ตอนที่ 358 ทัตติ นายมันเป็นปีศาจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 358 ทัตติ นายมันเป็นปีศาจ
ต๭นที่ 358 ทัตติ นายมันเป็นปีศาจ วันที่สามหลังจากการพิจารณาคดี ชามาถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลจิตเวชที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนภา โรงพยาบาลแห่งนี้ค่อนข้างอยู่ไกลพอสมควร อยู่คนละฝั่งจากตัวเมืองนภาเลยทีเดียว ต้องขับรถใช้เวลาสองชั่วโมงถึงจะมาถึง ไม่กี่วันมานี้สภาพจิตใจของชามานั้นไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงพูดจามั่วไปหมด ดูเหมือนว่าในตอนที่ชามาอยู่ในคุกนั้นเธอโดนกระตุ้นอะไรบางอย่าง เพราะเมื่อมีคนเข้าไปใกล้ๆเธอนั้น อารมณ์ของเธอก็จะเปลี่ยนเป็นไม่ปกติทันที ทัตติจะสามารถพบชามาได้อีกหลังจากอาทิตย์นี้ไป แต่ทางโรงพยาบาลจิตเวชได้ต่อสายโทรศัพท์มาหาเขาบอกว่า ตลอดทั้งวันนี้ชามาเอาแต่ตะโกนชื่อของทัตติ บอกว่าจะต้องพบกับทัตติให้ได้ และผู้ป่วยก็ไม่ยอมรับการรักษา เพราะฉะนั้นไม่กี่วันมานี้ก็ยากที่จะควบคุมและรักษาอาการป่วยของชามา ทัตติยืนอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วย ที่คั่นด้วยประตูเหล็ก มองผ่านช่องกระจกใส เห็นคนนั้นที่อยู่ด้านในที่รูปร่างที่กระเซอะกระเซิงรุงรัง ถึงขนาดที่ดูเหมือนเป็นผู้หญิงที่ป่วยทางประสาท ชามา.....คิดไม่ถึงเลยว่าในวันนี้เธอจะเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ ชามาเหมือนกับกำลังตกลงไปในภวังค์ของห้วงความคิด เธอไม่หยุดที่จะเอาหัวกระแทกกับหมอนที่อยู่บนเตียง เพราะด้วยความที่กลัวว่าชามาจะไปทำร้ายคนอื่นและทำร้ายร่างกายตัวเอง เพื่อความปลอดภัยของชามา คุณหมอและพยาบาลของที่นี่จึงจับเธอมัดไว้ ชามาถูกมัดไว้บนเตียง แขนสองข้าง และขาสองข้างของเธอนั้นต่างก็ถูกมัดไว้ เพื่อไม่ให้เธอสามารถขยับได้ตามอำเภอใจ และยังช่วยยับยั้งการทำร้ายร่างกายของเธอด้วย แต่การทำแบบนี้ก็มีมุมที่ไม่ดีเช่นกัน ตอนนี้ข้อมือของชามานั้นมีเลือดซิบๆออกมา คุณหมอเคยลองทำแผลให้กับเธอ แต่ชามาก็กัดกระชากออกเหมือนคนบ้า ถึงกระทั่งที่ทำร้ายร่างกายของคุณหมอและพยาบาล ทางโรงพยาบาลหมดหนทาง จึงต้องมัดเธอเอาไว้ “คุณทัตติครับ ไม่กี่วันมานี้คุณชามาเอาแต่ร้องตะโกนเรียกชื่อของคุณ พวกเราหมดหนทางแล้วจริงๆครับ ก็เลยต้องเรียกให้คุณมาที่นี่” คุณหมอท่านหนึ่งยืนอยู่ที่ด้านข้างของทัตติ อธิบายอาการของชามาให้ทัตติฟัง