ตอนที่ 284 คิดถึงไม่เลยว่าจริยาจะเป็นคุณป้าของปวีณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 284 คิดถึงไม่เลยว่าจริยาจะเป็นคุณป้าของปวีณ
ต๭นที่ 284 คิดถึงไม่เลยว่าจริยาจะเป็นคุณป้าของปวีณ ชยานีมองปวีณด้วยความลังเล แต่ก็ตอบกลับไปว่า “แม่ของฉันชื่อ จริยา ก็บังเอิญมากที่นามสกุลเดียวกันกับคุณ” “เพล้งงงง” มีเสียงดังขึ้น ส้อมให้มือของปวีณตกลงมาจากโต๊ะ เขาตกตะลึง “คุณพูดว่าอะไรนะ” “ฉันบอกว่าแม่ของฉันชื่อว่า จริยา ทำไมหรอคะ” ชยานีสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของปวีณ ปวีณมองไปที่ชยานีด้วยความตระหนกตกใจ จากนั้นค่อยๆพูดออกมาว่า “แม่ของคุณเป็นคนที่ไหนกันแน่ เป็นคนที่เมืองนภา หรือว่า.......” “อันนี้ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ” ชยานีมองเห็นท่าทางของปวีณ จริงๆในใจก็พอจะคาดเดาบางอย่างได้ ถ้าเป็นเพียงแค่ท่าทีผิดปกติของปวีณชยานีเองก็คงจะไม่สงสัยและไม่คิดอะไรมาก แต่เพราะวันนี้เธอเห็นท่าทีของจริยาตอนที่เห็นนามบัตรของปวีณแล้วนั้น มันทำให้เธออดคิดไมได้เลยจริงๆ จริยาและปวีณจะต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกันแน่ๆ “คุณปวีณมีท่าทีแบบนี้ มันทำให้ฉันอดคิดไม่ได้นะคะ” ปวีณก็พอสัมผัสได้ว่าตัวเองนั้นเหมือนเสียสติไป จึงกล่าวขอโทษและนั่งลง “คุณปาลีครับ ผมคงไม่ได้บอกคุณ ตั้งแต่ที่ผมเด็กๆคุณป้าของผมได้แต่งงานออกไป และถูกตัดความสัมพันธ์กับคนในบ้าน” “คุณหมายความว่าอะไรคะ” ชยานีค่อยๆหรี่ตามอง ปวีณพยักหน้า “คุณป้าของผมนั้นก็ชื่อว่า จริยาเหมือนกัน!” เขามองไปที่ชยานี “มิน่าล่ะตอนที่ผมเห็นคุณป้าครั้งแรกนั้นผมรู้สึกคุ้นตามากเลย และเมื่อได้เจอกันก็รู้สึกสนิทสนม” ชยานีอ้าปากค้าง ในใจก็คิดว่าที่เขามาสนิทสนมกับเธอไม่ใช่เพราะว่าเธอมีหน้าตาเหมือนกับชยานี้หรอกหรอ เหมือนกับว่าปวีณสามารถเดาความคิดของชยานีได้ “คุณนั้นเหมือนกับเพื่อนคนนั้นของผมมากๆ ในตอนแรกที่ผมให้ความสนิทสนมกับคุณผมก็คิดว่าเป็นผลที่มาจากเพื่อนของผม แต่เมื่อพอได้คิดอีกครั้งหนึ่ง ความรู้สึกดีๆที่ผมมีให้กับเธอนั้นที่แท้ก็มาจากคุณป้านั่นเอง และก็คงจะเป็นแม่แท้ๆของคุณด้วย” จริงๆแล้วในใจของปวีณรู้สึกตื่นเต้นมากๆ “ขอโทษครับ ผมคง.........” “ไม่เป็นไรค่ะ” ชยานีพยักหน้า “ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณ คงจะตื่นเต้นมากๆเลยใช้ไหมคะ แต่ฉันขอแนะนำคุณก่อนนะคะว่าให้คุณใจเย็นๆ สงบสติอารมณ์ลงก่อน ถ้าหากว่าไม่ใช่ล่ะคะ” ถึงแม้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นมันดูบังเอิญไปหมด แต่ชยานีก็คิดว่า ถ้าหากไม่ใช่แล้วตัดสินผิด ก็คงจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ และเหมือนชยานีจะเห็นว่าตอนที่จริยาเหมือนไม่ค่อยอยากจะรู้จักกับปวีณสักเท่าไหร่ “เมื่อกี้ฉันคิดว่าคุณคงเห็นท่าทีของคุณแม่แล้วนะคะ......