ตอนที่ 203 ระหว่างเราไม่ต้องพูดคำว่าขอบคุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 203 ระหว่างเราไม่ต้องพูดคำว่าขอบคุณ
ต๭นที่ 203 ระหว่างเราไม่ต้องพูดคำว่าขอบคุณ "รอ!" มาถึงขั้นนี้แล้วก็ทำได้แค่ขอร้องปาลีและนิธานเท่านั้น นอกจากรอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว "รอๆ ก็ได้แต่รอ" จางหมิงเริ่มทนไม่ไหว สมัยก่อนตอนอยู่ที่ตระกูลมะเด็งนังปาลีก็เป็นแค่ถังขยะรองรับอารมณ์ของเธอและลูกสาวเท่านั้น จางหมิงไม่เคยได้รับความอับอายขนาดนี้มาก่อน ครั้งก่อนที่เธอโดนปาลีตบ แล้วยังถูกตระกูลภูลพิพัฒน์สั่งคนคอยสังเกตทั้งโรงพยาบาล ในช่วงเวลานั้นทั้งฐิติพันธ์และจริมก็ได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัสไปด้วย จนถึงตอนนี้จริมก็ยังเจ็บไม่หาย นอกจากจะให้นังปาลีมาขอโทษตนไม่ได้แล้ว ยังต้องมาขอร้องนังปาลีแทนอีก? "หุบปากเดี๋ยวนี้ พวกแกไม่ได้ยินหรือไง!?" ฐิติพันธ์กัดฟัน "ตอนนี้ตระกูลมะเด็งก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว พวกแกยังคิดจะหาเรื่องใส่ตัวอีกหรือไงกัน?" "ผม……" จริมพูดไม่ออก "แต่ท่านพ่อ ท่านคิดว่าเรามารอแบบนี้ ปาลีเขาจะยอมมาพบเรานั้นหรอ?" ความเป็นจริงแล้ว นิธานและปาลีก็ไม่ได้อยากพบพวกเขาจริงๆนั่นแหละ แม้ว่าปาลีจะไม่รู้ว่าพวกเขามาที่ตระกูลภูลพิพัฒน์ทำไม แต่เธอก็พอจะทายออกบ้างแล้ว และมองไปทางนิธาน "นายคงไม่ได้ไปทำอะไรกับตระกูลมะเด็งหรอกนะ!" นิธานยักคิ้ว เห็นอาหารที่ตนเตรียมไว้ถูกชยานีกินจนหมด ถึงได้พยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ เรายกมือสั่งให้แม่บ้านมาเก็บ แถมหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดมือให้ชยานีอีกด้วย "อื้ม!" ชยานีพูดอย่างเลี่ยงไม่ได้ "จริงๆแล้วนายไม่ต้องทำเพื่อฉันขนาดนี้ก็ได้ ตระกูลมะเด็งยังไม่เหมาะที่จะให้นายลงมือเอง!" ชยานีรู้ว่าชายผู้สูงสักอย่างนิธาน ไม่เหมาะที่จะลดตัวมาลงมือกับคนพวกนี้ด้วยตัวเอง แถมพวกเขายังไม่เหมาะที่จะให้นิธานต้องใช้สมองและกำลังเลย "เรื่องที่เกี่ยวกับคุณ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็สำคัญทั้งนั้น!" นิธานเช็ดมือให้ชยานีเสร็จ จับมือชยานีแล้วพูดว่า "พวกเขามีความผิด ผิดที่ไม่ควรมายุ่งกับคุณ ผิดที่ไม่ควรเอาชีวิตของคนที่คุณแคร์มาขู่คุณ!" "นิธาน!" ชยานีรู้สึกตื้นตันใจ เธอยอมรับว่าทีแรกเธอก็กลัวนิธานมากเหมือนกัน แต่พอทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันนานขึ้น เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่ว่าด้านใดก็ตาม คนอย่างเขา