ตอนที่ 12 ธนิดา...ฉันคือชยานี

ต๭นที่ 12 ธนิดา...ฉันคือชยานี ทั้งสองลงจากเขาไปหาโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่เพราะสถานะตัวตนของชยานีเป็นอุปสรรค ดังนั้น จึงใช้ชื่อของธนิดาในการเปิดห้องที่โรงแรม หลังจากที่ชยานีกับธนิดาจัดการตนเองให้สะอาดสะอ้านเรียบร้อยแล้ว ชยานีก็เล่าเรื่องราวโชคชะตาอันโหดร้ายทั้งหมดทั้งมวลให้ธนิดาฟัง รวมถึงเรื่องที่เธอมาเกิดใหม่ในร่างของอีกคนด้วย “เธอว่าไงนะ”ธนิดาจ้องชยานีอย่างไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นก็พยายามหาสิ่งผิดปกติบนร่างกายของชยานี แต่ไม่ว่าธนิดาจะสำรวจอย่างไร ผลสรุปที่ได้ก็ยังน่าเหลือเชื่อ “เธอหมายถึง ร่างของเธอในตอนนี้ไม่ใช่ของเธอ แต่เป็นร่างของผู้หญิงที่ชื่อปาลีอย่างนั้นหรือ แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ หน้าของพวกเธอ รูปร่างของพวกเธอ...” “ดา นี่มันเรื่องจริง ตอนแรกฉันเองก็ไม่เชื่อ ความจริงแล้วโลกนี้ไม่น่าจะมีคนอีกคนที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วด้วยซ้ำ”ชยานียิ้มอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่“อันที่จริงแล้ว นอกจากปานบนแขนแล้ว ส่วนอื่น ๆ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างเลยแม้แต่นิด”ชยานีเลิกเสื้อขึ้นเผยเรียวแขนของตนเอง“เธอน่าจะจำได้นะว่าเมื่อก่อนฉันมีรอยปานที่แขนอยู่หนึ่งอัน แต่ตอนนี้บนแขนไม่มีรอยปานนั่นแล้ว” ธนิดาจ้องมองดู แน่นอนว่าแขนนั้นว่างเปล่าไม่มีร่องรอยของสิ่งใดแม้แต่นิดเดียว จากนั้นเธอถึงได้เชื่อ“แต่ว่า...นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว” “ฉันเองก็คิดว่ามันน่าเหลือเชื่อเหมือนกัน เดิมทีฉันก็คิดว่ามีแค่พล็อตในนิยาย แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวฉันเอง” “งั้นตอนนี้เธอคิดจะทำยังไงต่อ”ธนิดารับความจริงที่ว่าชยานียังมีชีวิตอยู่ได้แล้ว การที่ธนิดาเอ่ยถามโดยที่ไม่สงสัยอะไรเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองจริง ๆ แต่พอธนิดานึกถึงตอนที่ชยานีถูกทัตติกับชามาวางแผนลอบฆ่า ธนิดาก็คุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่“หญิงร้ายชายเลว ฉันบอกแล้วว่าทุกครั้งที่เห็นพวกนั้นอยู่ด้วยกัน ฉันก็รู้สึกแปลก ๆ ที่แท้พวกนั้นก็อยู่ด้วยกันก่อนหน้านั้นแล้วนี่เอง” “ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสฉันได้มีชีวิตอีกครั้ง ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้ชีวิตนี้สูญเปล่า ยัยดา ฉันจะแก้แค้น จะเอาคืนทุกสิ่งอย่างที่พวกมันทำกับฉัน ฉันจะเอาทุกอย่างคืนมาให้หมด!” ชยานีพูด ดวงตาฉายประกายแสงเย็นวาบขึ้นมา ต่อมาเธอก็จับมือของธนิดา“ดา บนโลกใบนี้ฉันมีแค่เธอคนเดียวที่สามารถเชื่อใจได้เต็มร้อย ไม่มีใครรู้ว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ เธอ...” “เธอวางใจเถอะ ฉันจะเก็บรักษาความลับนี้ของเธอเอง