ทัตติยืนฟังถึงแม้ว่าเราดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกใดๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น เขาตั้งใจฟังมากๆ “คุณบอกว่า นอกจากมีอาการเรียกชื่อของผมแล้ว ในตอนกลางคืนนั้นเขายังพูดกับตัวเองอีกหรอครับ” “ใช่ครับ เหมือนกับว่ากำลังทะเลาะกับใคร และยังพูดชื่อชยานี ปาลี อะไรพวกนี้ด้วยค่ะ” คุณนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง “จริงๆแล้วข้อมูลต่างๆของคุณชามาเราก็เคยอ่านมาแล้วบ้าง แต่เธอไม่เคยมีประวัติทางจิตมาก่อน และไม่มีการสืบทอดมาจากทางพันธุกรรม ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เกิดจากสภาพแวดล้อมค่ะ จริงๆแล้วสามารถที่จะรักษาให้หายเป็นปกติได้” ทัตติหรี่ตามอง “สามารถรักษาให้เป็นปกติได้งั้นหรอ” “ใช่ค่ะ” คุณหมอพยักหน้า “ใช่ค่ะ แต่พวกเขานั้นจะต้องร่วมมือกับพวกเราด้วย แต่ในด้านในนั้น.......” คุณหมอถึงกับต้องหยุดชะงัก เขามองสีหน้าที่ทัตติแสดงออกมาไม่ออก “คุณทัตติครับ จากที่คุณชามาพูดคุณคือคู่หมั้นของเขา เพราะฉะนั้น.......” “ไม่ใช่!” ทัตติพูดด้วยสีหน้าเย็นชา หมุนตัวกลับ ดวงตาคู่นั้นไม่มีความรู้สึกใดๆอีกต่อไป เขามองไปที่คุณหมอด้วยสายตาที่เย็นชา “เธอไม่ใช่คู่หมั้นของผม คู่หมั้นของผมตายไปแล้ว” เขาพูดออกมา “ผู้หญิงที่อยู่ในห้องนั้น เป็นคนฆ่าเธอ” “ขอโทษด้วยครับ!” คุณหมอคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะกลับกลายเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านั้นเขาก็เคยได้ยินเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้มาบ้าง จากคนที่นำตัวเธอมาส่งที่นี่ ทำเรื่องผิดๆ แต่เป็นเพราะมีอาการป่วยทางจิตจึงยังไม่สามารถที่จะตัดสินคดีได้ จึงนำตัวมาส่งไว้ที่นี่ก่อน แต่เขาไม่คิดว่าจะเป็นการทำผิดที่เกิดจากการฆ่าคน และฆาตกรคนนี้ยังสามารถจำชื่อของผู้ตายได้จริงๆ เหอะๆ นี่เรื่องมันเป็นมาอย่างไรกันแน่มันถึงได้พัวพันกันมั่วไปหมดแบบนี้ “เพราะฉะนั้นการที่คุณหมอเรียกผมมาในวันนี้ ผมคิดว่าน่าจะไม่มีประโยชน์อะไร” ทัตติพูดด้วยความเย็นชาและด้วยสายตาที่เกลียดชัง “เอ่อ....ขอโทษด้วยนะครับ!” “ผมสามารถเข้าไปดูเธอได้ไหม” ทัตติถาม คุณหมอรู้สึกลังเลเล็กน้อย “คุณทัตติครับ คุณ.......” “วางใจเถอะ ผมคงไม่ทำอะไรกับผู้ป่วยทางจิตหรอกครับ ไม่ใช่ว่าคุณเป็นคนเรียกผมมาหรอกหรอ และไหนๆเธอก็อยากจะเจอกบผม ถ้าอย่างนั้นผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอคิดที่จะพูดอะไร! ” ทัตติยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวที่สุด