ตอนที่ 272 จูบแรกของพี่สะใภ้คือใคร
1/
ตอนที่ 272 จูบแรกของพี่สะใภ้คือใคร
sweet heart เกิดใหม่เพื่อรักคุณ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 272 จูบแรกของพี่สะใภ้คือใคร
ตนที่ 272 จูบแรกของพี่สะใภ้คือใคร ชยานีมองไปที่รอบๆด้านด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ดูเหมือนว่านอกจากชญาภาและนิธูรแล้ว คนอื่นนั้นก็ดูทำตัวไม่ปกติกันสักเท่าไหร่! “ทานอาหารสิ ทำไมไม่ตั้งใจทานเลย!” นิธานตัดบทความคิดของชยานี และยังคงให้อาหารชยานีต่อไป จนในที่สุดชยานีเองก็ทานไปทานมาจนอิ่มท้อง และคนที่อิ่มจนแน่นท้องเหมือนกับเธอก็คงจะมีธนิดาและโสวัณณ์ ที่ชยานีอิ่มจนแน่นนั้นก็เพราะนิธานเอาแต่ตักอาหารให้เธอ นิธานรู้สึกว่าช่วงนี้ชยานีผอมเกินไปแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจึงคิดที่จะพยายามเพิ่มน้ำหนักให้กับเธอ ส่วนทั้งโสวัณณ์และธนิดานั้นก็อิ่มจนจุกแน่นไม่ต่างกับเธอ โสวัณณ์ที่เป็นอย่างนี้เพราะเธอทำตัวเอง ส่วนธนิดาได้นั่งจ้องมองเฉลิมทำแบบนั้นกับเธอ สุดท้ายแล้วชยานีก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันต่างอะไรกัน เพราะในที่สุด พวกผู้ชายก็ทำให้โต๊ะอาหารนั้นยุ่งเหยิงไปสะหมด ชยานีจึงพยายามลากสาวๆและปลีกตัวออกมาเดินเล่นที่ข้างนอก ชยานีสังเกตเห็นว่าชญาภานั้นดูไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่ และในตอนที่เธอทานอาหารนั้นเธอดูเกร็งๆ ระมัดระวังเป็นพิเศษ ช่างต่างจากนิสัยเวลาที่อยู่กับพวกเธอสะเหลือเกิน จริงๆชยานีเองก็อยากจะถามด้วยความห่วงใย แต่เมื่อดูจากท่าทางของชญาภาแล้วนั้น เหมือนกับไม่ต้องการความห่วงสักเท่าไหร่ ชยานีจึงได้แต่เก็บไว้ในใจ พวกกลุ่มผู้หญิงก็ได้เดินวนเล่นในสวนไปแล้วหนึ่งรอบ ทุกคนหยุดไม่ได้ที่จะถอยหายใจ “นี่มันความชั่วร้ายของพวกนายทุน!” ชยานีหัวเราะออกมา และยื่นมือไปเขกที่หัวของโสวัณณ์ “ถ้าหากว่าเฉลิมพลได้ยินคำพูดนี้ของเธอ เธอต้องโดนสั่งสอนแน่ๆ จะว่าไปแล้วตระกูลมีทรัพย์ก็ถือว่าไม่ได้แย่เท่าไหร่นะ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยเห็นโลกในมุมแบบนี้มาก่อนเลยหรอไง” โสวัณณ์นวดหัวเบาๆและทำท่าไม่พอใจ ทำปากเบะออกมา “พี่สะใภ้คะ อย่าเคาะหัวของฉันสิคะ ฉันจะกลายเป็นคนโง่แล้วนะเนี่ย!” ยังพูดอีกว่า “แต่มันก็ไม่เหมือนกันนะคะ ตั้งแต่เล็กจนโตฉันก็รู้ว่าตระกูลมีทรัพย์ไม่ได้เป็นของฉัน เพราะฉะนั้นฉันกับพี่เฉลิมพลไม่เหมือนกันค่ะ และอีกอย่างหนึ่งตระกูลมีทรัพย์และตระกูลภูลพิพัฒน์และตระกูลจันทร์พา ถ้าเอามาเทียบกันก็คงจะต่างกันไม่มาก” ชยานีพยักหน้า “ที่พูดมาก็ใช่นะ!” เมื่อพูดขึ้นมาชยานีและโสวัณณ์นั้นสภาพแวดล้อมที่เจอมาก็ต่างกันไม่มากสักเท่าไหร่ ก็ถูกเก็บมาเลี้ยงเหมือนกัน ถึงแม้ว่าพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงจะดีกับพวกเธอมากขนาดไหน แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆของตัวเอง เธอจึงเข้าใจทุกๆความรู้สึกของโสวัณณ์ และรู้ว่าในใจของโสวัณณ์นั้นกำลังคิดอะไร ก็เหมือนกับตอนนั้น ที่ชยานีเปิดสตูดิโอเสื้อผ้านั้น เพราะเธอต้องการพิสูจน์ตัวเอง และให้คนอื่นๆได้รู้ว่า เธอไม่ได้ต้องการที่จะพึ่งพาตระกูลคำล้อมแต่อย่างเดียว “ที่นี่สวยมากๆๆๆเลยค่ะ ตอนที่ฉันเป็นเด็กฉันมีความฝันว่า ถ้าหากว่าฉันโตขึ้นมา ฉันจะเก็บเงินด้วยตัวเองเยอะๆๆๆๆเลย และจากนั้นก็เอามาสร้างบ้านหลังใหญ่ๆ สร้างตามแบบที่ตัวเองชอบ และก็มีชีวิตที่มั่นคง” โสวัณณ์พูดออกมา “ฉันก็เหมือนกัน!” ธนิดาเปิดปากพูด ชยานีหลับตาลง “ตอนที่ฉันเป็นเด็ก ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน บ้านของฉันจริงๆแล้วไม่ต้องใหญ่อะไรมากมาย แต่จะต้องเหมาะสมและพอดี และได้มีชีวิตอยู่ร่วมกันกับคนที่ตัวเองรัก จนเส้นผมของเราเปลี่ยนเป็นสีขาวไปด้วยกัน” ชยานีจิกที่มุมปาก และสักพักก็ยิ้มออกมา “สักวัน มันต้องมีสักวันที่จะเป็นจริงอย่างแน่นอน!” “เข้ามาข้างในได้แล้ว!” นิธานกวักมือเรียกชยานี “ตอนกลางคืนมีน้ำค้างลงเยอะ อย่าอยู่ข้างนอกนานจนเกินไป ตากลมนานๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย!” ชยานีและธนิดามองตากัน หญิงสาวทั้งสามคนนั้นมองมาที่ชยานี และก็อดยิ้มไม่ได้ “คุณนิธานนี่ดีกับเธอจังเลยนะ” ชญาภาพูดออกพลางทำท่าทางอิจฉาเบาๆ ชยานียิ้มออกมาอย่างเขินอาย “ก็พอได้แหละ .......เขา.....ดีมากจริงๆ” “โอเคๆพอแล้วจ้า รู้แล้วว่าคุณนิธานของเธอนะดีมากๆเลย ไปกันเถอะ เข้าไปข้างในกัน หากไม่อย่างนั้นคุณชายของตระกูลภูลพิพัฒน์จะต้องเป็นห่วงมากแน่ๆ! ” ธนิดาพูดพลางจับมือของชยานี “ดูจากท่าทางแล้วต้องดูแลเธอให้ดีๆเลยนะเนี่ย ถ้าไม่อย่างนั้นคุณนิธานคงจะไม่ยอมให้เธอออกมาเล่นกับฉันอีกแน่ๆ” “พอแล้วน่า เลิกพูดให้เรื่องมันดูรุนแรงเกินไปได้แล้วนะ” ชยานีตีมือของธนิดา เห็นนิธานเดินเข้ามาทีละก้าวๆ เธอจึงวิ่งเข้าไปจับมือของนิธาน “พวกเราแค่อยู่ข้างนอกครู่เดียวเท่านั้นเอง......เอ่อใช่ค่ะ คืนนี้พวกเรากลับไหมคะ” “ไม่กลับแล้ว ก่อนหน้านี้เฉลิมพลได้ให้คนเก็บห้องและจัดเตรียมห้องไว้ให้พวกเราที่นี่แล้ว” นิธานจิ้มไปที่จมูกของชยานี “พี่ใหญ่คะ ฉันเองก็อยากอยู่ที่นี่เหมือนกันค่ะ” โสวัณณ์รีบวิ่งมา “เพราะอย่างไรช่วงนี้ฉันก็ว่างมากเลยค่ะ! ” นิธานหรี่ตามองไปทางธนิดาและชญาภา “เอ่อ คุณนิธานคะ พรุ่งนี้พวกเราต้องไปถ่ายละครกันต่อค่ะ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้.....พวกเราไม่ค้างที่นี่นะคะ” ธนิดารีบพูดอกมา ชยานีนิ่งคิดสักครู่หนึ่ง “ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวอีกสักครู่จะให้นิธานไปส่งพวกเธอล่ะกันนะ” “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันกลับกับชญาภาเอง” เมื่อธนิดาคิดว่านิธานจะเป็นคนไปส่งเธอด้วยตัวเอง ธนิดาก็รู้สึกไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ “คืนนี้ทุกคนค้างที่นี่ก็แล้วกัน” นิธานพูด “ตอนนี้ดึกมาแล้ว คงไม่มีรถที่จะลงจากเขา และอีกอย่างพวกเธอเองก็ไม่ได้ขับรถกันมาที่นี่ด้วย” นิธานพูดออกมาโดยที่ไม่ให้โอกาสทุกคนได้ปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น จูงมือชยานีและเดินจากไป ธนิดาและชญาภามองหน้ากันด้วยความมึนงง แต่โสวัณณ์กลับดีใจจนจูงมือของธนิดาและชญาภาไปมา “เย้เย้เย้ ดีมากเลย พวกเราไม่มีใครต้องไปไหนทั้งนั้น ที่นี่มันใหญ่มากๆจริงๆ มีห้องเยอะแยะมากมาย ไม่ต้องไปไหนแล้วค่ะ พวกเราเข้าไปกันเถอะนะคะ” ในตรงกลางของห้องรับแขก ผู้ชายทั้งสี่คนได้ล้อมกันเป็นวงกลมแล้ว ไพ่ที่พวกผู้หญิงได้เล่นไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันนั้นยังคงวางอยู่บนโต๊ะ เฉลิมพลเอนหลังบนเก้าอี้ด้วยท่าทีพาลสุดๆ ที่มุมปากคาบบุหรี่เอาไว้ และมองตาขวางไปที่พวกธนิดากำลังเดินเข้ามา เขาก็ขมวดคิ้วมากกว่าเดิม “คืนนี้ดึกเกินไปแล้ว พวกเธอค้างกันที่นี่แหละ ฉันได้ให้คนจัดเตรียมที่นอนไว้ให้พวกเธอแล้ว” “รบกวนคุณเฉลิมพลด้วยนะคะ! ” จริงๆแล้วธนิดาไม่ค่อยอยากจะค้างที่นี่สักเท่าไหร่ แต่ว่าทั้งนิธานและเฉลิมพลได้เอ่ยปากออกมาแบบนี้ ถ้าพวกเธอยังคงปฏิเสธล่ะก็คงจะดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ และคนอย่างนิธานและเฉลิมพลนั้นเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและหาตัวเองได้ยากมากๆ ก็ไม่ง่ายที่พวกเธอนั้นจะได้พบปะเจอกันกับพวกเขา “โอเคแล้วแหละ ทุกคนก็อย่าทำท่าทีเหินห่างขนาดนั้นเลย ก็เจอกันมาหลายครั้งแล้ว ก็ต่างคุ้นเคยกันหมดแล้ว” ชยานีดึงให้ธนิดานั่งลง และลูบที่หลังมือของธนิดา เพื่อช่วยให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย ในตอนนี้มีคนเยอะมาก และทุกๆคนนั้นก็นอนดึกเป็นปกติ ทุกคนจึงเสนอที่จะเล่นเกมต่างๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจเล่นเกม จับไพ่เต่า กล้าเล่าความจริง กติกามีอยู่ว่า ทุกคนต้องเล่นไพ่เต่ากันก่อน และในตอนสุดท้ายถ้าหากว่าใครแพ้และต้องโดนคนที่ชนะคนแรกถามคำถาม และจะต้องพูดความจริงและทำเรื่องที่ท้าทายเท่านั้น ทุกคนไม่ได้มีความเห็นหรือคัดค้านอะไร