ว่าแต่ตอนนี้เธอดีขึ้นหรือยัง”ธนิดามองชยานีอย่างเป็นกังวล“ฉันหมายถึงความรู้สึกของเธอน่ะ แล้วก็สถานการณ์ในตอนนี้ของเธอด้วย” ดวงตาของชยานีดูนิ่งเงียบ“ฉันสบายดี แค่ได้มีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว”เธอไม่อาจลืมภาพที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัดแบบอยู่ไม่สู้ตายได้ และยิ่งไม่อาจลืมทุกคำพูดของชามาในช่วงที่เธอก่อนตายได้“หล่อนเอามดลูกกับหัวใจของฉันไป ฉันจะต้องเอามันคืนมาให้ได้!” “อื้ม!”ธนิดากุมมือของชยานีเอาไว้“นี ถ้าฉันยังอยู่ ต่อจากนี้ไม่ว่าเธอจะทำอะไรจะต้องบอกกับฉันนะ ฉันจะช่วยเธอเอง!” “ไม่ ยัยดา”ชยานีส่ายหน้า“ที่ฉันบอกเธอว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะไม่อยากให้เธอเศร้า หลังจากวันนี้ไปพวกเราเจอกันให้น้อยลงจะดีกว่า” “ทำไมล่ะ หรือเธอกังวลว่าฉันจะไปบอกคนอื่น”ธนิดารีบพูดขึ้นมาทันที“นี ฉันไม่ใช่ชามานะ ฉันไม่มีทางทรยศเธอหรอก” “ไม่ใช่อย่างนั้น ยัยดา ฉันทำเพื่อเธอนะ ตอนนี้สถานะของฉันคือปาลีภรรยาของนิธาน ก่อนที่ฉันจะตัดขาดจากตระกูลภูลพิพัฒน์โดยสิ้นเชิง พวกเรางดเจอกันชั่วคราวนะ นิธานคนนี้ฉลาดเกินไป ฉันกลัวว่าเขาจะมองตัวตนของฉันออก” ไม่ง่ายเลยที่เธอจะอยู่รอดต่อไปได้ ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตัดขาดจากตระกูลภูลพิพัฒน์ด้วยการหย่ากับนิธาน พอถึงเวลาที่เธอได้อิสระอย่างสมบูรณ์แบบ เธอก็จะสามารถเริ่มแผนการของเธอได้ “ก็ได้ งั้นพวกเราก็งดเจอกันชั่วคราว แต่เธอต้องระวังตัวนะ แล้วเธอต้องกลับไปเมืองนภาด้วยใช่ไหม”ก็อย่างที่รู้กันว่าตอนนี้ชยานีคือปาลี ภรรยาของนิธาน ดังนั้น ธนิดาจึงรู้สึกไม่สบายใจมาก นิธานเป็นคนเมืองนภา ซึ่งนั่นหมายถึงชยานีเองก็ต้องกลับไปยังเมืองนภา “อื้ม แต่ฉันจะอยู่ที่นี่ชั่วคราวสักพัก อีกไม่กี่วันฉันค่อยกลับ”ตอนที่เธอออกมาก็ออกมาด้วยความกระวนกระวายใจ หากกลับไปหลังจากที่เวลาเพิ่งผ่านไปได้หนึ่งวัน จะต้องทำให้คนสงสัยแน่ “งั้นช่วงนี้เธอจะไปพักอยู่บ้านฉันไหม”ความจริงแล้วธนิดาคิดถึงชยานีมาก “ไม่ได้หรอก”ชยานีตอบโดยไม่ต้องคิดทันที“เธออย่าลืมสถานะในตอนนี้ของฉันสิ ฉันคือปาลีนะ ไม่ใช่ชยานี ตอนนี้ฉันกับเธอเป็นแค่คนแปลกหน้ากันเท่านั้น ถ้าฉันไปอยู่บ้านเธอล่ะก็ ต้องเกิดเรื่องยุ่งยากวุ่นวายที่ไม่จำเป็นตามมามากมายอย่างแน่นอน โดยเฉพาะใบหน้านี้ของฉัน ถ้าชามากับทัตติรู้เข้า แผนของฉันในวันข้างหน้าไม่มีทางสำเร็จแน่” “งั้นก็ได้”ธนิดายอมรับว่าตนเองคิดอะไรไม่รอบคอบ“งั้นช่วงนี้เธอก็อยู่เมืองเมฆาให้สบายล่ะ เพราะอีกไม่นานฉันก็จะบินไปถ่ายละครที่เมืองนภาแล้ว พอถึงตอนนั้นเราค่อยเจอกันนะ” “ได้!” หลังจากที่ส่งธนิดากลับไปแล้ว แม้ชยานีจะรู้สึกเบาใจแต่ก็ยังกดดันอยู่ดี เมืองเมฆาแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่สุขที่สุดของเธอ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นความเจ็บปวดของเธอแทน