ตอนที่232 ผู้ที่เหมาะสมที่สุดถึงจะอยู่รอดได้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่232 ผู้ที่เหมาะสมที่สุดถึงจะอยู่รอดได้
ต๭นที่232 ผู้ที่เหมาะสมที่สุดถึงจะอยู่รอดได้ "ไม่ดีนะ” ชยานีไม่ยอมตกหลุมพลางแน่นอน ดนพต้องมีเรื่องที่ปิดบังอยู่แน่นอน ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร ชยานีก็ไม่อยากรู้ แต่ว่านี่คือเรื่องระหว่างดนพและนิธาน อย่างน้อยชยานีก็จะไม่ถ่วงความเจริญของนิธานแน่นอน เมื่อดนพเห็นว่าการเรียกร้องไม่เกิดผล ทำได้เพียงถอนหายใจเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นน้องสะใภ้ บ๊ายบาย” ชยานีวางสายลง ยักไหล่อย่างไม่มีทางเลือก “พี่สะใภ้ เป็น…..ดนพ” โสวัณณ์เข้ามาถามอย่างกระทันหัน การกระทำที่กระทันอย่างนี้ทำให้ชยานีตกใจเล็กน้อย ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วพยักหน้าอย่างฉงน “ใช่ ใช่แล้ว คุณรู้จักดนพด้วยเหรอ” “ฮะฮะ ทุกคนอยู่ในวงโคจรเดียวกัน ก็ต้องรู้จักกันไม่มากก็น้อย พี่สะใภ้ เหมืนคุณจะรู้จักดนพดีนะคะ ” ชยานีหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติ “คุณได้ยินมาว่าดนพทำอะไรเหรอ คงไม่ใช่…..” “ไม่มีอะไร พี่สะใภ้ คือว่านะ ฉันไม่ได้เพิ่งจะพูดว่าจะเลี้ยงข้าวคุณเหรอ พวกเรารีบไปเถอะ” โสวัณณ์พูดแล้วก็รีบดันตัวชยานีออกจากสตูดิโอ ชยานีรู้สึกว่าปฎิกิริยาตอบโต้ของโสวัณณ์แปลกมาก แต่ว่าถ้าโสวัณณ์ยังคงไม่อยากพูด แน่นอนว่าชยานีก็จะไม่ถามอะไรให้มากความ แต่เมื่อเห็นโสวัณณ์ที่เพิ่งจะพูดถึงดนพด้วยสนุกสนาน แล้วมองที่ใบหน้าของโสวัณณ์อีกครั้ง ชยานีก็คาดคะเนได้ทันทีว่า โสวัณณ์คนนี้คงจะไม่ได้ชอบดนพหรอกนะ แต่ว่านี่ก็เป็นเรื่องของโสวัณณ์กับดนพ ชยานีคิดว่าตนเองไม่มีหน้าที่ที่จะก้าวก่ายแบบนั้น เพียงแต่เมื่อชยานีคิดถึงคราวก่อนเหมือนดนพจะมีความรู้สึกบางอย่างกับจิราภาคนนั้น แล้วทำไมโสวัณณ์……จิ๊จิ๊ จะว่าไปเหตุใดชีวิตจึงไร้ความปราณีเช่นนี้ ชยานีไปสุขวิกับโสวัณณ์ ทั้งสองคนเข้าไปในห้องส่วนตัวของนิธาน ช่างใหญ่โตยิ่งนัก หลังจากที่เข้าไปโสวัณณ์ก็เริ่มปลง “พี่สะใภ้ คุณกับพี่สามช่างมีความสุขจริงๆ” “อืมหืม” “ห้องส่วนตัวแบบนี้ ที่สุขวิแบบนี้ เข้ามาได้ยากมากเลย พี่สามของฉันมีเงินจริงๆ” โสวัณณ์อดไม่ได้ที่จะชมเชยออกมา ชยานีก็เข้าใจ ที่โสวัณณ์ชื่นชมนิธานแทนตนเองแบบนี้ “คุณก็เป็นน้องสาวโดยบรรทัดฐานของพี่ชายของคุณ” “พี่สะใภ้ล้อฉันเล่นหรือคะ” “ฉันไม่กล้าหรอก” ชยานียิ้มตื้นๆ ส่งรายการอาหารให้โสวัณณ์ “ที่จริงแล้วที่นี่จะมีอาหารตามกำหนดมาให้ทุกวัน โดยตามสถานการณ์แล้วไม่ต้องสั่งอาหาร แต่ว่าคุณก็พูดว่าพี่ชายของคุณสุดยอดมาก เขาเป็นกรณีพิเศษของที่นี่ ดังนั้นวันนี้คุณก็เป็นกรณีพิเศษเหมือนกัน ลองดูว่าคุณอยากกินอะไร พวกเขาล้วนสามารถทำมันออกมาให้ได้” “จริงหรือคะ” แม้ว่าโสวัณณ์จะโตมาจากตระกูลมีทรัพย์ แต่สถานะของเธอกลับไม่มีนิสัยที่ถูกพะเน้าพะนออย่างลูกๆในตระกูลเลยสักนิด โสวัณณ์ค่อนข้างรู้สถานะของตัวเองดี ดังนั้นจึงค่อนข้างกดดันตนเอง สถานที่เหล่านี้แม้ว่าเธอจะมาได้ แต่ว่าจำนวนที่มากลับไม่มาก เธอคนนี้ก็ไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยแบบนั้น ในจุดนี้แตกต่างกับจารุณีเป็นอย่างมาก โสวัณณ์สั่งอาหารสองอย่างอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่งรายการอาหารให้ชยานี “พี่สะใภ้ คุณก็ดูด้วยสิ” “ไม่ต้องหรอก” ชยานีเรียกพนักงานมา แล้วให้พวกเขาเอาอาหารตามกำหนดมา ตามด้วยอาหารสองอย่างที่โสวัณณ์สั่ง รินน้ำชาให้โสวัณณ์ไปพลางยิ้มไปพลาง “ขนมเกาเตี่ยน(ขนมชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้ง)ของสุขวิอร่อยมาก ก่อนหน้านี้ฉันเคยชิมมาครั้งหนึ่ง ก็ลืมรสชาติไม่ลงเลยทีเดียว” “จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันต้องลองชิมแล้วหล่ะ” “ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูจากด้านนอกดังเข้ามา ตัดบทสนทนาของชยานีและโสวัณณ์ “คุณนายครับ” “เชิญเข้ามา” ชยานีตอบ ไม่ช้าประตูของห้องส่วนตัวก็ถูกผลักออก เงาของร่างที่รู้จักก็ปรากฎ เข้ามาอย่างรวดเร็ว รูปร่างนั้นคล้องแคล่วสง่างามมาก “น้องสะใภ้ คุณทำให้ผมสนุกมาก ไม่ใช่ พวกเรามีวาสนาต่อกันจริงๆ คุณดูสิ มากินข้าวก็เจอกันได้” คนที่มาก็คือดนพ เขาดึงเก้าอี้ออกมานั่งอย่างไม่เกรงใจ เอาถ้วยชาให้ตัวเองอย่างคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ใบหน้ามีความสุขมองมาที่ชยานี ชยานีหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง แล้วเลิกคิ้วบางๆ นิ้วมือที่เรียวบางเคาะบนโต๊ะ “ถ้าอย่างนั้นก็มีวาสนาจริงๆ ดนพมากินข้าวคนเดียวหรือ” “เอ่อ…..น้องสะใภ้คุณดูไม่แปลกใจที่เห็น…..