ตอนที่ 21 หยอกล้อตมนา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 21 หยอกล้อตมนา
ต๭นที่ 21 หยอกล้อตมนา “ออกไป!” ชยานีพยายามอดทนไม่พุ่งตัวเอาหมอนไปกดหน้าดนพ ผลสุดท้ายชยานีก็ไม่ได้ตรวจและกลับบ้านไป ไม่ว่านวตาจะเกลี้ยกล่อมอย่างไร ชยานีก็ไม่ยอมอยู่โรงพยาบาล ตอนที่ชยานีกลับไปที่คฤหาสน์ภูลพิพัฒน์ก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว ภายในคฤหาสน์ร้อนมาก จารุณีกับตมนากำลังพูดคุยพลางกินของว่างอยู่ในห้องนั่งเล่น และไม่รู้ว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน แต่ดูไปแล้วจรุณีกับตมนาดูท่าทางมีความสุขมาก ชยานีเดินเข้ามาโดยที่นวตาช่วยประคอง จารุณีกับตมนาทั้งสองต่างก็ชะงักไป ตมนาสบสายตาปะทะกับชยานีอย่างสบาย ๆ ยิ้มบาง ๆ แล้วกล่าวว่า“ได้ข่าวจากพ่อบ้านชนัตว่านวตาบอกว่าเมื่อคืนเธอไม่สบายนอนค้างที่โรงพยาบาลนี่ ทำไมถึงกลับมาเร็วจัง” ชยานีกะพริบตา พอได้ยินคำพูดของตมนาแล้วก็รู้สึกว่าหล่อนเหมือนหญิงสาวผู้มีสถานะเป็นหญิงผู้เป็นเจ้าของบ้านกำลังถามตนอยู่ ตมนายังไม่ทันได้ฟังคำตอบของชยานีก็พูดต่อทันที “ฉันกับจารุณีกำลังดื่มชากินขนมที่เชฟของตระกูลภูลพิพัฒน์เป็นคนทำ รสชาติอร่อยกว่าร้านขนมสุขใจที่ข้างนอกอีก น้องปาลีอยากลองชิมดูไหมคะ” จุดประสงค์ของตมนานั้นชัดเจนมาก หากชยานีไม่โต้กลับ ตมนาก็คงจะเสียใจกับการแสดงละครฉากนี้มาก “ขอบคุณสำหรับความหวังดีของพี่ตมนานะคะ แน่นอนว่าเชฟทำขนมของตระกูลเราต้องทำออกมาได้รสชาติดีกว่าของร้านขนมสุขใจอยู่แล้วค่ะ อีกทั้งนะ เชฟของร้านขนมสุขใจยังเป็นเซฟที่ออกจากตระกูลภูลพิพัฒน์ไปอีกด้วยนะ” ชยานีส่งสัญญาณบอกให้นวตาที่ประคองเธออยู่ถอยออกไปก่อน“ฉันกินทุกวันเลยค่ะ แต่สำหรับพี่ตมนาอาจจะยากหน่อยนะคะ เพราะต้องกลับมากินที่นี่ ไหนๆก็มาแล้วถ้าไม่กินให้คุ้มค่าก็เสียเที่ยวสินะ!” สีหน้าของตมนาเปลี่ยนไป มองชยานีอย่างค่อนข้างมึนตึง กัดริมฝีปาก ทำอะไรไม่ถูกอย่างค่อนข้างเห็นได้ชัด ท่าทางแบบนั้นเหมือนกับว่าชยานีรังแกเธอ ชยานีกระพริบตา ไม่สนใจการกระทำเหล่านั้นของตมนา “เอ๊ ที่มีอยู่นี่มันแค่เจ็ดแปดอย่างเองนี่คะ ฉันจำได้ว่าครั้งก่อนที่กินไปเหมือนจะมีสิบกว่าอย่าง แต่ละอย่างก็กินไปหนึ่งคำ กินทุกอย่างไม่หมดหรอกค่ะ ถ้าพี่ตมนาชอบก็มาบ่อย ๆ ก็ได้นะคะ จะได้กินให้หมดทุกอย่างเลยนะคะ!” “นี่เธอ...”