้งหมดนั้น เขาเองก็ต้องเสียหายไม่ใช่น้อย ชามาคิดว่านิธานคงไม่ใช่คนที่โง่ขนาดนั้น แต่ชามาลืมไปว่า ถึงแม้ว่านิธานจะเป็นสามีของชยานี แต่ในขณะเดียวกันนั้นเขาเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง การที่จะต่อกรกับบริษัทอัลฟ่านั้นถึงแม้ว่าจะไม่ง่าย แต่นิธานไม่มีทางที่จะล้มลาย และเขาก็ยังมีเงินอีกจำนวนมหาศาล น่าเสียดายที่สมองของชามาคิดไม่ถึงเรื่องนี้ เอาแต่คิดว่าตนเองนั้นฉลาดเสียเหลือเกิน “คุณนิธานเค้าเป็นคนอย่างไรเหรอ ถ้าเขาอยากทำอะไร ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ ทำลายบริษัทอัลฟ่าทิ้ง แล้วเค้าจะขาดทุนงั้นเหรอ เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบผมสำเร็จอย่างมหาศาลเลยแหละ” ใบหน้าของชามาซีดเผือด “ความหมายของคุณคือ ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องขอโทษปาลีใช่ไหม แต่เมื่อกี้คุณเองก็เห็น เธอไม่มีทางรับคำขอโทษจากฉัน”ชามารู้สึกถึงความล้มเหลว “รับหรือไม่รับมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณปาลี แต่รู้สึกขอโทษหรือไม่ขอโทษมันเป็นเรื่องของเธอ คำขอโทษของเธอมันไม่มีความจริงใจ แน่นอนแหละที่ปาลีจะไม่สนใจเธอ! ” “ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการให้ฉันทำอย่างไร” “รออยู่ที่นี่แหละ รอเธอเลิกงานแล้วค่อยไปขอโทษเธออีก!” ทัตติพูดออกมาด้วยความเย็นชา จนชามาไม่สามารถที่จะรับมันไหวอีก “ทัตติ นี่คุณ...........” “ไม่อยากขอโทษนั้นเหรอ ก็ได้ตามนั้นเลย บริษัทอัลฟ่าก็ถึงความหายนะ สุดท้ายแล้วยังไงก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันอยู่แล้ว” ชยานีเข้าไปในสตูดิโอ ร่างกายที่ตรึงเครียดทั้งหมดก็ได้รู้สึกผ่อนคลายลง นลินไม่ค่อยเห็นชยานีมาสายสักเท่าไหร่ จึงอดประหลาดใจและถามออกมา “คุณปาลีคะ ทำไมวันนี้คุณถึงมาสายกว่าปกติเหรอคะ” “ไม่มีอะไรหรอก แค่ข้างล่างตึกมีสุนัขสองตัวหนะ”ชยานีเบะปาก “สุนัขสองตัวเหรอคะ”นลินตกใจ “ที่ใต้ตึกมีสุนัขตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คุณปาลีต้องระวังนะคะ ระวังโดนมันกัดเอา ในช่วงปีนี้มีสุนัขบ้าเยอะแยะเต็มไปหมด! ” “ใช่แล้ว สุนัขบ้า!” ในตอนนั้นชยานีรู้สึกสนุกสนานกับการหยอกล้อเล่นกันกับนลิน จึงทำให้ความโกรธของเธอค่อยๆมลายหายไปทีละน้อยๆ แววตาของเธอซ่อนทุกๆความรู้สึก “ตารางงานของวันนี้มีอะไรบ้างจ้ะ” “วันนี้คุณชญาภาจะมาที่นี่ค่ะ เห็นบอกว่าจะมาคุยกับคุณถึงเรื่องการร่วมงานในครั้งถัดไปค่ะ”นลินพูด “ฉันจัดตารางให้กับคุณแล้วค่ะ” ชยานีพยักหน้า “แล้วมีอะไรอีก” “ลำดับต่อไปก็จะมีพวกดาราจำนวนหนึ่งขอนัดเจอกับคุณค่ะ ส่วนมากนั้นก็มาจากชื่อเสียงในการประกวดการออกแบบในครั้งนั้น