ตอนที่ 231 ขอเถอะนะพี่สะใภ้
1/
ตอนที่ 231 ขอเถอะนะพี่สะใภ้
sweet heart เกิดใหม่เพื่อรักคุณ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 231 ขอเถอะนะพี่สะใภ้
ผ้ชายอย่างนั้นเหรอ ชามาถอนหายใจอย่างโล่งอกขึ้นมาทันที เพียงแค่ไม่ใช่ผู้หญิง อะไรๆก็ดีทั้งหมด นักสืบส่วนตัวคนนั้นมองสถานการณ์แล้วก็รู้สึกว่าน่าขำ แต่ว่าในเมื่อเป็นเรื่องของคนอื่น เข้าก็ไม่คิดที่จะสนใจ “ผมจะดำเนินการต่อ ว่าแต่คุณมั่นใจนะว่าสามีของคุณมีชู้จริง ๆ ที่จริงแล้วแต่ไหนแต่ไรผมไม่เคยเห็นเขาไปกับผู้หญิงคนไหน” “นี่ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณแค่จับตาดูต่อไปก็พอ ในกรณีที่มีปัญหาอะไรคุณจำไว้ว่าให้มาบอกฉันทันที” “โอเค จ่ายเงินให้ใครบางคน เพื่อดูแลปัญหาให้เขา เรื่องนี้ผมเข้าใจ” นักสืบส่วนตัวหยิบเช็คเงินที่ชามาให้เดินตรงออกไป ชามาเอาแต่จ้องมองเอกสารอย่างโหดเหี้ยม แม้ว่าบนเอกสารจะระบุชัดเจนว่าทัตติไม่ได้มือหญิงอื่น แต่สัญชาตญาณบอกชามาว่า ทัตติต้องมีเรื่องอะไรปิดบังเธออยู่ แต่ตอนนี้เธอกลับไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่ ทัตติเป็นของเธอ เธอไม่ยอมให้ทัตติอยู่กับใครอื่น แน่นอนว่าไม่ยอม …… “……” ช่วงนี้ชยานีสนิทสนมกับโสวัณณ์ เพราะเธอคิดจริง ๆ ว่าระหว่างเธอกับโสวัณณ์เจอกันช้าไป โสวัณณ์มีแนวคิดหลายๆอย่างที่คล้ายๆกับเธอ ดังนั้นอย่าคิดว่าโสวัณณ์แม้ว่าหน้าตาดูเหมือนเด็กสาวน่ารัก แต่ที่จริงแล้วสไตล์ของโสวัณณ์กลับไม่เหมือนเด็กสาวน่ารักเลย จุดนี้เองที่ชยานีชื่นชอบเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าตอนนี้โสวัณณ์ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็จะมาหาชยานีที่สตูดิโอ หนึ่งก็เพราะทั้งสองคนรู้สึกถูกชะตากัน โสวัณณ์เองก็ชอบชยานีมากๆ ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือความสัมพันธ์ระหว่างชยานีกับนิธานในตอนนี้ โสวัณณ์ยอมรับว่าตนเองใช้ประโยชน์จากชยานี ถึงแม้ว่าชยานีเองก็รู้เรื่องนี้ดี แต่ก็บอกความลับกับโสวัณณ์ เธอไม่ถือสาที่โสวัณณ์ทำแบบนี้ ถ้าจะให้พูดแล้วชยานีและโสวัณณ์ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน ก็คือเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ของนิธานกับที่นาร์ดีขึ้น และทั้งสองคนในตอนนี้ต่างก็มุ่งไปที่เป้าหมายนี้อย่างขยันขันแข็ง ในตอนนี้โสวัณณ์เพียงแค่นึกถึงวันนั้นหลังจากที่ชยานีนำข่าวดีที่นิธานตอบตกลงไปตระกูลมีทรัพย์มาบอกกับเธอ แล้วเธอไปบอกกับที่นาร์ แม้ว่าที่นาร์ในตอนนั้นจะไม่แสดงท่าทีอะไร แต่สำหรับลูกสาวอย่างที่นาร์ แน่นอนว่าโสวัณณ์รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของที่นาร์ ที่นาร์คนนี้แม้ว่าจะเผด็จการ แต่ท้ายที่สุดก็คือผู้หญิง เมื่อพูดถึงสไตล์ของที่นาร์แน่นอนว่าใกล้เคียงกับนิธานมาก แต่ว่าความเย็นชาของนิธานดูเหมือนจะเหนือกว่า ในวันนั้นที่ที่นาร์รู้ว่านิธานตอบตกลง อย่าว่าแต่ดีใจเลย เย็นวันนั้นกินข้าวเยอะมาก ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในสายตาของโสวัณณ์ ดังนั้นชยานีในตอนนี้ถ้าให้โสวัณณ์พูดคงจะราวกับเป็นเทพเจ้า “พี่สะใภ้ ฉันคิดว่าพี่สุดยอดมากเลย ไม่เพียงประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานของตัวเอง ในด้านการใช้ชีวิตยังอยู่ร่วมกับพี่ชายได้อย่างมีความสุข” โสวัณณ์ในวันนี้มาได้ยากมาก เมื่อเห็นชยานีกำลังก้มลงวาดภาพบนโต๊ะ โสวัณณ์ในตอนเริ่มต้นก็ไม่คิดจะรบกวนชยานี จนเห็นว่าชยานีวางพู่กันลง โสวัณณ์จึงเริ่มพูดออกมา ดวงตานั้นเต็มไปด้วยประกาย นั่นเพราะเคารพชยานีเป็นไอดอล “คุณเอาที่ไหมนามาชมกันหล่ะเนี่ย” ชยานีด้านหนึ่งจัดการกับแบบต้นฉบับ อีกด้านหนึ่งมองมาที่โสวัณณ์ หลังจากนั้นก็กดติดต่อภายในโดยตรง นลินเคาะประตูเข้ามา “คุณปาลี” “นี่จ่ะนลิน แบบต้นฉบับเหล่านี้คุณเอาไปให้ห้องโมเดลทำโมเดลมาให้ฉันดูหน่อย ใช่เเล้ว ชงกาแฟให้คุณวัณณ์ด้วยนะ” “ได้ค่ะคุณปาลี” นลินยิ้ม “คุณวัณณ์รอสักครู่นะคะ” “พี่สะใภ้ ผู้ช่วยของคุณใช้ได้เลยนะ” ชยานียิ้ม “ในใจของเธอ มีอะไรไม่ดีบ้าง” โสวัณณ์เอียงหัวเพื่อลองคิดดู “เหมือนกับว่าจะไม่มีนะ” ชยานีถูกโสวัณณ์ทำให้หัวเราะอย่างชาวยไม่ได้ “ช่วงนี้คุณไม่ยุ่งเหรอ” มาเดินตามเธอทั้งวันแบบนี้ คงไม่มีอะไรทำจริงๆ “อืม การบ้านไม่ยุ่งเลย เรื่องที่อาจารย์ที่โรงเรียนให้ทำฉันทำเสร็จทุกอย่างแล้ว ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วไม่มีอะไรยุ่งเลย” โสวัณณ์พูดไปแคะโซฟาไป ชยานีเลิกคิ้ว “มีเรื่องอะไรรึเปล่า” โสวัณณ์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้า “พี่สะใภ้ จริงๆแล้วฉันมีเรื่องนิดหน่อยอยากให้คุณสอน” “พูดมาสิ” ชยานีจึงวางของในมือ มองมาที่โสวัณณ์อย่างจริงจัง จากที่ชยานีเข้าใจกับโสวัณณ์ในหลายวันมานี้ เธอควรจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีอย่างยิ่ง ไม่น่าจะพบเจอกับเรื่องยุ่งยากอะไร ถึงจะเจอหล่ะก็เธอก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าท่าทีที่ลังเลในวันนี้ สำหรับชยานีเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก “เฮ้อ ฉันกำลังจะจบการศึกษาเร็วๆนี้ใช่ไหม อีกไม่นานก็ต้อวฝึกงานแล้ว แม่ว่าคุณแม่จะไม่พูดอะไร แต่ฉันก็รู้ดีว่าท่านหวังว่าฉันจะไปทำงานที่บริษัท แต่ว่าตั้งแต่เล็กฉันไม่เคยสนใจเรื่องของบริษัทเลย” โสวัณณ์ถอนหายใจ “ฉันเป็นลูกเลี้ยงของตระกูลมีทรัพย์ เรื่องนี้พี่สะใภ้ก็รู้ดี ที่แต่ก่อนฉันไม่สนใจก็เพราะสถานะ แต่ว่าที่ไม่สนใจในตอนนี้ก็เพราะไม่สนใจจากใจจริง” “อืมหืม” เรื่องนี้ชยานีก็รู้ดี ไม่ต้องให้โสวัณณ์บอก “ทำไมหล่ะ ที่…ถ้าฉันถามว่าแม่เธอเคยพูดกับเธอว่าให้ไปทำงานที่บริษัทหรือเปล่าหล่ะ” “เรื่องนั้นไม่เคย แต่ว่าพี่สะใภ้ก็รู้นี่นา แม้ว่าตระกูลมีทรัพย์จะมีความสามารถ แต่กำลังของสมาชิกในครอบครัวไม่พอ นอกจากแม่ของฉันที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลมีทรัพย์แล้ว คนอื่นๆล้วนแต่ไม่มีความสำคัญ ความหมายของท่านแม่ก็คือไม่อยากให้คนพวกนั้นมาดูเเล ที่จริงแล้วถ้าคนพวกนั้นมีความสามารถสักนิดท่านแม่ก็คงไม่ปฎิเสธ แต่พวกเขาไม่ว่าจะคนไหนก็ไร้แก่นสาร คิดถึงแต่เงินของบริษัท หาทางจะฮุบบริษัท ไม่เคยคิดจะสร้างความสำเร็จให้” “ดังนั้นในสมองของคุณในตอนนี้อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระบริษัทของแม่คุณรึเปล่า” ชยานีเข้าใจแล้ว “วัณณ์ ทำตามหัวใจของคุณเถอะถ้าอยากไปบริษัท ก็ไป แต่ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป” “แต่ว่าหลายปีมานี้ท่านแม่ก็พยุงบริษัทอยู่คนเดียว ฉัน…” โสวัณณ์รู้สึกละอายใจ “ฉันเป็นลูกสาวของท่านแม่ ฉันกลับไม่สามารถช่วยท่านแบ่งเบาภาระได้” “ทุกคนมีความถนัดไม่เหมือนกัน ก็ไม่ได้แปลว่าถ้าคุณไปแล้ว จะไม่สามารถช่วยได้เลยสักหน่อย เรื่องฉันรู้สึกว่าคุณยังต้องคิดให้ดี ถ้ามีปัญหาสงสัยอะไร ลอง…..ไปปรึกษากับนิธานไหม” “พี่ใหญ่ของฉัน” โสวัณณ์สั่นหัวอย่างลืมตัว “อย่าเลยดีกว่า พี่สะใภ้ก็รู้ท่าทีที่พี่ใหญ่ทำกับพวกเรานี่นา” โสวัณณ์รู้ดีว่าแม้ว่านิธานจะตกลงมาบ้าน แต่ก็ไม่ได้เเปลว่านิธานยอมรับเธอ ยอมรับที่นาร์และตระกูลมีทรัพย์ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าที่จะเสี่ยง ชยานีจนปัญญา “พวกคุนอย่ามองนิธานว่าเย็นชาแบบนั้น ที่จริงแล้ว…..