ตอนที่ 280 ยังไม่ทันได้รัก โสวัณณ์ก็อกหักเสียแล้ว
1/
ตอนที่ 280 ยังไม่ทันได้รัก โสวัณณ์ก็อกหักเสียแล้ว
sweet heart เกิดใหม่เพื่อรักคุณ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 280 ยังไม่ทันได้รัก โสวัณณ์ก็อกหักเสียแล้ว
ตนที่ 280 ยังไม่ทันได้รัก โสวัณณ์ก็อกหักเสียแล้ว ชยานีและนิธานอยู่ที่ส่วนม่อนฟ้าประมาณหนึ่งอาทิตย์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นชยานีเอาแต่วาดภาพและคิดออกแบบ ในตอนกลางคืนก็ออกไปเดินข้างชมวิวข้างนอก ออกไปเดินดูสวนดอกไม้ พ่อบ้านลุงยศก็ได้ดูแลสวนที่นี่เป็นอย่างดี จนทำให้เป็นเหมือนสวรรค์ของนิธานและชยานีได้ชื่นชม “เฮ๊ออออออ อยากให้ทุกๆวันเป็นวันที่ไม่ต้องกังวลหรือคิดอะไรแบบนี้จังเลย” หลังมื้ออาหารทั้งสองคนก็ไปเดินเล่นที่ในสวน อยู่ๆชยานีก็ถอนหายใจออกมา “คุณรู้สึกไหมคะว่า อากาศที่นี่มันดีมากๆเลย ดีจนฉันไม่อยากจะจากที่นี่ไปเลยค่ะ” “ถ้าหากว่าเธอชอบจริงๆล่ะก็ เดี๋ยวคราวหน้าฉันพาเธอมาที่นี่บ่อยๆ ที่นี่ห่างไกลจากตัวเมืองไม่มากเท่าไหร่นัก” นิธานจูงมือของชยานี มองชยานีที่อยู่ด้านหน้า สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “ที่พูดมาก็ใช่นะคะ หลังจากนี้พวกเรามาที่นี่กันอาทิตย์ละครั้งนะคะ” ดูท่าทางชยานีจะชอบที่นี่แล้วจริงๆ “อ้อ ฉันยังมีสวนดอกไม้อีกสวนหนึ่ง” นิธานพูดออกมา “ไม่กี่วันมานี้ตีรณบอกฉันว่า ที่ฝั่งศพของน้องสาวเธอถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วนะ รอผ่านช่วงที่เธอวุ่นๆไปก่อน พวกเราค่อยแวะไปดูกัน” “โอเคค่ะ!” ชยานีพยักหน้า “ขอบคุณค่ะ! ” “พอถึงวันที่พวกเราแก่แล้ว เกษียณตัวเองแล้วก็ไปพักผ่อนที่นั่นกัน เธอคิดว่าอย่างไร” “แก่เลยหรอคะ มันเป็นเรื่องที่อีกนานเลยนะคะกว่าที่จะมาถึง” ชยานียิ้มออกมา “แต่ตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าเหมือนตัวเองกำลังอยู่กับคุณในตอนแก่เลยค่ะ! ” “ซนจริงๆ!” นิธานเอานิ้วไปจิ้มๆที่จมูกของชยานี “ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาซักพักละ พวกเรากลับไปพักกันเถอะ” “ค่ะ” ชยานีพยักหน้า เธอโน้มตัวของเธอครึ่งหนึ่งพิงไปที่ตัวของนิธาน “เวลาผ่านไปไวจังเลยนะคะ แค่ไม่กี่วันฉันก็ทำแบบจำลองออกมาจนเสร็จ เอ่อใช่ค่ะ ฉันยังต้องเอาไปให้อาจารย์ดูอีก” “อื้ม! ” นิธานและชยานีกลับมาจากสวนม่อนฟ้า ก็ถูกโสวัณณ์ดึงไว้ “พี่สะใภ้คะ ไม่กี่วันมานี้พี่ไปไหนมาหรอคะ ฉันถามพวกพี่ชญาภา พี่ๆเขาก็ไม่รู้ว่าพี่ไปไหนมาค่ะ” ตอนนี้โสวัณณ์ติดชยานีเป็นอย่างมาก แวะมาหาเธอแทบจะวันเว้นวันเลยทีเดียว “เอ่อ.....