บทที่ 61 ลอบสังหาร   1/    
已经是第一章了
บทที่ 61 ลอบสังหาร
บ๗ที่ 61 ลอบสังหาร "คนอื่นๆยังไม่มาอีกหรือ?" "ยังครับ พวกเขาบอกว่าพบปัญหาบางอย่างระหว่างทาง พวกเขาจึงจะมาถึงคืนนี้" กวนชิงเฟิงเห็นมู่เฉินหย่วนยังคงถือกระเป๋าเดินทาง จึงถามอย่างสงสัยว่า "ประธานมู่จะพักกับผมเหรอครับ?" ไม่ล่ะ เขาไม่ต้องการอยู่ในห้องที่มีผู้ติดตามแม้แต่คนเดียว "อันนี้เพิ่งได้มาจากเพื่อน เลยจะเอามาให้คุณที่นี่" มู่เฉินหย่วนวางกระเป๋าเดินทางไว้บนโต๊ะ แต่ไม่ได้เปิด "ภารกิจของคุณอาจมีการเปลี่ยนแปลง" "แล้วค่าจ้างมีการเปลี่ยนแปลงด้วยไหมครับ?" เห็นได้ชัดว่ามันควรเป็นหัวข้อที่หนักอึ้ง ทันทีที่กวนชิงเฟิงพูดถึงเรื่องเงินมู่เฉินหย่วนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา "ผมไม่คิดว่าคุณเป็นคนจนนะ ทำไมถึงได้คิดถึงแต่เรื่องเงินล่ะ?" "จนสิ พี่สาวของผมเพิ่งหย่าและผมอยากช่วยเธอหาเงิน" กวนชิงเฟิงยักไหล่ เขารู้สึกได้ว่ามีของดีอยู่ในกระเป๋าหนังและเขาต้องการที่จะเปิดดู "ประธานมู่มีเงินเยอะแล้วก็พูดได้สิครับ" มู่เฉินหย่วนอดไม่ได้ที่จะถาม "พี่สาวของคุณทำงานอะไร?" "มันเป็นเรื่องส่วนตัวครับ" กวนชิงเฟิงไม่ตอบ แต่เขาก็ระวัง "ผมเกลียดคนแซ่มู่มากที่สุด ที่ผมยอมคุยกับประธานมู่ก็เพราะเรื่องเงินเท่านั้น" “......” แม้ว่ามู่เฉินหย่วนจะรู้สึกได้ว่ามีอะไรผิดปกติ แต่เมื่อกวนชิงเฟิงไม่อยากพูดเขาก็ไม่ได้ถาม เพียงแค่พูดว่า “เพื่อนที่ผมพามาเป็นคนที่สำคัญมาก เธอจะต้องปลอดภัย” "ในช่วงที่เราพักอยู่ในโรงแรม รบกวนคุณช่วยทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของเธอให้ดี หากมีปัญหาอะไรให้แจ้งกับผู้ช่วยจาง เขาจะช่วยคุณแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ต้องบอกอะไรกับพนักงานในโรงแรม" "ได้ครับ" กวนชิงเฟิงพยักหน้า "คิดค่าจ้างยังไงครับ?" มู่เฉินหย่วนพูดจำนวนหนึ่งออกมา แม้ในใจของกวนชิงเฟิงจะบอกว่า "โกหก" แต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงสงบนิ่ง "ประธานมู่โปรดวางใจ ผมจะรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของพวกคุณ" เวลาหนึ่งทุ่มสามสิบนาที ผู้ช่วยจางก็มาถึง Macedonia Card Palace Park Hyatt พร้อมกับคนอีกสี่คน ผู้ช่วยจางพาคนเหล่านั้นไปสมทบกับกวนชิงเฟิง ในสี่คนนั้นมีเฉินคางและอีกคนหนึ่งซึ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนเดียวกันกับกวนชิงเฟิง พวกเขานับได้ว่าเป็นศิษย์เก่า ทั้งสามคนจึงพูดคุยทำความคุ้นเคยกัน แล้วผู้ช่วยจางก็หิ้วกระเป๋าเดินทางไปตามหาถังซิน มู่เฉินหย่วนมัวแต่จัดการกับเรื่องต่างๆอยู่จึงไม่มีเวลา ผู้ช่วยจางจึงเป็นผู้พาถังซินไปที่ห้องอาหารเพื่อทานอาหารค่ำ เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องอาหาร กวนชิงเฟิงที่เพิ่งจะกินข้าวเสร็จก็เดินผ่านประตู B ออกไปจากที่นั่น ถังซินมองไปที่ชายผิวคล้ำท่ามกลางกลุ่มผู้ชายดังกล่าวแล้วก็ขมวดคิ้ว ทำไมดูคล้ายกับกวนชิงเฟิง? ผู้ช่วยจางถามว่า "มีอะไรหรือครับคุณถัง" "เปล่าค่ะ" ถังซินคิดว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเธอคุยโทรศัพท์กับกวนชิงเฟิง