เขาเป็นคนพูดได้ดีนะ” โสวัณณ์ “……..” เหอๆ โสวัณณ์แค่คิดจะพูด ที่นิธานพูดดี เหล่านั้นล้วนแต่ต่อหน้าของชยานี ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น คุณก็ลองดูว่าจะพูดด้วยดีๆหรือไม่ แต่ว่าประโยคนี้โสวัณณ์ไม่ได้พูดออกมา “เอาหล่ะ ไม่พูดแล้ว พวกเรามาคุยเรื่องปัญหารายละเอียดบนชุดของเธอเถอะ” ชยานีที่กำลังพูด นลินเอาแบบต้นฉบับที่ชยานีเร่งรีบให้ก่อนหน้านี้ถือเบามาส่งให้โสวัณณ์ โสวัณณ์อดแปลกใจไม่ได้ “วาดเสร็จเร็วแบบนี้ได้อย่างไรกัน” “อืม เวลามีแรงบันดาลใจหน่ะ” ชยานีหัวเราะตื้นๆ บอกใบ้ให้โสวัณณ์นั่งลง “คุณลองดูก่อนว่าตรงไหนที่ยังมีปัญหา ถ้าคุณต้องการรายละเอียดตรงไหน ถือเอาตอนนี้ที่ฉันยังไม่ได้ให้คนทำโมเดล จะได้แก้ไขได้ทัน” “ได้เลย ฉันขอดูก่อน” ก็ผู้หญิงนี่นา ไม่มีคนไหนไม่รักสวยรักงาน ชยานีก็ใช่ โสวัณณ์ก็ด้วย โสวัณณ์ดูแบบต้นฉบับที่ชยานีเอามาให้อย่างตั้งใจ ก็พอใจเป็นอย่างมาก แต่ว่ารายละเอียดมีปัญหานิดหน่อย พี่สะใภ้กับน้องสาวทั้งสองคนปรึกษากันสักครู่ หลังจากนั้นชยานีก็ให้ลองนั่งดู จนกระทั่งทั้งสองคนพอใจแล้ว ชยานีจึงเอาแบบต้นฉบับให้นลิน “ให้ฝ่ายห้องโมเดลทำโมเดลนี้ ฉันอยากเห็นก่อนว่าผลงานเป็นอย่างไร” ชยานีมองเวลาบนปฏิทิน “รีบหน่อยนะ” เพราะวันเกิดของโสวัณณ์คืออีกสิบวัน ชยานีอยากจะทำออกมาให้โสวัณณ์ก่อนหน้านั้นนิดหน่อย “ขอบคุณค่ะพี่สะใภ้ เพื่อเป็นการขอบคุณพี่สะใภ้ที่พยายามออกแบบชุดของฉันอย่างสุดความสามารถ วัณนี้ฉันจะเลี้ยงคุณค่ะ” “คุณเลี้ยงนะ ถ้าอย่างนั้น…..รอเดี๋ยว” ชยานีหยิบโทรศัพท์ออกมา ก็เห็นว่าที่แท้เป็นสายของดนพ อดเลิกคิ้วขึ้นมาไม่ได้ ขยับปาก “สวัสดีค่ะ” “โอ้ น้องสะใภ้” ฝ่ายดนพนั้นส่งเสริมเมินเฉยออกมา ชยานีหรี่ตาลง “ดนพโทรหาฉัน มีธุระอะไรหรือ” “เหอเหอ” ดนพไออกมาสองครั้ง “เอ่อคือ จริงๆแล้วไม่มีเรื่องอะไรหรอก แค่อยากจะรายงานคุณ คือว่า คุณป้าอยู่ทางนั้นสบายดี” ชยานีเข้าใจทันที “แม่ของฉันทางนั้นไม่ได้รบกวนพวกคุณใช่ไหม” จิรยาที่จริงไม่ได้ออกมาพบปะผู้คนภายนอกมาหลายปีแล้ว ดังนั้นชยานีก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ครั้งก่อนนิธานเสนอให้จิรยาไปเข้าโรงพยาบาลของดนพ ชยานีในตอนแรกยังคิดว่าอาจจะรับไม่ได้ แต่หลังจากที่จิรยาไปแล้ว มีการมาบอกความคิดเห็นให้ชยานี บอกว่าในโรงพยาบาลดีมาก