ตอนที่ 111 ปาลี.....เธออยากแก้แค้นไหม

ต๭นที่ 111 ปาลี.....เธออยากแก้แค้นไหม ชยานีเม้มปาก “เรื่องไร้สาระ!”นี่เป็นงานที่เธอทุ่มเททั้งหมดที่มี ไม่ว่าใครจะทำลาย ชยานีก็รู้สึกไม่สบายทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นความหมายของเสื้อผ้าชุดนี้มันก็แตกต่างออกไป มันทำให้ชยานีทุกข์ใจมากกว่าเดิม ดวงตาของนิธานจ้องมองไปที่ชยานี มือขนาดใหญ่ของเขาได้กุมมือของชยานีไว้ “เธออยากแก้แค้นไหม” ชยานีเงยหน้าขึ้น มองเข้าไปนัยน์ตาของนิธาน เธอกระพริบตาไปมาๆ “คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม” “เธอรู้สึกว่าฉันเหมือนคนที่กำลังพูดเล่นงั้นเหรอ” นิธานบีบมือของชยานีแรงกว่าเดิม “ถ้าเธออยากแก้แค้น ฉันจะช่วยเธอเอง” แต่ชยานีกลับรู้สึกลังเล เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของนิธาน ราวกับว่ากำลังโดนนิธานกลืนกินเข้าไป จังหวะหัวใจของชยานีก็เต้นแรงมากกว่าเดิม“ฉัน.......” “ส่งให้ฉันไปดำเนินการต่อ!” นิธานไม่ให้เวลาชยานีคิดแม้แต่นิด ก็ต้องการคำตอบจากเธอ ชยานีพยักหน้า ในเวลาไม่นานนิธานก็สามารถหาตัวเลขและส่งให้กับเฉลิมพล “ฉันจำได้ว่ารางวัลของวันนี้ คือรางวัลที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทของนาย” ในครั้งนี้เฉลิมพลเองก็ได้อยู่ในสถานที่จัดงานด้วย แต่ว่าเฉลิมพลไม่ค่อยมีความสนใจที่จะออกไปให้ผู้คนชื่นชมสักเท่าไหร่ เขากลับนั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องทำงานของ ได้รับโทรศัพท์ของนิธานก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเยาะเย้ย “ทำไมนายดูให้ความสนใจกับเรื่องนี้จังเลย ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านั้นนายไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับวงการบันเทิงสักเท่าไหร่ นายรู้สึกเกลียดเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำไป ” “เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ที่ฉันถามนายเมื่อกี้หล่ะ! ” “หึหึ เมื่อกี้มีคนที่อยู่ด้านล่างรายงานว่า ไม่รู้ใครที่ทำตัวโอ้อวดและทำตัวสิ้นเปลืองขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าอยู่ๆก็จะขับเฮลิคอปเตอร์มา คงไม่ใช่นายหรอกเนอะ !” “เฉลิมพล นายพูดมากเกินไปแล้วนะ” นิธานพูดออกมาอย่างหงุดหงิด เฉลิมพลเลิกคิ้วขึ้น “ฉันอยู่ที่ด้านบน ห้องเดิม นายมาเองก็แล้วกัน!” นิธานวางสายโทรศัพท์ และลากมือของชยานีออกไป “เฉลิมพลอยู่ที่นี่ พวกเราขึ้นไปกันเถอะ!” ชยานีเลิกคิ้วขึ้น “คุณพูดว่า รางวัลในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทของคุณเฉลิมพล” “เอ่อ！