บทที่76 มันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย   1/    
已经是第一章了
บทที่76 มันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย
บ๗ที่76 มันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย มู่เฉินหย่วนหยิบยาออกมาจากกล่องสีใสหนึ่งเม็ด และบิดเปิดฝาน้ำแร่หนึ่งขวด จากนั้นก็เดินไปที่ข้างเตียง บนเตียงอันอ่อนนุ่ม ใบหน้าของถังซินไม่แดงมากเหมือนกับก่อนหน้านี้ เธอกลับมาเป็นปกติแล้ว และการหายใจก็นิ่งๆมากยิ่งขึ้น มู่เฉินหย่วนคุกเข่าลงบนเตียง ก้มตัวเข้าไปใกล้ถังซิน เขาไม่ใช่เป็นคนที่ไม่มีความต้องการหรือความปรารถนา แต่ว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับในส่วนของการพัฒนาบริษัทมู่ซื่อที่นิวยอร์ก ใจของเขาจึงอยู่ที่งานทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องเข้าหาผู้หญิงทั้งหลายนั้นแทบจะทำเป็นไม่รับรู้เลย หลังจากกลับประเทศมาทำธุระ จึงได้พบกับผู้หญิงคนนี้ที่ร้านเหล้า และความรู้สึกที่กดลึกอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจก็ถูกปลุกขึ้น ทุกครั้งที่ได้อยู่กับเธอ ในใจก็ผันแปรขึ้นมา ชั่วพริบตาเดียว มู่เฉินหย่วนก็เกิดความคิดที่ไม่อยากเอายาให้เธอกินขึ้นมากะทันหัน อยากให้เธอสามารถจดจำช่วงเวลาในค่ำคืนนี้ได้ แต่ว่าความคิดนั่นได้อยู่ในหัวของเขาเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆไม่ถึงสองนาที มู่เฉินหย่วนใช้นิ้วแยกเปิดปากของถังซินออกเพื่อที่จะยัดยาเข้าไป หญิงสาวที่อยู่ระหว่างการนอนหลับฝันกลับได้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและปัดมือเขาออก ทำเสียงบ่นพึมพำและยกหัวออกไป ความระมัดระวังตัวของเธอยังมีอยู่มาก มู่เฉินหย่วนยิ้มเบาๆ และนำเอายาเม็ดและน้ำอุ่มรวมกันเข้าไปในปากของตน และบีบไปที่คางของถังซิน ฉวยโอกาสตอนที่เธออ้าปากนั้นเอายาใส่ผ่านเข้าไป ถังซินจึงจำเป็นที่จะต้องกลืนเข้าไป และเปล่งเสียงอู้อี้ออกมา หลังจากผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ถังซินถึงจะตื่นขึ้นมา และเมื่อหลังจากที่ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองนั้นกำลังสวมชุดนอนและอยู่ในห้องนอนของมู่เฉินหย่วน ใบหน้าของเธอจึงเต็มไปด้วยความมึนงง ไม่ใช่ว่าฉันเปลี่ยนซื้อผ้าแล้วกำลังออกไปข้างนอกหรอ? ทำไม? เธอจำได้ว่าหลังจากที่ตื่นนอนก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและกำลังจะไปหาน้องมู่เพื่อถามเรื่องราวกิจธุระ ทำไมถึงได้มาอยู่บนเตียงอีก? หรือก่อนหน้านี้ตนเองละเมอ? ก็ไม่ใช่นะ หลังจากที่เมื่อคืนวานไปว่ายน้ำ เธอจำได้แม่นยำว่าได้กลับห้องของตนเอง แต่ที่นี่คือห้องของน้องมู่ ถังซินเหมือนกับคิดอะไรออก รีบดึงแขนเสื้อชุดนอนขึ้นและดูที่แขนอันเรียบเนียน แต่ไม่พบอะไรแม้แต่นิดเดียว ร่างกายของเธอนั้นสบายดี ไม่มีความรู้สึกผิดปกติใดๆ ถังซินทอดถอนหายใจออกหนึ่งที ไม่แปลกที่เธอจะตรวจดูแบบนี้ เพราะว่าเมื่อคืนเธอมั่นใจจริงๆว่าเธอได้กลับห้องของตนเอง ก่อนนอนได้กินไวน์องุ่นไปครึ่งแก้ว โชคดีที่ไม่ได้เมาและมาหาน้องมู่และทำเรื่องที่น่าอับอาย และในตอนนี้ก็ได้มีคนเคาะประตูห้องนอน เคาะด้วยเสียงที่เบามาก “คุณถัง คุณตื่นหรือยัง?” “ตื่นแล้ว!” ถังซินได้ยินว่าเป็นเสียงของผู้ช่วยจางจึงรีบตอบกลับ พบว่าบนโซฟาได้มีเสื้อผ้าผู้หญิงวางไว้ จึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปที่ห้องน้ำล้างหน้าบ้วนปากอย่างเร็วไว ผู้ช่วยจางยังยืนรอให้เธอมาประเปิดประตูห้องอยู่ตรงนั้น นอกจากเขา ในห้องรับแขกยังมีมู่เฉินหย่วนอยู่ เขากำลังยืนอยู่ที่นอกหน้าต่างเหมือนกับกำลังคุยโทรศัพท์ ภาพที่เห็นจากด้านหลังนั้นหล่องดงามเปล่งประกาย สายตาของถังซินมองไปที่บั้นท้ายของเขา จากนั้นใจเธอจึงเต้นรัวขึ้นมา ว้าว ลุงบั้นท้ายงอนมาก คุณถัง คุณกำลังดูอะไรอยู่ ผู้ช่วยจางเห็นเข้าจึงตั้งใจถามขึ้นมา “เฮอเฮอ ไม่ ไม่มีอะไรค่ะ” ถังซินรีบละลายออกมา ใบหูแดงก่ำ “ผู้ช่วยจาง ฉันจำได้ว่าเมื่อคืนฉันได้อยู่ที่ห้องนอนของตนเอง ทำไมถึง?” ผู้ช่วยจางจับไปที่แว่นตาและพูดขึ้นว่า “คุณถังลืมไปแล้วหรือ? หลังจากที่คุณชายหยางซิวส่งข้อความมาหาคุณ ประธานมู่คิดว่าไม่เหมาะสม จึงให้คุณมาอยู่ที่นี่ ผมเป็นคนไปเชิญคุณถังมาเอง” “ใช่ ใช่มั้ย” ถังซินลังเลใจเล็กน้อย แต่เธอจำได้ว่าหลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว เธอก็ยกเก้าอี้สองตัวไปให้คนเฝ้าประตูที่ชื่อเฉินคางข้างนอกและเอาขนมให้กิน จากนั้นก็กลับมานอน “ใช่แน่นอนครับ คุณถังน่าจะลืมสิ่งที่ผมทำ?” ผู้ช่วยจางแสดงออกได้อย่างสมบูรณ์แบบ “โรงแรมเอาอาหารเช้ามาให้ คุณถังทานอาหารเช้าก่อนเถอะครับ” ถังซินทำเสียงเข้าใจ และเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อคืนเธอได้กินอาหารรอบดึกก่อนเข้านอนแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกหิวโหยเป็นอย่างมาก หิวเหมือนกับไม่ได้กินข้าวมาหลายมื้อ เธอจึงจับแซนด์วิชขึ้นมากัดคำโต ไม่นานมู่เฉินหย่วนก็คุยโทรศัพท์เสร็จ และเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร “คุณถัง เมื่อคืนนอนหลับสบายมั้ย” มู่เฉินหย่วนพูดด้วยเสียงนุ่มต่ำ เย้ายวนเป็นอย่างมาก เหมือนกับพูดอยู่ใกล้ที่ข้างๆหู ในหัวของถังซินมีภาพที่ไม่สมควรคิดผุดขึ้นมาทำให้หูของเธอแดงไปหมด เธอเป็นบ้าอะไร กำลังคิดอะไรมั่วซั่วไปหมด! “อืม สบายมาก” ถังซินตอบแบบลวกๆไม่จริงจัง และแสร้งทำเป็นดื่มน้ำส้ม แต่กลับชำเลืองเห็นลุงกำลังมองมาที่ตน ในตานั้นลึกซึ้ง เธอจึงสำลักออกมาทันทีทันใด น้ำส้มนั้นไหลออกมาจากมุมปากหยดลงไปหกเลอะที่กระโปรง มู่เฉินหย่วนยื่นทิชชู่ส่งให้เธอสองแผ่นโดยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ถังซินจึงยิ้มเยาะๆและรับเอาทิชชู่ไป แต่ข้างในจิตใจนั้นรู้สึกกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาและเห็นลุง