บทที่ 77 ที่รักอันเป็นแก้วตาดวงใจ
1/
บทที่ 77 ที่รักอันเป็นแก้วตาดวงใจ
รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
(
)
已经是第一章了
บทที่ 77 ที่รักอันเป็นแก้วตาดวงใจ
บ๗ที่ 77 ที่รักอันเป็นแก้วตาดวงใจ ทันใดนั้น ประตูห้องก็ได้ถูกเคาะส่งเสียงดังออกมา ทำให้ถังซินตกใจมาก คิดในใจว่าคนข้างหน้าคงไม่ปกติ มีกริ่งประตูให้กดแต่กลับไม่กด จู่ซือซือที่สวมชุดกระโปรงพู่ระย้าสีแดงทั้งตัวได้พุ่งเข้ามาอย่างเดือดดาล ถังซินคิดว่าถ้าเป็นคนอื่นเคาะคงผิดปกติแน่ๆ แต่ถ้าเป็นจู่ซือซือเธอสามารถเข้าใจได้ ก่อนหน้านี้ที่จู่ซือซือไปที่คฤหาสน์ของมู่เฉินหย่วนก็ไม่กดกริ่งประตูเหมือนเช่นตอนนี้ พยายามที่จะเคาะประตู เจ้าหญิงน้อยช่างตามใจตนเองจริงๆ! “พี่เฉิน ทำไมพี่ถึงให้ฉันไปศึกษาเพิ่มที่ประเทศM?” จู่ซือซือพูดโดยไม่สนใจใครใดๆ เมื่อเข้ามาก็ลงไปนั่งที่ตักของมู่เฉินหย่วน และพูดด้วยความน้อยใจเป็นอย่างมาก “ฉันไม่อยากไป” เธอมาที่ประเทศตุรกีด้วยความโกรธและเพื่อที่อยากจะสั่งสอนถังซิน ใครจะไปรู้ว่าจะถูกถังซินเอาคืน เมื่อออกแรงเอาเชือกที่มัดอยู่ในมือออก ก็มีชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาทำให้เธอหมดสติลง จู่ซือซือกลับมามีสติอีกครั้งก็คือเช้าของวันนี้ เธอนอนอยู่ที่ห้องของหมาป่า หมาป่าบอกเธอว่าป้อนยาให้เธอกินและตอนนี้ร่างกายเธอไม่เป็นอะไรแล้ว ทานอาหารเช้าเสร็จก็ต้องเดินทางออกไปขึ้นเครื่องบิน มู่เฉินหย่วนออกคำสั่งส่งเธอไปศึกษาที่ประเทศMครึ่งปี “ไม่ไปก็ต้องไป” มู่เฉินหย่วนไม่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น น้ำเสียงยิ่งเย็นชามากขึ้น “ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเธอ ฉันให้คนปลดออกแล้ว รอให้เธอกลับมาฉันจะให้นายหน้าใหม่กับเธออีกครั้ง” “พี่เฉิน พี่กำลังแกล้งคนอื่นอยู่นะ!” จู่ซือซือเอะอะโวยวาย พี่แค่เห็นว่าฉันขัดหูขัดตาจึงอยากที่จะส่งตัวฉันไปไกลไกล “ถ้ายังวุ่นวายอีก ฉันจะเพิ่มระยะเวลาการไปศึกษาต่อ” “ฮือฮือ พี่เฉินพี่ไม่รักฉันแล้ว” จู่ซือซือดวงตาแดงก่ำ เสียงพูดคล้ายกับจะร้องไห้ “มีใครเขาทำกับที่รักอันเป็นแก้วตาดวงใจแบบนี้” “ค่อกค่อก” แค่คำว่าที่รักอันเป็นแก้วตาดวงใจ ถังซินแทบจะทนไม่ได้จริงๆ จึงสำลักแซนวิชออกมา ต้องกินน้ำส้มอึกใหญ่ถึงจะกลืนลงไปได้ และเมื่อจู่ซือซือหันหน้ามามองถังซิน จึงพูดขึ้นว่า “นังหมาจิ้งจอกน่ารังเกียจ” เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เธอดูน่าสมเพช “ถูกคุณจู่ด่าว่าเป็นหมาจิ้งจอก ดูแล้วหน้าตาของฉันสะสวยพอใช้ได้เลย” ถังซินไม่โกรธ เธอยิ้มและพูดขึ้นว่า “แก้ไขให้ถูกต้องนิดนึง หมาจิ้งจอก แต่ไม่น่ารังเกียจ” ฉันจะพูดอะไรมันก็เรื่องของฉัน “เธอมายุ่งอะไรด้วย!” จู่ซือซือถลึงตาโตด่าเธอ “ฉันบอกแล้วเธอมันร้ายลึก แสร้งทำเป็นใสซื่อ แต่ข้างในนั้นชั่วร้าย หรือเธอไม่ใช่?” “หุบปากซะ” มู่เฉินหย่วนพูดออกมา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความบังคับกดดัน จู่ซือซือเบะริมฝีปากอันแดงก่ำ และน้อยใจเป็นอย่างมาก น้อยใจจนอยากจะร้องไห้ออกมา