ภายในโรงพยาบาลมีพยาบาลคนอื่นอีกหลายคน อายุไม่ค่อยต่างจากจิรยาเท่าไหร่ อีกทั้งทุกคนดีมาก ดูแลเธอเป็นอย่างดี เห็นแบบนี้ชยานีจึงวางใจได้ ในวันอื่นที่ชยานีไปเยี่ยมจิรยา ก็เห็นจิรยามีชีวิตชีวาดีกว่าแต่ก่อน สภาพร่างกายก็ดีขึ้นไม่น้อย วันนี้ดนพโทรมาหา ชยานีก็เข้าใจว่าจิรยาปรับตัวกับทางนั้นได้เป็นอย่างดี “ไม่มีเรื่องยุ่งยากอะไร คุณป้ามุมานะเป็นอย่างมาก” ดนพที่กำลังพูด ตนเองก็ยิ้มหัวเราะออกมา ประมาณว่ารู้สึกเขินอาย “น้องสะใภ้ที่จริงแล้ว คือว่า ที่ผมโทรมาหาคุณในวันนี้ ยังมีเรื่องอื่นอีกด้วย” “หืม” ชยานีสงสัย “คุณมีเรื่องอะไรที่ฉันสามารถช่วยได้ รีบพูดออกมาเถอะ” “อะแฮ่ม ที่จริงแล้วถ้าพูดตามน้องสะใภ้ ก็ไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไร คือว่า มีปัญหาอยู่สองสามคำ” ดนพที่กำลังพูดอยู่ ชั่วครู่หนึ่ง ชยานีก็ไม่ได้พูดอะไร รอให้ดนพพูดออกมา “คือว่า น้องสะใภ้คุณก็รู้ใช่ไหมช่วงนี้พี่สามได้บุชชาราติ สีขาว รุ่นใหม่ล่าสุด มีไม่กี่คันบนโลก” “อื้อหืม” ชยานีเลิกคิ้ว เอามือข้างหนึ่งเกาหัว เอนตัวพิงกับประตู มุมปากยกขึ้น “คุณรู้ข่าวไวจริงนะ” ไม่ใช่ว่าเธอเพิ่งจะรู้เมื่อวานนี้เหรอ “เหอเหอ เรื่องนั้นแน่นอน ผมก็ไม่ได้…..รอบรู้ทุกเรื่อง” “ฉันเห็นแต่คนรอบรู้” ชยานีอดหยอกล้อไม่ได้ “ดังนั้นความหมายของดนพคือ” “จิ๊จิ๊ ความหมายของผมคืออะไรน้องสะใภ้คนฉลาดจะไม่รู้ได้อย่างไร คือว่า คุณช่วยพูดหวานๆกับพี่สามได้ไหม ทำให้พี่สามให้ผมยืมรถขับสักสองวัน”คำพูดเหล่านี้ของดนพมีความเอาใจอยู่บ้าง แต่คำพูดนี้ที่พูดโดยดนพ ราวกับว่าทำให้คนไม่อาจปฏิเสธได้ “อ้อ สองวันเหรอ” “ใช่ สองวัน ก็สองวัน น้องสะใภ้ เป็นอย่างไร” ดนพยิ้มตาหยีตอบ "ไม่ว่าอย่างไรหรอก” ชยานีตอบ “รถคนนี้เป็นของนิธาน ทำไมคุณไม่ไปพูดกับนิธานเองหล่ะ” เธอก็ไม่ได้โง่นะ ตามความสัมพันธ์ของดนพกับนิธานที่ดีแบบนั้น ก็แค่รถคันหนึ่ง นิธานไม่ขี้งกแบบนั้นหรอก แล้วทำไมดนพถึงต้องให้คนอื่นคนไกลอย่างชยานีช่วยเหลือด้วย ต้องมีลับลมคมในแน่ๆ “เฮ้น้องสะใภ้ คุณไม่สามารถไรน้ำใจแบบนี้นะ ถ้าผมสามารถเอื้อมถึงรถของพี่สาม ผมจะมาขอร้องคุณทำไม” “หืม ทำไมเอื้อมไม่ถึงหล่ะ” “ยังจะ…..” ดนพรีบหุบปาก “เหอๆ น้องสะใภ้ คุณแค่ตกลงก็พอ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 231 ขอเถอะนะพี่สะใภ้
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A