บทที่34 ปาร์ตี้แอลกอฮอล์นี้มาตรฐานสูงจัง   1/    
已经是第一章了
บทที่34 ปาร์ตี้แอลกอฮอล์นี้มาตรฐานสูงจัง
บ๗ที่34 ปาร์ตี้แอลกอฮอล์นี้มาตรฐานสูงจัง ประธานมู่จึงเปิดขวดน้ำเก็บความร้อนที่ถือมาออก ในขวดนั้นคือโจ๊กเห็ดหูหนูขาวที่หวานหอมกับเม็ดข้าวที่อ่อนนุ่ม ส่งกลิ่นหอมอบอวลมาก จนผู้ช่วยจางได้กลิ่นจึงพูดว่า:“อันนี้คุณถังให้มาครับ เขาบอกว่าให้เป็นของขวัญขอบคุณประธานมู่” “ให้โจ๊กเห็ดหูหนูขาวนี่จะใกล้ชิดสามัญชนขนาดไหนเนี่ย?”มู่เฉินหน่วนมองขวดน้ำเก็บความร้อนสีชมพูนั่น อดไม่ไหวจึงยิ้มออกมา หยิบแก้วกาแฟที่ดื่มหมดแล้วออกมา แล้วจึงเทโจ๊กเห็ดหูหนูขาวลงไป พอกินเข้าไปหนึ่งคำรู้สึกถึงความหวานและอุ่นของโจ๊ก “ประธานมู่ โจ๊กนี้หวานเกินไป ไม่เหมาะกับท่านนะครับ” ผู้ช่วยจางได้กลิ่นนั้นก็ทนไม่ไหว“เดี๋ยวผมทานแทนแล้วสั่งอาหารขึ้นมาให้ท่านดีไหมครับ” มู่เฉินหย่วนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา:“ไม่ต้อง ออกไปทำธุระเถอะ” “......” สี่โมงกว่าผู้ช่วยจางลงไปที่แผนกล่าม คืนขวดน้ำที่ล้างสะอาดแล้วให้ถังซิน:“คุณถัง ผมเอาขวดมาคืนครับ” “ผู้ช่วยจางเรียกฉันขึ้นไปเอาเองก็ได้นะคะ”ถังซินยิ้มตอบ“ไม่จำเป็นต้องลงมาเองเลยค่ะ” “ฉันต้องลงไปเอาของพอดีน่ะ”ผู้ช่วยจางตอบอย่างเกรงใจ ตอนก่อนจะไป รู้สึกลังเลนิดหน่อย สุดท้ายจึงถามถังซินว่า“คุณถัง รอบหน้าเตรียมเผื่อผมอีกชุดหนึ่งด้วยได้ไหม?” “ท่านก็ชอบทางหวานเหรอคะ?”ถังซินคิดว่าของหวานเลี่ยนแบบนี้ ผู้ช่วยจางน่าจะไม่ชอบ“ได้สิคะ รอบหน้าถ้าแม่ฉันต้มอีก จะเอามาเผื่ออีกขวดหนึ่งค่ะ” ผู้ช่วยจางชมกลับ:“แม่คุณทำอาหารเก่งมากครับ” “แม่ฉันแต่ก่อนช่วยคนทำอาหารค่ะ” “ไม่น่าล่ะ” และก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งสองต่างพูดคุยกันต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งคุยยิ่งรู้สึกเข้ากันได้ ถังซินพบว่าภายนอกผู้ช่วยจางให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนเย็นชา ยิ่งทำงานเป็นผู้ช่วยก็ดูเป็นคนถือตัว แต่ที่จริงแล้วเป็นผู้ชายอบอุ่น ในบ้านเลี้ยงแมวหนึ่งตัว กับหมาพันธุ์อัลเซเชียนหนึ่งตัว พูดต่อไปเรื่อยๆตนถังซินถามผู้ช่วยจางอย่างระมัดระวังว่า:“ประธานมู่ช่วงนี้เข้าบริษัทบ่อย ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมคะ?” “ไม่มีอะไร คุณถังแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอแล้วครับ”ผู้ช่วยจางรู้ว่าหล่อนถามถึงปัญหาของบริษัทอย่างเลี่ยงๆ “มีปัญหาอะไรด้านบนก็จะจัดการเองครับ ไม่กระทบต่อพวกคุณแน่นอน” ถังซินจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ แต่ก็จริง ถ้าบริษัทมีปัญหา ก็เป็นเรื่องของพวกระดับสูง