ตอนที่ 202 คนจากตระกูลมะเด็งมาเยือน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 202 คนจากตระกูลมะเด็งมาเยือน
ต๭นที่ 202 คนจากตระกูลมะเด็งมาเยือน บวรวิชญ์สร้างโอกาสให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง เพราะอีกเดี๋ยวนิธานจะต้องออกไปจัดการกับคนที่มาจากตระกูลมะเด็ง ถ้ามีตาแก่อย่างเขาอยู่ด้วย จะเป็นการไม่สะดวกต่อสองคนนั้น นิธานและบวรวิชญ์มองตากัน จากนั้นบวรวิชญ์ก็ลุกขึ้นแล้วออกจากห้องโถงไปพร้อมพ่อบ้าน ทั้งคู่เดินหนีไปทางด้านหลังของคฤหาสน์ภูลพิพัฒน์ ชยานีเห็นท่าทางของคุณท่านบวรวิชญ์ แล้วรีบหันกลับไปมองจิกตาใส่นิธาน "ดูสิ คุณปู่เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว!" "เข้าใจผิด?เข้าใจผิดอะไรกัน?" นิธานยักคิ้วข้างหนึ่ง "สิ่งที่คุณปู่เห็นก็เป็นความจริงทั้งนั้นไม่ใช่หรือยังไง?" นิธานมองชยานี พร้อมกับกวักมือเรียก "มานี่ซิ!" "อะไร?" ชยานียังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็โดนนิธานลากมือไปกุมไว้เรียบร้อย "ไปกินข้าวกัน!" "นิธาน เห็นนวตาบอกว่า…...คนจากตระกูลมะเด็งมาหรอ?" นิธานจับมือชยานีแล้วเดินไปที่ห้องอาหาร เหล่าคนแม่บ้านนำอาหารที่เตรียมไว้มาเสิร์ฟจนครบ ชยานีมองอาหารทั้งหมดที่นิธานเตรียมไว้ด้วยสายตาตกใจ "นี่มันไม่เยอะไปหน่อยหรอ?" "ฮิม? เมื่อคืนคุณเสียแรงไปเยอะ วันนี้ต้องกินเยอะๆนะ!" นิธานพูดจบก็ลากเก้าอี้ให้ชยานีหน้าอย่างสุภาพบุรุษ ชยานีถลึงตาใส่นิธาน แต่ก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี "คนตระกูลมะเด็งมาทำอะไรที่นี่?" "ไม่รู้!" นิธานพูดพลางจัดจานอาหารให้ชยานี สุดท้ายก็เลือกอาหาร 4-5 อย่างแล้วยื่นไปตรงหน้าของเธอ "ผมจำได้ว่าพรุ่งนี้เป็นอาหารโปรดของคุณ 2 อย่างนี้ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ค่อยได้ทาน แต่ผมว่าคุณน่าจะชอบ ส่วนจันทร์นี้จะเจ็บนิดหน่อย ไว้ทานทีหลัง" นิธานวางอาหารต่างๆไว้ตรงหน้าชยานี แล้วมองไปที่ชยานีอย่างไม่ละสายตา ชยานีถูกนิธานจ้องจนรู้สึกเขินอาย โดยเฉพาะสายตาที่นิธานมองมาเต็มไปด้วยความรัก แต่เมื่อเทียบกับสมัยก่อน นี่ถ้าไม่ใช่ว่าชยานีในตอนนี้รู้จักเขาดีพอ รู้ว่าเขาเป็นคนยังไงล่ะก็ มีหวังตกใจกับความแตกต่างนั่นแน่ๆ ชยานีมองไปที่นิธาน "นายคิดว่าฉันเป็นหมูหรือไง เยอะขนาดนี้ฉันจะกินหมดได้ยังไง ครั้งหน้าไม่ต้องเตรียมอาหารเยอะขนาดนี้แล้วนะ กินไม่หมดก็เสียดาย!" ชยานีบ่น แต่ก็ลงมือกินอาหารที่นิธานเอามาวางไว้ตรงหน้าเธอแต่โดยดี ชยานีเป็นคนกินเยอะมาโดยตลอด ยิ่งเห็นของอร่อยก็ยิ่งอดใจไม่ไหว ยิ่งเป็นอาหารฝีมือเชฟของตระกูลภูลพิพัฒน์ก็ยิ่งชอบ เชฟของตระกูลนี้ไม่ได้เป็นเพียงเชฟธรรมดาเท่านั้น เช็คของตระกูลภูลพิพัฒน์เป็นเชฟที่เก่งมากๆ เคยได้รับรางวัลตั้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารฝรั่ง อาหารจีนหรือแม้แต่อาหารอื่นๆ ชยานีก็เคยกินมาหมดแล้ว แต่ก็รู้สึกว่าเชฟของตระกูลภูลพิพัฒน์ทำได้อร่อยที่สุดแล้ว "กินช้าๆก็ได้ ไม่มีใครแย่งสักหน่อย!" นิธานหัวเราะเบาๆ พอเห็นเศษอาหารที่ติดอยู่ตรงมุมปากของชยานี จึงรีบเอาผ้ามาเช็ดให้เธอทันที การกระทำนี้ของนิธาน ทำให้ชยานีนิ่งไปพักนึง มองนิธานที่กำลังเช็ดปากให้เธอ ด้วยความตกใจ "เป็นอะไรไป สติหลุดแล้วหรอ?" นิธานถามทางแต่ที่แก้มของชยานี ชยานีส่ายหัวเบาๆเพื่อดึงสติกลับมา "นี่คุณ คนของตระกูลมะเด็งอยู่ดีๆทำไมถึงได้มาล่ะ?ฐิติพันธ์คิดจะทำอะไรกันแน่?" นิธานเหล่ตามองนึกน้อยสายตาแสดงถึงความครุ่นคิด เรายื่นมือไปแตะจมูกของชยานีเบาๆ ด้วยสายตาอ่อนโยน "อยากจะรู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรไหมล่ะ?" ชยานีพยักหน้าเบาๆ "ยังไงก็เถอะเรื่องมันก็มีความเกี่ยวข้องกับแม่ฉันอยู่ดี นิธานนายต้องช่วยฉันนะ ทางด้านฐิติพันธ์แม่ฉันต้องมีอะไรซ่อนไว้แน่ๆ แล้วเรื่องที่ซ่อนไว้ก็อาจจะเกี่ยวกับฉันและแม่ด้วยเหมือนกัน มีแต่ตระกูลมะเด็งเท่านั้นที่จะทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้" "ผมรู้!" นิธานจับมือชยานี แล้วตบปลอบที่มือเบาๆ "เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเอง โอเค้?แต่ถ้าคุณไม่ไว้ใจ งั้นเราก็ออกไปดูกันไหม?" ชยานีเม้มปาก "ได้หรอคะ?" "คุณเป็นคุณนายตระกูลภูลพิพัฒน์ คุณจะพูดอะไรจะทำอะไรก็ได้ เรื่องนี้ผมว่าคุณไม่ต้องสงสัยในตัวของคุณเองเลยนะ!" นิธานพูดพร้อมกับยื่นอาหารมาตรงหน้าชยานี "กินให้อิ่ม กินอิ่มแล้วถึงจะมีแรงไปดูพวกเขาแสดงละครกัน!" ไปดูพวกเขาแสดงละคร? ชยานีแอบมองนิธานด้วยหางตา อย่างเขาจะไปจะไปดูอะไรได้? สุดท้ายใต้การสังเกตการณ์ของนิธานก็ทำให้ชยานีทานอาหารทั้งหมดจนหมด กินจนพุงป่องเป็นรูปวงกลม ชยานีเรือออกมาเบาๆ "ไม่ไหวแล้ว ฉันแน่นท้องจนกินไม่ลงแล้ว!" "ดีค่ะ!" นิธานตอบพร้อมกับเอากินข้าวต้มที่ชยานีกินเหลือมากินต่อจนหมด ชยานีอ้าปากค้างแล้วมองไปยังนิธาน แต่นิธานทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "คุณอะไร มีอะไรจะพูดกับผมงั้นเหรอ?" ชยานีมองจิกไปที่นิธาน "เพราะนายนั่นแหละ ฉันถึงได้กินเยอะขนาดนี้" "อื้ม!" นิธานพยักหน้า เครื่องมือออกไปจับที่พุงของชยานีเบาๆ ใต้เสื้อผ้า ชยานีรู้สึกได้ถึงความร้อนจากมือของนิธาน ร้อนเหมือนเปลวไฟ ทำให้ชยานีครึ้มไปครู่หนึ่ง