ตอนที่ 15 ค่ำคืนหนึ่งที่แสนเหน็ดเหนื่อย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 15 ค่ำคืนหนึ่งที่แสนเหน็ดเหนื่อย
ตอนที่ 15 ค่ำคืนหนึ่งที่แสนเหน็ดเหนื่อย เอาเถอะน่า ถือว่าทำเพื่อตระกูลชาติเปรมศรีโลก็แล้วกัน! ดารุคลานลุกขึ้นมา ไหล่บางยืนหยัดขึ้นอย่างดันทุรัง ดวงตากลมโตคู่นั้นของเธอที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรนั้นจ้องมาที่น้าณิชอย่างแน่วแน่ ทั้งร่างกายของเธอเผยท่าทีจองหองตามนิสัย! น้าณิชพลันตัวสั่นเทาขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ สีหน้าของเธอซีดเผือด สักพักหนึ่งจึงหมุนตัวแล้ววิ่งหนีเธอไป ทิ้งท้ายไว้เพียงแค่ประโยคเดียวว่า“รีบทำงานเข้าล่ะ!” ครั้นเมื่อเธอทำความสะอาดห้องโถงเสร็จแล้วนั้น ฟ้าที่มืดมิดข้างนอกนั่นก็เริ่มที่เปลี่ยนเป็นสีเทาขึ้นมา ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าฟ้าสว่างแล้ว เมื่อมองสำรวจออกไปเธอถึงกับเห็นสีเขียวสดใสของใบไม้และเค้าร่างของพุ่มดอกไม้สวยจากสวนนั้นได้เลย เหนื่อยจัง! ใบหน้าเล็กที่ละเอียดลออซีดเซียวลงเนื่องจากทำงานมาอย่างหนัก ดวงตากลมโตที่มักจะเป็นประกายก็ยังหม่นแสงลง เธอถูมือพลางมองไปบนหลังมือที่ขาวสว่างเรียบเนียนละเอียด ถือได้ว่ามือนั้นช่างเล็กและสมส่วน ทว่าด้านในฝ่ามือนั้นกลับเต็มไปด้วยผิวหนังหยาบกร้าน คืนนี้เธอต้องขอบคุณพวกมันจริงๆเป็นเพราะผิวหนังหยาบๆชั้นนี้ มือเธอถึงยังอยู่ได้โดยไม่โดนพื้นถลอกจนผิวลอกไปหมดเสียก่อน หนังตาของเธอกำลังหนักลงเหมือนกันทั้งสองข้าง หัวเธอก็เริ่มจะเบลอๆขึ้นมาแล้วด้วย ดารุรู้เลยว่าเธอจำเป็นต้องนอนพักอย่างเร่งด่วนเสียแล้ว เธอเงยหน้ามองไปยังหัวบันไดชั้นสองที่ซึ่งมีโคมไฟแสงสีเหลืองสลัวๆติดอยู่บนผนัง แสงนั้นส่องสว่างทะลุผ่านบรรยากาศอึมครึมนี้ ธวลิตก็ยังไม่ได้จัดการเรื่องที่พักให้เธอเสียด้วยสิ เธอเดินถอยร่างกายกลับมาเพียงไม่กี่ก้าว บริเวณท้องและเท้าก็มีเสียงดังออกมาเบาๆอย่างรู้สึกได้ เมื่อพลิกตัวหันไปมองจึงเห็นว่าเป็นโซฟาตัวหนึ่งที่ธวลิตนั้นเคยนั่งอยู่ ทนไปก่อนสักหนึ่งคืนก็แล้วกัน เธอเลือกโซฟายาวตัวหนึ่ง และดารุก็พลันล้มลงไปหลังจากที่รู้สึกวิงเวียนขึ้นมาอย่างกะทันหัน เธอได้ผล็อยหลับไปแล้วในห้วงนิทรา ขาสองข้างที่ขดงออยู่นั้นเผยให้เห็นส่วนที่เป็นผิวของขาเรียวสวยโผล่พ้นออกมา ขาของเธอเรียวสวยเหลือเกิน ราวกับได้นักแกะสลักฝีมือชั้นเยี่ยมมาแกะสลักผลงานที่น่าพึงพอใจที่สุดนี้ออกมาให้ ผิวพรรณของเธอขาวใสจนสะดุดตา เธอนอนตะแคงข้างพลางใช้มือข้างหนึ่งหนุนหัวต่างหมอน ส่วนมืออีกข้างก็ปล่อยไว้อย่างเป็นธรรมชาติ ลำแขนเรียวทั้งสองข้างที่โผล่พ้นแขนเสื้อออกมานั้น เผยให้เห็นมือเล็กๆของเธอที่เขากำได้อย่างไม่เต็มมือ และบนหลังมือเล็กที่ขาวดุจหยกบริสุทธิ์นั้นก็ปรากฏรอยฟกช้ำไม่น่ามองนั่นขึ้นมาอย่างเด่นชัด ดูเหมือนว่าเมื่อวานรองเท้าข้างนั้นคงจะเหยียบไม่เบาสักเท่าไหร่เลย เธอยังคงตกอยู่ในห้วงนิทรา ขนตางอนยาวที่อยู่ใกล้กันกับดวงตานั้นโค้งรับกันเป็นรูปร่างสวยน่ามองจมูกเล็กสวยพ่นลมหายใจออกมาอย่างสม่ำเสมอ ริมฝีปากยังคงเผยรอยยิ้มบางไม่เปลี่ยน จะมีก็แต่ความหยิ่งผยองนั่นที่ไม่มีให้เห็นแล้วในยามนี้ เส้นผมบางส่วนของเธอที่หล่นลงมาจากหน้าผากและพาดมายังบริเวณลำคอนั้นยิ่งทำให้ดูน่ามองเข้าไปอีก เขาสะกิดไปที่ข้อมือบาง ภาพที่ธวลิตเห็นอยู่นั้นคือภาพของหญิงสาวรูปงาม นอนหลับใหลอยู่บนโซฟาราวกับนางฟ้าที่ตกลงมายังโลกมนุษย์และกำลังรอคอยใครสักคนมาปลุกเธอให้ตื่นขึ้น คิ้วเรียวสวยที่ขมวดอยู่เป็นระยะๆนั่นทำให้เขาอยากจะใช้มือทำให้มันคลายออกบ้างเสียจริง “ธวลิต รอก่อนสิคะ”เป็นครั้งแรกที่ได้รับอนุญาตจากธวลิต เธอถึงสามารถเข้ามาในคฤหาสน์นี้ได้และยังเป็นครั้งแรกด้วยที่เธอสานสัมพันธ์ด้วยกันกับธวลิตจนกระทั่งฟ้าสาง แต่ตานีเชื่อว่าในใจของธวลิตนั้นเขาไม่ได้คิดเหมือนกันแน่นอน ก้นโด่งที่สะบัดไปมานั้นยังคงอยู่ในชุดสั้นสีม่วงเหมือนเมื่อคืนนี้ ธวลิตย่นคิ้วอย่างนึกรำคาญเสียง พอๆกับการที่ตานีได้เข้ามาขัดจังหวะของเขา “เอ๊ะ ยัยคนน่าสมเพชมานอนอยู่ตรงนี้เองหรือคะ เหมือนกับหมาจรจัดเลยแฮะ”พอได้รับการปฏิบัติดีด้วยหน่อยเธอก็อวดโอ้เสียใหญ่โต ตานีช่างไม่เข้าใจกับท่าทางนั้นของเขาเลยสักนิด พลางเหยียดยิ้มมุมปากแล้วชี้นิ้วมายังดารุที่กำลังหลับอยู่ ใบหน้าฉายแววมีความสุขกับความทุกข์ของผู้อื่น เพี้ยะ! ฝ่ามือหนึ่งฟาดไปที่ใบหน้าของตานี จนเธอสับสนและพลันปลุกดารุจนตื่นขึ้นมาด้วย ดารุมองตานีที่เอามือปิดหน้ากับหยาดน้ำตาที่คลอเบ้าในดวงตากลมโตนั่นของเธอ รวมถึงรังสีความกรุ่นโกรธที่แผ่ซ่านออกมาจากธวลิตซึ่งนั่งอยู่อย่างนิ่งสงบนี้ ธวลิตใช้สายตามองมาที่เธอ ทว่ากลับออกคำสั่งกับตานี“ไสหัวไปซะ!” ตานีร้องไห้โฮพลางพึมพำแล้ววิ่งออกจากคฤหาสน์ไป เหลือไว้เพียงกลิ่นน้ำหอมที่ฟุ้งกระจายอยู่เต็มห้อง ทำให้ดารุอดไม่ได้ที่จะจามออกมา เธอแพ้น้ำหอมมาตลอดอยู่แล้ว ป่วยจากมันมาก็ไม่น้อยเลยเหมือนกัน
已经是最新一章了
加载中