ไม่เกี่ยวกับพวกหล่อนซะหน่อย เข้าวันเสาร์ ถังซินไปที่สำนักงานเขต หลังจากรอสักพัก ถังซินก็ได้บัตรแต่งงาน 2 เล่มที่ถูกปั๊มลงไปว่าไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไป ในใจรู้สึกผ่อนคลาย แค่ก็รู้สึกใจหายนิดหน่อย เคยคิดว่าจะใช้ชีวิตแต่งงานไปจนแก่ ที่ไหนได้ผ่านไปแค่ปีเดียวเอง ถังซินใจหายไม่ถึงนาที ก็รีบไปซื้อของสดที่ห้าง ด้วยความอารมณ์ดีจึงซื้อแจกันดอกไม้สองสามอันกลับไปปลูกด้วย ระหว่างกลับเห็นบุรุษไปรษณีย์มาส่งพัสดุพอดี หลังจากถังซินเอาปูม้าตัวใหญ่เข้าครัวจัดการเรียบร้อยแล้ว จึงออกมาแกะกล่องพัสดุอันใหญ่ เขาแกะกระดาษห่อบางๆออก พบว่าด้านในคือชุดเดรสยาวสีแชมเปญดูแพรวพราวเข้ารูปเรียบร้อยหนึ่งชุด ถังซินรู้สึกหายใจไม่ค่อยคล่อง สองสามเดือนก่อนเขามีโอกาสเข้าร่วมงานช่วงแรกแย้มฤดูใบไม้ผลิของงาน VALENTINO จึงเคยเห็นเดรสนี้จากบนเวที ตอนนั้นจ้องไปแต่ที่นางแบบ ยังพูดอยู่เลยว่าสวยมากจริงๆ แต่ราคาสูงลิบลิ่วเลยทีเดียว ใครจะไปคิดว่า ในที่สุดตอนนี้ก็มีชุดเดรสนั้นมาครอบครองแล้ว “บริษัทใหม่ให้ข้อเสนอหลิงเอ๋อดีขนาดนี้เลยเหรอ?พรีเซ็นเตอร์ของVALENTINOก็ยังเอามาได้เหรอ?”ถังซินบ่นพึมพำพร้อมดูป้ายสัญลักษณ์บนกล่อง ภายในใจยังรู้สึกแปลกใจ แต่ก่อนหลินเฉิงจี๋ก็ชอบส่งพวกของราคาสูงๆกับกระเป๋าของแบรนด์VALENTINOมาให้ คล้ายกับว่าจะอะไรกับแบรนด์นี้มากเกินไปละ คงไม่ใช่หลินเฉิงจี๋ส่งมานะ ? แปปนึง ถังซินก็หยุดความคิดนี้ลง เขายังไม่เคยแนะนำคนในครอบครัวให้หลินเฉิงจี๋รู้จักสักหน่อย และหลินเฉิงจี๋เองก็คงไม่รู้จักน้องสาวทึ่มๆของเขาหล่อน เขาคงจะคิดมากไปจริงๆ ตอนกลางวันถังซินเลยกินอะไรไปนิดหน่อย คฤหาสน์เย่นซานหากจากตัวเมืองไกลนิดหนึ่ง ถังซินต้องหาคนมาช่วยแต่งตัวอีก ช่วงบ่ายพักอยู่ในบ้านได้แปปนึงก็ต้องออกไปแล้ว ไปแต่งตัวที่ห้องแต่งตัวเสร็จออกมาก็สี่โมงเย็นแล้ว กวนหลิงเอ๋อส่งข้อความมาบอกว่า เขามีฉากที่ต้องถ่ายเพิ่ม ให้ถังซินไปที่คฤหาสน์เย่นซานก่อนได้เลย ถังซินที่ไม่มีทางเลือกจึงเรียกรถให้ไปส่งที่นั่นก่อน ถังซินรู้จักคฤหาสน์เย่นซานพอสังเขป ได้ยินว่าเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวที่อยู่บนเขาและรายล้อมไปด้วยน้ำ บรรยากาศดีมาก มักจะถูกพวกคนรวยมีเงินยืมเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ต่างๆ สีท้องฟ้าค่อยๆมืดลง แท็กซี่ขับรถขึ้นเขาไกลมาก ถังซินมองไปที่ด้านนอกของคฤหาสน์ รายล้อมไปด้วยรถราคาแพงๆ ส่วนมากมีแต่รุ่นลิมิเตด ทั้งคฤหาสน์เป็นประกายสว่างไสวสวยงาม ราวกับไข่มุกยักษ์เม็ดหนึ่งมี่เรืองแสงในตอนกลางคืน มีพนักงานต้อนรับยืนอยู่เป็นสองแถวทางด้านหน้าประตูทรงโค้งอันใหญ่ ผู้คนที่เดินเข้าไปต่างแต่งตัวอย่างหรูหราสวยงามและดูดีกันทั้งนั้น ลงจากรถมาแค่แปปเดียว ถังซินก็มองเห็นพวกคนดังมีชื่อเสียงเดินเข้าไป ล้วนแล้วแต่เป็นพวกนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมีอิทธิพล รวมไปถึงพวกที่หาเจอยากในนิตยสารเศรษฐกิจและการลงทุน ทำให้เขารู้สึกอึ้งนิดๆ ดูท่างานปาร์ตี้นี้จะใหญ่กว่าที่กวนหลิงเอ๋อพูดไว้ซะแล้วสิ ตอนที่ถังซินเดินไปถึงหน้าประตูทางเข้าก็ถูกเจ้าหน้าที่ต้อนรับหน้างานขวางไว้:“คุณผู้หญิงคะโปรดแสดงบัตรเชิญเข้างานให้ดูหน่อยค่ะ?” ถังซินจึงเอาบาร์โค้ดให้เจ้าหน้าที่สแกน พนักงานต้อนรับมองโทรศัพท์แล้วจึงพูดกับถังซินด้วยน้ำเสียงขอโทษว่า:“ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าถูกเชิญโดยคุณกวนหลิงเอ๋อ ต้องรอคุณกวนมาด้วย คุณถึงจะเข้าไปได้ค่ะ คุณเข้าไปคนเดียวไม่ได้นะคะ” “......” บ้าจริง ! วิธีเข้างานแบบนี้ “อนุโลมให้หน่อยไม่ได้เหรอคะ ดูสิข้างนอกร้อนขนาดนี้”ถังซินพยายามแล้วพยายามอีกพูดต่อว่า:“ให้ฉันเข้าไปนั่งตรงที่พวกคุณมองเห็นก็ได้ โอเคไหมคะ?” “คุณผู้หญิงคะ รอบคฤหาสน์ทั้งสี่ด้านรวมถึงด้านหน้าประตูนี้ ต่างติดเครื่องไล่ความร้อน เพราะฉะนั้นตรงนี้ไม่ร้อนแน่นอนค่ะ” ถังซิน:“......” ถังซินได้ยินเสียงหัวเราะต่ำๆจากด้านหลัง น้ำเสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีทำให้ด้านหลังเขารู้สึกเย็นขึ้นมาทันที “เขาคือเพื่อนผมเองครับ”หลินเฉิงจี๋ที่สวมทักซิโดสีดำเข้ามาใกล้ๆถังซิน น้ำเสียงเขาเหมือนสายลมอ่อนๆที่พัดเข้ามาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มือสองนิ้วที่ถือบัตรเชิญสีทองส่งให้พนักงานต้อนรับ พอพนักงานต้อนรับเห็นบัตรเชิญสีทอง ท่าทางก็เปลี่ยนเป็นเป็นความอ่อนน้อมขึ้นมาทันที “ที่จริงก็คุณหลินนี่เอง ขอให้คืนนี้สนุกกันเต็มที่เลยนะคะ” “ขอบคุณครับ” หลินเฉิงจี๋เอนศีรษะมองถังซินเห็นหล่อนยังยืนรออยู่ที่เดิม ริมฝีปากบางยกขึ้นสูง“มางานปาร์ตี้แอลกอฮอล์กับเพื่อนเหรอ เดี๋ยวผมพาคุณเข้าไปเอง” “ไม่ ไม่ต้อง”ถังซินหลีกเลี่ยงเขาเปรียบเหมือนเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษ แล้วจึงเขยิบออกไปด้านข้างสองสามก้าว แค่ต้องมาเจอกับหลินเฉิงจี๋ เธอก็รู้สึกลำบากใจจะแย่ละ ข้างในใจเอ้อล้นไปด้วยความรู้สึกกลัว “ผมไม่อะไรหรอกน่า แค่อยากพาคุณเข้าไปเท่านั้นเอง” ถังซินปฏิเสธอย่างไม่ใยดี:“ฉันยืนรออยู่ตรงนี้น่ะดีแล้ว อีกแปปนึงคนที่รอก็จะมาถึงแล้ว” “โอเค งั้นผมเข้าไปก่อนละกัน”หลินเฉิงจี๋ไม่ได้บังคับอะไรถังซินอีก แปปนึงก็เดินจากไป พอถึงตรงประตูทางเข้าก็หันกลับมามองผู้หญิงที่อยู่ด้านล่างบันไดอีกรอบหนึ่งพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม สายตาเขาไม่แย่จริงๆ ยินยินสวมชุดเดรสนี้สวยมากจริงๆ หลังจากเห็นหลินเฉิงจี๋เดินเข้าไปในงาน ก็ทำให้เขาอยากออกไปจากคฤหาสน์นี้ทันที แต่ว่ายังไม่ทันเดินออกไป เขาก็นึกถึงกวนหลิงเอ๋อขึ้นมา จึงต้องหยุดความคิดนี้ไปอีกครั้ง บริษัทที่บ้านหลินเฉิงจี๋ในยุโรปนั้นตลาดใหญ่มาก แต่ที่ประเทศ H ไม่ได้ทำธุรกิจอะไร อาจจะเพราะด้วยคงามเกรงใจ ถึงได้มาร่วมงานปาร์ตี้แอลกอฮอล์แบบนี้ก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด กวนหลิงเอ๋อเข้ามาในวงการบรรเทิงไม่ใช่ง่ายๆเลย ตอนนี้ก็ยังไม่มั่นคง ขาดก็แต่ข้อเสนอดีๆกับนักลงทุน งานปาร์ตี้นี้ต้องมีประโยชน์ต่อกวนหลิงเอ๋อทำให้เขาได้ข้อเสนอที่ดีแน่ๆ ใครใช้ให้กวนหลิงเอ๋อมาเป็นน้องแท้ๆล่ะ ถังซินไม่ช่วยก็ไม่ได้ ถังซินรออยู่ที่หน้าประตูไม่นาน แปปนึงก็มีรถตู้ขับเข้ามา ประตูรถเปิดออก กวนหลิงเอ๋อถือของขวัญวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน “อ้าวพี่ ฉันส่งบาร์โค้ดให้พี่แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมพี่ยังมายืนรอโง่ๆอยู่ด้านนอกแบบนี้อีกล่ะ?” “คิดว่าพี่อยากยืนตรงนี้หรือไง?”ถูกน้องสาวด่าว่าโง่ ถังซินจึงถลึงตามองน้องสาวด้วยความโกรธเคือง“เขาบอกว่าเธอเป็นคนถูกเชิญ ถ้าเธอมาถึงแล้วฉันถึงจะเข้าไปได้” กวนหลิงเอ๋อรู้สึกงง:“ใครเขาเข้มงวดขนาดนี้เนี่ย?” “ช่างเถอะ เข้าไปกันเถอะ” ห้องงานเลี้ยงของคฤหาสน์ชั้นหนึ่งเต็มไปด้วยสนามบาสใหญ่ๆห้าสนาม ตกแต่งสไตล์โมร็อกโก ภายในดูสวยงามประกายตา มีความงดงามและสง่า เหล่าคนไฮโซชั้นสูงที่สวมชุดสวยงามกำลังพูดคุยกันอย่างสำราญ ท่ามกลางผู้คนนอกจากคนเอเชียผมดำตาดำ ก็ยังมีคนยุโรปผิวดำ ผิวขาวผมทองเยอะมาก ต่างคนต่างดูสุดยอด ดูจากท่าทางแล้วต่างก็มาพูดคุยเรื่องธุรกิจ เข้ามาในงานได้ไม่ถึงสามนาที ถังซินก็กวาดตามองไปรอบๆห้องงานเลี้ยงไปได้แล้วรอบหนึ่ง ปาร์ตี้แอลกอฮอล์นี้มาตรฐานสูงจัง! กวนหลิงเอ๋อไม่เหมือนถังซินที่ค่อนข้างระมัดระวังตัว คนผ่านไปมาถึงแม้จะรู้จักหรือไม่รู้จัก ก็ทักก่อนด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด ยังไงซะเธอยังมีพี่เขยให้หลังอยู่ ยังไงก็ไม่กลัว! ถังซินถาม:“ผู้กำกับที่เธอพูดถึงอยู่ไหนน่ะ?” “อ้อ?ฉัน ฉันหาแปป......”กวนหลิงเอ๋อเงียบไปแปปนึง ที่จริงเธออ้อนให้ถังซินมาปาร์ตี้กับเธอคือเรื่องแต่ง ตอนนี้คำโกหกสร้างความลำบากให้เธอละ แต่โชคดีที่คนยุโรปที่มาร่วมงานก็เยอะ กวนกลิงเอ๋อมองเห็นผู้ชายคนนึงรู้สึกคุ้นมาก หลังจากนึกขึ้นได้ว่าคือผู้กำกับที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับหนังก็รีบบอก:“พี่ คนนั้นไง!”
已经是最新一章了
加载中