ตอนที่20 คู่ต่อสู้อันดับที่สอง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่20 คู่ต่อสู้อันดับที่สอง
ตอนที่20 คู่ต่อสู้อันดับที่สอง “ไม่ใช่แค่พยายาม แต่ต้องให้ได้ด้วย ลูกเข้าไปอยู่ในบ้านธวลิตก็เพราะอยากจะช่วยแม่นี่ ลูกก็ต้องช่วยให้ได้สิ…”คนปลายสายนั้นยังคงพูดต่อเนื่อง ดารุวางสายลงอยากหมดความอดทน ที่แม่พูดน่ะไม่ผิดหรอก เธอเข้ามาในบ้านของธวลิตก็เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายนั้นให้ได้ ธวลิตก็กลับมาแล้ว ตอนนี้เธอควรจะไปพูดกับเขาเลยดีไหม นอกหน้าต่างนั้นไม่ปรากฏเงาของธวลิตอีกแล้ว เขาน่าจะว่ายน้ำจนเหนื่อย คงกลับไปที่ห้องแล้วล่ะ ดูเวลาก็ใกล้จะเที่ยงคืนแล้วเสียด้วย เขาจะนอนหรือยังนะ น้าธารีเคยบอกไว้ว่า เขาอยู่ห้องแรกตรงไปทางขวามือ ลองไปดูดีกว่า ประตูบานสีชมพูถูกเปิดออกเป็นช่องแคบเล็กๆ ทำให้แสงไฟอ่อนสลัวส่องสว่างทะลุไปยังทางเดิน ดารุค่อยๆกวาดสายตามอง เสียงที่กระทบลงบนพื้นพรมนำมาซึ่งเสียงฟุบๆเบาบางบนทางเดิน และยังมีเสียงตึกๆที่ย่ำอยู่บนทางเดินซึ่งหนักกว่า มีคนสองคนกำลังมุ่งหน้าขึ้นมาแล้ว ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เงาร่างของธวลิตก็พลันปรากฏเข้ามาในสายตา เขาพันผ้าขนหนูผืนหนึ่งไว้รอบเอวอย่างสบายๆ เผยให้เห็นร่างกายท่อนบนที่เป็นกล้ามเนื้อกำยำ มือข้างหนึ่งถือผ้าเช็ดหน้า กำลังเช็ดผมดำสนิทที่เปียกโชกอยู่ หลังจากนั้นจึงสะบัดผมด้วยท่วงท่าที่หล่อเหลาเอาการ มือขวาที่ว่างอยู่ของเขานั้นเปิดประตูออก เขาจะเข้าไปในห้องแล้ว ดารุก้าวขาออกมาหนึ่งก้าว เธออยากจะเรียกให้เขาหยุดอยู่ตรงทางเดินนี้ “คุณหนูคะ”ยังไม่ทันที่เธอจะก้าวพ้นจากประตู ร่างอ้วนท้วมของน้าณิชก็โผล่มาจากมุมหนึ่งอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว พลันปรากฏเป็นรูปร่างยาวรีที่มีแต่ศีรษะทว่าไม่มีคอให้เห็นเลย ร่างท้วมย้ายตำแหน่งจากฝั่งเธอพลางมุ่งตรงไป สุดท้ายจึงหยุดนิ่งเป็นรูปปั้นที่ทำท่าค้อมศีรษะลงต่ำอย่างเคารพ และยืนอยู่เบื้องหน้าธวลิต ดารุถอยฝีเท้ากลับมายาวๆ ธวลิตกับน้าณิชกำลังคุยอะไรกันสักอย่างอยู่ เขายื่นมือเปล่าออกมารับของที่อยู่ในมือของน้าณิชไป หลังจากนั้นเขาก็หมุนตัวมุ่งหน้าไปยังห้องแรกสุดทางฝั่งซ้ายมือ รูปร่างใหญ่โตของน้าณิชราวกับเป็นวิญญาณก็ไม่ปาน หล่อนถอยหลังกลับไปอย่างเงียบเชียบไร้เสียง ห้องห้องนั้นเธอได้เข้าไปทำความสะอาดมาแล้ว