จริงตัดสินใจเริ่มเล่นเกมนี้ ไพ่ชนิดนี้เป็นไพ่ที่โสวัณณ์ค่อนข้างคุ้นเคย เพราะเธอเล่นบ่อยไม่ใช่น้อย ทุกคนเคยเล่นกับเธอมาก่อน และในตอนที่เล่นนั้น เธอก็เล่นได้อย่างราบรื่น ฝีมือในการเล่นก็ไม่เบาเลยทีเดียว จนทำให้เฉลิมเหลือบมอง และเขกเบาๆไปที่หัวของโสวัณณ์ “ยัยเด็กนี่! ฝีมือไม่เบาเลยนะเราเนี่ย” โสวัณณ์โดนเฉลิมพลเคาะไปที่หัวเบาๆ ก็รีบหนีเฉลิมพลไปนั่งที่อีกข้างหนึ่งของดนพ “พี่ดนพคะ พี่รีบปกป้องฉันสิคะ พี่เฉลิมพลแกล้งฉัน และก็รังแกฉันด้วย!” ดนพลูบเบาๆที่หน้าของโสวัณณ์ “โอเคๆ เลิกแกล้งกันได้แล้ว” โสวัณณ์กระแอมไอออกมาจากคอสองครั้ง ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ “ถ้าอย่างนั้นฉันจะอธิบายกติกาให้ฟังนะคะ.....พวกเราแจกไพ่ก่อนเลยค่ะ หลังจากนั้นก็หยิบไพ่ของกันและกัน ทีละคนๆผลัดกันไป ถ้าหากว่าหยิบไพ่ของคนอื่นและตรงกับตัวเอง ก็ต้องหยิบไพ่ใบนั้นออกมา ใครที่หยิบไพ่ออกมาก่อนก็เป็นคนชนะ และในทางกลับกันหากใครหยิบไพ่ทีหลัง ก็จะเป็นคนแพ้ และคนที่ชนะก็สามารถตั้งคำถามอะไรก็ได้ ให้คนที่แพ้นั้นตอบ และต้องตอบความจริงเท่านั้น หรือจะให้ทำเรื่องท้าทายอะไรก็ได้ ถ้าหากไม่อยากตอบหรือไม่อยากทำ ก็ต้องดื่มเหล้าเป็นการลงโทษแทน แบบนี้ดีไหมคะ ” “ได้อยู่แล้ว กติกาง่ายขนาดนี้ ไม่ต้องให้เธอมาอธิบายก็ได้นะ!” เฉลิมพลเคาะไปที่โต๊ะ และยื่นมือมาลูบที่คางของตัวเอง แต่สายตาของเขานั้นกลับมองไปที่ธนิดา ในที่นี่นอกจากนิธาน และเฉลิมพลและพวกของเขานั้นก็มีฝีมือในการเล่นเกมนี้อย่างยอดเยี่ยม ก็คงมีแต่ชยานีและธนิดาเท่านั้นที่เล่นไม่เคยเป็นเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นในรอบแรกที่เล่นเกม คนที่แพ้ก็คือชยานี และผู้ที่ชนะในรอบแรกก็คือนิธาน นิธานให้ชยานีทำเรื่องที่ท้าทาย คือการจูบที่ร้อนแรงต่อหน้าทุกๆคน ในจุดนี้สำหรับนิธานนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย แต่สำหรับชยานีนั้น มันทำให้เธอเขินอายอย่างบอกไม่ถูก นิธานเหลือบมองเห็นใบหน้าชยานี ที่ค่อยๆแดงก่ำเขาหรี่ตาลง และก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังเขินอายมากๆ แขนยาวๆของเขาก็ได้ลากชยานะเข้ามาในอ้อมกอด และค่อยๆจูบลงไปอย่างเร้าร้อน และในรอบที่สองคนที่ชนะก็คือเฉลิมพล ส่วนคนที่แพ้นั้นก็ยังเป็นชยานี เขารู้ว่านิธานนั้นยอมออมมือให้กับชยานี แต่เฉลิมพลนั้นไม่ได้ใจดีเหมือนกับนิธาน เขาเอามือลูบที่ใต้คาง ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “คุณพี่สะใภ้ครับ พูดความจริง หรือจะทำเรื่องท้าทาย” ชยานีขมวดคิ้ว เมื่อได้เห็นรอยยิ้มอันชั่วร้ายก็เฉลิมพลก็รู้สึกใจไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ “พูดความจริงก็แล้วกัน” เฉลิมพลดวงตาประกายสีดำออกมา “โอ้ ถ้าอย่างนั้นพูดความจริงนะครับ ใครคือจูบแรกของพี่สะใภ้หรอครับ” คำพูดที่ออกมาจากปากเฉลิมพลนั้น ทำให้ทั้งโต๊ะถึงกับเงียบสงัด และทุกๆสายตานั้นก็หันมาจองที่ชยานี หัวใจของชยานีเต้นรัว อยู่ๆก็รู้สึกตื่นเต้น และกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล จูบแรกนั้นเหรอ รักครั้งแรกของเธอก็คือทัตติ แต่ทว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขานั้นมันช่างบริสุทธิ์ เพราะสิ่งที่ทัตติเคยทำกับเธอนั้นก็คือการโอบกอดอย่างอบอุ่น หรือไม่ก็จูบที่หน้าผาก มากกว่านี้ก็ไม่มีแล้ว แต่ตอนนี้สถานะของเธอนั้นไม่ใช่ชยานี แต่คือปาลี เพราะฉะนั้นจูบแรกของปาลีนั้นอาจจะเป็นนวีน แต่ทั้งสองคนนั้นจะมีจูบครั้งแรกด้วยกันหรือเปล่า ชยานีเองก็ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ เจ้าเฉลิมพลคนนี้ ทำไมจะต้องชอบสร้างความวุ่นวายให้กับคนอื่นด้วยนะ ถามคำถามอะไรก็ไม่รู้ ไม่ว่าเธอจะตอบด้วยสถานะใด ชยานีก็รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตเลย ชยานิ่งไปครู่หนึ่งไม่ตอบอะไรออกมา แต่นิธานนั้นกลับหรี่ตามองไปที่ชยานี พระเจ้าคงรู้ว่าตอนนี้ในใจของเขานั้นตื่นเต้นมากขนาดไหน ความรู้สึกแบบนี้ทั้งชีวิตของเขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลย ตั้งแต่วันที่เขาได้พบกับชยานี นิธานถึงจะได้สัมผัสถึงความรู้สึกถึงการดำเนินชีวิตแบบคนอื่นทั่วไป แต่เขาคิดไม่ถึงว่าอยู่ๆนั้นเขาก็รู้สึกหึงขึ้นมา และหึงเพราะผู้ชายที่ไม่สามารถเทียบเท่าเขาได้เลย “ทำไมล่ะ คำถามนี้มันตอบยากมากเลยหรอครับที่สะใภ้” เฉลิมพลหรี่ตามอง ยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ “หรือว่าจะไม่ใช่พี่สาม” “จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ ก่อนที่จะมาอยู่กับนิธานนั้น ฉันก็ไม่เคยอยู่กับใครมาก่อน” ชยานีรีบตอบออกมา “เฉลิมพล ฉันคิดว่านายตั้งใจที่จะแกล้งฉันนะ” นิธานแววตาเปลี่ยนและหรี่ตามอง และจับมือของชยานีขึ้นมา เธอพูดว่า ไม่เคยอยู่กับผู้ชายคนอื่นมาก่อนนั้นหรอ นั่นหมายความว่า จริงๆแล้วเธอกับทัตติไม่มีความสัมพันธ์แบบนั้นด้วยกัน และระหว่างพวกเรานั้นไม่มีการสัมผัสใดๆอย่างใกล้ชิด ชยานีสัมผัสได้ถึงการวิตกกังวลของนิธาน เธอบีบมือนิธานกลับเป็นสัญญาณ ให้นิธานสงบสติอารมณ์ลง นิธานหรี่ตามอง และหันไปมองที่หน้าของเฉลิมพล “ฉันคิดว่านายคงอยากจะเล่นให้มันน่าตื่นเต้นมากกว่าเดิมสินะ!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 272 จูบแรกของพี่สะใภ้คือใคร
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A