จนทำให้คุณหมอต้องรู้สึกกลัวจนตัวสั่นออกมา คุณหมอเองก็ไม่กล้าที่จะทำอะไร ทางที่ดีที่สุดคือการต่อสายโทรศัพท์หาผู้อำนวยการโรงพยาบาล “ให้เขาเข้าไปเถอะ และจำไว้นะว่า อย่าให้ใครเข้าไปรบกวนเด็ดขาด! ” เมื่อผู้อำนวยการพูดประโยคนี้ออกมาเสร็จก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง คุณหมอมีท่าทีมึนๆงงๆ แต่ก็เปิดประตูให้เข้าไป “คุณทัตติครับ คุณต้องระวังหน่อยนะครับ คุณชามา......เธออันตรายจริงๆครับ” “ขอบคุณครับ” ทัตติผลักประตูเข้าไป เดิมทีนั้นเธอบ้าๆบอๆ ตะโกนโวยวาย อยู่ๆก็เงียบลง เธอหันหน้ามา จ้องมองที่ชายคนนั้น มองเห็นทัตติสวมใส่ชุดสูทเดินเข้ามาทีละก้าวๆ แต่ละก้าวของเขานั้น เหมือนกำลังเข้ามาเหยียบย่ำในใจของเธอ หัวใจของเธอสั่นไหว ดวงตาของเธอแดงก่ำ น้ำตาของเธอไหลออกมาไม่ขาดสาย ชื้นเต็มใบหน้าอันสกปรกของเธอ เธอยิ้มออกมา ร้องไห้ไปด้วย พลางยิ้มไปด้วย “ทัตติคะ คุณใช่ไหมคะ ในที่สุดคุณก็มาหาฉันแล้ว” น้ำเสียงของชามาแหบแห้ง เป็นน้ำเสียงที่ยากจะฟัง รูปร่างและสภาพของชามาในตอนนี้ เหมือนกลายเป็นคนละคนเลยทีเดียว เธอผอมกว่าเดิมเยอะมาก ผอมจนแทบจะเห็นกระดูก เธอยื่นมือสั่นๆของเธอออกมา พยายามจะจับทัตติ เพียงแค่มุมเท่านั้นก็ยังดี แต่เพราะมือของเธอถูกมัดไว้ ผ้าเส้นสีขาวๆรั้งมือเธอไว้ ยิ่งเธอใช้แรงมากเท่าไหร่ ผ้าสีขาวนั้นก็ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเดิม เธอรีบร้อนไปทั้งตัว น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย “ทัตติคะ ทัตติ!” เธอร้องออกมาด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด แต่ทัตติไม่มีการขยับใดๆทั้งสิ้น ใช้แค่เพียงสายตาที่เย็นชาจ้องมองไปที่ชามา อยู่ๆเธอก็หยุดลง มือของเธอว่างเปล่า จากนั้นก็หัวเราะออกมา “คุณมาหาฉันแล้วใช่ไหม ฉันรู้แล้ว ฉันรู้แล้วค่ะ” “ทัตติ คุณอาลัยอาวรณ์ฉันใช่ไหมล่ะค่ะ” ชามาพูดออกมา และยิ้มออกมาด้วย “ฉันรู้ว่าคุณอาลัยอาวรณ์ฉัน เจ็บปวดแทนฉัน เพราะอย่างนั้นคุณจึงได้มาหาฉันใช่ไหมล่ะค่ะ” ชามาค่อยๆพูดออกมา “คุณมาช่วยฉันแล้วใช่ไหมคะ” “ทัตติคะ คนที่นี่เป็นคนไม่ดี พวกเขารังแกฉัน!” ชามาทำเหมือนลูกไก่ตัวน้อยๆ “ทัตติคะ คุณกอดฉันหน่อยได้ไหมคะ” “ไม่!