ตอนที่269 สวนนภันต์   1/    
已经是第一章了
ตอนที่269 สวนนภันต์
“ู๊่!” ชยานีห้ามปากธนิดาเอาไว้ แล้วส่ายหัวเบาๆ สายตาส่งสัญญาณว่าไม่ให้ธนิดาพูดถึงอีก ธนิดารีบพยักหน้า “ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่อะไร……ช่างเถอะ พวกเราเข้าไปกันเถอะ” ชยานีกับธนิดายังมีลงชญาภาและโสวัณณ์พวกเธอทั้งสี่สาวจับกลุ่มอยู่ด้วยกัน กำลังพูดถึงงานแสดงของทั้งสามสาว ตอนนี้ทั้งสี่คน รวมตัวกันเหมือนโต๊ะไพ่นกกระจอก ส่วนผู้ชายสามคนที่เหลือ คาดไม่ถึงว่ากำลังคุยกันอยู่ในครัว เฉลิมพลล้างผักไปพลางถอนหายใจไปพลาง “วันนี้ฉันไม่ควรมาใช่ไหม” นิธานเหลือบมองเฉลิมพลแวบหนึ่ง “ก็เห็นๆอยู่” เฉลิมพลทำเสียงในจมูก “อย่าคิดว่านายแต่งงานแล้วจะอยู่เหนือคนอื่นนะ” เขาพูด แล้วหยิบหัวผักกาดแทงไปที่แขนของนิธาน “ฉันได้ยินว่าจู่ๆนายก็พาเธอไปที่นั่น” ดนพเองก็วางมือลง “ที่ไหน” “สองสามวันก่อนพี่ใหญ่ขับรถไปที่นั่น ตอนนี้ยังไม่เคยมีใครได้ไปเลย ครั้งก่อนพวกเราไม่ได้บอกว่าอยากไปบ้างเหรอ” เฉลิมพลแทรกเรื่องนี้ขึ้นมาตลอด ในตอนนั้นนิธานไม่ยอมให้พวกเขาไปด้วย ดังนั้นจรถึงตอนนี้ยังไม่เคยมีใครได้ไปสถานที่นั้นเลย  นิธานเหลือบมองเฉลิบพลแวบหนึ่งโดยไม่ต่อปากต่อคำ “นายไม่เคยเห็นสถานที่ดีๆที่ไหนบ้าง” เขาไม่คิดเลยว่าเฉลิมพลจะสนใจสถานที่ของเขาแห่งนั้นอย่างจริงจัง แต่ว่าถ้าเฉลิมพลรู้ว่าสถานที่แห่งนั้นเขาเอาไว้ทำอะไร เกรงว่าคงจะหนีป่าราบ  “ว่าแต่ใจของนายออกจะชัดเจนขนาดนี้ ทำไมธนิดาถึงดูไม่ออก” นิธานเองยังหาได้ยากที่จะเห็ท่าทีที่จริงจังของเฉลิมพล อย่างน้อยสำหรับนิธานแล้ว เฉลิมพลในตอนนี้อยู่ในระดับที่ไม่เหมือนกับที่ผ่านๆมา  เฉลิมพลลูบคาง ส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ “จิ๊จิ๊ นายอย่ามาปฎิบัติกับฉันแบบนี้เพียงเพราะว่านายแต่งงานแล้วนะ ฉันในตอนนี้ยังไม่มีแผนกระโดดลงหลุม” เขายอมรับว่าเขามีความรู้สึกนิดหน่อยกับธนิดาจริงๆ แต่ก็คิดว่านั่นเพียงแค่หล่อนรู้สึกว่าเขาต่างจากคนอื่นก็เท่านั้นเอง ส่วนความเป็นไปได้อย่างอื่น เฉลิมพลไม่เคยคิดแน่นอน  “พวกนายพูดอะไรกัน" ดนพเดินเข้ามา “จิ๊จิ๊ ฉันว่านะเฉลิมพล ความรู้สึกจุดนั้นที่นายมีต่อธนิดา พวกเราทุกคนต่างดูออก”  “ล้างผักของนายไปเถอะ” เฉลิมพลตบเข้ามา แล้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ความสัมพันธ์ของนายกับตระกูลมีทรัพย์คลี่คลายไหม”  คำพูดของเขากลั่นกรองออกมาจากสมองแล้วรอบหนึ่ง เขาลิ้นพันรอบหนึ่งแล้วจึงถามออกมา นิธานเงยหน้า มองหน้าเฉลิมพลโดยไม่พูดอะไร “นายหัดก้าวก่ายกันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”  “ไม่ใช่ว่าฉันก้าวก่าย