บทที่73 พี่รอง เป็นเพราะผู้หญิงใช่หรือไม่   1/    
已经是第一章了
บทที่73 พี่รอง เป็นเพราะผู้หญิงใช่หรือไม่
บ๗ที่73 พี่รอง เป็นเพราะผู้หญิงใช่หรือไม่ “ประธานมู่พูดแบบนี้ก็ดี” หลินเฉินจี๋พูดหัวเราะออกมา “แต่ว่านิ้วมืออันนี้ถ้าทิ้งไว้ที่ผมก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ผมจะให้คนส่งไปให้ประธานมู่ก็แล้วกัน” “ให้ลูกน้องของคุณปล่อยคนของผม” มู่เฉินหย่วนพูดออกมาด้วยความเย็นชา หลินเฉินจี๋จะทำอะไรคุณหนูสี่มู่เขาไม่สนใจ แต่ว่าเขาจะแตะต้องจู่ซือซือไม่ได้เด็ดขาด “อารมณ์ของผมก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” หลินเฉินจี๋พูดปฏิเสธอย่างยิ้มแย้ม “แบบนั้นไม่ได้ เธอทำผิด ต้องถูกสั่งสอน งั้นเอาแบบนี้ ถ้าเธออยู่ในทะเลได้เกินสามนาที ผมจะปล่อยเธอไป” กล้ามเนื้อที่แขนของมู่หลินหย่วนตึงแน่น บนใบหน้ายิ้มแล้วพูดว่า “คุณก็ลองดู” ในชีวิตนี้มีไม่กี่คนที่กล้ายั่วโมโหเขา ดูจากหน้าจอโทรศัพท์ หลินเฉินจี๋รู้สึกได้ถึงแรงกดดันของมู่หลินหย่วน เขาหัวเราะอย่างละมุนละไมมากขึ้น เมื่อกำลังคิดที่จะสั่งให้จงเซิงเอาตัวจู่ซือซือทิ้งลงไป ที่ที่จงเซิงอยู่ก็ได้มีเสียงดังออกมา ถ้าจอโทรศัพท์นั้นก็กวัดแกว่งสั่นไหว เหมือนกับตกลงที่พื้น และมีเสียงร้องอู้อี้ของจงเซิง จากนั้นโทรศัพท์ก็ได้ถูกเก็บขึ้นมาแต่ในหน้าจอนั้นได้เปลี่ยนไปเป็นอีกคน “ประธานมู่ผมเจอตัวคุณจู่แล้ว” กวนชิงเฟิงสวมหมวกไหมพรมสีดำ ใบหน้าเย็นชา “แต่ว่าผู้ชายคนนั้นได้หลบหนีไปแล้ว คุณอยากให้ไล่ตามจับตัวมาหรือไม่” เวลานี้ ในที่สุดมู่เฉินหยวนก็โล่งใจ และจำเป็นที่จะต้องชื่นชมกวนชิงเฟิงอีกครั้ง หนุ่มคนนี้ไม่เพียงแต่จะแม่นปืนแต่ยังสามารถออกแบบสิ่งของได้ด้วยตนเอง ฝีมือดีอะไรขนาดนี้ ในหน้าจออีกสายหนึ่งของหลินเฉินจี๋ ในที่สุดบนใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เมื่อได้นัดพบกับกวนหลิงเอ๋อ เขาเคยพบกับกวนชิงเฟิง ถึงได้รู้ว่าถังซินยังมีน้องชายแท้ๆอยู่อีกคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เขาอยากที่จะดึงมาเป็นพวก แต่ยังหาโอกาสไม่ได้ซักที คิดไม่ถึงว่าน้องชายแท้ๆของเธอจะฝีมือดีขนาดนี้ และยังกลายมาเป็นคนของมู่เฉินหย่วน บนหน้าผามีคนของจงเซิงดักซุ่มอยู่ทั่วบริเวณรอบๆ แต่ทว่าในเมื่อเป็นน้องแท้ๆของถังซิน หลินเฉินจี๋จึงไม่คิดที่จะทำร้าย ในตอนนั้นเขาจึงโบกมือเรียกให้คนที่อยู่ข้างๆเขามา แล้วสั่งให้โทรศัพท์ไปบอก “คนของประธานมู่มีฝีมือมากจริงๆ สามารถจัดการกับบอดี้การ์ดที่อยู่กับผมมานานได้ หลินเฉินจี๋เอ่ยขึ้น ดูแล้วถ้าไม่ยอมประธานมู่เห็นจะไม่ได้แล้ว” มู่เฉินหย่วนจึงพูดขึ้นว่า “ผมรอคุณหลินมาหาที่ประเทศzได้ตลอดเวลา” “ประธานมู่มีน้ำใจขนาดนี้ ผมต้องไปอย่างแน่นอน” การประลองฝีมือระหว่างผู้ชายซ่อนเร้นไปด้วยความดุเดือด “แต่ว่าประธานมู่จำเป็นที่จะต้องจัดการคนของคุณให้ดี ผมไม่ได้ใจดีแบบนี้ทุกครั้ง” ไม่นานหลินเฉินจี๋ก็ได้วางสายวิดีโอคอล เหลือไว้แต่มู่เฉินหย่วนและกวนชิงเฟิง ในตอนนี้ กวนชิงเฟิงถึงได้เริ่มพูดขึ้นอีกครั้ง “ประธานมู่ ถ้าอย่างนั้นอีกสักพักผมจะเอาตัวคุณจู่และโทรศัพท์เครื่องนี้กลับไป” “โยนมือถือทิ้งไปเถอะ คาดว่าในมือถือคงไม่มีอะไร” มู่เฉิงหย่วนพูดขึ้น หลินเฉินจี๋ทำงานอย่างรัดกุม ลูกน้องหลบหนีไป แม้แต่โทรศัพท์มือถือยังไม่เอาไปด้วย ข้างในคงไม่มีอะไรอย่างแน่นอน “ได้ครับ” มู่เฉินหย่วนวางมือถือกลับไปที่โต๊ะน้ำชา และไม่พูดอะไรอีกเป็นเวลานาน ผู้ช่วยจางที่อยู่ข้างๆรู้สึกถึงอุณหภูมิในห้องที่ลดต่ำลง หนาวเย็นจนถึงกระดูก “โทรหาไอ้สี่ ถามเขาถึงข้อมูลบุคคลสำคัญ” น้ำเสียงของมู่เฉินหย่วนเย็นชามากเพราะตอนนี้เขาเริ่มโกรธแล้ว “ทำยังไงก็ได้เพื่อที่จะสืบหาข้อมูลของหลินเฉินจี๋มาให้ได้!” เขาอยากดูซักหน่อยว่าคนที่ชื่อหลินเฉินจี๋นั้นมีความสามารถอะไร ถึงกล้ามาแตะต้องคนของเขา ผู้ช่วยจางหลบออกไปต่อสายโทรศัพท์ “ประธานมู่” คุณหมอผู้หญิงออกมาจากห้องนอนด้วยสีหน้าที่รู้สึกลำบากใจ แล้วพูดด้วยภาษาอังกฤษขึ้นว่า “ยาระงับอาการPO3ใช้ไม่ได้กับคุณผู้หญิงท่านนี้” ยาระงับอาการPO3เป็นยาที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง เป็นยาปลุกเซ็กเฉพาะทางชนิดรุนแรง ราคาสูง ออกฤทธิ์เร็ว ถ้าหากยังไม่ได้ผล ก็แสดงว่าถังซินได้ถูกฉีดยาที่ไม่ใช่ยาธรรมดาทั่วไป “ยัยเด็กชั่วคนนี้!” มู่เฉินหย่วนเอ่ยปากด่าด้วยเสียงต่ำ เขายังไม่รู้ว่าจู่ซือซือมีความสามารถมากขนาดไหน ของหายากขนาดนี้ก็ยังสามารถหามาไว้ในมือได้ มู่เฉินหย่วนระงับความโกรธที่อยู่ข้างในแล้วเอ่ยถามหมอขึ้นว่า “ยาที่อยู่ในร่างกายของเธอต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการถอนพิษ?” “เร็วที่สุดก็น่าจะประมาณ6ชั่วโมง” “ถ้าเช่นนั้นคุณก็ให้ยาถอนพิษ เดี๋ยวผมจะดูเธอเอง” “ประธานมู่ ฉันคาดว่าแบบนี้ไม่น่าจะได้” คุณหมอเหลือบไปมองที่ข้างในห้องนอนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างอึกอักขึ้นว่า “ถ้าฉันเอายาถอนพิษเข้าไป เกรงว่าเธอจะรับไม่ไหว” “นั่นไม่ใช่แค่ยาปลุกอารมณ์หรอ?” มู่เฉินหยวนขมวดคิ้ว “ผมแค่ให้เธอแช่อยู่ในน้ำเย็นตลอดเวลาก็ได้แล้ว” คุณหมอจำเป็นที่จะต้องอธิบายให้มู่เฉินหยวนเข้าใจ เพียงไม่กี่ประโยค มู่เฉินหยวนฟังจบก็ได้ยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับ บรรยากาศในตอนนี้เป็นไปอย่างกดดันมาก สองขาของคุณหมอผู้หญิงสั่นเครือแต่กลับไม่กล้าที่จะเดินออกไป ได้แต่ดันทุรังยืนอยู่ตรงนั้น ห้องรับแขกเงียบสงบจนน่ากลัว ประตูห้องนอนที่กั้นอยู่ มีเสียงร้องครวญครางบางเบาเพื่อสะกดอารมณ์ดังออกมา เสียงนั้นออดอ้อนน่ารักแต่กลับปะปนไปด้วยความเจ็บปวด เหมือนกับอยากที่จะร้องไห้ออกมา หลังจาก15นาทีผ่านไป นิ้วมือที่วางกางไว้บนกางเกงของมู่เฉินหย่วนก็ขยับไปมา เขามองไปที่ประตูห้องนอน แล้วเม้มริมฝีปากอันบางไว้แน่น เผยความเย็นชาออกมาเล็กน้อย “ออกไป!” เขาเอ่ยออกมาแค่สองคำด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ คุณหมอผู้หญิงรีบเข้าห้องนอนเพื่อไปเก็บของ เมื่อเปิดประตูเสียงร้องไห้ของหญิงสาวก็ยิ่งดังชัดเจนมากขึ้น เส้นเลือดบนหน้าผากของมู่เฉินหย่วนแทบจะระเบิดออกมา รู้สึกตึงแน่นไปทั้งตัว เมื่อรอให้หมอหญิงออกไปแล้ว ในห้องก็เหลือแค่มู่เฉินหย่วนคนเดียว ประตูห้องนอนที่ถูกปิดไว้ มีเสียงของหญิงสาวร้องครางออกมา เป็นเสียงออดอ้อนยั่วเย้าคน กระตุ้นจนทำให้หน้าท้องของมู่เฉินหย่วนตึงแน่น จากนั้นเขาจึงก้าวเท้าไปยังห้องนอน เมื่อกำลังจะผลักประตูเข้าไป มือของมู่เฉินหย่วนกลับหยุดลง จากนั้นก็เดินกลับมาที่ข้างๆโต๊ะน้ำชา ควานหาโทรศัพท์มือถือ และกดต่อสายไปยังเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่ง ไม่นานโทรศัพท์ก็ถูกรับสาย “พี่รอง มีธุระอะไรหรอ?” “ครั้งที่แล้วที่นายพูดถึงยาชนิดนั้น เป็นความจริงใช่มั้ย?” “ชนิดไหน” “FX1236 หลังจากที่กินไปแล้วสามารถล้างความทรงจำที่ผ่านมาใน12ชั่วโมง” “ใช่แล้ว แต่ว่ายานี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการค้นคว้าและวิจัย” คู่สายรู้สึกถึงความผิดปกติจึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจขึ้นว่า “พี่รอง พี่ถามถึงยาตัวนี้จะเอาไปทำอะไร? พี่ต้องการหรอ?” “ใช่ ฉันอยากได้หนึ่งเม็ด” ครั้งที่แล้วที่อยู่ในร้านเหล้า แม้ว่าถังซินจะเมาเหล้า แต่ก็ยังมีสติ และเขาเองก็สนใจในตัวเธอจึงไปหาเธอที่โรงแรม แต่ในครั้งนี้ถังซินโดนฉีดยามา