อย่าคะ อย่ามาถูกตัวฉัน ทัตติคะ คุณอย่าเข้ามานะคะ! ฉันมันสกปรก! ฉันสกปรกมากๆเลย ฉัน.....” “ชามา!” ในที่สุดทัตติก็เดินมาหยุดที่ตรงหน้าของชามา เขามองไปหญิงที่ถูกมัดไว้ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ทั้งแขนและขาของเธอถูกผ้าสีขาวพันไว้ทั้งหมด และดูเหมือนจะมัดไว้แน่นมาก เดิมทีผ้าพวกนี้ไม่สามารถที่จะทำร้ายเธอได้ แต่เพราะเธอนั้นขยับแรงขนเกินไป ผ้าพวกนั้นจึงรัดเธอ ถูและเสียดสีไปกับมือของเธอ จนทำให้ข้อมือของเธอนั้นเลือดออก “เธอบ้าไปแล้วจริงๆหรอ” เขามองดูชามา ชามาเงยหน้าขึ้น มองไปที่ดวงตาคู่นั้นของทัตติ ในวินาทีนั้นมองเห็นดวงตาของชามาเป็นประกายชัดเจน พอจะดูออกว่าเหมือนไม่ใช่คนที่เป็นบ้า เธอจ้องเขม่นมาที่ทัตติ ไม่พูดอะไร ทัตติยิ้มที่มุมปาก เขาโน้มตัวลง จับและลูบไปที่เส้นผมที่สกปรกและกระเซอะกระเซิงของเธอ และลูบที่ใบหน้าของเธอ นิ้วมืออันเรียวยาวของเขานั้นจับไปที่คางของชามา จับให้เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็กัดฟันและยิ้มออกมา “เจ็บหรือเปล่า” “ชามา ที่นี่ออกจะดีไม่ใช่หรอ” “ทัตติคะ คุณมารับฉันแล้วใช่ไหมคะ” ชามาเกลือกตาไปมา “”ฉัน........ เธอเริ่มมีสติ มองใบหน้าของทัตติ เธออยากจะยื่นมือออกมา แต่เป็นเพราะถูกมัดไว้........ในตอนนั้นชามาก็มึนๆงงๆ เธอไม่อาจจะที่ตะเกียกตะกายได้ และไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่มีทาง เธอรีบพูดออกมาว่า “ทัตติคะ คุณมัดฉันไว้ทำไม รีบแก้มัดให้ฉันสิคะ” “จำไม่ได้แล้วหรอ” ทัตติลูบที่คางของชามา “ดูดีๆสิว่าที่นี่มันคือที่ไหน” “ฉัน........” ในทันใดนั้นสมองของเธอก็ค่อยๆผุดภาพต่างๆขึ้นมา จากนั้นชามาก็มองที่ใบหน้าของทัตติ ทั้งตัวของเธอก็เริ่มสั่นไหว “ทัตติคะ.........ทำไมคุณทำกับฉันแบบนี้คะ ทำไมคุณถึ.......” เธอตะเกียกตะกายอย่างเต็มแรง “ทัตติ!คุณหลอกฉัน คุณหลอกฉัน!” “ฉันไม่ได้หลอกอะไรเธอเลย” ทัตติมองชามาด้วยสายตาที่เย็นชา “ในความเป็นจริง นี่มันคือเส้นทางที่เธอเลือกเอง ไม่ใช่หรอ” “ฉัน.......” ชามานึกขึ้นได้ว่าพรยศนั้นมาหาเธอ และบอกกับเธอว่า เขากำลังคิดหนทางที่จะช่วยเหลือเธอ แต่ไม่สามารถที่จะใช้เอกสารเกี่ยวกับผู้ป่วยทางจิตมาใช้ได้อีก ไม่กี่วันมานี้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะพินาศย่อยยับ มันพังพินาศไปหมดแล้วจริงๆ เธอเข้าคุกไม่ได้ และเธอก็ไม่อยากเข้าคุกด้วย เธอคือคุณหญิงใหญ่ของตระกูลกองแก้ว ควรจะมีชีวิตที่สดใสและงดงาม ไม่ใช่ว่าจะต้องถูกกุมขังอยู่ในคุกตลอดชีวิต! ดังนั้นวันนั้นทัตติจึงมาหาเธอ พรยศออกไปได้ไม่กี่ก้าว หลังจากนั้นทัตติก็มาหา เขาแค่พูดคำหวานๆกับเธอไม่กี่คำ เป็นคำพูดที่หวานซึ้งจนเธอไม่สงสัยอะไรเลย