คือช่วงนี้พี่ยุ่งๆนิดหน่อย” ชยานีพยายามอธิบาย “เพราะพี่กำลังตั้งใจที่จะออกแบบวาดภาพสเก็ตออกมา ก็เลยไม่ได้เครื่องโทรศัพท์ไว้อะจ่ะ เธอมาหาพี่มีอะไรหรือเปล่าจ้ะ” ชยานีพลางมองไปที่สมุดสเก็ตภาพ และมองไปที่โสวัณณ์ไปด้วย เมื่อเห็นโสวัณณ์ทิ้งตัวลงและพิงลงไปที่โซฟาด้วยท่าทางที่เกียจคร้าน ทั้งตัวของเธอดูเหมือนอ่อนล้าไปหมด โสวัณณ์ทำปากจือๆ “พี่สะใภ้คะ การที่ตกหลุมรักใครสักคนมันเป็นความรู้สึกอย่างไรหรอคะ” ชยานีตกใจ มองไปที่โสวัณณ์ด้วยความสงสัย ในหัวของเธอก็นึกถึงดนพขึ้นมาทันที “เธอกำลังตกหลุมรักใครหรอ” “ไม่ใช่ค่ะ คือฉัน.......” โสวัณณ์เงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นแววตาของความน่าเบื่อเล็กน้อย พยักหน้า “อื้ม...ใช่ค่ะ จริงๆที่มีอยู่คนหนึ่ง แต่เขาดูเหมือนจะไม่ได้ชอบฉันค่ะ” โสวัณณ์พูดด้วยน้ำเสียงหดหู่เล็กน้อย พอดูออกเลยว่าตอนนี้ในใจของเธอมันกำลังเศร้าเสียใจ ตอนนี้ชยานีกับนิธานนั้นกำลังมีความสุขด้วยกันเป็นอย่างมาก และก่อนหน้านี้เธอก็ไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกที่ไม่ได้ถูกรักตอบ ก่อนหน้านั้นเธอคิดว่าการที่ได้อยู่กับทัตตินั้นคือความรู้สึกชอบ แต่ในเวลานั้นเธอยังมาได้มีความรู้สึกรักอะไร แต่พอหลังจากนั้นเมื่อเขาได้มาพบกับนิธาน ทั้งสองคนต่างชอบกันและกัน รู้สึกดีต่อกันและกัน เพราะฉะนั้นชยานีจึงไม่เข้าใจและสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของชยานี “การที่ชอบใครสักคนหนึ่ง ก็คงเป็นการที่มองเห็นเขามีความสุข ถ้าหากไม่เจอเขาก็คงคิดถึงมากๆ เมื่อได้มองเห็นเขาก็เหมือนทำให้โลกทั้งใบนั้นสวยงาม แต่พอได้เห็นเขาอยู่กับคนอื่น......มันก็คงเสียใจนะ” ชยานีมองเห็นโสวัณณ์ที่ได้ยินประโยคสุดท้ายของเธอนั้น ใบหน้าของโสวัณณ์ก็ค่อยๆแดงก่ำขึ้นมา เธอจึงพอคาดเดาสถานการณ์ได้บ้างแล้ว “ทำไมหรอ คนที่เธอชอบนั้น.....เค้าไม่ชอบเธอหรอ” โสวัณณ์รู้สึกแสบแปล๊บที่จมูก น้ำตาค่อยๆไหลออกมา “พี่สะใภ้คะ คือฉันชอบเขาค่ะ และก็ชอบมากๆเลยด้วย แต่.....ทำไมเขาถึงไม่ชอบฉันคะ” “เอ่อ.......” ชยานีรู้สึกว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่ยากจะตอบเหลือเกิน “นี เรื่องราวของความรักและความรู้สึกนั้น การที่เราพูดว่าเราชอบเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเองก็จะต้องชอบเราด้วยเหมือนกัน เธอพอจะเข้าใจใช่ไหม” ชยานีกำลังเดาว่า โสวัณณ์คงจะมีปัญหาอะไรบางอย่างกับดนพที่นั่นแน่ๆ แต่เธอเองก็ไม่ได้เข้าใจความรู้สึกทั้งหมดของเด็กผู้หญิงคนนี้ และก็ไม่รู้ว่าความรู้ชอบที่เธอมีต่อดนพนั้นมันอยู่ในระดับไหน เธอเองก็ไม่กล้าที่จะคาดเดาไปเรื่อยเปื่อย และครั้งที่แล้วเธอเองก็ได้เห็นว่าดนพนั้นชอบผู้หญิงสไตล์เดียวกับคนนั้นที่ชื่อเตชินิ และเห็นได้อย่างชัดเจนว่าโสวัณณ์และเตชินินั้นเป็นผู้หญิงคนละแบบ คนละสไตล์กันเลย เธอยิ้มออกมา “นี เธอเคยคิดมาก่อนไหมว่า ความรู้สึกที่เธอมีต่อผู้ชายคนนั้น มันอาจจะไม่ใช่ความรู้สึกรักกันแบบหญิงชาย บางทีเธออาจจะแค่ติดเขา และรู้สึกประทับใจในอะไรบางอย่าง” “ไม่ใช่ค่ะพี่สะใภ้ คือฉัน......” โสวัณณ์เม้มปาก “พี่รู้แล้วใช่ไหมคะว่าคนที่ฉันชอบนั้นคือใคร” ชยานีพยักหน้า โสวัณณ์ยิ้มเยาะใส่ตัวเธอเอง “มันดูออกง่ายขนาดนั้นเลยใช่ไห่มล่ะคะ” เธอยังพูดต่ออีกว่า “แต่เขามีคนที่เขาชอบแล้วค่ะ ฉันเห็นมากับตาฉันเองเลย เขาอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงคนนั้นอย่างมีความสุข ไม่เหมือนกับตอนที่อยู่กับฉันเลยสักนิดเดียว ที่แท้เขาก็เป็นคนเริ่มก่อนได้ ที่แท้เขาก็สามารถยิ้มแย้มต่อหน้าคนอื่นได้” แต่ดนพนั้นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นโสวัณณ์อยู่ในสายตา และไม่เคยทำท่าทีแบบนี้ให้กับเธอก่อนเลย “นี.....ความรักนั้นเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้ชัดเจน และก็ไม่สามารถที่จะบังคับกันได้ ถ้าหากว่าเขาจะคนที่ชอบอยู่แล้ว นั้นเธอก็รีบถอยออกมาตั้งแต่เนิ่นๆเถอะนะ” ชยานีไม่อยากให้โสวัณณ์เข้าไปพัวพันกับเรื่องแบบนี้ เพราะตัวโสวัณณ์เองก็ยังเด็กอยู่ด้วย “พี่สะใภ้คะ ถ้าความรู้สึกมันเป็นเรื่องที่ทิ้งกันได้ง่ายๆก็ดีสิคะ” เธอค่อยๆเช็ดน้ำตา “จริงๆฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แต่แค่ไม่สบายใจเฉยๆ เลยอยากพูดกับใครสักคน และพวกเพื่อนของฉันก็มีแค่ไม่กี่คนที่จะจริงจังกับฉันจริงๆ คิดไปคิดมาฉันก็หาไม่พบกับคนที่ฉันจะสามารถระบายด้วยได้” “ก็เลยมาหาฉันใช่ไหม” ชยานีหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้โสวัณณ์ “หลังจากนี้ถ้ามีเรื่องอะไรสบายใจ ก็มาหาฉันได้ตลอดเลย แต่ถ้าเป็นเรื่องอย่างวันนี้ ฉันคิดว่าคงจะไม่ได้พบมันอีกนะ เพราะฉันไม่อยากเจ็บปวดไปด้วย” ชยานีตบที่ไหล่ของโสวัณณ์เบาๆ “ถ้าอย่างนั้นเธอก็ลองกลับไปคิดดีๆ เกี่ยวกับเรื่องของดนพ ถ้าหากว่าเธอวางความรู้สึกไม่ได้จริงๆ เธอก็ลองตั้งใจจังหวะดีๆที่จะพูดคุยกับเขา ถ้าหากว่าคุยแล้ว ผลที่ออกมาคือเขาไม่ได้ชอบเธอจริงๆ เธอก็ไม่สามารถไปบังคับเขาได้ คนเราน่ะต้องลองให้ถึงที่สุดจนกว่าที่จะรู้สึกว่าตัวเองไปต่อไม่ได้ แล้วถึงจะหยุด” “ขอบคุณนะคะพี่สะใภ้” โสวัณณ์เช็ดที่จมูกของตัวเอง “ตอนนี้ฉันดีขึ้นมากแล้วค่ะ พี่พูดถูก ฉันยังไม่เคยเผยความในใจให้พี่ดนพได้รู้เลย ตอนนี้ฉันยังยอมแพ้ไม่ได้ค่ะ ไม่ว่าผู้หญิงที่เขาชอบนั้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าเขาทั้งสองยังไม่ได้อยู่ร่วมกัน