ไม่มีสติแม้แต่นิดเดียว เขาจึงไม่ได้มีความสนใจใดๆ เป็นเพราะว่าคุณหมอได้กล่าวว่าการให้ยานั้นอาจจะไม่ทันกาล เขาจำเป็นที่จะต้องเข้ามาช่วย การมีความสุขเพียงฝ่ายเดียวนั้นเขารู้สึกว่ามันเก้อเขิน เขาจึงหวังจะให้ถังซินนั้นลืมเพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวหาว่าเขาข่มขืนเธอ “พี่รอง ถ้าพี่จะเอายาก็ได้ แต่ฉันอยากรู้ว่าพี่จะเอาไปใช้ทำอะไร” เย่นจิ่งเหนียนตั้งใจถามขึ้น “ยังไงเมื่อก่อนพี่ก็เคยพูดแล้วว่า ฉันค้นหว้าและวิจัยยาตัวนี้มันดูเป็นความหายนะอย่างแท้จริง” “อยู่กับพี่ใหญ่พี่เลวเลยนะ ยังจะกล้ามาอาฆาตฉันอีก?” มู่เฉินหย่วนยิ้มหัวเราะ ยกมือขึ้นลูบหว่างคิ้ว แต่ว่าตอนนี้เขาก็ไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงแต่ต้องพึ่งพาเย่นจิ่งเหนียน “ฉันต้องการหนึ่งเม็ด อย่างช้าภายใน5ชั่วโมงต้องส่งมาถึง ภายในสามปี ไม่ว่านายจะค้นคว้าและวิจัยอะไรฉันจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้” “พี่รอง ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน” “ประเทศตุรกี” “ไกลขนาดนั้น เวลาภายใน5ชั่วโมงจะเป็นไปได้ยังไง” คนที่สุภาพเรียบร้อยอย่างเย่นจิ่งเหนียนถึงกับอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาอย่างไร้มารยาท เขาสงบสติอารมณ์แล้วพูดวิเคราะห์ “พี่รอง พี่รีบเร่งใช้ขนาดนี้ คงไม่ใช่เป็นเพราะว่าผู้หญิงหรอกนะ” มู่เฉินหย่วนเงียบไม่พูดไม่จา ในเวลานี้เสียงร้องไห้ของหญิงสาวที่อยู่ในห้องนอนนั้นดังมากยิ่งขึ้น เหมือนกับทุกข์ทรมานมาก ไม่เพียงแต่มู่เฉินหย่วน คนที่อยู่ในสายอย่างเย่นจิ่งเหนียนก็ยังได้ยินเสียงเช่นกัน “อะเฮ่ม ผู้หญิงคนนี้ดูแล้วสดใหม่ดีนะ” เย่นจิ่งเหนียนยิ้มหัวเราะ “ฉันคิดว่าพี่รองจะไม่มีความต้องการความปรารถนาซะอีก ฉันคิดผิดไป” “ไอ้สาม” เสียงของมู่เฉินหย่วนเย็นชาและเต็มไปด้วยความกดดัน “ฉันจะจัดการส่งคนเอายาไปให้พี่รอง ภายในห้าชั่วโมงส่งถึง” เย่นจิ่งเหนียนไม่พูดล้อเล่นอีก “พูดไว้แล้วนะพี่รองว่าภายในสามปีไม่ว่าฉันจะค้นคว้าและวิจัยอะไรค่าใช้จ่ายทั้งหมดพี่เป็นคนรับผิดชอบ” “อือ” เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ มู่เฉินหย่วนไม่รู้ว่าเป็นอะไร เหงื่อไหลหยดลงอย่างหนัก เสียงของหญิงสาวที่กำลังร้องไห้เหมือนกับอยู่ที่ข้างหู ดูแล้วทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก เขาวางโทรศัพท์ลงและเดินไปที่ห้องนอน
已经是最新一章了
加载中