แต่คนอย่างนายไม่ค่อยมีหลักแหล่งเลยนี่นา” เฉลิมพลสงสัยอย่างรุนแรงว่าผู้ชายคนนี้คือนิธานที่เขารู้จักใช่ไหม นิธานที่ไร้น้ำใจคนนั้นหายไปไหนแล้ว  เดิมทีแม้ว่านิธานจะไม่แสดงอาการอะไรกับตระกูลมีทรัพย์ แต่สำหรับเรื่องของปีนั้น นิธานนับว่าเป็นผู้ถูกกระทำ ท่าทางของนิธานที่ปฎิบัติต่อนนวีภาพทั้งหมดล้วนอธิบายอย่างชัดเจน   แต่ก่อนเขาไม่ใกล้ชิดกับตระกูลมีทรัพย์ เฉลิมพลยังคิดอีกว่าความสัมพันธ์ของนิธานกับตระกูลมีทรัพย์จะเป็นแบบนั้นตลอดไปเสียอีก แต่ว่าถ้าพิจารณาจากปัจจุบันแล้ว ราวกับว่าคนละเรื่องกันอย่างไรอย่างนั้น  “แต่ว่าคลี่คลายแล้วก็ดี อย่างไรตระกูลมีทรัพย์ก็เป็นของนาย วันหลัง……”  คำพูดของเฉลิมพลยังไม่ทันจบ โทรศัพท์ของนิธานก็ดังขึ้น เขาหรี่ตาลง แล้วส่งมีดหั่นผักในมือให้เฉลิมพล แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา “นิธูรหรือ”  เฉลิมและดนพต่างมองหน้ากัน แล้วรีบวางมีดหั่นผักลง “คิดว่าพ่อหนุ่มอย่างฉันคนนี้เป็นใครกัน จู่ๆมาเข้าครัวทำกับข้าวแบบนี้ ถ้าหากใครรู้เข้า ถ้าอย่างนั้นพ่อหนุ่มอย่างฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” เฉลิมพลพูด แล้วโบกมือออกจากครัวไป  “นี่ เฉลิมพล” ดนพพูดอย่างไม่พอใจ “ถ้าอย่างนั้นในเมื่อฉันเป็นหมอ มือของฉันเอาแต่ถือมีดผ่าตัด พวกนายยังให้ฉันมาล้างผักเลย”   “พี่สาม นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ดนพเงยหน้า ก็พบกับสายตาเงียบสงบของนิธาน และสายตาที่ยินดีปรีดากับความทุกข์คนอื่นของเฉลิมพล หัวใจก็กระตุกขึ้นมา “เหอเหอ ฉันใกล้ล้างผักเสร็จแล้ว”  เฉลิมพลเอามือทั้งสองกอดอกแล้วหัวเราะถากถาง ยืนพิงประตูครัว ในปากของเขาคาบบุหรี่มวนหนึ่ง  นิธานพยักหน้า “นิธูร”  “นิธูรกลับมาแล้วเหรอ”  เฉลิมพลมีความประหลาดใจนิดหน่อย “เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่”  “น่าจะประมาณหนึ่งเดือนได้แล้ว นายไม่รู้เหรอ” นิธานขมวดคิ้ว เฉลิมพลหยิบบุหรี่ทิ้ง “ ให้ตายสิ เจ้าเด็กนี่ กลับมาก็ไม่บอกฉันสักคำ เขาจะตามหลังมาเหรอ”  “อืม ช่วงนี้เอาแต่อยู่ในบริษัทอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” นิธานจัดการเสื้อผ้าให้ดี ส่วนเฉลิมพลก็เข้ามาทำงานในครัวต่อ  “ถ้าพูดอย่างนั้น นี่ก็แสดงว่านิธูรจะอยู่ที่นี่เหรอ”  แม้ว่านิธูรจะอ่อนกว่านิธานและเฉลิมพล แต่ก็ถือได้ว่าเป็นรุ่นราวคราวเดียวกัน ผู้ชายสองสามคนนี้ค่อนข้างรู้จักกันดี เดิมทีเป็นเพราะการขยายแผนกต่างประเทศนิธูรจึงถูกส่งไป นี่ก็ถือว่าสามปีได้แล้ว  แม้ว่าระหว่างนั้นนิธูรจะกลับมาเป็นบางครั้ง แต่ทุกครั้งก็กลับมากลับไป และค่อนข้างเร่งรีบ  “อืม”  “ถ้าอย่างนั้นทางแผนกต่างประเทศจะทำอย่างไร”   “ฉันให้คนอื่นไปทำแทนแล้ว แน่นอนว่าทางนั้นเข้าที่เข้าทางแล้ว ถึงไม่มีนิธูรก็ดำเนินต่อไปได้” เงียบไปครู่หนึ่ง “นิธูรอายุก็มากแล้ว ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่คือการมีครอบครัวอยู่ข้างกาย”  “นายนี่กตัญญูจริงๆ”  ในขณะที่เอาแต่พูดกัน นิธูรก็มาจริงๆ  สถานที่นี้นิธูรคุ้นเคยดี ก่อนที่สวนนภันต์เปิดตัว ก็เคยผ่านมือนิธูรมาก่อน  ในตอนที่เขาเข้ามา ก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังออกมาจากโถงกลาง แถมยังเป็นเสียงสนทนาของกลุ่มหญิงสาว ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้  เฉลิมพลเปลี่ยนนิสัยตั้งแต่เมื่อไหร่ คิดไม่ถึงว่าจะพาคนเข้ามาในนี้ หรือว่าต้องการจะมั่นคงแล้ว  “นิธูรเหรอ”  ชยานีสังเกตเห็นนิธูรเป็นคนแรก ตำแหน่งที่เธอนั่งค่อนข้างพอดี จึงสามารถมองเห็นปากประตูได้   เพียงได้เห็นนิธูรที่สวมชุดสูทเต็มตัว ดวงตาคู่หนึ่งแบวนอยู่บนจมูก ดูแล้วราศีจับไปทั้งตัว  “พี่สะใภ้” นิธุรเรียกเบาๆ สายตามองมาที่ผู้หญิงสี่คนที่กำลังเล่นไพ่นกกระจอกอยู่บนโต๊ะ ในบรรดานั้นมีหนึ่งคนที่เขารู้จัก “โสวัณณ์เหรอ” แม้ว่าจะรู้จักกัน แต่กลับแปลกใจว่าโสวัณณ์มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร  โสวัณณ์ส่งยิ้มหวานให้นิธูร “พี่นิธูร”  นิธูรหรี่ตาลง ยกมือขึ้นลูบหัวโสวัณณ์ “ชนะแล้วชนะแล้ว”  “แพ้แล้วแพ้แล้ว พวกเราสามคนเเพ้แล้ว พี่สะใภ้ชนะคนเดียวเลย” โสวัณณ์พูด ในน้ำเสียงนุ่มนวลนั้นฟังดูไพเราะ แต่ว่ากลับทำให้คนอื่นรู้สึกเสียใจและรังเกียจ แต่ก็รู้สึกว่าน่ารักมากๆ  ใบหน้าของนิธูรยังคงยิ้มแย้ม เขาทำตาโต สายตามองมาที่ชยานี “โอ้ ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่สะใภ้ก็มือขึ้น”  “เหอเหอ โชคดีหน่ะ” ชยานีหัวเราะ  “พี่ชายผมหล่ะ”  “อยู่ในครัวหน่ะนิธูร” โสวัณณ์ยิ้มตอบ แต่แววตาของนิธูรกลับมีท่าทีประหลาดใจ แต่ว่าลองคิดดูแล้ว ก็ตอบกลับมา “คิดแล้วก็คงจะจริง”  ตั้งแต่กลับมานี่ก็หนึ่งเดือนแล้ว แม้ว่านิธูรจะไม่ค่อยได้พบหน้านิธานกับชยานี แต่ก็ได้เห็นการกระทำที่มีต่อกันระหว่างสามีภรรยาคู่นี้  แต่ก่อนนิธูรไม่เชื่อว่าผู้ชายอย่างนิธานจะสามารถพบกับรักแท้ได้ แต่ในตอนนี้กลับเชื่อแล้ว นิธานไม่ใช่คนที่จะไม่รักใคร แค่เพียงยังไม่เจอคนๆนั้น  “ผมจะไปดูสักหน่อย” นิธูรลุกขึ้นเดินไปที่ครัว  ชญาภาลูบไพ่ใบหนึ่ง เมื่อเห็นนิธูรเดินจากไป  ก็ดึงสายตาไม่อาจเก็บกลับมาได้ ถึงกับมองอย่างลึกซึ้ง  “ภา”  ธนิดาเรียกเธอ ชญาภาจึงดึงความสนใจกลับมา “อะไรเหรอ”  “ไม่มีอะไร ถึงตาเธอลงไพ่แล้ว” ธนิดาเตือน  ชยานีรู้สึกอึดอัดใจกับสายตาที่มีความหมายอันลึกซึ้งคู่นั้นของชยานี