ไม่รักก็คือไม่รัก แต่ถ้ารักแล้วก็จะทุ่มเทอย่างเต็มที่ รักเดียวใจเดียว และนี่คือสิ่งที่ชยานีได้รับรู้จากตลอดเวลาที่อยู่กับเขา สำหรับเธอแล้ว เขาดีกับเธอมากจริงๆ เขาคิดอยากจะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิตจริงๆ "ขอบคุณนะคะ!" ถ้าเกิดไม่ได้เจอกับเขา ถึงแม้ว่าเธอจะเกิดใหม่อีกรอบ ก็ยากที่จะใช้ชีวิตธรรมดาแบบเมื่อก่อนได้เหมือนเดิม และเธอคงจะทำตามสิ่งที่ตัวเองอยากทำไม่ได้แน่ๆ หรือไม่เธออาจจะจมอยู่กับความแค้น สุดท้ายในชีวิตก็จะมีแต่ความแค้น ชีวิตแบบนั้นแค่คิดก็น่ากลัวแล้ว "ยัยโง่ ระหว่างเราเห็นต้องพูดคำว่าขอบคุณอีกหรอ?" นิธานลูบหัวชยานีเบาๆ "ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะอยู่ข้างๆคุณ" "อื้ม!" "อยากไปดูพวกเขาหน่อยไหม?" นิธานถาม ชยานีรู้สึกลังเล ช่วงที่กำลังลังเลอยู่นั้น นิธานก็ทำหน้าขมวดคิ้ว แล้วทั้งคู่ก็หันหลังกลับไปพร้อมกัน แบ้วเจอคนกลุ่มนึงยืนอยู่หน้าประตู คนที่เดินนำคือจารุณี ดูเหมือนเธอจะมีความสุขมาก "เชิญค่ะ ที่แท้พวกคุณก็เป็นญาติทางฝั่งแม่ของพี่สะใภ้ฉันนี่เอง แล้วทำไมไม่เข้ามานั่งล่ะคะ?พี่สะใภ้ฉันนี่ก็จริงๆเลย คนทางบ้านมาเยี่ยมทั้งทีก็ไม่รู้จักพาเข้าบ้าน ให้รออยู่ข้างนอกแบบนี้ได้ยังไง!" จารุณียินดีต้อนรับพวกฐิติพันธ์ "เชิญค่ะ" จารุณียิ้ม พร้อมกับเรียกแม่บ้าน "พวกแกยังไม่มาดูแลแขกอีก ไม่เห็นหรือไงว่าญาติพี่สะใภ้มาน่ะ?" ชยานีและนิธานมองตากัน แล้วแอบยิ้มแห้งอยู่ภายในใจ จารุณีนะจารุณี เหมือนว่าครั้งก่อนจะลงโทษเบาไปหน่อยนะ?หรือไม่ก็เธอเป็นคนขี้ลืมตั้งแต่เกิด?ยังจะกล้ามาที่นี่เอง แถมยังพาพวกฐิติพันธ์เข้ามาอีก! ฐิติพันธ์รู้ว่าจารุณีเป็นใคร จึงได้ยิ้มตอบอย่างสุภาพ "คุณจารุณี วันนี้ต้องขอบคุณด้วยนะครับ ตอนนี้ลูกสาวผม แก…...แกกำลังโกรธผมอยู่ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดี นี่ก็ไม่กลับมาเยี่ยมบ้านตั้งหลายเดือนแล้ว ถึงแม้จะแต่งงานแล้วก็เถอะ แต่ก็ยังคงเป็นคนตระกูลมะเด็งเหมือนกัน นานขนาดนี้แล้วก็ไม่รู้จักกลับไปเยี่ยมบ้าน ผมและแม่เขาก็เลยเป็นห่วง!" แม่? สายตาของชยานีดุดันเพิ่งมาถึงที่ จางหมิงก็รีบต่อคำ "ใช่ๆ ลูกปาลีก็เหลือเกิน นี่ก็ตั้งกี่เดือนแล้วไม่กลับไปเยี่ยมบ้านเลยสักครั้ง ไม่รู้หรือไงว่าฉันและคุณพ่อของเขาเป็นห่วง!" "เป็นความผิดของพี่สะใภ้เองแหละค่ะ แต่เท่าที่รู้มาช่วงนี้พี่สะใภ้ก็ว่างนะคะ ไม่กลับไปเยี่ยมบ้างเลยหรอคะ?ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน รีบเข้ามาก่อนดีกว่าค่ะ!" จารุณีพูดพร้อมกับยินดีต้อนรับ ด้วยแววตาที่แสดงให้เห็นถึงความรังเกียจเล็กน้อย คนจากตระกูลเล็กๆ จะให้มีมารยาทแบบคนชั้นสูงมันก็ยาก ดูสาระรูปนั่นสิ ในตอนที่เธอกำลังจะออกไปข้างนอก ก็เผลอไปเห็นกลุ่มคนยืนอยู่หน้าบ้าน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเธอจึงกวักมือเรียกแม่บ้านมาถามจนได้ความ จารุณีรู้อยู่แล้วว่าตระกูลมะเด็งเป็นเพียงตระกูลต่ำต้อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะต่ำต้อยขนาดนี้ จารุณีแอบยืนฟังอยู่หลังต้นไม้สักครู่ใหญ่ ก็ได้รู้ว่าคนพวกนี้มาหานังปาลี จากน้ำเสียงและท่าทีแล้ว ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาและปาลีไม่ดีเลย เหมือนว่าพวกเขาจะเจอเรื่องลำบากอะไรบางอย่าง ก็เลยต้องมาขอร้องปาลีและนิธาน เธอก็เลยอาสาพาพวกเขาเข้าไปพบนังปาลีซะเลย ความสัมพันธ์ไม่ดีไม่ใช่หรอ? นังปาลีก็ไม่ได้คิดจะช่วยไม่ใช่หรอ? อีกเดี๋ยวพี่นิธานก็จะได้เห็นธาตุแท้ของนางนั่นสักที จารุณาคิดว่าผู้ชายดีๆอย่างพี่ชายเธอ ถ้ารู้เรื่องนี้ต้องทิ้งนังปาลีไปแน่ๆ เมื่อก่อนก็เคยโดนมนต์เสน่ห์ของนังปาลีเท่านั้นแหละ ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พี่นิธานรู้แล้วต้องไล่ปาลีออกจากบ้านเป็นแน่ พอจารุณีคิดได้เช่นนี้ อารมณ์ก็ดีขึ้นทันที "ฉันเข้ามานั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะให้แม่บ้านไปเรียก……" จารุณีกำลังจะพูด แต่ก็เห็นปาลีและนิธานเดินจับมือเข้ามาในห้องรับแขก "พี่ใหญ่ พี่อยู่บ้านด้วยหรอ" จารุณีดูเหมือนจะมีความสุขมาก เดินกระดี๊กระด๊าเข้าไปหานิธาน ด้วยสายตาเอาใจ "ที่แท้พี่สะใภ้เองก็อยู่บ้านเหรอคะ!" ชยานีเหล่ตามอง ในแววตาแสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็น ชั่วครู่ก็เปลี่ยนกลับมายิ้มแย้มตามเดิม มองไปที่จารุณีด้วยรอยยิ้ม รู้สึกว่าช่วงนี้จารุณีจะหาเรื่องใส่ตัวบ่อยไปนะ ถ้าคนพวกนี้ชอบรนหาที่ตายกันนัก งั้นเธอก็จะไม่เกรงใจแล้วเช่นกัน "ใช่ ฉันก็อยู่บ้านทั้งวัน เธอพักอยู่เรือนเล็กนี่นา จะไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอก!" "แก……" จารุณีกำลังจะทำหน้าบูดหน้าเบี้ยว แต่พอหันไปเจอสายตาของนิธาน เขาก็เลยรีบทำหน้าปกติแล้วย่ำเท้าไป 2-3 ที "พี่ใหญ่ พี่ดูพี่สะใภ้พูดเข้าสิ" นิธารทองจารุณีด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ครั้งก่อนที่ฉันพูด เธอลืมไปแล้วหรอ?" จารุณีหน้าซีดขึ้นมาทันที "พี่ใหญ่ หนู……" เธอไม่คิดเลยว่านิธานจะหักหน้าเธอ โดยการเอาเรื่องในวันนั้นขึ้นมาพูด ทีแรกเธอคิดว่าสิ่งที่แม่และพี่ชายรองพูดคือเรื่องที่แต่งขึ้นมาเพื่อหลอกเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นน้องคนละแม่กับนิธาน