บทที่ 85 จู่ซือซือยังไม่กล้าล่วงเกินเขาขนาดนี้เลย   1/    
已经是第一章了
บทที่ 85 จู่ซือซือยังไม่กล้าล่วงเกินเขาขนาดนี้เลย
บ๗ที่ 85 จู่ซือซือยังไม่กล้าล่วงเกินเขาขนาดนี้เลย “ด้านล่างมีเพียงพี่น้องสองสามคนเดินลาดตระเวนอยู่ ไม่มีอะไรหรอก” เฉิงคางพูดแล้วส่งกล้องส่องทางไกลให้เขา “พี่ใหญ่รีบมาดู คุณถังกับประธานมู่สิ” กวนชิงเฟิงหยิบกล้องส่องทางไกลมา กวาดดูตามพิกัดที่เขาพูด มองผ่านเลนส์เห็นชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังนั่งยอง ๆ จูบกันอยู่ ผู้ชายคือมู่เฉินหย่วนแน่ ๆ แต่ในมุมนี้มองเห็นแต่เพียงด้านข้างของผู้หญิงแต่ไม่เห็นลักษณะของใบหน้าเลย มองแค่เพียงแว๊บเดียว เขาก็ทิ้งกล้องส่องทางไกลให้เฉินคางไปแล้วหัวเราะอย่างเย็นชา “นายมีงานอดิเรกเยอะดีนะ ชอบดูเรื่องส่วนตัวของประธานมู่ด้วย ถ่าย ๆ ไปเสียเลยสิ” เฉินคางหัวเราะหึหึ “ผมก็แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของประธานมู่ แล้วไปเห็นเข้าโดยบังเอิญต่างหากละ ก่อนหน้านี้ผมจะบอกว่าประธานมู่กับคุณถังน่าจะมีอะไรกัน ผมพูดได้ใช่ไหมล่ะ” “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วยเหรอ” “ไม่เกี่ยวหรอก ก็แค่เมาท์นิดหน่อย” เฉิงคางพูด “พระเจ้า ตอนที่ไม่มา คุณถังยังถามผมเลยนะ เธอบอกว่าอยากเจอพี่ พี่ว่าคุณถังหมายความว่าอย่างไรล่ะ” กวนชิงเฟิงใช้ผ้าเช็ดปืนที่อยู่ในมือ ตอบกลับไปอย่างขี้เกียจหนึ่งประโยค “ไม่อยากรู้” หน้าที่หลักของเขาก็คือความปลอดภัยของประธานมู่กับคุณถัง ส่วนคุณถังจะหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมถึงอยากเจอเขา เขาขี้เกียจที่ต้องทำความเข้าใจและก็ไม่อยากเจอด้วย “แต่ผมมักจะรู้สึกว่า...” เฉินคางลูบ ๆ หัว อยากจะนินทาต่อไปอีกสักสองสามประโยค กวนชิงเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ กลับพูดเสียงต่ำ “แม่มึงหุบปากไปเลยไป ไปดูทางโน้นไป ไม่อยากได้เงินเดือนแล้วหรือไงวะ” “เฮ้ย เฮ้ย ไปแล้ว ไปแล้ว” เฉินคางหยิบกล้องส่องทางไกลรีบเพ่นอย่างไว เฉินคางหยิบกล้องส่องทางไกลไปตรวจตราอีกด้านหนึ่งของภูเขา กล้องส่องทางไกลค่อย ๆ กวาดไปถึงพื้นดินและป่าเขาไกล ๆ มีดวงไฟสว่างวาบขึ้นมา เขารีบกลับไปดูทันที “พี่ใหญ่ มีความเคลื่อนไหว” เฉินคางไม่อาจเพิกเฉย รายงานสถานการณ์เบา ๆ “มีรถออฟโรดมาสองคัน” กวนชิงเฟิงคลานไป ดึงกล้องส่องทางไกลในมือของเขามา บนถนนไกล ๆ มีรถออฟโรดสองคันขับตามกันมา พอเขาเข้าไปใกล้มากขึ้น ก็เห็นรถที่อยู่ด้านหน้านั้น ด้านหลังมีเงาคนที่คุ้นเคยเหมือนกับในมือจะถือแผนที่อยู่ด้วย “มู่หยางซิว” กวนชิงเฟิงนึกออกแล้ว สามีเก่าของถังซิน สมัยก่อนเคยไปบ้านของพวกเขามาสองสามครั้ง แต่ทว่าความเย่อหยิ่งและความหน้าซื่อใจคด เขากับกวนหลิงเอ๋อก็ไม่ชอบผู้ชายคนนี้ ทำไมเขาถึงมาที่นี่ล่ะ “ดูเหมือนเป็นเปียวตี้ (ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นน้องชายทางฝั่งแม่) ของประธานมู่นะ” เฉินคาง “ดูเหมือนว่าจะเป็นญาตฝั่งแม่ของตระกูลมู่นะ” พอหันหน้าไปเห็นกวนชิงเฟิงหน้าดำคร่ำเครียด ท่าทางอย่างกับอยากจะไปฆ่าคน เฉินคางก็ตัวสั่น “พี่ใหญ่ พี่ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเขาใช่ไหม สีหน้าพี่ตอนนี้โคตรน่ากลัวเลย” “มีความแค้นแน่นอนอยู่แล้ว” กวนชิงเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา ไม่สนใจเฉินคาง แบกปืนไปหาตำแหน่งไกล ๆ ใช้ทุ่งหญ้าอำพรางตัวเอง จากนั้นก็ใส่กระสุนปืน ปืนเยอรมัน JKM2876 เป็นอาวุธสังหารคนในตอนกลางคืนที่ดีที่สุด เขาคิดว่าถังซินกับมู่หยางซิวอยู่ด้วยกันไม่ได้อีกต่อไปถึงหย่ากันไปอย่างเงียบ ๆ ต่อมาถึงได้มารู้จากปากของกวนหลิงเอ๋อว่ามู่หยางซิวนอกใจแล้วคิดจะแว้งกัดถังซินสักที ถ้าไม่กลัวที่จะลงมือในประเทศ โรงเรียนหาหัวหน้าตัวเองทำให้ถังซินรู้ เขาก็คงจะจัดการมู่หยางซิวไปได้แล้วจริง ๆ ตอนนี้มู่หยางซิวมาหาเขาถึงที่แล้ว เขาจะเพิกเฉยไม่ลงมือไม่ได้อีกต่อไป “เชรดแม่ พี่ใหญ่ พี่อย่าทำอะไรซี้ซั้วนะ” เฉินคางรีบม้วนกลิ้งกลับมา ท่าทางจะบุกออกไปปะทะ ก็กลัวจนตัวสั่น “นี่มันเปียวตี้ของประธานมู่นะ” “เปียวตี้ของประธานมู่ไม่อยู่ในประเทศดี ๆ มาทำอะไรที่นี่ล่ะ” กวนชิงเฟิงพูด “ประธานมู่บอกแล้ว เพียงแต่ว่าเขาไม่พูดถึงเท่านั้นเอง ไม่ว่าใครมาให้ฉันจัดการ” เฉินคางมาคิด ๆ ดูก็คิดว่าถูก แต่ก็กังวลนิด ๆ “พี่ใหญ่ หรือว่าพวกเราจะ...” เขายังไม่ทันพูดจบ กวนชิงเฟิงกลับทนฟังไม่ไหว หันไปง้างไกปืนลง โวยวายเบา ๆ ทันใดนั้นก็โดนแมลงอะไรไม่รู้ส่งเสียงกลบ เฉินคางรีบหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมา มองเห็นรถออฟโรดสองคันบนถนนขับฉวัดเฉวียนไปมา กระจกหน้ารถออฟโรดคันนั้นโดนบดละเอียด คนที่นั่งอยู่ด้านหลังโดนยิงไปหนึ่งทีจนเลือดสด ๆ ไหลย้อยลงมา พอยิงกระสุนไปอีกหนึ่งนัด ล้อหลังของรถออฟโรดคันทางขวาก็แบนไปเลย คนจากในรถออฟโรดสองสามคนโผล่หัวออกมาดู ๆ จับมือเพื่อนชั่วอย่างสั่น ๆ แล้วก็หดตัวกลับไป จากนั้นรถออฟโรดทั้งสองคันก็หันหัวกลับ วิ่งหนีไปเหมือนกับทหารที่หนีกองทัพอย่างไรอย่างนั้น “ว้า แค่นี้ก็เพ่นแล้วเหรอ” เฉิงคางอ้าปากค้าง เขาเห็นอีกฝ่ายบุกมาตอนกลางคืนอย่างห้าวหาญ คิดว่าจะเก่งสักแค่ไหน คิดไม่ถึงเลยว่าโดนยิงขู่ไปสองทีก็เพ่นเสียแล้ว กวนชิงเฟิงเก็บปืนอย่างเย็นชา ได้ยิงไปโดนแขนของมู่หยางซิว เขาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นแล้ว พวกผู้ชายสารเลว ไม่คู่ควรกับพี่สาวของเขาเลยสักนิดเดียว -- เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่มู่เฉินหย่วนตื่นขึนมาก็พบว่าหน้าอกของเขารู้สึกอึดอัดนิด