ว่าท่านนั้นไม่ค่อยอยากจะรู้จักกับคุณสักเท่าไหร่ และในหลายปีที่ผ่านมานี้ท่านก็ไม่เคยเอ่ยปากถึงตระกูลกองแก้วมาก่อนเลยค่ะ” ปวีณพยักหน้า “คงใช่จริงๆนั่นแหละ เพราะในปีนั่นท่านถูกตัดขาดความสัมพันธ์จากตระกูลกองแก้วไปแล้ว เพราะฉะนั้น........” ชยานีขมวดคิ้ว “ทำไมล่ะคะ” จิตใต้สำนึกของชยานีถามออกว่า ชยานีรู้สึกว่าเหมือนตัวเองที่กำลังหลงไปมาในทะเลนั้นกำลังจะเจอทิศทาง ก่อนหน้านั้นเธอได้แต่คิดสงสัยในสถานะของตัวเอง และในตอนนี้เธอได้รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจริยา และก็ได้รู้ว่าตัวเองนั้นไม่มีความสัมพันธ์ใดๆเกี่ยวข้องกับตระกูลมะเด็ง ชยานีมึนงงเหมือนคนที่หาทางออกไม่พบ จนเขาได้มาเจอกับปวีณ ทุกอย่างก็เหมือนจะปรากฏออกมา ก่อนหน้านั้นชยานีไม่เคยคิดและสงสัยมาก่อนเลยว่า จริยานั้นมาจากที่ไหน ถ้าหากว่าจริยาคือคนของตระกูลกองแก้วจริงๆ พวกเขาก็อาจจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพ่อแท้ๆของเธอก็ได้ “อันนี้....คงต้องเริ่มเล่าจากเมื่อหลายปีก่อน.....ในปีนั้นคุณป้าจริงๆแล้วมีสัญญาที่ต้องแต่งงานติดตัว” ปวีณพูดอธิบาย “ในตอนนั้นฉันยังเด็กมากๆ แต่ความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องของคุณป้านั้นมันยังชัดเจนในใจของผม คุณป้าดีต่อผมมากๆ ในตอนนั้นคุณป้ายังไม่อายุเยอะขนาดนี้เลย ตอนที่คุณป้าเรียนจบก็ไปเที่ยวที่ต่างเมือง และก็ได้บังเอิญไปพบกับคนๆหนึ่ง และทั้งสองก็รักกัน” “ใช่คุณฐิติพันธ์หรือเปล่าคะ” ชยานีรีบถามขึ้นมา ปวีณส่ายหน้า “อันนี้ผมก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกันนะ ตอนนั้นผมยังเด็กมากจริงๆ ไม่ค่อนรู้เรื่องเท่าไหร่ มารู้อีกทีก็คือว่าคุณป้าโดนตัดความสัมพันธ์จากตระกูลกองแก้วนั่นก็เพราะผู้ชายคนนั้น หลังจากนั้นท่านก็จากพวกเราไป และไม่เคยกลับมาอีกเลย ตระกูลกองแก้วก็ไม่มีลูกสาวอีกต่อไป แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้คุณปู่และพวกคุณพ่อก็เอาแต่นึกถึง และคิดถึงคุณป้าเป็นอย่างมาก” ปวีณมองหน้าชยานี “คุณพ่อของคุณปาลีคือคุณฐิติพันธ์หรอครับ” ชยานีเม้มปาก และในที่สุดก็พยักหน้า “ใช่ค่ะ เพราะฉะนั้นฉันจึงคิดว่า ผู้ชายที่คุณพูดถึงคนนั้น น่าจะเป็นฐิติพันธ์ คุณช่วยบอกฉันได้ไหมคะ ในตอนนั้นใครเป็นคู่หมั้นของคุณแม่หรอคะ” “คุณลุงชยพัทธ์” ปวีนนิ่งไปพักหนึ่ง “ทำไมหรอครับ” “ถ้าอย่างนั้น......