แต่ฉันได้ยกเลิกไปแล้วบางส่วน เพราะว่าบุคคลที่นัดกับคุณไว้แล้วนั้นมีฐานะค่อนข้างสูงในวงการบันเทิง บวกกับความสามารถที่แข็งแกร่ง ดังนั้นฉันจึง.......” “ฉันเข้าใจแล้ว เธอจัดการได้ดีมากเลยนะ เรื่องราวพวกนี้หลังจากนี้ไปเธอไม่ต้องมาอธิบายให้ฉันฟัง แค่จัดตารางมาให้ฉันก็พอแล้ว” สำหรับนลินแล้ว ชามาให้ความเชื่อใจเธอเต็มร้อย และยังไม่อำนาจมากมายกับนลินในการตัดสินใจในการทำงาน นลินรู้สึกซาบซึ้งจนพูดออกมาไม่ได้ “คุณปาลี คุณวางใจนะคะ ฉันจะทุ่มเทในการทำงานแบบสุดชีวิตเลยค่ะ” “ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก แค่เธอขยันทำงานและตั้งใจทำงานในส่วนของพวกเองก็พอแล้ว” ชยานีตัดบทพูดของนลิน “ชญาภาจะมาตอนกี่โมงเหรอ” “อีกสักครู่ค่ะ ประมาณ11โมงค่ะ ตามที่คุณชญาภาบอก หลังจากที่คุยกันเสร็จก็จะไปรับประทานอาหารเที่ยงกับคุณค่ะ คุณชญาภาบอกว่านานมากแล้วที่ไม่ได้ทานอาหารกับคุณเลยค่ะ” ชยานียิ้มออกมา “โอเค ถ้าอย่างนั้นเธอจัดการได้เลยนะ และก็ถือโอกาสจองโต๊ะให้ฉันด้วยเลย งั้นไปที่.....สุขวิ!” 11โมง ชญาภามาตรงเวลา เปิดประตูเข้ามาอย่างเรียบง่าย พอจะดูออกเลยว่าชญาภานั้นกำลังนอารมณ์ดี “ยินดีด้วยนะปาลี ที่ได้รับการตอบสนองที่งดงามขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันติดถ่ายละครจนไม่มีเวลาละก็ ฉันจะต้องเป็นคนแรกเลยแหละที่จะมาแสดงความยินดีกับเธอ” “ไม่ต้องแสดงความยินดีอะไรแล้ว”ชยานียิ้ม ให้นลินจัดเตรียมน้ำชาและของหวานให้กับชญาภา จากนั้นค่อยหันไปทางชญาภา “เป็นละครของเธอกับธนิดาที่เล่นด้วยกันหรือเปล่า” “ใช่แล้วจ้ะ!”ชญาภาตอบ “จะว่าไป เธอกับธนิดาเป็นเพื่อนสนิทกันใช่ไหม” “ก็แน่นอนสิ ทำไมเหรอ” ชยานีสงสัย ชญาภาขมวดคิ้วและส่ายหัวไปมา “ไม่ได้มีอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าช่วงนี้เธอดูไม่ค่อยปกติ ก่อนหน้านี้ก็แปลกๆไปนิดหน่อย อยู่ๆวันนี้ก็ยกเลิกงานในกองถ่าย บอกว่าต้องรีบกลับไปจัดการธุระด่วนในเมืองเมฆา เป็นเพราะว่าช่วงนี้กองถ่ายของเรายังไม่สามารถถ่ายทำให้ พอเธอลางานทุกคนก็งดการถ่ายทำ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยมีเวลามาที่นี่นั่นแหละ ” ชยานีได้ยินเช่นกัน ก็ขมวดคิ้วอย่างแน่นๆ ธนิดาไม่ใช่คนที่จะไม่คำนึงถึงเวลาของคนอื่น ธนิดาเป็นคนที่ทุ่มเทกับงานมากๆ ถ้าหากว่าเป็นอย่างที่ชญาภาพูดจริงๆล่ะก็ และยิ่งกองถ่ายมีความยุ่งยากวุ่นวาย ธนิดาไม่มีจากที่จะยอมละทิ้งกองถ่ายง่ายๆ นอกจากว่า....... ชยานีคล้ายว่ากำลังนึกบางอย่างออก แล้วเธอก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาในทันที “ปาลี เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องอะไรธนิดานะ” ชญาภาเกิดความกังวลและเป็นห่วง