เธอไม่รู้เหรอ เฉลิมพลก็เล่นด้วยในครั้งนี้” นิธานไม่ได้สนใจอะไรกับเรื่องนี้ แต่เฉลิมพลกลับเล่นได้อย่างไหลลื่น นิธานพาชยานีไปยังสถานที่ที่เฉลิมพลอยู่ เฉลิมพลเห็นนิธานจูงมือของชยานีมา ในทันใดนั้นเขาก็เข้าใจทุกอย่างทันที “ที่แท้ก็มาเป็นเพื่อนภรรยาของนายหรอกเหรอ ต้องการเดินบนพรมแดงหรือว่าต้องการรางวัลล่ะ เรื่องแค่นี้คุยทางโทรศัพท์ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำให้ยุ่งยากเลยนะ ” “ไม่ใช่แบบนั้นค่ะคุณเฉลิมพล” ชยานีเริ่มตัดบทสนทนาของเฉลิมพล “จริงๆแล้วที่ฉันมาที่นี่เพราะต้องการความช่วยเหลือจากคุณเฉลิมพลค่ะ” เฉลิมพลเลิกคิ้ว และเริ่มเกิดความสนใจขึ้นมา เขาเปิดเปลือกตาและมองมาทางนิธาน นิธานจึงพยักหน้า “ตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้หน่อย ยังมีอีกเรื่อง ช่วยตรวจสอบให้หน่อยว่าจริงๆแล้วชญาภามีปัญหากับใครบ้าง” “ชญาภางั้นเหรอ?” เฉลิมพลถึงกับตลึง เขาครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน กว่าจะคิดออกว่าชญาภาคือบุคคลหมายเลขไหน “อ้อ เพื่อนของพี่สะใภ้ใช่ไหม เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ ” ไม่ต้องพูดอะไรมากมายเฉลิมพลก็พอจะเข้าใจ เพราะเข้าค่อนข้างมีประสบการณ์ในวงการนี้เป็นอย่างมาก ในขณะที่กำลังพูดคุยกัยเขาก็ได้เอาเรื่องราวไปสืบต่อที่ด้านล่าง ดังนั้นชยานีจึงเราเรื่องคร่าวๆให้เขาฟัง เมื่อเฉลิมพลได้ยินจึงพูดออกมา “พี่สะใภ้ไม่ต้องรีบร้อนจนเกินไปนะ ไม่ต้องกังวนไป เรื่องนี้แก้ไขได้ไม่ยากเลย เรื่องที่เกิดขึ้นกับชญาภานั้นใครได้รับผลประโยชน์มากที่สุดล่ะ พวกเราต้องสืบให้ชัดเจน แล้วค่อยจับตัวคนร้ายออกมา” ชยานีไม่ค่อยเข้าใจวงการบันเทิงสักเท่าไหร่ แต่ว่าเฉลิมพลนั้นค่อนข้างยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลมากๆในวงการนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นส่งให้เฉลิมพลเป็นคนจัดการต่อ คงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ชยานีพยักหน้าตอบรับเบาๆ และไม่มีการปฏิเสธใดๆอีกเลย ต้องยอมรับว่าในเฉลิมพลมีคอนเนคชั่นที่เยอะมากจริงๆ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็สามารถสืบข้อมูลเกี่ยวกับชญาภาออกมาได้ทั้งหมด หลังจากที่ชยานีได้อ่าน เธอก็ทำได้แค่ถอนหายใจออกมา แต่เฉลิมพลกลับไม่รู้สึกอะไร และเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ “วงการบันเทิงเป็นสังคมเล็กๆของโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าวงการบันเทิงนั้นมืดมนเลยนะ โลกของเราก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่นับว่ามีเรื่องแบบนี้จะเกิดแค่ในวงการบันเทิงเท่านั้น เพราะจริงๆแล้วทุกๆที่ เช่นที่ทำงาน ก็มีเรื่องแบบนี้เช่นกัน ” ชยานีพยักหน้า ทำให้เธออดคิดถึงเรื่องชามาไม่ได้ เพราะตั้งแต่ที่ “ชยานี” จากโลกนี้ไป ชามายอมทำทุกๆอย่างเพื่อลบล้างเธอออกไป ถึงขนาดพรากลมหายใจของเธอไปชามาก็ยอมทำ “คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีแนวโน้มที่จะทำเรื่องนี้ได้ แต่จะเป็นใครนั้นจะต้องตรวจสอบที่กล้องวงจรปิดอีกทีหนึ่ง พี่สะใภ้รีบหรือเปล่า ถ้าหากไม่รีบล่ะก็ งั้นก็รอให้ชญาภาทำกิจกรรมที่ตรงนั้นเสร็จก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ชยานีพยักหน้าตอบรับ “แบบนั้นก็ดีค่ะ” การเดินพรมแดงของชญาภานั้นราบรื่นเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะชุดของชยานีนั้นอลังการมากจริงๆ จนดึดดูดสายตาของผู้คน และช่วงเวลาที่ชญาภาเดินพรมแดงนั้นก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในงาน และในช่วงเวลานี้ของห้องท่านประทาน หน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ก็ได้ถ่ายทอดเรื่องราวพรมแดงเมื่อกี้ นิธานและชยานีได้นั่งที่ห้องรับแขกดูโทรทัศน์ด้วยกัน ไม่มีใครถือว่าตัวเองเป็นคนนอก ทำตัวสบายราวกับว่าที่แห่งนี้เป็นที่ของตัวเอง ส่วนเฉลิมพลนั้นก็กำลังยุ่งวุ่นวายกับการทำงานในของของตัวเอง จริงๆแล้วนอกจากที่เขาจะเป็นคนชอบโปรยเสน่ห์ และชอบถากถางคนอื่นแล้วนั้น เฉลิมพลเองก็ยังมีความสามารถอีกมากมาย ถึงขนาดไม่เป็นรองของนิธาน แต่เฉลิมพลนั้นเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เพราะฉะนั้นก็เลยมักจะรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ไม่สามารถพึ่งพาได้สักเท่าไหร่ เฉลิมพลใช้สมองในการคิดยุ่งยากแทบตาย ถึงจะดำเนินการเรื่องๆนี้เสร็จ เมื่อหันไปมองทั้งสองคนที่ทำเหมือนที่นี่เป็นราวกับว่าเป็นบ้านของตัวเอง ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นแขกแต่อย่างใด เฉลิมพลแกล้งทำเป็นกระแอมที่คอสองครั้ง ในตอนที่เขากำลังเดินเข้าไปนั้นเป็นช่วงที่ชญาภากำลังเดินพรมแดงพอดี เห็นการแต่งกายของชญาภาที่มีการพลิ้วไหว ถึงแม้ว่าจะเป็นโทนสีดำ แต่มันก็ดึงดูดผู้คนได้มากมายจริงๆ เป็นช่วงเวลาที่เกือบสะดุดตาคนทั้งหมด “นี่.....เป็นงานออกแบบของพี่สะใภ้เหรอ” “ก็ต้องใช่สิ!” ชยานียังไม่ทันจะได้ตอบอะไร อยู่ๆก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งแทรกเสียงขึ้นมาตอบแทน น้ำเสียงของเขานั้นทั้งภูมิใจและชื่นชมเป็นที่สุด เฉลิมพลยิ้มที่มุมปาก มองเห็นนิธานกำลังทึ่งอยู่ “ในบ้านของฉัน ภรรยาฉันสุดยอดที่สุดแล้วแหละ”อดทนไม่ได้ที่จะเกลือกตามองบน “คนที่ฉันถาม คือพี่สะใภ้ต่างหาก” “ฉันตอบกับปาลีตอบมันไม่เหมือนกัน ทำไมเหรอรู้สึกตกใจล่ะสิ” จริงๆแล้วนี่เป็นครั้งที่นิธานได้เห็นผลงานการออกแบบของชยานี คิดไม่ถึงเลยว่าจะหวือหวาและอลังการขนาดนี้ ดูเหมือนกับว่าจะมีบางสิ่งที่ล้นออกมาจากหัวใจของเขา และความรู้สึกนั้นมันชัดเจนจริงๆ ชยานีสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นของชายที่นั่งอยู่ด้านข้างของเธอ ทำได้เพียงแค่ยิ้มอกมาเบาๆ “นั่นมัน....