ชยานีหรี่ตามองไปที่นิธาน แล้วปัดมือเขาออก "เอามือนายออกไปเดี๋ยวนี้ อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันนายนะ คิดจะแต๊ะอั๋งฉันเหรอ!" "หื้ม?" นิธานยักคิ้ว เริ่มรู้สึกสนุก ก็เลยขยับเข้าไปนั่งใกล้เธอ ร่างทั้งร่างพี่อยู่บนตัวของชยานี ถ้าพูดอย่างมีเหตุผลว่า "ถ้างั้นผมขอแต๊ะอั๋งจนกว่าผมจะพอใจเลยละกัน!" ชยานี "......" สามีใครเนี่ย?ทำไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้! "คุณชายคะ คุณนายคะ ข้างนอกเริ่มอีกแล้วค่ะ" เหล่าพ่อบ้านแม่บ้านตระกูลภูลพิพัฒน์ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เห็นเต็มสองตาเลยว่า ตระกูลมะเด็งนั้นหน้าด้านไร้ยางอายขนาดไหน เจ้าของบ้านไม่ยอมให้เข้าพบ พวกเขาก็รอดักอยู่หน้าบ้าน แถมตอนนี้ยังคุกเข่าอีก นิธานฟังที่แม่บ้านเล่าแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย "ฐิติพันธ์มาแล้วหรอ?" ชยานีถามแม่บ้าน "เรียนคุณนาย เป็นคนในตระกูลมะเด็งทั้งนั้นเลยค่ะ" แม่บ้านตอบ "พวกเขามาตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ เราตะโกนว่าเป็นญาติคุณนาย แถมยังบอกด้วยว่าเป็นพ่อและแม่เลี้ยงของคุณนาย แต่ว่าคุณชายสั่งให้กันพวกเขาไว้นอกบ้านแล้วค่ะ" ชยานีมองไปที่นิธาน "งั้นก็แปลว่า ในกำลังช่วยฉันเอาคืนพวกเขาหรอ?" นิธานยิ้ม "เพื่อคุณภรรยาของผม จะให้สามีทำอะไรสามีก็ยอม.." "ปากหวาน!" แม้ชยานีจะพูดไปแบบนั้น แต่ภายในใจดีใจจนพูดไม่ออก เธอรู้ดีสำหรับทุกอย่างที่เขาทำเพื่อเธอมาตลอด "ขอบคุณนะคะ!" "ถ้าเทียบกับคำขอบคุณแล้ว ผมชอบสิ่งตอบแทนที่เป็นการกระทำมากกว่า คุณก็รู้!" นิธานกระพริบตาใส่ชยานี แต่ดันโดนผลักหน้าออก "สมองนายจะปกติเหมือนชาวบ้านเขาหน่อยไม่ได้หรือไง!" "การที่ผมอยากอยู่ข้างกายนีนีตลอดเวลา ผมว่ามันก็เป็นเรื่องปกตินี่นา อีกอย่าง คุณเป็นภรรยาของผม ผมอยากทำตัวติดคุณทุกวันเลย แค่เห็นคุณผมก็ห้ามใจไม่อยู่แล้ว จะให้…...ฮือฮือๆ!" ใบหน้าของชยานีถูกนิธานแกล้งจนแดงก่ำ เธอยื่นมือไปปิดปากนิธานด้วยความเขินอาย มองจิกเตือนนิธาน "จะคิดจะทำอะไรฉันล่ะ!" "แม่บ้านตระกูลภูลพิพัฒน์ยังคงยืนรอคำตอบจากนิธาน แต่ดันมาเจอคู่นี้กำลังแสดงความรักต่อหน้าต่อตากันอย่างเปิดเผย นอกคฤหาสน์ภูลพิพัฒน์ในตอนนี้มีคนจากตระกูลมะเด็งมายืนรอกันเต็ม เรียกได้ว่ายกโขยงมาเลยก็ว่าได้ นอกจากท่านย่าตระกูลมะเด้งที่ไม่มา ที่เหลือก็ยกกันมาหมด บุคคลสำคัญในตระกูลมะเด็ง ต่างก็มากันหมด ทั้งฐิติพันธ์ จางหมิงและจริม แต่ลูกสาวคนที่2ของฐิติพันธ์เรียกให้ตายยังไงก็ไม่ยอมมา ห่างจากบริเวณคฤหาสน์ไม่ไกลนัก มีคนจากตระกูลมะเด็งทั้ง 3 ยืนอยู่ เหมือนว่าพวกเขาจะถูกท่านย่าตระกูลมะเด็งปลุกให้ตื่นมาตระกูลภูลพิพัฒน์ตั้งแต่ 6-7 โมงเช้า ตอนแรกก็คิดว่าสิ่งที่ท่านย่าตระกูลมะเด็งพูดเมื่อคืนจะเป็นเพียงคำบ่น ฐิติพันธ์และเราบุคคลสำคัญไม่คิดเลยว่าท่านย่าตระกูลมะเด็งจะสั่งให้พวกเขามาจริงๆ แม้ว่าฐิติพันธ์จะรู้สึกไม่พอใจ แต่พอคิดถึงบริษัทถิรากรุ๊ปก็ต้องกัดฟันอดทน จะทำยังไงได้ ตอนนี้ตระกูลมะเด็งทั้งตระกูลอยู่ในกำมือของนิธาน และดูท่าว่าจะเป็นเพราะนางลูกไม่รักดี นังปาลีคนนั่น พวกเขาไม่มีทางออกจึงจำใจมามาขอให้ช่วย ไม่อย่างนั้นนิธานต้องทำให้ตระกูลมะเด็งล่มให้ได้แน่ๆ สำหรับตระกูลพูลพิพัฒน์แล้วตระกูลมะเด็งก็เป็นเพียงแต่คุณเล็กๆตระกูลเดียวเท่านั้น แต่สำหรับพวกเขาแล้วบริษัทถิรากรุ๊ปถือว่าเป็นชีวิตของพวกเขาเลยก็ว่าได้ ฐิติพันธ์เริ่มนึกเสียใจที่หลงฟังคำยุแยงของจางหมิง ดันไปหาเรื่องจริยาซะได้ แถมยังคิดว่าคงตัวจริยาไว้ ก็จะสามารถควบคุมนังปาลีได้ แต่ดูท่าแล้วตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นนังปาลีหรือนิธาน เราก็มีเรื่องกับใครไม่ได้สักคน "นี่คุณ คุณว่าไอ้ตระกูลพูลพิพัฒน์นี่มันอะไรกัน ยังไงเราก็ยังถือว่าเป็นญาติของตระกูลเขานะ ญาติทางฝ่ายแม่นังปาลี ก็ถือว่าเป็นพ่อตาและแม่ยายของนิธานนะ แล้วดูนี่สิเขาหมายความว่าไงกัน?" แม้ว่าจางหมิงจะหยาบคาย แต่อย่างน้อยนางก็อยู่ข้างกายฐิติพันธ์มาตั้งหลายปี หลายปีมานี้ก็ได้รับความเคารพจากผู้คนตั้งมากมาย แล้วดูตอนนี้สิ? ตระกูลภูลพิพัฒน์บังอาจไม่เห็นเธออยู่ในสายตาไปสักนิด จนถึงตอนนี้จางหมิงก็ยังไม่รู้สึกถึงท่าทีที่ไม่ดีของเธอ ยังคงคิดว่าปาลีเป็นเพียงผู้หญิงโสโครกที่เทียบอะไรกับเธอไม่ได้เลย "หุบปากไปเลย!" ฐิติพันธ์กัดฟันแน่น แม้ว่าคำพูดเมื่อกี้ของจางหมิงจะพูดถูก แต่เขาก็ไม่ได้โง่เหมือนจางหมิง เขารู้ว่าวันนี้เขามาขอร้องคนให้ช่วย คำพูดพวกนี้พูดไม่ได้เด็ดขาด "เธออยากทำให้ตระกูลมะเด็งล่มหรือไงกัน!คิดว่าสถานการณ์ของบริษัทถิรากรุ๊ปยังเร็วร้ายไม่พอเหรอ?" "ฉัน….." จางหมิงเม้มปาก ความปวดบนใบหน้าของเธอทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความเลวร้ายของสถานการณ์ ณ ตอนนี้ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เคยเห็นฐิติพันธ์โกรธ แต่เขาก็ไม่เคยทุบตีเธอมาก่อน แต่เมื่อคืนเขาเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน น่ากลัวเหลือเกิน จนถึงตอนนี้จางหมิงก็ยังคงกลัวเขาไม่หาย "คุณคะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันแค่คิดว่าถ้าเกิดนังปาลี เออ...ปาลี เขาไม่ยอมมาพบพวกเรา พวกเราจะทำยังไงกันดี!" 
已经是最新一章了
加载中