ถึงแม้ว่าเธอกับธนิดาไม่ได้รู้สึกชอบหน้ากันมากมายขนาดนั้น แต่นั้นก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอกับธนิดาก็ไมได้มีปัญหาอะไรกัน ในทางกลับกันในบางครั้งเธอก็รู้สึกชื่นชมธนิดาด้วยซ้ำไป และในมุมมองของชญาภานั้น ธนิดาก็ไม่ใช่คนที่จะไม่มีความรับผิดชอบถึงขนาดที่จะละทิ้งกองถ่ายไป ชยานีได้สติกลับมา จึงส่ายหัวไปมา “ไม่มีอะไรหรอก คงจะมีธุระด่วนจริงๆนั่นแหละ ดาไม่ใช่คนคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ ชญาภา เรื่องราวในกองถ่ายฝากเธอจัดการด้วยนะ” “อื้ม ได้สิ”เมื่อชยานีกล่าวออกมาเช่นกัน ชญาภาก็เต็มใจจะช่วย “เออใช่ค่ะ เมื่อกี้ที่ใต้ตึกฉันเห็นผู้ชายหนึ่งคน กับผู้หญิงหนึ่งคน ผู้ชายนั้นฉันไม่รู้จัก แต่ส่วนผู้หญิงนั้นฉันไม่ค่อยแน่ใจว่า ใช่คนที่ใส่ร้ายเธอ และหลังจากนั้นก็มาปลอมชื่อของเธออีก และโดนแอนดี้เปิดโปง ไม่แน่ใจว่าใช่เธอหรือเปล่า” “เธอยังอยู่อีกเหรอ” ชยานีรู้สึกตกใจเล็กน้อย เธอคิดว่าทัตติกับชามาจะไปจากที่นี่แล้ว และชามาเองก็เป็นคนแบบนั้น เคยชินกับอารมณ์ของเธอแล้ว เธอต้องทนรับการดูถูกไม่ได้อย่างแน่นนอน “เธอรู้ว่าพวกเขามาที่นี่งั้นเหรอ ไม่ใช่สิ! พวกเขามาทำอะไรกัน หรือว่ามาสร้างความเดือดร้อนอะไรให้เธออีก” ชญาภาพูดออกมา “หรือจะให้ฉันสั่งสอนพวกเราแทนเธอไหม” “ไม่ต้องแล้วแหละ”ตอนนี้แค่ชามาจะต้องดูแลตัวเองก็คงยากแล้ว เธอไม่เอาเรื่องของยัยนั่นมาใส่ไว้ในสมองของเธอ “เรามาคุยเรื่องที่ทำให้เธอมาหาฉันถึงที่นี่จะดีกว่า” “อ้อ ยังไม่ได้เข้าเรื่องของเราเลย ฮ่าๆ” ชญาภาหัวเราะออกมาและมองที่ชยานี “หลังจากเสื้อผ้าในคอนเส็ปการเกิดใหม่ในครั้งนั้น ฉันก็รู้สึกว่าเธอคือคนที่นำโชคและเรื่องดีๆมาให้ฉัน แต่ไม่กี่วันนี้ฉันยังต้องไปออกงานอีก สำหรับฉันแล้วมันค่อนข้างที่จะสำคัญมากๆเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นในส่วนของเรื่องเสื้อผ้า ฉันเลยอยากจะรบกวนเธอหน่อย” “เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วัน เธออยากให้ฉันเสกดอกไม้ให้เธอนั้นเหรอ”ชยานีรู้สึกหมดทางนิดหน่อย และเลิกคิ้วของเธอขึ้น “แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ชุดเสื้อผ้าท้องฟ้าของฉันก็น่าสนใจนะ” “ปาลี เธอเป็นเหมือนเทพเจ้าที่นำความหวังมาให้กับฉัน สุดยอดไปเลย! ”ชญาภายิ้มเยาะออกมา “เป็นอย่างไรบ้าง” ชยาภารู้สึกหนักใจเล็กน้อย “ตอนนี้มีคนต้องการชุดๆนั้นเยอะมาก!” “แต่ว่าเธอก็ยังไม่ได้คิดจะให้คนอื่นใช่ไหม” ชญาภาพูดออกมา “ถ้าเกิดว่าเธอคิดจะให้คนอื่นล่ะก็ ฉันก็จะไม่มาหาเธออีก ถึงแม้ว่าจะรู้จักเธอได้ไม่นาน แต่เธอก็ถือว่าเป็นคนที่เข้าใจฉัน! ” 
已经是最新一章了
加载中