แม่ของฉันยอมถอนหมั้นกับเขาเพื่อคุณฐิติพันธ์ เขาไม่ว่าอะไรหรอคะ” ปวีณส่ายหัว “อันนี้ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอีกเช่นกัน เรื่องนี้มันผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว ฉันไม่ค่อยรู้อะไรเยอะสักเท่าไหร่ แต่ในตอนนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร ความสัมพันธ์กับฝั่งของตระกูลจันทร์พาก็ค่อยๆจืดจางลงมา” ปวีณนิ่งเงียบไป “คุณถามคำถามพวกนี้ทำไมหรอครับ” “อ้อ เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” ชยานีส่ายหัว “เรื่องราวของคุณแม่จริงๆแล้วมีความเกี่ยวกับตระกูลกองแก้วใช่ไหมคะ ฉันหวังว่าคุณจะช่วยเก็บเป็นความลับไว้ก่อน” ปวีณหรี่ตามอง พยักหน้า “ได้สิครับ” เพราะสุดท้ายแล้วยังไงเขาก็ยังคงอยู่ในเมืองนภาก่อน สามารถมาเจอจริยาและปาลีได้ทุกเมื่อ ไม่รู้ว่าทำไม ทุกครั้งที่ปวีณพบเจอกับชยานีมักจะให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย และในตอนนี้มันก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่มีเรื่องราวแค่นี้ “ในช่วงนี้ผมยังคงอยู่ที่เมืองนภาไปก่อน หลังจากนี้ถ้ามีเรื่องอะไร คุณสามารถติดต่อที่ผมโดยตรงได้เลยนะครับ “โอเคค่ะ” เพราะปวีณนั้นมีเรื่องที่ต้องรีบไปทำด่วน เขาจึงรีบขอตัวไปก่อน ชยานีนั่งที่ร้านกาแฟครู่หนึ่งก็ค่อยกลับเข้าไปที่ห้องผู้ป่วย จริยาสะลึมสะลือ เหมือนจะเจ็บที่มือเป็นอย่างมาก และสักพักเธอก็ตื่นขึ้นมา เหลือบมองเห็นชยานียังคงอยู่ ก็อดที่จะตกใจไม่ได้ “ไม่ใช่ว่ากลับไปแล้วหรอลูก แม่บอกว่าไม่เป็นไรแล้ว เจ็บแค่นี้เอง อย่าให้เรื่องเล็กน้อยแค่นี้มาทำให้ลูกต้องกลับไปกลับมาจนกระทบหน้าที่การงานเลยนะลูก” “ไม่เป็นไรค่ะแม่ เพราะยังไงฉันก็เป็นเจ้าของสตูดิโออยู่ดี ใครจะกล้ามาว่าฉันคะ” ชยานีหยิบหมอนส่งให้กับจริยา ให้จริยานั่งพิงไปสะดวก “แม่คะ ตอนนี้มีตรงไหนที่ยังรู้สึกไม่สบายอยู่ไหมคะ” จริยาส่ายหัว “ไม่มีนะ!” “ยังจะพูดว่าไม่เป็นอะไรอีก เมื่อกี้ใบหน้าของคุณแม่ซีดขาวมากเลยนะคะ ไม่ได้แล้วค่ะ ฉันจะเรียกคนให้มาดูคุณแม่” ชยานีรีบไปตามหาคุณหมอ โชคดีที่ดนพเข้ามาพอดี จึงช่วยตรวจดูจริยาให้ “คุณป้าครับ ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วครับ แต่จะต้องพวกผ่อนเยอะๆ เพื่อพี่จะค่อยๆพักฟื้นร่างกายนะครับ” “ได้ยินแล้วใช่ไหม คุณหมอดนพบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร ลูกนี่น่า....เป็นกังวลเกินไปแล้ว” “ใช่ครับ ที่คุณป้าพูดนั้นไม่ผิดเลย ไม่ได้เป็นอะไรมากเลยครับ พี่สะใภ้ก็ไม่ต้องกังวลเกินไปนะครับ” ดนพพูดออก และเงียบไปครู่หนึ่ง “เรื่องนี่ได้บอกพี่สามแล้วหรือยังครับ” ชยานีเพิ่งจะนึกออก ส่ายหัวไปมา “บอกตอนนี้ก็ยังทันน่า” “ไม่ต้องบอกคุณนิธานหรอกนะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เดี๋ยวจะไปกระทบเรื่องงานของคุณนิธานเขาอีก” จริยาเห็นชยานีกำลังจะต่อสายโทรศัพท์หานิธาน ก็รีบห้ามปรามเธอไว้ก่อน ชยานีพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “แบบนั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณคุณหมอดนพมากๆนะคะ” “จะมาเกรงใจอะไรขนาดนั้นกันครับ ก็ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ถ้าหากว่าคุณป้าเป็นอะไร พี่สะใภ้ติดต่อหาผมโดยตรงได้เลยนะครับ” ดนพพูดจบก็เดินจากไป เพราะว่ายังมีเรื่องอีกมากมายที่เขาจะต้องรีบไปจัดการต่อ เมื่อชยานีเห็นดนพเดินจากไป เธอจึงพูดกับจริยาว่า “ถึงแม้นี่จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่คุณแม่ก็ต้องระวังหน่อยนะคะ ฉันไม่ได้อยู่เคียงข้างแม่ตลอดเวลา แม่ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆนะคะ’ “โอเคจ้า แม่รู้แล้วๆ ตอนนี้หนูพูดเยอะบ่นบ่อยมากกว่าแม่แล้วนะ” ใบหน้าของจริยาเริ่มหมดความอดทนเล็กน้อย แต่ในใจนั้นเธอกลับดีใจแบบสุดๆ “นี่ลูกทิ้งงานออกมาเลยหรอ มันไม่กระทบอะไรหรอลูก” “ไม่กระทบอะไรหรอกค่ะ ไม่มีอะไรที่จะสำคัญไปว่าเรื่องสุขภาพของคุณแม่แล้ว คุณแม่อย่าดื้อนะคะ เอนพิงดีๆนะคะ ฉันจะเอาน้ำผลไม้ให้ดื่มค่ะ” “ปาลี หลังจากนี้คุณปวีณคนนั้นคงจะมาตอแยลูกสินะ” จริยาตัดบทสนทนาของชยานี ชยานีขมวดคิ้ว ยิ่งเห็นจริยาเป็นแบบนี้ ชยานีก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องมีปัญหาอะไรบางอย่าง แสดงว่าสิ่งที่ปวีณพูดออกมานั้นคงจะเป็นเรื่องจริง แต่ในเมื่อจริยาปฏิเสธเช่นนี้ ทำให้ชยานีนึกถึงเรื่องที่ปวีณเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องที่จริยาถอนหมั้นจนต้องถูกตัดขาดความสัมพันธ์จากตระกูลกองแก้ว ต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แน่ๆ จริยาจึงไม่อยากที่จะพูดถึงมันอีก ชยานีพยักหน้า “ค่ะ เพราะยังไงฉันกับคุณปวีณก็ไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น ก่อนหน้านี้คุณปวีณมาทำธุรกิจกับบริษัทของนิธานก็เลยทำให้เรารู้จักกันค่ะ” ชยานีเอาเรื่องนี้โยนใส่ให้กับนิธาน