เขายังบอกว่าอยู่ที่โรงเรียนอยู่ลย แล้วเขาจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? นอกจากนี้คนผิวคล้ำก็ไม่ได้มีแค่กวนชิงเฟิงนี่นา หลังจากทานอาหารในห้องอาหารเสร็จแล้ว ผู้ช่วยจางก็กลัวว่าถังซินจะเบื่อ เขาจึงอยากจะพาเธอออกไปข้างนอก แต่มู่เฉินหย่วนโทรตามให้เขาสั่งอาหารใส่กล่องเอาขึ้นไปให้เขาบนห้องพร้อมกับถังซิน เมื่อทั้งสองมาถึงที่ห้องของมู่เฉินหย่วน มู่เฉินหยวนยังคงจัดการกับสิ่งต่างๆอยู่ ริมฝีปากของเขาแห้งเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ดื่มน้ำมาเป็นเวลานานมากแล้ว "ประธานมู่ หยุดพักก่อนเถอะครับ" ผู้ช่วยจางเตือนมู่เฉินหย่วนเสียงดังและวางอาหารไว้บนโต๊ะ "ได้ รอสักครู่" สามนาทีต่อมามู่เฉินหย่วนก็ปิดโน๊ตบุ๊คและลุกขึ้น "ถ้าคุณว่าง คืนนี้ช่วยแปลเอกสารนี้ให้หน่อยนะครับ" มู่เฉินหย่วนส่งเอกสารให้ถังซิน เอกสารมีข้อความแปะอยู่เต็มไปหมด ดูแล้วตาลายมาก ถังซินกวาดตามองข้อความสองสามนั้นแม้จะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แต่เธอก็ยังเห็นว่ามันคือภาษาตุรกี "ประธานมู่ คุณรีบใช้มันไหมคะ?" ถังซินถามเพราะเธอไม่ได้เห็นภาษาตุรกีมานานแล้ว "คำเหล่านี้ดูค่อนข้างสับสน ฉันน่าจะใช้เวลานานในการแปลค่ะ" "คุณแปลพวกมันได้ทั้งหมดไหม?" "น่าจะได้ค่ะ" มู่เฉินหย่วนดูเหมือนจะโล่งใจ “ไม่ต้องรีบ คุณสามารถแปลไปได้เรื่อยๆ ถ้าเสร็จแล้วก็บอกผม” "ค่ะประธานมู่ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อน" ถังซินหยิบเอกสารแผ่นนี้กลับไปที่ห้องของเธอ หลังจากเข้ามาในห้อง เธอก็หยิบสมุดบันทึกและปากกาลงบนโต๊ะแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ อาบน้ำไปพลาง แปลไปพลาง เธอไม่ได้เห็นข้อความประเภทนี้มานานกว่าสามปีแล้ว รวมทั้งความยุ่งเหยิงบนกระดาษ ทำให้เธอต้องแปลคำศัพท์ทีละตัวแล้วค่อยเอามาจัดเรียงบนกระดาษอีกครั้ง หลังจากนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำเป็นเวลานานเธอก็แปลออกมาได้หลายสิบคำ "หืม? ดูเหมือนจะเป็นที่อยู่ใช่มั้ยนะ?" ถังซินพึมพำพลางหยิบโทรศัพท์มาเปิดค้นหาในกูเกิ้ล ทันใดนั้นห้องน้ำก็มืดสนิท เหลือเพียงแต่แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ทำให้เธอรู้สึกหลอน มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก ถังซินเครียดจนมือเท้าเย็นไปหมด เธอรีบปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนมองเห็นตำแหน่งที่แน่ชัดของเธอ และนั่งถือมันเอาไว้เงียบๆอยู่ในอ่างอาบน้ำ ทางเดินนั้นอยู่ภายใต้การดูแลที่เข้มงวดมาก คนคนนี้เปิดประตูเข้ามาได้อย่างไร? ถังซินซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องพลางค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ช่วยจางอย่างรวดเร็วและกดโทรออกโดยใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมหน้าจอเอาไว้ ห้องน้ำมีหน้าต่างกระจกระบายอากาศทำให้พอมีแสงเล็ดลอดเข้ามาได้บ้าง หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งถังซินก็เห็นว่าลูกบิดประตูห้องน้ำถูกบิดและหมุน โทรศัพท์เชื่อมต่อแล้ว แต่ถังซินไม่กล้าส่งเสียง เธอลดระดับเสียงแล้วค่อยๆวางลงบนพื้นด้วยผ้าขนหนู