และหลังจากนั้น......... เธอสั่นไปทั้งตัว “ฉันรักคุณขนาดนี้ รักคุณมากขนาดนี้! แล้วทำไมคุณถึงมาทำกับฉันแบบนี้ ทำไมกัน!” “ทำไมนะหรอ” ทัตติยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “แล้วทำไมฉันจะทำแบบนี้กับเธอไม่ได้ล่ะ ในตอนนั้นเธอทำอย่างไรกับนีล่ะ ในวันนี้ชีวิตของเธอไม่มีความจำเป็นอะไรกับฉันอีกต่อไป สิ่งที่เธอได้รับมันไม่สาสมกับสิ่งที่เธอทำด้วยซ้ำไป เพียงแค่นี้เธอก็ทนรับมันไม่ไหวแล้วหรอ” “ไม่สาสมงั้นหรอ.....”ชามายิ้มออกมาอย่างเย็นชา “ทัตติ คุณให้ผู้หญิงพวกนั้นมาทำลายความบริสุทธิ์ในตัวด้วย นี่มันยังไม่สาสมอีกหรอคะ” “คุณคิดว่าที่คุณทำแบบนี้ก็จะสามารถแก้แค้นให้กับนีได้นั้นหรอ ฉันจะบอกคุณให้นะ ชยานีตายไปนานแล้ว แถมยังโดนฉันล้วงหัวใจ และล้วงมดลูกออกมาอีก เหอะๆ แม้กระทั่งร่างกายของเธอก็ถูกฉันทำลาย จนไม่เหลือแม้กระทั่งเศษเสี้ยวของกระดูก ไม่รู้ว่าป่านนี้ไปเป็นผีที่อยู่ขุมไหน คุณคิดว่าจะยังสามารถแก้แค้นแทนเธอได้อีกหรอ” “หุบปาก!” ทัตติบีบคอของชามา “เธอมันเป็นผู้หญิงจิตใจสกปรก! ” “แค่กๆ แค่กกกกๆ........” ชามาเจ็บไปทั้งคอ คอของเธอถูกรัดแน่น แต่เธอก็ยังคงดื้อรั้น “ฉันมันเป็นผู้หญิงที่จิตใจสกปรก แล้วนายมันดีเลิศเลอมาจากไหนกัน ฮ่าๆ นายคิดว่าตัวเองสะอาดมากหรือไง ฉันจะบอกนายให้นะ จริงๆแล้วเรามันก็คนประเภทเดียวกันนั่นแหละ! คนใจต่ำช้า นายก็จิตใจต่ำเหมือนกัน พวกเรามันคู่กัน เกิดมาเพื่อคู่กัน” ชามาหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทัตติให้แรงมากกว่าเดิม เธอถูกบีบคอจนมิด จนแทบจะไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ “ก็ตามที่เธอบอก” ทัตติหยุดพูด “ชามา ฉันไม่ยอมให้เธอตายง่ายๆหรอกนะ เพราะเลือดในตัวของเธอมันไม่คู่ควรกับมือทั้งสองข้างของฉัน แต่ฉันจะให้ชีวิตที่เหลือของเธอจากนี้ไปติดอยู่ในกรงขังชั่วชีวิต มีแต่ความมืดมน มองไม่เห็นความสว่าง อยู่กับความอุดอู้ มีชีวิตอยู่ก็เหมือนตายไปแล้ว” “นะนะนาย! ทัตติ นายมันปีศาจร้าย มันมันชั่วร้ายที่สุด!” ชามาพยายามยืดคอขึ้น “ฉันไม่ได้บ้า ฉันไม่ได้บ้า!” “ไม่ได้บ้าอย่างนั้นหรอ เธอคิดว่าคนข้างนอกจะเชื่อเธอไหมล่ะ” ทัตติเดินออกไป มือของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบขวดแก้วออกมา ดวงตาของชามาเป็นประกาย “เดือนกว่าๆที่เธอกินวิตามินBเข้าไป มันรสชาติเป็นอย่างไรหรอ” “ทัตติ นายมันเป็นปีศาจ นายมันชั่วร้าย!” --โปรดอดใจรอ ติดตามตอนต่อไป 01/11/2019--
已经是最新一章了
加载中