ชยานีกำมือทั้งสองแน่น จากนั้นก็เปลี่ยนความเศร้าคับแค้นใจให้เป็นพลัง และเริ่มรวบรวมหาข่าวเกี่ยวกับทัตติและชามา รวมถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของบริษัทคำล้อมจำกัด เธอเคยอยู่ในบริษัทคำล้อมจำกัดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในตอนแรกสามีภรรยาตระกูลคำล้อมก็ดีต่อเธอและฝึกฝนเธอให้กลายเป็นผู้ช่วยของทัตติ แต่ที่เธอทำก็เพื่อให้คู่ควรกับฐานะและตำแหน่งของทัตติ ดังนั้น เธอจึงเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบเสื้อผ้า ทั้งยังก่อตั้งสตูดิโอเป็นของตัวเองอีกด้วย หลายปีมานี้เธอเอาแต่ยุ่งวุ่นวายจนตัวกลายเป็นลูกข่าง นั่นก็เพราะเพื่อให้อยู่กับทัตติได้ดียิ่งขึ้น แต่ผลสุดท้าย นึกไม่ถึงว่าเขาจะทรยศเธอและไปอยู่กับชามา ชามา เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลกองแก้ว ทั้ง ๆ ที่มีสถานะแบบนี้ ทำไมถึงต้องเป็นเพื่อนกับตนด้วย แต่ตอนนี้พอมาคิดดู ชามาไม่ได้สนใจตัวเธอเลย แต่สนใจทัตติต่างหาก หล่อนใช้เล่ห์กลทุกอย่างเพื่อให้ได้เข้าใกล้ทัตติ จนกระทั่งทั้งสองลักลอบมีสัมพันธ์ทางกายกัน แต่น่าขันที่ตนกลับเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับรู้ความจริง แม้กระทั่งในช่วงเวลาแห่งความตายก็เพิ่งจะเข้าใจว่าตนถูกตระกูลคำล้อมรับเลี้ยงไว้ก็เพื่อเป็นยันต์กันแคล้วคลาดสำหรับชีวิตของทัตติก็เท่านั้น ชยานีถือโอกาสในช่วงไม่กี่วันที่อยู่ในเมืองเมฆาไปเที่ยวบริเวณรอบ ๆ เมือง เธอไปสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองเมฆา จากนั้นก็ไปสำรวจห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่สักพัก ต่อมาเธอถึงได้รู้ว่าบริษัทคำล้อมจำกัดได้ควบซื้อแบรนด์ W&J แล้ว ดังนั้น ตอนนี้ W&J จึงไม่ได้เป็นของชยานีคนนี้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เป็นของบริษัทคำล้อมจำกัดไปแล้ว นอกจากนี้ทัตติยังมอบสิทธิ์ในการจัดการไว้ในมือของชามา ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบของชยานีก่อนหน้านี้ ในตอนนี้ก็ได้ไปตกอยู่ที่ชามาทั้งหมดแล้ว ดังนั้น ชามาจึงกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ชยานีรู้สึกเกลียดมากที่ในตอนแรกสินค้าที่เธอออกแบบไม่ได้ใช้ชื่อจริงของเธอ แต่กลับใช้ชื่อ นิกกี้แทน แม้ชามาจะพลิกสถานการณ์เปลี่ยนชื่อเป็น นิกกี้แต่สำหรับชยานีแล้วบอกได้เลยว่าเป็นคำเสียดสีเยาะเย้ยอันยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัยเลย แต่ต่อให้เคียดแค้นไม่พอใจอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้สิ่งที่เธอสามารถทำได้มีเพียงอย่างเดียวคือสร้างแบรนด์ขึ้นมาอีกครั้ง เป็นอีกแบรนด์ที่พอจะเอาแบรนด์เก่าที่เธอเคยทำได้ แบบนี้เธอถึงจะพอมีทุนที่จะสามารถยืนหยัดในโลกอุตสาหกรรมเสื้อผ้าได้ และมีทุนพอที่จะชนกันกับชามา หรือแม้กระทั่งเหยียบย่ำมันไว้ใต้เท้าของเธอเอง