ต่อมาใบหน้าของตมนาก็ดูเสียหน้าอย่างถึงที่สุด แต่ทว่า ไม่ว่าจะอย่างไรตมนาที่เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลผู้ดี โดยปกติแล้วจะไม่แสดงท่าทางอาการโมโหจนหน้าดำหน้าแดงออกมา มีเพียงแค่สายตาเท่านั้นที่แสดงออกถึงความไม่พอใจต่อชยานี ตมนารู้จักวิธีอดกลั้น แต่จารุณีกลับไม่รู้จักวิธีอดกลั้นอารมณ์เลย เดิมทีเธอไม่พอใจชยานีมากอยู่แล้ว เพราะคิดว่าชยานีแย่งตำแหน่งของพี่สะใภ้ใหญ่ของเธอไป ในความคิดของจารุณี ตมนาต่างหากถึงจะคู่ควรเหมาะสมกับคนที่เป็นพี่ชายเธอ ผู้หญิงที่วาจาหยาบคาบอย่างชยานีไม่คู่ควรกับนิธานเลย“ปาลี ยัยผู้หญิงป่าเถื่อน เธออย่าคิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธอนะ! ที่ตระกูลภูลพิพัฒน์ เธอมันก็แค่ตัวอะไรบางอย่างที่ไม่คู่ควรจะถือกับรองเท้าให้พี่ตมนาด้วยซ้ำ!” “ใช่ ฉันเป็นคน ไม่ใช่อะไรอย่างที่เธอพูดหรอก แต่ฉันแปลกใจมากเลยนะ ตอนที่เธอด่าคนอื่นน่ะ หรือว่าเธออยากจะเป็นตัวอะไรเองอย่างนั้นหรือ?”ชยานีตอกกลับ แท้จริงแล้วเธอกำลังป่วย สีหน้าค่อนข้างซีด ดูแล้วท่าทางเหมือนคนอ่อนปวกเปียก แต่ฝีปากของชยานีกลับไม่ยอมคน จารุณีพูดอะไรมา เธอก็ตอกกลับไปอย่างนั้น “ฉันคนนี้ไม่ชอบการก้มหัวให้คนอื่นที่สุด เรื่องถือรองเท้าน่ะ ฉันดูแล้วจารุณีเธอน่าจะเป็นคนที่เหมาะที่สุด”ชยานียกปากโค้งขึ้นยิ้ม เมื่อเห็นว่าหน้าของจารุณีแทบจะบึ้งขึ้นมา ใจของเธอก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก“ดูเหมือนเธอจะถือรองเท้าให้คุณหนูตมนาบ่อยอยู่นะ” “น้องปาลี!”ตมนาเอ่ยขัดคำของชยานี ราวกับว่าชยานีเป็นเด็กที่จงใจหาเรื่องอย่างไม่มีเหตุผลอย่างไรอย่างนั้น ในแววตาฉายความตำหนิติเตียน“น้องปาลีคะ ยังไงจารุณีก็เป็นน้องสาวของสามีเธอ ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมถึงได้ใช้วาจาหยาบคายอย่างนี้ล่ะ!” คำพูดเหล่านี้ของตมนาฟังแล้วเหมือนจะเป็นการกู้หน้าให้ แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นมือดีในการยุแหย่ให้แตกกัน ไฟลูกถัดไปนี้ถูกจุดโดยตมนาแล้ว พอจารุณีได้ยินตมนาพูดแบบนั้นก็โมโหจนหัวร้อนขึ้นมาทันที“ใครอยากจะเป็นครอบครัวกับหล่อนกัน ฉันกับหล่อนไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันนะคะ! คนอย่างหล่อนคู่ควรด้วยหรือคะ”จารุณีมองชยานีอย่างเย็นชา สายตาคู่นั้นมีความไม่พอใจและเหยียดหยามอยู่ “จารุณี เธอนี่ก็นะ ไม่ว่าจะพูดยังไงน้องปาลีก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของพี่นิธานนะ เป็นพี่สะใภ้ของเธอ ทำไมเธอถึงพูดกับพี่สะใภ้เขาอย่างนั้นล่ะ อีกอย่างก็ยังอยู่ในตระกูลภูลพิพัฒน์ด้วย เธอทำแบบนี้แล้วคุณปาลีจะมีหน้ามองคนอื่นในตระกูลภูลพิพัฒน์ยังไง!” เหอะ! ตมนาคนนี้นี่ช่างฉลาดเสียจริง! ชยานีอยากจะปรบมือให้ตมนาเสียจริง