คืองานออกแบบของฉันเอง ทำไมเหรอคะคุณเฉลิมพล ” “พี่สะใภ้ เธอเรียกฉันว่า พล เหมือนที่พี่สามเรียกฉันก็ได้นะ คนเรียกฉันแบบนี้เยอะเกินไปแล้ว ” ชยานี “…………..” “พี่สะใภ้ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีฝีมือที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ การออกแบบของชุดนี้มันสุดยอดมากๆเลย ไม่แพ้นักออกแบบชื่อดังเลยแหละ! ” “เฉลิมพล.....เอ่อคุณพล คุณชมฉันเกินไปแล้ว” ชยานีก็ชอบที่คนอื่นชื่นชมเธอ แต่ที่จริงแล้วระดับฝีมือของเธอยังอีกห่างไกล และยังไม่เพียงพอด้วยซ้ำ “ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้ชมเดินไปจริงๆ พี่สะใภ้ เธอเยี่ยมยอดมากๆ เอ่อใช่ สตูดิโอของพวกเธอตอนนี้ได้ร่วมมืออกับใครแล้วหรือยัง” “ฉัน……” เสียงของนิธานดังขึ้น “ก๊อก ก๊อก!” “เข้ามา!” ผู้ช่วยของเฉลิมพลได้พาชญาภาและจิตรเข้ามา ดูท่าทางของชญาภาจะดีใจมากๆ เมื่อเห็นชยานีก็รีบร้อนเดินเข้ามา “ปาลี ขอบคุณเธอมากๆเลยนะ ขอขอบคุณเธอจริงๆ” ถ้าหากว่าไม่มีชยานี ชญาภาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้เธอจะทำยังไง ชยานีและชญาภากอดกันอย่างอ่อนโยน และสัมผัสได้ถึงความสุขใจของชญาภา “เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว นั่งลงเถอะ” ชญาภาจึงนั่งลงที่ด้านข้างของชยานี “ท่านประธานนิธาน ท่านประธานเฉลิมพล!” ตอนที่ชญาภาเห็นนิธานและเฉลิมพลก็ตะโกนร้องเรียกออกมา แววตาเป็นประกายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง “ชญาภา....เอ่อ..นี่คือ....เธอรู้จักท่านประธานนิธานและท่านประธานเฉลิมพลได้อย่างไร” คนที่จะรู้จักนิธานและเฉลิมพลได้จะต้องเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ที่มากกว่านั้นตัวของนิธานเองก็ไม่ได้อยู่ในแวดวงบันเทิง คนส่วนมากเลยไม่ค่อยจะเข้าใจเขาเท่าไหร่ แต่เฉลิมพลนั้นเป็นประธานผู้ยิ่งใหญ่ รางวัลของวันนี้ก็ได้รับการสนับสนุนมาจากเขา จิตรคาดคิดไม่ถึงว่าชญาภาจะรู้จักกับบุคคลที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ ห้ามไม่ได้ที่จะทำให้เหงื่อของเธอไหลออกมาจากด้านหลัง “ก็ต้องรู้จักสิ ฉันกับปาลี เราเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอไง” ชญาภาไม่สนใจเท่าไหร่นัก ไม่ใช่เพราะว่าเธอรู้สึกว่าทั้งสองคนไม่เข้าใจ แต่เป็นเพราะว่าเค้าทั้งสองคนนั้นมีอิทธิพลและมีความยิ่งใหญ่มาก เพราะฉะนั้นชญาภาจึงไม่ค่อยกล้าที่จะใส่ใจพวกเข้าแบบซึ่งๆหน้า “โอเค ไหนๆคุณชญาภาก็มาแล้ว งั้นเรามาคุยเรื่องของวันนี้กันเถอะ” เฉลิมพลพูดตัดบทสทนาที่กำลังฉงนสนเท่ห์ของพวกเธอ นั่นเป็นเพราะเวลาของเขานั้นมีค่ามากๆ จึงไม่อยากจะเสียเวลามากนัก “เรื่องราวของวันนี้...มีอะไรเหรอคะ” ชญาภาทำท่าทางมีพิรุธ “ปาลี...เธอ......” “ชญาภา จริงๆแล้วเธอมีปัญหากับใครกันแน่ เธอต้องรู้สิ ถ้าหากว่าเรื่องราวไม่ได้รับการแก้ไขละก็ ครั้งหน้าก็รับประกันได้ยาก ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก” ชญาภารู้สึกลำบากใจ จริงๆแล้วในใจของเธอก็รู้สึก และสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังคิดร้ายกับเธอ “เฮ๊อ....