ตอนที่ 117 นวีนค้นพบอะไรบางอย่าง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 117 นวีนค้นพบอะไรบางอย่าง
ต๭นที่ 117 นวีนค้นพบอะไรบางอย่าง ชยานีรีบดึงสติตัวเองกลับมา และเก็บความรู้สึกทุกอย่างไว้ภายใน และบอกกับตัวเองว่าตอนนี้เธอไม่ใช่ชยานี แต่เธอคือ ปาลี รีบหันไปมองทางจริยา “คุณแม่คะ!!” ชยานีรีบพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของจริยา สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของจริยา นี่คือความอบอุ่นของครอบครัว ชยานีแทบไม่อยากจะออกจากอ้อมกอด “เธอนี่เป็นเด็กน้อยเสียจริงๆ!” จริยาก็คิดไม่ถึงเหมือนกันชยานีจะกระตือรือร้นขนาดนี้ ถึงขนาดนี้โผล่เข้ากอดเธอด้วยตัวเอง ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นความเศร้าเล็กๆน้อยๆ ตั้งแต่ที่เด็กคนนี้ได้แต่งงานไป น้อยครั้งมากที่เธอจะกลับมาที่บ้าน แต่จริยาก็ไม่ทำให้เธอลำบากใจ ในช่วงไม่กี่ปีนี้จึงเก็บความรู้สึก อารมณ์และอดทนอยู่ในตระกูลมะเด็ง เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่เธอได้ก้าวออกมา ไม่คิดเลยว่าจะได้ออกมาใช้ชีวิตแบบนี้กับลูกสาว จริยาอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอๆที่ดวงตา และกอดลูกสาวไว้แน่นกว่าเดิม “เด็กดีของแม่!” “แม่คะ หนูคิดถึงแม่จังเลยค่ะ!” ชยานีเอาหัวของตัวเองซุกไปบนไหล่ของจริยา รู้สึกเหมือนว่าจริยาจะอ้วนจากแต่ก่อนแล้วนิดหนึ่ง และร่างกายก็ดูแข็งแรกกว่าเดิมเยอะเลย “แม่คะ ช่วงนี้ร่างกายของแม่ดีขึ้นแล้วหรือยังคะ เป็นเพราะลูกคนนี้อกตัญญู เป็นเวลานานที่ไม่ได้แวะมาดูแม่เลย” “ยัยเด็กน้อย พูดอะไรแบบนั้นออกมา แม่รู้ว่าหนูงานยุ่งมากขนาดไหน แต่ก่อนหนูทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่เก็บตัว ตอนนี้หนูก็เติบโตแล้วไม่ใช่น้อยเลย แล้วแม่จะไปเป็นตัวถ่วงลูกได้อย่างไร อีกอย่างคุณท่านบวรวิชญ์ก็ได้จัดเตรียมคนมาดูแลแม่อย่างดี ทุกวันนี้แม่ก็แค่กินๆนอนๆ อะไรก็ไม่ต้องทำ รู้สึกเหมือนกำลังจะกลายเป็นคนที่เสียคนแล้ว” คำพูดนี้ของจริยาไม่มีความหลอกลวงชยานีเลยแม่แต่น้อย ชยานีเองก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยอะไร ที่สำคัญที่สุดก็คือ สีหน้าของจริยาดูดีขึ้นมาเยอะมากเลย “ไม่ต้องยืนอยู่ข้างนอกแล้ว รีบเข้ามาเถอะ ลูกคงหิวแล้วสินะ แม่ทำกับข้าวที่ลูกชอบกินเยอะแยะเลย รีบเข้ามาๆ” จริยาลากแขนของชยานีเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร และยังลากเก้าอี้ให้กับชยานี้ด้วยหัวใจ ชยานีซาบซึ้งใจจนถึงที่สุด “แม่คะ เรื่องแบบนี้ให้หนูทำเองก็ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องทำให้หนูขนาดนี้หรอก” อย่างน้อยๆจริยาก็คือผู้ใหญ่มากแล้ว ถึงแม้ไม่ใช่แม่แท้ๆของชยานี แต่จริยาก็ดีกับเธอเหลือเกิน จนชยานีอดคิดไม่ได้ที่จะคิดว่าจริยาคือแม่แท้ๆของตัวเอง “โถ่ลูก นี่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ตอนนี้แม่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะยังพอทำอะไรได้บ้าง ก็แค่ลากเก้าอี้ มันก็ไม่ใช่อะไรมากมายขนาดนั้น รีบเถอะจ่ะ ” จริยาดูท่าทางมีความสุขมากเหลือเกิน เธอสาละวนอยู่กับการเตรียมอาหารในห้องครัว ชยานีพยายามเดินเพื่อจะไปช่วยเหลือ แต่ก็โดนปฏิเสธในทุกๆครั้ง ชยานีมองเห็นภาพของจริยาที่กำลังว้าวุ่นอยู่กับการเตรียมอาหารอยู่ในครัว เธออยู่อยู่หน้าประตูมองจริยาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ในทันใดนั้นดวงตากลมๆของเธอ ก็ชื้นไปด้วยน้ำตา จริยายุ่งจนมือแทบจะพันกัน ไม่นานอาหารทุกอย่างก็ถูกจัดวางไว้บนโต๊ะ ชยานีมองอาหารบนโต๊ะ นี่เป็นมื้ออาหารที่เรียบง่ายที่สุดตั้งแต่ที่เธอเคยทานมาเลย แต่ก่อนนั้นชยานีอยู่ที่บ้านคำล้อมถึงแม้จะเป็นเด็กที่ถูกนำมาเลี้ยง แต่ที่บ้านคำล้อมก็ไม่เคยปฏิบัติกับเธออย่างโหดร้ายเลย จากนั้นเธอก็ได้มาอยู่ที่ตระกูลภูลพิพัฒน์ ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยชอบเธอ แต่พวกเขาก็ไม่ถึงกับดูถูกเธอ เพราะฉะนั้นมื้ออาหารทุกมื้อต่างเป็นมืออาหารที่ดีเยี่ยมยอด จริยาบอกว่าทั้งหมดนี้คืออาหารที่เธอชอบกินเหมือนเป็นอาหารที่จริยากับปาลีกินด้วยกันเมื่อแต่ก่อน ที่สามารถทำได้ดีที่สุดในสภาพที่เธอเป็นอยู่ตอนนั้น ผัดมะเขือม่วง ผัดมันฝรั่งเส้น อาหารสองอย่างนี้ในห้วงความทรงจำของชยานีจำได้ ว่าปาลีชอบกินมากที่สุด แต่ตอนนี้จริยาได้อาศัยอยู่ในบ้านพักตากอากาศส่วนตัวของนิธาน อยากจะหาส่วนผสมดีๆก็คงไม่ยาก ดังนั้นที่โต๊ะอาหารจึงมีปลา มีเนื้อวัว และอีกมากมาย เมื่อมองแล้วก็รู้สึกว่าเป็นมื้ออาหารที่อุดมสมบรูณ์มากๆเลยทีเดียว เมื่อชยานี้ได้มองดวงตาของเธอก็เริ่มแดงก่ำ “แม่คะ จริงๆแล้วเรากินข้าวด้วยกันแค่สองคน อาหารไม่จำเป็นต้องเยอะขนาดนี้ก็ได้นะคะ” “ใครบอกลูกว่าเรากินกันแค่สองคนล่ะจ้ะ และยังมีคุณป้าพยาบาลอีกนะ” จริยาพูดออกมา จากนั้นก็รีบเรียกพยาบาลมารับประทานอาหารด้วยกัน พยาบาลทั้งสองคนนี้เป็นคนที่นิธานเชิญให้มาดูแลจริยาเป็นพิเศษ แต่เป็นเพราะว่าชยานีเอาแต่สนใจจริยา จึงทำให้ลืมเธอทั้งสองไปเสียหมด “จริงด้วยค่ะ คุณป้าทั้งสองคะ มารับประทานอาหารด้วยกันนะคะ!” ชยานีหันตัวไปทางห้องรับแขก และเอ่บปากเรียกเธอทั้งสองมารับประทานอาหารด้วยกัน ทั้งสองคนเหลือบไปมอง และรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป “เอ่อ คุณผู้หญิงคะ ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ คุณแม่ของคุณ รู้ว่าคุณจะมาในวันนี้จึงตัดสินใจทำอาหารด้วยตัวเธอเอง เห็นได้อย่างชัดเจนเลยนะคะ ว่าคุณแม่ของคุณนั้นคิดถึงคุณมากๆเลยค่ะ อย่าให้พวกเราทั้งสองคนเข้าไปจัดขวางรบกวนพวกคุณเลยนะคะ” ชยานียิ้มและส่ายหัวไปมา “ไม่ต้องทำตัวเป็นทางการขนาดนั้นด็ได้ เธอทั้งสองได้ช่วยกันดูแลคุณแม่เป็นอย่างดีมาเป็นเวลานาน ดูสิ กับข้าวเยอะขนาดนี้จะทานกินหมดได้อย่างไร มาเถอะ มากินด้วยกันนะคะ” ชยานีกลับไม่สนใจ เพราะสำหรับเธอแล้วไม่มีใครที่มีฐานะอยู่สูงกว่าใคร แต่ว่าพยาบาลทั้งสองกลับไม่คิดเช่นนั้น พวกเธออาจจะถูกเรียกอย่างให้เกียรติว่าเป็นนางพยาบาล แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเธอก็คือคนที่ถูกจ้างมา โดยเฉพาะในตระกูลภูลพิพัฒน์ที่สูงส่งแบบนี้ กลัวว่าถ้าหากทำอะไรผิดพลาดไปจะกระทบการทำงานระยะยาวของเธอ “ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ คุณผู้หญิง !” “ฉันบอกว่าให้พวกเธอมานั่งลงด้วยกันเดี๋ยวนี้ เพราะปกติแล้วฉันไม่มีเวลาที่จะมาดูแลแม่ของฉันเลย ทั้งหมดก็คือพวกเธอที่คอยดูแลแม่แทนฉัน หรือปกติแล้วเวลาที่พวกเธออยู่กับแม่ของฉัน พวกเธอก็ทำแบบนี้งั้นเหรอ” ชยานีเริ่มมีท่าทีโกรธและไม่พอใจเล็กน้อย พยาบาลทั้งสองเริ่มมองหน้ากันและกัน ว่าควรจะทำอย่างไรดี จริยาเห็นอย่างนั้นจึงส่ายหน้า “มาเถอะมา มานั่งด้วยกัน ก็ทำตัวตามปกตินั่นแหละ ฉันกับลูกสาวของฉันก็ไม่ใช่คนนอกอะไร” เมื่อทั้งชยานีและจริยาเอ่ยปากเช่นกัน ทั้งสองคนจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงเริ่มขยับและนั่งลงตามคำสั่ง เมื่อเห็นภาพแบบนั้นจริยาจึงยิ้มออกมา “กินกันเถอะ!” อาหารมื้อนี้ถูกจัดการอย่างเรียบร้อยด้วยความร่วมมือของคนสี่คน หลังจากนั้นคุณพยาบาลจึงไปล้างจานให้ และชยานีจึงดึงมือของจริยาให้มานั่งพักที่ห้องรับแขก “แม่คะ รอบหน้าแม่ไม่ต้องทำอาหารแบบนี้แล้วนะคะ” เธอไม่อยากกินอะไรขนาดนั้น และยังจะให้จริยามาทำอาหารให้เธอกิน แต่ในความเป็นจริงชยานีเป็นห่วงจริยามากกว่า “แม่คะ ร่างกายของแม่ตอนนี้ยังไม่ได้กลับมาเป็นปกติดีทุกอย่าง เรื่องพวกนี้แม่พยายามไม่ทำได้ไหมคะ” “เฮ๊อ!” จริยารู้ดีว่าชยานีนั้นเป็นห่วงตัวเอง จึงทำเป็นรับปากเธอ “ปาลีเอ๋ย แม่คงคิดน้อยเกินไปเอง ส่วนตัวหนูเองนะลูกตอนนี้ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน แต่ก็ต้องกินข้าวให้ตรงเวลา นอนให้ตรงเวลา เอ่อใช่ ถึงแม้ว่าลูกจะทำงานแล้ว แต่การจัดการดูแลคนในครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญนะ คุณท่านบวรวิชญ์เป็นคนดีมากๆ หนูจะต้องทำดีกับท่านให้มากๆนะลูก” จริยากลัวว่าลูกสาวของตัวเองจะไม่รู้ภาษา และจะกระทบความรู้สึกของทั้งสอง จึงพยายามพูดจาแบบไว้หน้าชยานีให้มากที่สุด ถึงแม้ชยานีคิดว่าเรื่องๆนี้มันจะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรมากมาย แต่เมื่อเห็นจริยาพูดออกมาตัวท่าทางที่จริงจัง เธอจึงอดไม่ได้ที่จะรับปากและไม่ปฏิเสธใดๆ “โอเคค่ะแม่ หนูรู้แล้วค่ะ!” “เฮ๊อ!” จริยาจ้องมองชยานี “เรื่องระหว่างลูกกับคุณท่านบวรวิชญ์ แม่รู้ แม่เข้าใจ แต่ท่านก็ดีกับหนูมากๆ หนูควรจะตอบแทบเขาบ้าง เรื่องราวแต่ก่อนนั้น.........ลืมมันไปเถอะนะลูก” “หนูรู้แล้วคะแม่!” ในค่ำคืนนี้ ชยานีก็อยู่ข้างกายของจริยา จริยาได้พูดสอนชยานีมากมาย อยู่ที่ฝั่งบ้านพักตากอากาศจนลืมดูเวลาไปเลย ตอนนี้ก็สามทุ่มกว่าๆแล้ว ชยานีหยิบโทรศัพท์ออกมา คิดไม่ถึงว่านิธานจะต่อสายโทรหาเธอพอดี และโทรแบบไม่เลิกสายอีกด้วย ชยานีรับสายโทรศัพท์ น้ำเสียงจากอีกฝั่งของสายช่างดุดันเหลือเกิน “อยู่ที่ไหน” นิธานไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ทำให้คนฟังรู้สึกไม่สบายใจ ชยานีขมวดคิ้ว “ฉันอยู่กับแม่ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฝั่งทางนั้นเงียบไปสักครู่หนึ่ง “จะไม่กลับมาเหรอ” ชยานีไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่รู้ว่าควรจะสื่อสารอย่างไรกับนิธานดี เธอจำได้ว่าก่อนหน้านั้นเธอได้พูดกับนิธาน เรื่องของเราทั้งสองไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องเลิกกัน แต่นิธานกลับทำแบบนี้ทุกๆวัน มันดูเหมือนจะไม่อยากจบกับเธอเลยจริงๆ “ปาลี ถ้าวันนี้เธอจะไม่กลับบ้านก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยๆ เธอก็ควรโทรบอกกันบ้าง เธอไม่รู้เหรอว่าคนทั้งตระกูลภูลพิพัฒน์รอเธอกินข้าว” น้ำเสียงของนิธานมีความเข้มมากกว่าเดิม ชยานีขมวดคิ้ว “ฉันลืมไปค่ะ รอบหน้าฉันจะระวังให้มากกว่านี้” ก่อนหน้านั้นไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ไม่ค่อยมีวินัยสักเท่าไหร่ และเธอจะไม่ค่อยรายงานอะไรกับคนแปลกหน้าสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เมื่อเธอได้ยินเสียงของนิธาน คงจะมีคนกระตุ้นเขามาอีกที ทางฝั่งด้านนั้น นิธานได้ยืนสูบบุหรี่อยู่ “อื้ม แล้วเธอจะกลับมาเมื่อไหร่” เพิ่งจะถามว่า “จะไม่กลับมาเหรอ” ตอนนี้ดันกลับคำและถามว่า “แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่” พูดจริงๆ บางครั้งชยานีไม่สามารถทนกับการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของนิธานได้ มันเปลี่ยนเร็วยิ่งกว่าอารมณ์ของผู้หญิง “ตอนนี้กำลังกลับแล้วค่ะ อยู่กลางทางอยู่ค่ะ!” “อื้ม งั้นฉันรอเธอกลับมา!” น้ำเสียงอันลุ่มลึกของนิธาน ชยานียังไม่ทันจะพูดอะไร นิธานก็ได้ตัดบทสนทนาดว้ยการตัดสายของเธอทิ้ง ปล่อยให้ชยานีมึนงงกับเสียงปลายสายที่ดัง ตูด ตูด ตูด “ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณมารอฉันเลยนะ! ” แต่ว่าการที่เธอกลับบ้านดึกๆแล้วมีความมาคอยเป็นห่วงว่าจริงๆแล้ว เธอจะกลับหรือไม่กลับบ้าน มันก็เป็นความรู้สึกที่ไม่เลวเหมือนกันนะ ชยานีขับรถมาถึงในบริเวณนอกเขตพื้นที่ของบ้านตระกูลภูลพิพัฒน์อยู่ๆก็มีร่างเงาๆหนึ่งมาขวางทางเธอไว้ โชคดีที่ชยานีเบรกรถไว้ทัน และโชคดีที่เธอขับรถมาอย่างช้าๆ ไม่อย่างนั้นก็คงชนคนตรงหน้าไปแล้ว จริงๆแล้วชยานีตกใจมากๆ เปิดกระจกรถลง ใบหน้าซีดเผือดและพยายามจ้องมองออกไปที่คนที่อยู่นอกรถ “คุณทำอะไรของคุณคะเนี่ย” ชยานีพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีสุดๆ คนๆนั้นนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นฝีเท้าอันใหญ่ของเขาก็ก้าวเข้ามา ทำให้ชยานีไม่ทันได้ตั้งตัวเขาก็ลากเธอลงมาจากรถ “นวีน ดึกดื่นขนาดนี้นายมาทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ” เธอหันไปพูดกับนวีนแต่เขากลับไม่ปล่อยเธอไป และยิ่งใช้แรงบีบแขนของเธอให้หนักมากกว่าเดิม และใช้แรงมหาศาลในการลากชยานีมาที่นอกเขตของบ้านตระกูลภูลพิพัฒน์ ชยานีไม่สามารถขัดขืนแรงของนวีนได้ ทำให้เธอสะดุดทุกสิ่ง และถูกลากไปแรงของนวีน สุดท้ายเธอถูกทิ้งลงให้ติดกับผนัง หลังของชยานีกระแทกกับกำแพง ได้ยินแต่เสียงกระแทกเท่านั้น ชยานีเจ็บจนสีหน้าของเธอเปลี่ยนไป ในใจอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา และจ้องมองนวีนด้วยความโกรธ แต่นวีนกลับโน้มตัวลง มือหนึ่งจับที่แขนของชยานีไว้ไม่ให้เธอหนีไปไหนและอีกมือหนึ่งก็จับไว้ที่คางของเธอ ดึงหน้าของเธอให้มามองเขา ชยานีมองเขาด้วยความโกรธจนถึงที่สุด แววตาลุกเป็นไฟ ถ้าเป็นปกติเขาคงปล่อยเธอไปแล้ว แต่ในตอนนี้เขากลับไม่ทำอย่างนั้น “เธอเป็นใครกันแน่!” ใบหน้าของชยานีซีดเผือด เห็นดวงตาสีดำของนวีน ทำให้ใจของชานีเต้นแรงไม่หยุด แย่แล้ว! หรือว่านวีนจะค้นพบอะไรบางอย่าง ถ้าไม่อย่างงั้นนวีนจะมาถามเธอด้วยคำถามเช่นนี้ทำไม แต่ชยานียังคงยืนยันและมั่นใจว่าตัวเธอเองกับนวีนในช่วงนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกัน “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรของคุณ! ฉันเป็นใครคุณยังไม่รู้อย่างชัดเจนอีกเหรอ!”
已经是最新一章了
加载中