แต่ก็ยังมีพ่อคนเดียวกัน มีสายเลือดเดียวกัน เธอคิดว่าครั้งก่อนนิทานก็แค่โมโหเท่านั้นเอง จริงๆแล้วนิธานอาจจะไม่ได้โกรธเธอเลยก็เป็นได้ ถ้าคิดว่าถ้าเรื่องมันผ่านไปช่วงนึง นิธานก็จะลืมมันไปเอง แถมวันนี้โทรมาเพื่อดูชยานีเสียหน้า แต่นี่ชยานียังไม่ทันเสียหน้าเลย เธอกลับโดนนิธานไล่ออกจากบ้านแทนซะงั้น แถมยังไล่ต่อหน้าคนของตระกูลมะเด็งอีก ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด "พี่ใหญ่ เรื่องในวันนั้นหนูรู้ว่าหนูทำผิด แต่พี่ก็ลงโทษหนูไปแล้วไม่ใช่หรือไง หนูคิดว่า……" "เธอคิดว่า?" นิธานยิ้มเย้ย "ครั้งก่อนฉันพูดไปแล้วนะว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนอกจากปาลี คุณปู่และฉัน คนอื่นห้ามเข้ามาโดยพละการเด็ดขาด ดูเหมือนเธอจะไม่ฟังคำพูดของเจ้าบ้านอย่างฉันเลยนะ?" "หนู……" "อีกอย่าง ฉันเป็นลูกคนเดียวที่แม่ฉันคลอด ฉันจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยมีน้องสาว!" นิธานมองจารุณีด้วยสายตาเย็นชา "ใครก็ได้ เชิญเธอออกไป ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หากไม่ได้รับอนุญาตจากฉันและภรรยาของฉัน ใครกล้าปล่อยให้คนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องเข้ามา จะได้เห็นดีกัน!" "ค่ะ!" แม่บ้านตระกูลภูลพิพัฒน์ตอบรับ แล้วเดินเข้าไปคุมตัวจารุณีออกไป จารุณีร้องตะโกนด้วยความไม่พอใจ "ฉันเป็นน้องสาวพี่นะ น้องสาวแท้ๆของพี่นะ ทำไมนังปาลีอยู่ในเรือนใหญ่ได้ แล้วฉันกับคุณพ่อเราต้องไปอยู่หอนามอินล่ะ!พี่ใหญ่ มันไม่ยุติธรรมเลยนะ!" "ยุติธรรมหรอ?ที่นี่ฉันเป็นใหญ่ สำหรับความยุติธรรมที่ว่า ถ้าฉันคิดว่ามันยุติธรรมมันก็คือความยุติธรรม!" นิธานไล่ให้โยนจารุณีออกไป ในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความเงียบ พวกฐิติพันธ์เห็นความเลือดเย็นของนิธานเต็มสองตา จารุณีเป็นถึงน้องสาวแท้ๆของเขา แม้ว่าจะไม่ใช่แม่เดียวกัน แต่ในร่างกายก็มีสายเลือดเดียวกันไหลเวียนอยู่ นิธานสามารถสั่งโยน้องสาวตัวเองออกไปโดยไม่สนใจเธอเลย แล้วนับภาษาอะไรกับพวกเขาล่ะ…… ฐิติพันธ์อายุก็ปูนนี้แล้ว คิดว่าตัวเองมีประสบการณ์มากพอ ไม่น่าจะมีคนแบบไหนที่เขาไม่เคยเจอ แต่พอมาเจอนิธานในวันนี้ เขาต้องลบความคิดเรานั้นออกไปเลย จางหมิงและจริมก็ตกใจไม่แพ้กัน ทั้งคู่มองตากันด้วยความกลัว กลัวว่าความโกรธของนิธานจะพาลมาลงที่ตน ยังไงตอนนี้พวกเขาก็เข้ามาแล้ว ไม่มีทางให้ถอยกลับแล้ว สายตาอันเยือกเย็นของนิธานมองไปยังพวกเขาที่ยังยืนนิ่งอยู่ ฐิติพันธ์รีบพูด "ลูกเขย……" 
已经是最新一章了
加载中