จริงๆแล้วในวงการบันเทิงก็ไม่แปลกที่จะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าหากถามฉันว่าใครเป็นคนทำ ให้พูดแบบเจาะจงเลยฉันก็คงไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคือใครกันแน่.......คือฉัน.........” “งั้นพวกเราก็ใจเย็นๆ เพราะว่าคุณเฉลิมพลรับปากกับพวกเราแล้ว ว่าจะช่วยเหลือพวกเรา เรื่องราวของวันนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน” ตอนที่ชยานีพูดประโยคนี้ออกมา อยู่ๆก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ ชยานีก็รีบหันไปมองด้วยความสงสัย ก็เห็นจิตรไม่ทันระวังจึงกระแทกกับมุมของโซฟา จากนั้นก็ล้มนั่งลงที่โซฟา ใบหน้าซีดเผือด “คุณจิตร คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ชยานีขมวดคิ้ว “ฉะ...ฉันไม่ได้เป็นไรค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคุณนิธานและคุณเฉลิมพลแบบตัวต่อตัว ก็เลยรู้สึกตื่นเต้นค่ะ” เฉลิมพลและนิธานได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ถามอะไร ทำไมจิตรรู้สึกโล่งอกไปนิดหนึ่ง “ชญาภา ฉันเพิ่งนึกออกว่ามีงานนิดหน่อยที่ฉันยังจัดการไม่เสร็จ ฉันไปทำงานก่อนล่ะกันนะ” “โอเคค่ะ” ชญาภาก็กลัวว่าจิตรจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของนิธานและเฉลิมพล จึงรับพยักหน้าตอบรับ แต่ว่าตอนที่จิตรกำลังจะเดินไปถึงที่หน้าประตู ก็ถูกชยานีเรียกไว้ “เอ่อใช่ คุณจิตรค่ะ ตอนแรกคุณบอกว่าหลังจากที่เดินบนพรมแดงเสร็จ เราจะพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของชุดเสื้อผ้า ฉันคิดว่าตอนนี้เราก็สามารถคุยกันได้นะคะ” “คุณคนสวยคะ!” สีหน้าของจิตรซีดเผือดกว่าเดิม “ฉัน......” “เธอ หยุดอยู่ที่นี่แหละ!” น้ำเสียงอันเย็นชาของนิธาน สายตาอันดุดันของเขาสามารถฆ่าคนให้ตายได้เลย ในทันใดนั้นจิตรก็รู้สึกยากลำบากในการที่จะหายใจ ความรู้สึกในห้องนั้นมันเหมือนเถาวัลย์ที่กำลังพันและรัดแน่นจิตรเอาไว้ “เอ่อจิตร งั้นเธอก็อยู่ที่นี่ก็นั่นแหละ”ถึงแม้ชญาภาจะไม่เข้าใจถึงการกระทำที่แท้จริงของนิธานคืออะไร แต่ก็บอกให้เธออยู่ที่นี่ก่อน และตัวของชญาภาเองก็ไม่กล้าถือโทษโกรธนิธาน “ปาลี เรื่องของชุดในวันนี้เธอไม่ต้องไปสนใจจิตรหรอก จิตรไม่ได้เป็นตัวแทนอะไรของฉัน เรื่องราวของวันนี้ทั้งหมด ยังไงแล้วฉันก็ต้องขอบคุณเธอจริงๆ ถ้าหากไม่ได้เธอล่ะก็ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ” “เธอไม่รู้จริงๆเหรอ ว่าต้องทำยังไง แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกว่าเหมือนเธอจะรู้นะว่าจริงๆแล้ว ใครเป็นคนทำกันแน่ จริงไหม” นิธานพูดกลับไปอย่างเย็นชา “ไม่อย่างงั้นเธอก็ลองถามนายหน้าของเธอดูสิ”