ฉันก็ยังคงมีโอกาส แต่ถ้าหากว่าเขาทั้งสองคนอยู่ร่วมกันแล้ว ฉันก็จะไม่ไปพัวพันและไม่ไปยุ่งกับพวกเขาอีก” เธอพูดอย่างให้เกียรติตัวเอง ที่นาร์คอยสั่งสอนเธอมาตลอด ของบางอย่างก็ต้องต่อสู้ถึงจะได้มา แต่การต่อสู้นั้นจะต้องมีเกียรติและศักดิ์ศรี สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเราก็คือ เราจะต้องไม่ลดคุณค่าของตัวเอง และต้องมีศักดิ์ศรีและให้เกียรติตัวเองเสมอ “แค่เธอเข้าใจทุกอย่าง ฉันเองก็ดีใจมากแล้ว” ชยานีเห็นท่าทีของโสวัณณ์ เธอก็รู้สึกโล่งใจ “แบบนี้ก็ดีแล้วแหละ เดี๋ยวอีกสักครู่พี่ชายของเธอจะมานะ พวกเราคุยกับว่าเย็นนี้จะไปทานข้าวด้วยกัน เธอก็ไปด้วยกันกับพวกเรานะ” “พี่ชายหรอคะ” โสวัณณ์ได้ยินเช่นนั้น หัวใจของเธอกลับสั่นรัวๆ ใบหน้าแสดงท่าทีเก้ๆกังๆออกมา “อย่างนั้น....เอ่อ..พี่สะใภ้คะ ฉันคิดว่าฉันไม่ไปดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากไปรบกวนเวลาส่วนตัวของพี่ๆทั้งสองคน มันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ถึงแม้โสวัณณ์จะพูดออกมาแบบนั้น แต่แววตาของเธอนั้นก็ยังเต็มไปด้วยความสดใส ชยานีเองก็ดูออก โสวัณณ์นั้นนับถือนิธานเป็นอย่างมาก เขาเอานิธานเป็นตัวอย่างของเธอ แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็กลัวนิธานมากจริงๆ มันก็ใช่อยู่ที่จะเป็นแบบนั้น เพราะโดยปกติแล้วนิธานมักจะทำหน้าตาเย็นชาใส่ทุกๆคน โสวัณณ์จะรู้สึกกลัวนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร “ไม่เป็นไรหรอกน่า เป็นการทานอาหารปกติ ไม่ใช่มือพิเศษอะไรเท่าไหร่ ไม่ใช่ส่วนตัวอะไรขนาดนั้น” ชยานีดึงมือของโสวัณณ์ “ก็ตามที่ฉันพูดก็แล้วกันนะ” “แต่พี่สะใภ้คะ.......” “วันนี้เธอตั้งใจจะมาหาฉันโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นเธอคงจะมีเวลาแน่นอน” ชยานีพูดพร้อมกับเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา ต่อสายโทรหานิธาน ถามเกี่ยวกับเรื่องอาหารเย็นว่าจะไปทานอะไร ทานที่ไหน “เธอดูเลยก็แล้วกันนะ ทานอะไรก็ได้ทุกอย่างเลย” นิธานยกมือขึ้น หยุดพูดกับคนที่อยู่ตรงข้าม และอีกสักชั่วครู่หนึ่ง “เอาตามที่เธอชอบทานเลย” ชยานียิ้มออกมา “แบบนั้นก็ได้ค่ะ ฉันจะเลือกสถานที่นะคะ” เธอพูดต่อ “”เอ่อใช่ค่ะ วันนี้นีแวะมาหาฉัน อาหารเย็นนี้วันนี้.....