จริงๆต้องโทษผู้หญิงคนนี้ ที่ร้ายกับเธอ ทำร้ายเธอจนเกือบจะกินไม่เลือก แล้วยังต้องถูกส่งไปศึกษาต่ออีก “พี่เฉิน ฉันไม่อยากไปศึกษาต่อ” จู่ซือซืออัดอั้นอยู่ซักครู่จึงกล้าที่จะพูดออกมา “พี่เฉิน พี่จะเปลี่ยนผู้ช่วยนายหน้าหรืออะไรก็ได้หมด ยังไงฉันก็ไม่ไปศึกษาต่อ” มู่เฉินหย่วนไม่สนใจเธอ เขาเพียงแค่ตะโกนออกมาว่า “ผู้ช่วยจาง” “ครับ ประธานมู่” ไม่เฉพาะแต่จู่ซือซือที่กลัดกลุ้มใจแต่ถังซินก็เป็นเหมือนกัน มู่เฉินหย่วนไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ผู้ช่วยจางก็รับรู้และเข้าใจคำพูดของมู่เฉินหย่วนได้ด้วยตนเอง หลังจากนั้นไม่นาน ถังซินก็เห็นผู้ช่วยจางได้ปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง ในมือถือไม้บรรทัดโปร่งใสหนึ่งอัน ซึ่งมีขนาดยาวมาก จู่ซือซือที่นั่งอยู่บนตักมู่เฉินหย่วนเมื่อเห็นไม้บรรทัดอันนี้ใบหน้าอันเรียวเล็กของเธอก็ซีดลง “พี่เฉิน ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรแอบมาที่นี่ แต่ฉันคิดถึงพี่มากนะและก็ไม่ได้ทำให้เสียเวลาทำงาน” จู่ซือซือพยายามออดอ้อน “ฉันกลับไปจะเขียนหนังสือประเมินข้อบกพร่องของตนเองสิบฉบับ ไม่ไม่ ห้าสิบฉบับ!” มู่เฉินหย่วนยกตัวเธอลงจากบนตัก สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆ “กฏเกณฑ์เดิม” “ฮือฮือ พี่เฉิน ขายขี้หน้ามาก ไม่ต้องแล้ว” จู่ซือซือก้มหัวต่ำลง มือชี้ไปทางถังซิน “เป็นเพราะผู้หญิงคนแกล้งฉันชัดๆ…ฉัน” เมื่อเห็นแววตาของมู่เฉินหย่วนเย็นชาและเคร่งขรึมอย่างเต็มที่ เธอจึงเบะปาก แล้วเดินไปที่ผู้ช่วยจาง ผู้ช่วยจางหยิบเบาะนั่งมาวางไว้ที่พื้นหนึ่งผืน ถังซินยิ้มหัวเราะ เธอคิดว่ามู่เฉินหย่วนจะลงโทษจู่ซือซือแค่การเขียนหนังสือประเมินข้อบกพร่องของตนเองและการยืนทำโทษ แต่ตอนนี้ยังสามารถเห็นจู่ซือซือทำเสียงไม่พอใจที่จะต้องถูกนั่งคุกเข่าลงบนเบาะนั่ง มู่เฉินหย่วนนั่งไขว่ห้าง และพูดออกมาด้วยเสียงห้วนๆ “เขียนด้วยมือห้าสิบฉบับ” “ห้าสิบหรอ” จู่ซือซือเอามือที่กำลังยกขึ้นวางลงอย่างทันทีทันใด ใบน่าซีดอย่างน่าสงสาร “พี่เฉิน มือฉันอ่อนนุ่มขนาดนี้ พี่จะทนเห็นฉันเขียนห้าสิบฉบับหรอ?” “ เมื่อก่อนอย่างมากแค่สิบฉบับ พี่เฉิน ตอนนี้พี่เพิ่มขึ้นมาห้าเท่า” “ฮือฮือ พี่เฉิน พี่นี่เป็นเจ้านายที่ขูดรีดพนักงานจริงๆเลย” มู่เฉินหย่วนถูกเธออาละวาดจนคิ้วขมวดเข้าด้วยกัน เขาเอานิ้วจับหน้าผากและหันไปมองทางถังซิน “คุณถัง คุณคิดว่าเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม?” ถังซินแทบจะสำลักอาหาร ลุง คุณจะสั่งสอนคนก็สั่งสอนไป จะลากฉันเข้าไปยุ่งทำไม จู่ซือซือมองถังซินด้วยแววตาที่อยากจะฆ่าคน เหมือนกับว่าถ้าเธอกล้าพูดไม่ได้ดีออกมา ฉันจะฆ่าเธอแน่ “ฉันคิดว่าเขียนด้วยมือห้าสิบฉบับเป็นความคิดที่ดีมาก” ถังซินไม่สนใจสายตาของเธอ พูดออกไปด้วยเสียงเบาๆ เธอไม่ลืมเรื่องที่ก่อนหน้านี้ที่จู่ซือซือได้เอาลูกกอล์ฟตีมาที่บนเข่าของเธอ “ถังซิน” จู่ซือซือเดือดเป็นฟืนเป็นไฟจนสามารถถลกหนังถังซินได้ “เธอคอยดูเถอะ!” มู่เฉินหย่วนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จะไปศึกษาต่อที่ประเทศM หรือจะเขียนห้าสิบฉบับ เลือกเอง” ไปศึกษาต่อน่าเบื่อขนาดนั้น เธอไม่ไปหรอก จู่ซือซือมองมู่เฉินหย่วนตาปริบๆ เมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ไม่ปกป้องเธอจริงๆเธอจึงเบะปาก มือทั้งสองข้างยกขึ้นเหนือหัว ไม้บรรทัดที่อยู่ในมือของผู้ช่วยจางได้ตีลงไปอย่างแรง “โอ๊ย เจ็บ!” จู่ซือซือเป่ามือที่ถูกตีจนเจ็บและแดง แต่ภายใต้แววตาที่เคร่งขรึมของมู่เฉินหย่วนทำให้เธอต้องยกมือขึ้นอีก ห้องรับแขกที่เงียบสงัดได้มีเสียงใสดัง เป๊ะ! ดังออกมา สองวินาทีดังขึ้นหนึ่งครั้ง ตีไปทั้งหมดยี่สิบสี่ครั้ง มือทั้งสองข้างของจู่ซือซือแดงระเรื่อ แทบจะยกไม่ขึ้นแล้ว “ประธานมู่ คุณจู่ยังต้องแสดงละคร ตีไม่กี่ครั้งก็พอแล้ว” ถังซินพูดขึ้น ดังสุภาษิตพูดไว้ว่า ทำอะไรต้องให้เกียรติและไมตรีจิตแก่ผู้อื่น วันข้างหน้าจะได้ติดต่อสัมพันธ์กันอย่างดีอีกครั้ง เธอไม่อยากเป็นศัตรูกับจู่ซือซือไปตลอด “พอแล้ว!” จู่ซือซือไม่ค่อยมั่นใจจึงพูดอย่างอึกอักออกไป “ใช่แล้ว ฉันกลับไปยังต้องไปถ่ายละครอีกนะ ถ้าขืนยังตีอีก สองมือต้องเสียมากแน่เลย แล้วจะถ่ายละครได้อย่างไร” มู่เฉินหย่วนยิ้มอย่างเย็นชา “เจ็บสิดี เพื่อที่จะได้ไม่ลืม” จู่ซือซือทำท่ายักไหล่ “ตอนบ่ายก็กลับไป อยู่ที่กองถ่ายถ่ายละคร ถ่ายเสร็จค่อยรับต่อ ไม่อนุญาตให้ไปไหนทั้งนั้น” มู่เฉินหย่วนพูดขึ้น “ถ้ามีครั้งหน้าอีก ฉันจะทำลายทั้งสองเท้าของเธอให้เสีย เข้าใจแล้วใช่มั้ย?” “ เข้าใจแล้ว” จู่ซือซือพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ไสหัวไป!” จู่ซือซือคุกเข่าอยู่นาน ทำให้เจ็บหัวเข่าจนลุกไม่ขึ้น ผู้ช่วยจางประคองเธอขึ้นและส่งเธอที่หน้าประตู “คุณซือซือ นี่คือยา ทาทุกวันวันละสามครั้ง” ผู้ช่วยจางเอายายัดเข้าไปในถุง และพูดแนะนำ “คุณถังมีความสำคัญกับประธานมู่มาก คุณอย่าได้มุ่งเป้าไปที่คุณถังเลย ไม่เช่นนั้นจะเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยน” “ไม่ใช่แค่พูดได้หลายภาษาหรอ จะไม่มีใครสู้ได้เลยหรอ” จู่ซือซือพูดอย่างไม่พอใจ “พี่เฉินจะเจรจาธุรกิจถึงกับบอกฉันไม่ได้เลยหรอ ฉันเป็นคนฉลาด เรียนรู้อะไรได้ไว ทำไมจะต้องเอานังหมาจิ้งจอกน่ารังเกียจนั่น!” ผู้ช่วยจางชะงักเงียบ จู่ซือซือเรียนรู้อะไรได้เร็วเขาเห็นด้วย แต่ถ้าบอกว่าเธอฉลาด เขาไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ “ผู้ช่วยจาง” กวนชิงเฟิงได้เดินเข้ามาพอดี ในมือถือถุงหนึ่งใบ เขามองไปที่ทิศทางเดียว เหมือนกับแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นจู่ซือซือ “ประธานมู่อยู่ข้างในมั้ย?” “กำลังกินอาหารเช้า” “งั้นก็ดี ผมมีของจะให้ประธานมู่” เมื่อเห็นสองคนคุยกัน ทิ้งให้ตนเองไม่มีตัวตน จู่ซือซือผลักผู้ช่วยจางออก แล้วพูดด้วยความโกรธ “ไอ้หมาป่าน่ารังเกียจ นายไม่เห็นว่าฉันก็อยู่ตรงนี้หรอ ตั้งใจมองข้ามฉันหรอ?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 77 ที่รักอันเป็นแก้วตาดวงใจ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A