เมื่อจริยาได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโล่งออกขึ้นมา “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” “ใช่ค่ะ คุณแม่คะ ทานผลไม้หน่อยนะคะ” ชยานีออกมาจากโรงพยาบาลก็มัวแต่คิดถึงเรื่องของปวีณกับจริยา เป็นเพราะคิดอย่างใจจดใจจ่อจนเกินไป จนทำให้เธอไม่ได้มองรถคันหนึ่งที่ขับมุ่งตรงมาหาเธอ จนถึงกระทั่งที่อีกฝั่งทำเสียงกระแอ่มที่คอ ชยานีจึงเงยหน้ามองด้วยความตกตะลึง“นิธาน คุณมาที่นี่ได้อย่างไรคะ” “ขึ้นรถ ตรงนี้จอดรถไม่ได้” ชยานีพยักหน้า รีบเปิดประตูรถและนั่งลง คาดเข็มจัดเรียบร้อย “นี่คุณมาที่นี่ได้ยังไงกันคะ เป็นเพราะเรื่องคุณแม่ของฉันหรอคะ” นิธานพยักหน้า “มาได้สักพักแล้วแหละ เห็นเธอกำลังเดินออกมา เหม่อลอยไปตามทาง มีเรื่องอะไรในใจเหรอ” นิธานพูดพลางส่งกระดาษทิชชู่ให้ชยานี “เช็ดหน้าหน่อยสิ” “เอ๊ะ หน้าของฉันเป็นอะไรหรอคะ” ชยานีรีบเอากระจกออกมา ก็ได้เห็นเครื่องสำอางบนในหน้าเริ่มลบออก เธอรู้สึกอายที่จะต้องเผชิญหน้า “ที่แท้ใบหน้าของฉันก็เป็นแบบนี้ แย่แล้วๆ สภาพหน้าของฉันในตอนนี้โดนคนอื่นมองเยอะแยะเลย น่าขายหน้าจริงๆ” ชยานีเช็ดไปด้วยพลางบ่นพึมพรำไปด้วย นิธานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “คิดมากอะไรขนาดนั้น” ชยานีคิดแล้วคิดอีก และก็ได้เล่าเรื่องคร่าวๆให้นิธานฟัง และหลังจากนั้นเธอก็หันไปมองนิธานด้วยท่าทีจริงจัง “คุณคิดว่าจริงๆแล้วเรื่องนี้เป็นอย่างไรหรอคะ ฉันรู้สึกตลอดเวลาว่าคุณแม่กำลังมีเรื่องบางอย่างที่ปิดบังฉันอยู่ และสิ่งที่ปวีณพูดออกมานั้นก็ดูมีน้ำหนักและสมเหตุสมผลมากเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นฉันค่อนข้างเอนเอียงไปทางคำพูดของปวีณค่ะ” “อื้ม!” นิธานพยักหน้า ยื่นมือไปจับพวงมาลัยรถ “สิ่งที่ปวีณพูดนั้นดูเหมือนจะเป็นไปได้จริงๆ” “ใช่ไหมคะ คุณก็รู้สึกแบบนั้นใช่ไหมคะ.......ทำไมคุณดูเหมือนไม่ตกใจอะไรเลยล่ะคะ” ชยานีเพิ่งจะค้นพบว่า นิธานดูเหมือนนิ่งเกินไปกับเรื่องๆนี้ และเธอก็ยิ่งรู้สึกสงสัยในตัวนิธาน “หรือว่า......คุณรู้เรื่องก่อนหน้านี้แล้วคะ” ถึงแม้ว่าเธอไม่อยากจะคิดแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่ท่าทีของนิธานนั้น มันดูนิ่งเงียบจนเกินไป ราวกับว่าได้รู้เรื่องมาก่อนหน้านี้แล้ว นิธานยิ้มออกมาอย่างไม่มีเหตุผล “ฉันไม่เคยบอกเธอหรอ.....เพราะเรื่องของน้องสาวของเธอ ก่อนหน้านี้ฉันจึงไปหาปวีณมา ที่เรื่องราวทุกอย่างราบรื่นได้ขนาดนี้ นั้นก็เพราะปวีณมีส่วนเข้ามาร่วมมือ” 
已经是最新一章了
加载中