จึงเม้มปาก แล้วลงไพ่อย่างรวดเร็ว แต่เพราะไม่มองให้ละเอียด หัวใจของเธอกำลังสับสน รู้สึก……พลาดท่าอย่างไม่รู้ตัว  ชยานีเปิดไพ่ออก “โปะ” นิ้วมือละเอียดละออของเธอกำลังเคาะอยู่บนโต๊ะ “โอ้โห จั่วได้แต่ผีเสื้อ ฉันโชคดีไม่หยุดแบบนี้ ท่าทางครั้งนี้ต้องชนะแน่เลย” ชยานียกมือหัวเราะมาทางอีกสามคน “ภา เธอลงไพ่แบบนั้นได้อย่างไร เธอดูสิพวกเราหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว” ธนิดาอดพูดไม่ได้  ชยาภารู้สึกเขินอาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาของชยานีที่มองเธอแปลกมาก ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุจิตใจของเธอได้ ชญาภาหลบตาอย่างอึดอัดใจ “คือว่า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เดิมทีฉันก็เล่นไพ่ไม่ค่อยเป็น”  ชญาภาส่งแต้มต่อให้ชยานี “วันนี้ลีมือขึ้นจริงๆ ชนะจนเงินตอบแทนค่าแสดงละครของฉันหมดแล้ว”  “มีอะไรน่าชมเหรอ” โสวัณณ์งงงัน แล้วถลึงตา “ถ้าอย่างนั้นพี่ภา เธอจะน่าสงสารเกินไปไหม” เขาคิดว่าดาราดังควรจะมีเงินเยอะเสียอีก  เมื่อชญาภากับชยานีได้ยินเช่นนั้น ก็หัวเราะออกมา แม้แต่ธนิดาก็กลั้นไม่อยู่ “ใช่แล้ว ฉันกับพี่ภาของเธอน่าเวทนา น่าสงสารมาก”  โสวัณณ์ฟังคำหยอกเย้าของธนิดาออกทั้งหมด “ก็ได้ พวกคุณร่วมกันแกล้งฉัน”  ชยานีหัวเราะแล้ววางแต้มของตัวเองลงในถาด “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ได้เห็นความน่ารักของเธอนะสิ”  ชายหนุ่มสามสี่คนกำลังยุ่งอยู่ในครัว ผู้หญิงสี่คนกำลังเล่นไพ่ เล่นจนไม่มีอะไรจะเล่น โดยพื้นฐานชยานีเป็นคนชนะ แน่นอนว่าทั้งสามคนไม่สนุกแล้ว ในที่สุดก็ถึงรอบสุดท้าย  ธนิดามองมาที่ชยานีอย่างกังวล “ลี เธอว่าอาหารที่พวกเขาทำ จะกินได้ไหม”  ชยานีเองเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนหน้านี้นิธานบอกว่าให้ไว้ใจเขา เธอเองไม่ได้ถามอะไรมาก เมื่อคิดถึงพวกธนิดาและชญาภาที่อยู่ด้วย ตัวเองรู้สึกไม่ดีที่ต้องทิ้งพวกหล่อนเข้าครัว จึงเห็นด้วยให้นิธานไป  “น่าจะ……กินได้……มั้ง” ที่จริงแล้วเธอเองก็ไม่มั่นใจ  อย่างก็ตามคุณชายแห่งสวรรค์อย่างนิธานกับเฉลิมพล ถ้าไม่ใช่การชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ใช้สมองสร้างกำไร มือคู่นั้นที่จับปากกาเซนต์สัญญา ในตอนนี้กลับจับมีดจับตะหลิว ชยานีจิตนาการภาพพวกนั้นไม่ออกจริงๆว่าจะเป็นอย่างไร  โสวัณณ์อดกลืนน้ำลายไม่ได้ “ฉันคิดว่า…..น่าเป็นห่วงนิดหน่อยนะ” จริงๆแล้วเธอก็ทำไม่เป็น “โดยปกติฉันจะเป็นฝ่ายเอาอาหารเข้าปาก แต่ไหนแต่ไรแม่ฉันไม่ให้ฉันเข้าครัว”  “ถ้าอย่างนั้น……พวกเราควรไปดูสักหน่อย”  
已经是最新一章了
加载中