เอ๋ น้องวัณณ์ คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” ดูเหมือนว่าดนพเพิ่งจะเห็นโสวัณณ์ จึงมองมาที่ร่างของโสวัณณ์ เขาพิจารณาดวงตาทั้งสองของโสวัณณ์ แล้วมองมาที่ชยานี สายตามองไปมองมาที่ร่างของทั้งสองคนไม่หยุด “พวกคุณ…….รู้จักกันเหรอ” “ไร้สาระ” ชยานีตอบอย่างอารมณ์เสีย แต่โสวัณณ์กลับยิ้มตาหยีมองมาที่ดนพ “พี่ดนพ ฉันรู้จักกับพี่สะใภ้ของฉันเป็นเรื่องแปลกหรืออย่างไร” “เอ่อ…..ที่แท้พวกคุณก็รู้จักกันแล้วนี่เอง เหอๆ” แม้ว่าดนพจะรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างนิธานกับโสวัณณ์ แต่ว่าเมื่อก่อนนิธานก็ไม่เคยแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน ดังนั้นตามที่ดนพเข้าใจ ความสัมพันธ์ระหว่างโสวัณณ์กับนิธานก็ไม่ได้พิเศษอะไร ดังนั้นการที่ดนพได้เห็นว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ก็รู้สึกประหลาดใจ “ในเมื่อทุกคนรู้จักกัน การพบกันโดยบังเอิญก็ไม่สู้บังเอิญได้พบกัน ในเมื่อมีวาสนา ทุกคนได้กินข้าวด้วยกัน” ชยานี “……” โสวัณณ์ “…….” ดนพเห็นว่าทั้งสองคนไม่พูดอะไร ก็เรียกพนักงานเข้ามา แล้วเพิ่มอาหารอีกสองอย่าง แล้วยิ้มตาหยีมองมาที่ชยานี ด้วยใบหน้าที่มีแผนการ “ดนพ คุณจะมองฉันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฉันบอกแล้ว ว่าเรื่องนั้นคุณต้องไปหานิธานด้วยตัวเอง พวกคุณสนิทกันไม่ใช่หรือ ถ้ายืมแค่สองวัน ฉันคิดว่านิธานคงไม่ว่าอะไร” อย่างไรก็ตามชยานีที่มีท่าทีไม่ฟังคนอื่นแบบนี้ ก็ทำให็ดนพรู้สึกโกรธขึ้นมา ผ่านไปครู่หนึ่ง สุขวิก็มีคนเข้ามา เป็นนิธานที่ชยานีและดนพกำลังพูดถึงอยู่นั่นเอง ชยานีมองมาที่นิธาน ราวกับว่าไม่ได้แปลกใจอะไร ที่จริงแล้วช่วงนี้นิธานราวกับเป็นตังเม ไม่ว่าชยานีจะไปที่ไหน ไม่ว่าชยานีจะไปกับใคร แน่นอนว่านิธานสามารถตามไปปรากฎตัวถึงที่ได้ทั้งหมด ชยานีในตอนแรกก็รู้สึกไม่คุ้นชิน แต่พอผ่านไปเป็นเวลานานก็ปล่อยเขาไป ในตอนนี้ก็เช่นกัน เมื่อชยานีเห็นนิธาน ก็ถือว่าเป็นการปรากฎตัวตามปกติ รับชุดสูตตัวนอกที่อยู่ในแขนของนิธานอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้ววางไว้บนพนักเก้าอี้ ส่งถ้วยชาให้นิธาน “คุณมาได้อย่างไร” “ภรรยามากินข้าวกับคนอื่น สามีจะไม่มาได้อย่างไร” นิธานรับถ้วยชาที่ชยานีส่งให้ แน่นอนว่านั่งอยู่ข้างๆชยานีอย่างสบายอกสบายใจ มือข้างหนึ่งวางบนพนักเก้าอี้ของชยานี เป็นท่าทีที่แสดงว่า “ชยานี” เป็นของๆฉันอย่างหนึ่ง เมื่อดนพและโสวัณณ์เห็นท่าทีเช่นนั้น ทั้งสองคนก็อดกระตุกที่มุมปากไม่ได้ พวกเขาจ้องมองกัน ก็เห็นความสุดจะทนและความเคยชินที่เห็นเป็นเรื่องธรรมดาจากดวงตาของอีกฝ่าย “เหอๆ ถ้าอย่างนั้นพี่สาม คุณ…..