ฉันพานีไปด้วยนะคะ ชยานียังพูดไม่ทันจบก็ทำหันหน้าไปหยอกล้อ ทำหน้าทำตาใส่โสวัณณ์ โสวัณณ์กลัวเป็นอย่างมาก รีบเปิดหูกว้างออก เอียงตัวเข้าไปเพื่อฟังว่านิธานจะตอบกลับมาว่าอย่างไร ในตอนนั้นเมื่อนิธานได้ยินเขาก็แน่นิ่งไป มือของเขาที่กำลังถือปากกาไว้ก็หยุดนิ่ง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นคมชัด เขาค่อยๆหรี่ตาลง อุณหภูมิทั้งตัวของเขานั้นเริ่มจะเย็นขึ้น บรรยากาศเริ่มเกิดความตรึงเครียด แม้กระทั่งตีรณที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อได้เห็นก็ยังต้องตกใจ เขาอดไม่ได้ที่จะค่อยๆกลืนน้ำลายลงคอ เขารู้สึกเหมือนตัวเองมายืนตรงนี้แบบผิดเวลา “อะไรคะ ทำไมไม่พูดอะไรเลย” “โอเค!” นิธานยิ้มที่มุมปาก “ถ้าหากอย่างนั้น เราก็ชวนคนอื่นไปด้วยกันเลยสิ” ชยานีได้ยินแบบนั้น ก็ยิ้มไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก “คุณไม่โอเคหรอคะ....มันก็แค่อาหารมื้อหนึ่งไม่ใช่หรอ” “ใช่ไง ก็แค่อาหารมื้อหนึ่งไง สุดท้ายแล้วคนเยอะยังไงก็ครึกครื้นกว่า เอาแบบนี้ฉันจะชวนเพื่อนของฉันไปด้วย ฉันจะถามพวกเฉลิมพลก็แล้วกัน” พูดจบนิธานก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง ชยานีได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งอึ้งไปเลย เธอค่อยๆหันหน้าไปยิ้มแบบทำอะไรไม่ได้ โสวัณณ์มองชยานีด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ “เป็นอย่างไรบ้างคะ” “พี่ชายของเธอบอกว่า คนเยอะก็ครึกครื้นมากกว่า” ชยานียิ้มออกมา เป็นอย่างที่คิดไว้ หลายๆคนมารวมกันก็ย่อมครึกครื้น ดังนั้นชยานีจึงเรียกธนิดาและชญาภาให้มาทานอาหารด้วยกัน และก็ได้เห็นว่า เฉลิมพล นิธูร ดนพ ก็มาด้วยกันทั้งหมด ชยานีขมวดคิ้ว มองหลายๆคนด้วยสายตาที่ปวดหัว ธนิดาคิดไม่ถึงว่าที่ชยานีบอกว่าจะเลี้ยงข้าวนั้น จะมีคนเยอะขนาดนี้ และยังเป็นคนที่สนิทคุ้นเคยทั้งนั้น เมื่อธนิดาได้สติ เธอก็ค่อยๆลูบไปที่ชยานี ค่อยๆกระซิบเข้าไปที่หูของชยานีด้วยความระมัดระวัง “ไหนบอกว่าจะชวนมาเลี้ยงข้าวไง” “ก็ใช่ไง ก็เลี้ยงข้าวพวกเธอไง” ชยานีพูด “พวกเธอหนิ” ธนิดาถึงปวดหัวจี๊ดขึ้นมา แต่ชญาภากลับยิ้มอ่อนๆ “ปาลีบอกทีเธอว่าเธอไม่ได้ป่วย!” ธนิดาถูกชยานะกระตุ้นให้โกรธจนเกือบแย่ แต่ก็ยังต้องพกรอยยิ้มไว้บนใบหน้า และค่อยๆทักทายทีละคนๆเมื่อถึงคราวที่ต้องทักทายเฉลิมพล เหลือบมองเห็นแขนข้างหนึ่งของเฉลิมพลวางที่หัวเข่า และอีกข้างหนึ่งวางไว้ที่พนักเก้าอี้ ท่าทางของเขาเหมือนคนที่กำลังมีท่าทีที่ขี้เกียจเหลือเกิน ธนิดาแค่เหล่ตามองเขา จากนั้นก็ค่อยๆยิ้มทักทายเขา “สวัสดีค่ะ คุณเฉลิมพล” เฉลิมพลหรี่ตามองเธอ เคาะที่เข่าของตัวเองเขาๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยร้อยยิ้ม “สวัสดีครับ คุณธนิดา!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 280 ยังไม่ทันได้รัก โสวัณณ์ก็อกหักเสียแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A