มันเป็นห้องหนังสือของธวลิตเอง ดึกป่านนี้แล้วเขายังจะเข้าไปทำอะไรในห้องหนังสืออีกกัน แล้วตัวเธอเองควรจะเข้าไปยุ่งดีไหมนะ “บริษัทพ่อแกอีกไม่นานก็กอบกู้ไว้ไม่อยู่แล้ว ภายในสามวันถ้ายังหาเงินมาสำรองไว้ไม่ได้ก็คงต้อง…ล้มละลายแล้วล่ะ”เสียงของแม่ดังขึ้นข้างหูอีกครั้ง ยิ่งธวลิตมักจะมาๆหายๆอยู่แบบนี้ด้วย ดูเหมือนว่าวันนี้เธอคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เธอเคาะประตูเบาๆ จิตใจของดารุพลันสงบลงได้ ในเมื่อมาแล้ว จะคุยด้วยดีๆก็แล้วกัน เธอมีนิสัยแบบนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ปัญหามาอยู่ตรงหน้า เธอจะเปลี่ยนเป็นสงบลงได้ไม่เหมือนกับตอนที่เป็นปกติ หลังจากที่ได้จัดแจงเสื้อผ้าบนร่างแล้ว เธอก็เกลี่ยเส้นผมบางส่วนไว้ด้านข้าง พลันเสียงจากภายในประตูก็ดังขึ้นอย่างเย็นเฉียบ“เข้ามาสิ ประตูไม่ได้ล็อก” เธอเปิดประตูบานออกพลันเริ่มสำรวจจากมุมแคบภายในห้องเรื่อยมา ห้องหนังสือนี้ขนาดไม่ได้เล็กแต่พื้นที่ส่วนมากได้ถูกชั้นวางที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือนั้นจับจองพื้นที่ไปแล้ว หนังสือตรงโน้นน่าจะมีสักพันเล่มขึ้นไปได้เชียวล่ะ เธอสงสัยอยู่บ่อยๆเหมือนกันว่าธวลิตจะได้เปิดพวกมันอ่านบ้างหรือไม่นะ สายตาที่มุ่งร้ายทั้งสองข้างของเขายิงตรงมาที่เธอ หัวใจของดารุเต้นระรัวชนกันไปมาอย่างประหม่าเบื้องหลังโน้ตบุ๊คเครื่องหนึ่งที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานตรงข้ามกันนี้ เธอก็เจอเข้ากับธวลิตจนได้ เขากำลังใช้สายตาสำรวจนั้นเพ่งมองมายังเธอ ดวงตาสีดำราวกับยามค่ำคืนนั้นสั่นไหวอยู่วูบหนึ่ง พลันเหยียดยิ้มเป็นแนวยาวแสดงอารมณ์ที่ชัดเจนเพียงอย่างเดียวซึ่งนั่นก็คือ อารมณ์ดูถูก! บนโน้ตบุ๊คของเขามีอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งมันเป็นเสียงทุ้มต่ำพูดคุยกันเหมือนกับเป็นบทสนทนาในทีวี “คุณ…เรื่องลงทุนของพ่อฉันน่ะ คุณพอจะช่วย…”เมื่อคิดดูแล้ว ดารุก็รวบรวมความกล้าถามออกไป “ไม่ได้!”แม้แต่จะคิดดูสักนิดก็ไม่มี เขาปฏิเสธได้อย่างราบเรียบและไม่มองเธออีกเลย ตาของเขาเพ่งความสนใจไปที่หน้าจอโน้ตบุ๊คเสียแทน ดารุรู้สึกโกรธขึ้นมา เขาเป็นถึงประธานบริษัทแก้วรุ่งกรุ๊ปที่น่ายำเกรงเชียวนะ จะมาไม่รักษาคำพูดแบบนี้ได้อย่างไรกัน “นายธวลิต!” เธอเรียกเขาแบบนี้เป็นครั้งแรก และน้ำเสียงนั้นก็ผสมปนเปไปกับความเย็นชาด้วย
已经是最新一章了
加载中