มาได้จังหวะพอดีเลย” “บังเอิญ” นิธานไม่ได้แสดงสีหน้าที่ดีอะไรให้ดนพ มือข้างหนึ่งถือถ้วยชา เขาแกว่งของในมืออยู่สองรอบ แล้วดื่มเข้าไปอึกหนึ่ง เข้าไประหว่างริมฝีปากของเขา เขาวางถ้วยชาลง มือที่เห็นกระดูกชัดเจนกำลังอยู่บนโต๊ะ ค่อยๆเคาะเบาๆ เป็นจังหวะ การกระทำที่ไม่ใส่ใจแบบนี้ของเขาแม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ทั่วทั้งร่างกายกลับมีรังสีความกดดันแผ่ออกมา การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งล้วนมีเสน่ห์ที่เยือกเย็นสูงส่ง ทำให้คนที่เห็นรู้สึกไม่อาจละสายตาได้ ดนพรู้สึกได้ถึงแรงกดดันนิดหน่อย จึงเม้มริมฝีปาก มองมาทางนิธานอย่างอ้อนวอนจนเห็นได้ชัด “พี่สาม คือว่า…...แค่สองวัน แค่สองวันจริงๆ” ดนพยกสองนิ้วขึ้น “ผมสาบาน” “การสาบานของนายฉันในที่นี้ไม่อาจเชื่อถือได้” นิธานที่ไม่ไหวติง กลับนำถ้วยชาส่งให้ชยานีอย่างมีความสุข เพียงครู่เดียวในสายตาของทั้งสองก็เข้าใจความหมายของอีกฝ่าย ชยานียิ้มตื้นๆพร้อมส่งถ้วยชาให้นิธาน นิธานหลับตาลง แล้วมองลงไปในน้ำชา มืออีกข้างหนึ่งกำลังลูบผมของชยานี ราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง ที่ถูกเล่นอยู่อย่างไรอย่างนั้น บนหน้าของชยานีจนแล้วจนรอดก็มีแต่รอยยิ้มตื้นๆ และไม่ได้ตอบโต้นิธาน “พี่สาม ผมคันมือ เรื่องนั้นนายก็รู้ รถคันนั้นผมอยากได้มานานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะวันก่อนผมติดการผ่าตัด จนไม่มีเวลา นายจะคว้าไปได้อย่างไร” นิธานหยักคิ้ว “ถึงแม้นายจะไม่ติดการผ่าตัด นายก็คว้าไม่ทันผม” ดนพ “…….” แทงใจเลย “ถ้าอย่างนั้นนายให้ผมยืมเล่นสองวัน” “ไม่ได้” นิธานมีน้ำเสียงที่ไม่มีทางคุยกันได้ แล้วเขาก็มองมาทางโสวัณณ์ “ช่วงนี้คุณว่างเหรอ” ลงกับดนพไม่ได้ ก็มาเริ่มลงกับโสวัณณ์ ชยานีหมดความอดทน ยกมือจับหน้าผาก ส่วนอีกมือหนึ่งก็คว้าชายเสื้อของนิธานไว้แน่น ดึงเอาไว้ เพื่อบอกให้นิธานอย่าทำเกินไป โสวัณณ์ที่กำลังดื่มชา เมื่อได้ยินนิธานพูดแบบนี้ ก็รีบนั่งสงบเสงี่ยมตัวตรง ราวกับเป็นนักเรียนที่กำลังนั่งดีๆ “พี่ใหญ่ ฉันมีเรื่องจึงไปหาพี่สะใภ้ ดังนั้น……” “คุณจะไปมีเรื่องอะไรได้ พวกคุณไม่ได้สนิทกัน” ชยานี “…….” ปากของนิธานนี่เสียจริงๆ ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตามโสวัณณ์ก็นับว่าเป็นน้องสาวของเขา ดนพก็เป็นเพื่อนสนิทของเขา “นิธาน อย่าทำแบบนี้ โสวัณณ์มาหาฉันเพราะมีเรื่องจริงๆ เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับคุณไม่มากก็น้อยอีกด้วย ฝ่ายฉันจึงบอกกับโสวัณณ์ ว่าเรื่องนี้ให้มาปรึกษากับคุณ” ชยานีเห็นท่าทางของโสวัณณ์ที่เหมือนกับหนูที่เจอกับแมว ก็รู้ว่าโสวัณณ์จะไม่มาคุยกับนิธานเรื่องนี้แน่ๆ จึงรีบออกปาก นิธานกำลังชมถ้วยชาที่อยู่ในมือ แม้แต่หนังตาก็ไม่ยกขึ้น “ผมไม่สนิทสนมกับหล่อน เรื่องของหล่อนจะเกี่ยวกับผมได้อย่างไร” ชยานีถึงกับสำลัก จ้องมาที่นิธานอย่างอารมณ์เสีย หยิกบริเวณเอวของนิธานอย่างแรง นิธานหลับตาลง รับรู้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่เอวส่งออกมา อดขมวดคิ้วไม่ได้ แต่ว่าเพียงครู่หนึ่งอารมณ์ก็เปลี่ยนไป สิ่งที่เก็บไว้ในใจก็พูดออกมา มือของเขาข้างหนึ่งกุมอยู่บนมือของชยานี แล้วพูออย่างหมดความอดทน “อย่าโวยวาย” “คุณนั่นแหละอย่าโวยวาย ที่นี่มีคนเยอะแยะ อายุสามสิบกว่าแล้วนะ คุณคิดว่าตัวเองเป็นเด็กสิบกว่าขวบหรือไง จะทำอะไรก็โกรธ ฉันก็พูดดีๆกับคุณแล้ว ว่าวัณณ์มีธุระจริงๆ” นิธานถอนหายใจ “ผมเป็นคนตระกูลภูลพิพัฒน์ หล่อนเป็นคนตระกูลมีทรัพย์ ผมช่วยหล่อนไม่ไหวหรอก” สีหน้าของชยานีอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยสีหน้าอันประหลาดใจ อดมองมาที่นิธานไม่ได้ เธอยังไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แล้วนิธานทำเหมือนรู้ทุกอย่างได้อย่างไรกัน นิธานถูจมูกของชยานีอย่างจนปัญญา หลังจากนั้นก็ลืมตามองมาที่โสวัณณ์ “ในเมื่อคุณนามสกุลมีทรัพย์ แน่นอนว่าต้องรับผิดชอบภาระของตระกูลมีทรัพย์” สีหน้าของโสวัณณ์ซีดลง กุมกำปั้นแน่น หลังจากนั้นก็หลับตาลงทันที “พี่ใหญ่ ฉัน…….” เธอไม่ใช่คนของตระกูลมีทรัพย์จริงๆ “ความสามารถของคนคนหนึ่งไม่เกี่ยวกับนามสกุล ถ้าคุณไม่มีความสามารถ เป็นพวกหัวทึบ ถ้าคุณยังยึดติดกับตระกูลมีทรัพย์ ถึงตอนสุดท้ายก็จะถูกทอดทิ้ง ถ้าคุณมีความสามารถ ก็นับว่าคุณไม่ใช่คนของตระกูลมีทรัพย์ เมื่อส่งมาถึงมือของคุณก็จะสามารถส่งเสริมได้มาก บนโลกใบนี้ ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องของผู้ที่สมควรอยู่รอด ถึงจะอยู่รอดได้” 
已经是最新一章了
加载中