คำพูดของผู้หญิงคนนี้ช่างมีศิลปะจริง ๆ ในการห้ามปรามจารุณีนั้น ความจริงแล้วตั้งใจจะทำให้จารุณีทะเลาะกับตนเอง “พี่ตมนาคะ พี่นี่ช่างก็ช่างไว้หน้าหล่อนเสียจริงเลย ฉันจะบอกอะไรพี่ให้รู้ พี่ชายฉันน่ะไม่สนใจหล่อนหรอกค่ะ! หากไม่เพราะหล่อนหน้าด้านไร้ยางอายแต่งกับพี่ชาย คนอย่างหล่อน แม้แต่คนใช้ก็แทบจะไม่เห็นหัวเสียด้วยซ้ำ!” ตมนาดึงมือของจารุณีไว้ พอได้ยินจารุณีพูดแบบนี้ก็รีบเอามือปิดปากจารุณีทันที ส่งสายตาเป็นนัย ๆ ว่าไม่ต้องพูดแล้ว แต่ใจกลับเต้นรัวอย่างพึงพอใจ ความเหยียดหยามที่มีต่อชยานีที่อยู่ด้านในก็ออกมาสู่ภายนอกเช่นกัน ชยานีกระพริบตา แน่ใจแล้วว่าจารุณีเป็นเป้ากระสุนปืนที่ตมนาเล็งไปที่ไหนก็ยิงไปที่นั่นจึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจอยู่ในใจ “น้องปาลีคะ จารุณียังเด็ก คำพูดเหล่านี้เธอไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ น้องปาลีอย่าได้เก็บเอาไปใส่ใจเลยนะคะ!”ตมนาทำเหมือนกับว่ากลัวชยานีจะเข้าใจผิดจึงได้รีบอธิบาย “ไม่หรอกค่ะ”ชยานีกลับใจกว้างเป็นอย่างมาก“จารุณียังเด็ก ฉันที่เป็นพี่สะใภ้จะไปถือสาจารุณีทำไมกัน”เนื่องด้วยชยานีไม่ได้แสดงท่าทีโกรธตั้งแต่ต้นจนจบ ดูแล้วนิ่งสงบมาก แต่ความจริงแล้วกลับมีเขี้ยวเล็บอยู่เต็มตัว ตมนาเห็นท่าทีแล้วก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย ชยานีคนนี้ไม่ปกติ ถ้าจะให้พูดตามปกติแล้ว เวลาเธอเห็นตนปรากฏตัวอยู่ที่บ้านตระกูลภูลพิพัฒน์ทีไรจะต้องโวกเวกโวยวาย หรือไม่ก็ทำอะไรกับตนอย่างไม่ไว้หน้าตระกูลภูลพิพัฒน์ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เพียงแค่นิดเดียวชยานีก็ระเบิดออกมาแล้ว จากนั้นก็จะทำเรื่องอะไรที่ไร้สติออกมาอีกมากมาย วันนี้เธอถือโอกาสว่าจารุณีอยู่ด้วย ดังนั้น จึงคิดจะยั่วโมโหชยานี แต่คาดไม่ถึงอย่างยิ่งเลยจริง ๆ ว่าวันนี้ชยานีจะไม่โต้เถียง หรือแม้กระทั่งติดกับดักเสียด้วยซ้ำ นี่มันเป็นไปไม่ได้! ตมนาดูการแสดงท่าทีของชยานีที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และขณะที่ตมนากำลังคิดวิเคราะห์อยู่กับตนเองอยู่นั้น ชยานีเองก็สำรวจตมนาด้วยเหมือนกัน เมื่อเห็นว่าอยู่ ๆ ตมนาก็แสดงอาการออกมาแบบนั้น ชยานีก็ยกปากโค้งขึ้น “จะว่าไปแล้วพี่ตมนากับจารุณีก็เป็นพี่น้องที่รักใคร่กันดีนะคะ เหมือนจะรักใคร่กลมเกลียวกันมากกว่าฉันที่เป็นพี่สะใภ้เสียอีก!” “แน่นอนสิ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พี่ตมนาก็เป็นพี่สะใภ้ของฉันไปแล้ว!” จารุณีพูดอย่างอดไม่ได้ “งั้นเหรอ?”ชยานีไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกโกรธ ทั้งยังยิ้มบาง ๆ อีกด้วย ร่างกายของเธอแทบจะทนไม่ไหว ทั้งยังไออกมาอีกสองที นวตาจึงรีบเข้ามาประคองเธอ“คุณนายน้อยคะ คุณยังป่วยอยู่นะคะ ต้องพักผ่อน! คุณลืมแล้วหรือคะว่าวันนี้คุณชายกำชับกับหมอไว้ว่ายังไง” นวตานับได้ว่าเป็นเด็กที่ชาญฉลาดคนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อเห็นว่าคุณนายน้อยของตนยังฝืนขนาดนี้ ทั้งยังดูเหมือนอาการจะแย่ขึ้นมาอีก นวตาจึงรีบก้าวเข้ามาช่วยทันที ชยานียิ้มย่างอ่อนแรง“ฉันก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน แต่ว่าแขกยังอยู่ที่นี่ ฉันที่เป็นสะใภ้คนโตของตระกูลภูลพิพัฒน์ จะปล่อยแขกทิ้งไว้ไม่ดูแลแขกได้ยังไงกัน!”ชยานีพูดพลางมองตมนาอย่างขอโทษขอโพย“พี่ตมนาอย่าได้ถือสาเลยนะคะ เด็กคนนี้พูดจาไม่เป็นหรอกค่ะ” ดวงตาของตมนาฉายแววดำมืดขึ้นมาทันที“ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะไปโกรธทำไมกัน ถ้าน้องปาลียังไม่สบายอยู่ก็รีบไปพักผ่อนเถอะ ฉันคุ้นเคยกับบ้านตระกูลภูลพิพัฒน์ดี มาที่นี่ตั้งแต่เล็ก ๆ แล้ว อาจจะพูดไม่น่าฟังไปหน่อยนะ แต่สำหรับบ้านตระกูลภูลพิพัฒน์นะฉันคุ้นเคยดีกว่าเธอเสียอีก!” ไม่ว่าตมนาจะพูดอย่างไรกับชยานี เธอก็พิเศษกว่าชยานีสำหรับบ้านตระกูลภูลพิพัฒน์ เห็นได้ชัดว่าเธอประกาศตัวเป็นศัตรูกับชยานีอย่างเป็นทางการ แต่ไหนแต่ไรมาชยานีไม่ใช่คนที่ขี้กลัวจนหัวหด แต่ไหนแต่ไรมาก็สู้ไม่ยอมถอย เป็นคนที่เมื่อถึงยามสู้ก็ต้องสู้ “พี่ตมนาพูดถูกค่ะ”ชยานีตบมือของนวตาเบา ๆ“ประคองฉันนั่งลงหน่อย” ชยานั่งลงและให้นวตาไปห้องครัวสั่งให้เชฟของหวานทำขนมหวานที่ไม่เลี่ยนมาสองสามอย่างและนมสดด้วย ชยานียิ้มอย่างอ่อนโยน เธอนั่งที่นั่งที่อยู่ระหว่างกลาง ชยานียิ้มเบา ๆ นิ้วเรียวยาวประสานกัน“พี่ตมนาไม่รีบไปใช่ไหมคะ งั้นรอชิมรสชาติขนมแบบอื่น ๆ ก่อนนะคะ” “แต่ละเมืองทุกวันนี้พัฒนาไปค่อนข้างเร็วนะคะ ชั่วพริบตาเดียวก็มีตึกสูงขึ้นมาตั้งมากมาย ช่างเปลี่ยนไปมากจริง ๆ พอได้เห็นของที่ได้เห็นในตอนเด็กอีกครั้งก็รู้สึกว่าโลกมันกลับตาลปัตรไปหมด จะบอกว่าประเทศเราพัฒนาไปได้ดี เจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง มีภาพลักษณ์ใหม่ก็ว่าได้ ใช่ไหมคะพี่ตมนา!” “ใช่ค่ะ”ตมนาแทบจะกัดฟันกรอด ผู้หญิงที่ไม่มีสมองอย่างชยานี ทำไมอยู่ๆถึงได้มีฝีปากดีขนาดนี้ หล่อนกล้าที่จะเยาะเย้ยเธออย่างนั้นหรือ “ใช่ค่ะพี่ตมนา จะบอกว่าเรื่องเมื่อคืนนี้ต้องขอบคุณพี่นะคะ!”ชยานีเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงหันไปมองตมนา ใจของตมนารู้สึกสังหรณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไร สุดท้ายก็ฟังชยานีพูด“ลำบากพี่ตมนาที่เป็นห่วงนิธานแล้วนะคะ ขนาดคนเป็นภรรยาอย่างฉันยังไม่รู้ใจเท่าพี่ตมนาเลย” “น้องปาลีถ่อมตัวเกินไปแล้ว ฉันกับพี่นิธานโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ๆ เขาเคยชินอะไรฉันเองก็ค่อนข้างเข้าใจดีน่ะ!” ตมนายิ้มอ่อน ในที่สุดเธอก็รู้สึกเหนือกว่าชยานี เธอกับนิธานเป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมาก็นับได้ยี่สิบกว่าปีแล้ว ส่วนชยานีแต่งนิธานได้แค่สองปีเท่านั้น ยิ่งบวกกับนิธานไม่ได้มีความรู้สึกแบบชายหญิงกับชยานีด้วยแล้ว พอนึกถึงช่วงเช้าวันนี้ที่เธอจะแสร้งทำเป็นห่วงนิธานกับชยานี แต่นึกไม่ถึงว่านิธานจะออกมาจากห้องเพียงคนเดียว อีกทั้งเธอบังเอิญไปเห็นผ้าที่ปูอยู่บนพื้นเข้า จะบอกว่าอะไรน่ะหรือ? ก็จะบอกว่าในสองปีมานี้นิธานไม่ได้แตะต้องผู้หญิงคนนี้เลย เมื่อรู้ว่าผลลัพธ์เป็นแบบนี้แล้ว ใจของตมนาก็กระโดดโลดเต้นขึ้นมาทันที “ใช่ค่ะ พี่ตมนาเข้าใจนิธานมากกว่าฉันจริง ๆ นั่นแหล่ะค่ะ ดูเหมือนว่าฉันจะยังเป็นภรรยาที่ยังไม่ดีพอนะคะ!”ขณะที่ชยานีกำลังพูด นวตาก็ยกขนมออกมาพอดี“คุณนายน้อยคะ ขนมที่คุณอยากได้ค่ะ!” “เอาให้พี่ตมนาชิมหน่อยสิ! ของพวกนี้ทำสด ๆ ใหม่ ๆ พี่ตมนาน่าจะยังไม่เคยชิมนะคะ”ชยานีทำท่าทางจัดการชี้แจงแบบนายหญิงเจ้าของบ้าน“นวตา อีกสักพักก็ให้พ่อครัวทำเยอะหน่อยนะ แล้วก็ให้เอาบางส่วนห่อให้พี่ตมนาเอากลับบ้านไปด้วยล่ะ!” “ไม่ต้องหรอก!”ตมนาแทบจะทนไม่ไหวอยากเข้าไปฉีกกระชากชยานี เห็น ๆ อยู่ว่าเธอต่างหากที่เป็นคนที่คู่ควรกับนิธานมากที่สุด ผู้หญิงคนนี้มีอะไรที่เหมาะจะเป็นนายหญิงเจ้าของบ้านของที่นี่อย่างนั้นหรือ“ฉัน พี่นิธานกับจารุณีคุ้นเคยดี ตั้งแต่เล็กมาก็เข้าออกที่นี่บ่อย ๆ ถ้าฉันอยากกินก็มาที่นี่ก็ได้ น้องปาลีคงไม่ถือสานะคะ!” “ไม่ถือสาแน่นอนค่ะ!”ชยานียิ้มอย่างอ่อนโยน “ยินดีต้อนรับพี่ตมนาอย่างเต็มที่เลยล่ะค่ะ!”จากนั้นก็ชะงักไปชั่วครู่“แต่ว่าพี่ตมนาคะ ครั้งหน้าไม่ต้องต้มยามาให้นิธานแล้วนะคะ” “ทำไมล่ะ?”ตมนาถาม ทว่า ในใจกลับคิดว่า คอยดูเถอะ ยัยคนนี้กลั้นเอาไว้ไม่อยู่หรอก! “เพราะว่ามันสิ้นเปลืองเสียเปล่าค่ะ!”ชยานีเอียงศีรษะพลางยิ้ม ใบหน้าอันซีดขาวเล็กน้อยของเธอในเวลานี้กลับดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมา“เมื่อคืนนี้นิธานไม่ได้ดื่มสักอึก แต่เอาไปเททิ้งน่ะค่ะ” 
已经是最新一章了
加载中