เธอคิดว่าการอยู่ด้วยกันกับเขานั้นไม่เป็นธรรมชาติเหมือนเมื่อก่อน มีความรู้สึกเก้อเขินมากขึ้น และเธอมักจะคิดแต่เรื่องที่สับสนวุ่นวาย มันเป็นปัญหาของเธออย่างนั้นหรือ ถังซินคิดอย่างไม่สบายใจ และในตอนนั้น ผู้ช่วยจางที่ออกไปหยิบของข้างนอกก็กลับเข้ามา “ประธานมู่ เมื่อสักครู่ได้ให้เฉินคางตรวจค้นห้องของคุณถังซิน และก็พบสิ่งนี้” ในขณะที่พูดเขาก็ได้นำเอาแหวนเด็กสีชมพูวงหนึ่งวางไว้ที่บนโต๊ะ “แหวนนี้มีปัญหาอะไรหรอคะ?” ถังซินจำได้ว่าแหวนวงนี้คือแหวนที่เด็กชายคนหนึ่งพยายามยัดใส่มือเธอเมื่อตอนนี้กำลังจะกลับจากสระว่ายน้ำ และเมื่อกลับมาเธอก็เอาวางไว้ที่บนเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ถังซินเพ่งมองไปที่มู่เฉินหย่วน เธอยังจำได้อีกว่าในตอนนั้นเด็กผู้ชายได้ตะโกนเรียกลุงมู่เฉินหย่วน ทำให้เธอไม่อยากแต่งงานครั้งที่สองกับคนแก่ขนาดนี้ เธอคิดดูแล้วลุงอายุยังไม่ถึงสามสิบก็ยังไม่ถือว่าแก่ “มีปัญหาเล็กน้อยครับ” ผู้ช่วยจางเอ่ยตอบ จากนั้นควานหยิบไขควงอันเล็กๆออกมารื้อแงะแหวนเด็กให้เปิดออกอย่างคล่องแคล่ว เมื่อแงะออกมาได้ก็มีสิ่งของสีดำขนาดเท่าหัวแม่มือหล่นออกมาจากข้างใน “นี่คืออะไรหรอคะ?” ถังซินกยิบขึ้นมาดู ขนาดเล็กมากแต่เต็มไปด้วยสาย “เครื่องดักฟัง” “ไม่ใช่มั้งคะ?” สีหน้าของถังซินเปลี่ยนไปและไม่อยากจะเชื่อ “ฉันคิดว่าเป็นแค่แหวนพลาสติก ถ้านี่เป็นเครื่องดักฟังจริง ถ้าอย่างนั้น…” เธอหันหน้าไปมองมู่เฉินหย่วน ไม่ใช่คุณหนูสี่มู่ เธอไม่มีความกล้าขนาดนั้น มู่เฉินหย่วนจิบกาแฟหนึ่งคำและแสดงออกอย่างเย็นชา “ถ้าอย่างนั้นคือ?” “หลินเฉินจี๋” ถังซินชะงัก และบีบสิ่งของที่อยู่ในนิ้วมือไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว หลังจากที่หลินเฉินจี๋ปล่อยแขน และจากกันที่สนามบิน เธอก็ไม่ได้พบเขาอีกเลย เธอคิดว่าเมื่อหลินเฉินจี๋รู้ว่าเธอต้องช่วยมู่เฉินหย่วน และเขาคงสู้ไม่ไหวก็จะยอมแพ้ไปเอง ผู้ช่วยจางที่อยู่ข้างๆจึงพูดขึ้นมา “ผมคิดเหมือนประธานมู่ ผมเห็นว่าช่วงนี้โรงแรมมีลูกค้ามาพักเยอะ และเป็นคนจากประเทศYทั้งหมด ถ้าวิเคราะห์แล้วคุณหลินน่าจะสอดแทรกคนเข้ามาในโรงแรม” “ถ้าเป็นเขาจริงๆก็ไม่น่าแปลกใจอะไร ยังไงก็เป็นธุรกิจหนึ่งพันล้าน” ถังซินมองไปที่เครื่องดักฟังอย่างขัดตา ใช้ด้ามไขควงทำให้พังแล้วทิ้งลงถังขยะ ในบางครั้งเขาก็ดุร้ายมาก แววตาของมู่เฉินหย่วนมืดครึ้ม และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “ดูเหมือนคุณถังจะเข้าใจเขามากเลยนะ” ถังซินยิ้มหัวเราะ “ยังไงก็คบหากันมานาน มันก็เหมือนกับการเลี้ยงแมว เมื่อเลี้ยงไปนานๆคุณก็จะรู้นิสัยของมัน” ผู้ช่วยจางพยักหน้า “ที่คุณถังพูดนั้นถูกต้องที่สุด” ในวินาทีต่อมา มู่เฉินหย่วนได้มองไปที่ผู้ช่วยจางอย่างเย็นชา แสดงออกเหมือนกับจะพูดอะไรขึ้นอีก “มันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย” ผู้ช่วยจางลูบคลำที่จมูกและไม่ได้พูดอะไรต่อ 
已经是最新一章了
加载中