ประตูห้องน้ำถูกดึงเปิดออกอย่างแผ่วเบา เมื่อเห็นเงาร่างๆหนึ่งเดินเข้ามา ถังซินก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายกระหายเลือด ทำให้ความเย็นที่ฝ่าเท้าของเธอเพิ่มขึ้น และเธอก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวไปจากพื้นใกล้ๆกับราวแขวนผ้าเช็ดตัว อีกคนที่เข้ามาเป็นคนตัวใหญ่ ดูแล้วน่าจะสามารถจับเธอได้ด้วยเพียงมือข้างเดียว แล้วเธอจะหนีได้อย่างไร? ถังซินสาปแช่งกวนหลิงเอ๋อร์เป็นครั้งที่แปดสิบสามอยู่ในใจ ถ้ายัยโง่คนนั้นไม่ขโมยกระดุมข้อมือนั่น เธอจะต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ไหม! หลังจากใช้ชีวิตมานานกว่ายี่สิบปี เธอก็ได้สัมผัสกับเหตุการณ์ที่มักจะปรากฏในละครโทรทัศน์เท่านั้น ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจของถังซินเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งด้วยความกลัว เธอเฝ้าดูเงาร่างนั้นเดินเข้ามาในห้องน้ำพลางสอดส่ายสายตามองหาเธอไปทั่ว เขาสูงมาก อย่างน้อยๆก็หนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังหันหลังให้อยู่ ถังซินก็ขยับสิ่งของที่อยู่ในมือไปกระแทกกับเงาร่างนั้น แล้ววิ่งออกไปในทิศทางที่มีแสงสว่างอยู่ด้านนอก ผ้าม่านที่ระเบียงด้านนอกไม่ได้ปิด ทำให้มีแสงจันทร์ส่องสว่างเข้ามาในห้องพัก ถังซินวิ่งหลบโต๊ะและเก้าอี้พุ่งไปที่ประตู เมื่อเธอกำลังจะเอื้อมมือจับลูกบิดประตู ผมของเธอถูกกระชากอย่างแรงจากทางด้านหลังและแขนข้างหนึ่งล็อคติดอยู่ที่ลำคอของเธอ ถังซินกำลังดิ้นรนด้วยความรู้สึกหายใจไม่ออก ส่วนอีกคนตัวสูงเกินไปจนเธอไม่สามารถข่วนใบหน้าของเขาได้เลย และแขนที่ล็อคติดอยู่กับลำคอของเธอก็ไม่สามารถสลัดให้หลุดได้ ช่วยด้วย! ถังซินเป็นเหมือนปลาที่กระโดดขึ้นไปบนชายฝั่งแล้วสัมผัสกับแสงแดด เต็มไปด้วยความกลัวและความสิ้นหวัง สติสัมปชัญญะค่อยๆรางเลือนไปทีละน้อย ทันใดนั้น ประตูก็ถูกถีบอย่างแรง คนที่อยู่กับถังซินก็รัดลำคอเธอแน่นขึ้นอีก วินาทีต่อมาประตูก็ถูกถีบอีกครั้งแล้วก็เปิดออก มู่เฉินหย่วนมองเห็นชายนั้นท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดเข้ามา แขนของเขาล็อคอยู่ที่ลำคอของถังซิน ถังซินแทบจะไม่ดิ้นรนแล้ว เธอกำลังจะหมดสติ วินาทีนั้นหัวใจของเขาก็แทบจะหลุดออกนอกอก เขาพุ่งเข้าไปในห้องแล้วเตะเข้าไปที่ศีรษะของผู้ชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว เมื่อไม่มีมือจะใช้ป้องกันตัว เขาก็ถูกเตะเข้าที่ศีรษะจนมึนงงไปชั่วขณะ ในขณะที่แขนของชายนั้นคลายตัวลง มู่เฉินหย่วนก็จับแขนของถังซินแล้วกระชากออกมาอย่างแรง หลังจากที่คนเข้ามาในอ้อมแขนของเขาแล้ว เขาก็เตะอีกครั้งหนึ่งอย่างรุนแรง ชายคนนั้นก็เตะกลับมา เขารีบพาถังซินออกมาจากห้องอย่างรวดเร็วเพื่อไปหาผู้ช่วยจาง "เขาจะต้องไม่กล้าออกมา เขาจะต้องวิ่งหนีไปทางหน้าต่าง โทรเรียกหมาป่า!" มู่เฉินหย่วนสั่งการทันที เขาไม่กล้าชักช้ารีบวางถังซินลงแล้วทดสอบลมหายใจของเธอ เมื่อพบว่ายังหายใจอยู่เบาๆ เขาก็รีบทำการปฐมพยาบาลทันที ผู้ช่วยจางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรีบร้อน
已经是最新一章了
加载中