ๆ เขาเห็นเท้าขาวๆ เนียน ๆ นิ้วทาเล็บสีอ่อน ๆ ข้างหนึ่งวางอยู่บนหน้าอกของเขา “...” เขาโตมาจนป่านนี้ จู่ซือซือยังไม่กล้าล่วงเกินเขาขนาดนี้เลย มู่เฉินหย่วนหน้าบึ้งตึงหยิบเท้าข้างนั้นออกไป พอจะลุกขึ้นก็พบว่าถังซินนอนอยู่อีกด้านหนึ่งของเตียง นอนได้น่าเกลียดน่ากลัวมาก กระโปรงผ้าลินินที่ใส่อยู่ก็ขาดจนเห็นต้นขาที่ขาวจนตาพร่า เขายื่นมือไปดึงกระโปรงลงมา เดิมทีอยากจะลุกขึ้นมาเลย สุดท้ายก็ลุกขึ้น เอามือตบ ๆ แก้มเธอ “คุณถัง” “อืม กี่โมงแล้วคะ” ถังซินอู้อี้ ๆ ลุกขึ้นอย่างอ่อนเพลีย หน้าโดนไม้กระดานหนีบจนมีเป็นรอยสองเส้นบนหน้า ดูตลกน่าขำมาก มู่เฉินหย่วนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “คุณหัวเราะอะไรคะ” ถังซินโดนเขาหัวเราะจนงงมาก จากนั้นก็จ้องเขาตาโต “มู่ มู่เสี่ยวซู คุณหายเมาหรือยังคะ” “อืม น่าจะไม่เป็นไรแล้วละ” มู่เฉินหย่วนลุกขึ้นจากเตียง จัด ๆ เสื้อผ้าแล้วถามเธอ “เมื่อคืนผมเมามากไหม ผมก่อเรื่องอะไรหรือเปล่า” “มะ...ไม่มีค่ะ” ถังซินไอ ๆ แล้วพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “ใครจะไปรู้ละคะ ว่าเสี่ยวซูคออ่อนขนาดนั้น เหล้าชามเดียวก็เมาแล้ว กว่าจะประคองคุณกลับได้ใช้แรงไปไม่น้อยเลยค่ะ” มู่เฉินหย่วนเหลือบมองเธอแว๊บหนึ่งอย่างไม่มั่นใจ “จริงเหรอ” ถังซินอึ้งนิดหน่อย บ่นอุบอิบในลำคอ “เสี่ยวซูคะ คุณน่าจะขอบคุณฉันที่ไม่ปล่อยให้คุณนอนที่พื้นไม่ใช่เหรอคะ ยังไงซะชายหญิงก็ไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกัน คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะมาสงสัยคำพูดของฉันนะคะ” “...” ตาดำขลับเหมือนน้ำหมึกข้นของมู่เฉินหย่วนจ้องมองเธอเต็ม ๆ สิบกว่าวินาที สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรแล้วออกไปจากห้อง ถังซินถอนหายใจหนึ่งที เธอใช้นิ้วมือแตะริมฝีปาก นึกถึงจูบใต้แสงดาวนั้นเมื่อคืน เธอไม่เคยเจอมู่เสี่ยวซูที่อ่อนโยนมากและน่ารักมากขนาดนั้นมาก่อน จูบนี้ เก็บเอาไว้ในใจลึก ๆ ก็พอแล้ว ตอนออกไปล้างหน้า ขณะที่น้ำจากในกะละมังกระทบกับใบหน้าของตัวเอง ถังซินถึงได้รู้ว่าทำไมมู่เฉินหย่วนถึงหัวเราะ เธอใช้มือถูอยู่นานมาก อยากจะให้รอบมันหายไปเร็ว ๆ พวกผู้หญิงทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว ขนมปังไส้เนื้อกับซุปเนื้อ หอมมาก ขณะที่ทานข้าว หัวหน้าหมู่บ้านบอกถังซินว่าเดี๋ยวเขากับผู้ชายสองสามคนจะออกไปหารถขนสินค้ากับมู่เฉินหย่วน รถออฟโรดสองคันนั้นมาด้วยกัน ถังซินกลัวว่าคนในหมู่บ้านจะเห็น สิ่งที่เธอโกหกไปก่อนหน้านี้ก็จะถูกจับได้ เลยหาจังหวะถามมู่เฉินหย่วนเบา ๆ มู่เฉินหย่วนพูด “ไม่ต้องห่วงนะ ผมจัดการทุกอย่างแล้ว” ถังซินไม่อยากจะเชื่อเลย พวกเขาไม่ได้เอาอะไรมาที่หมู่บ้านเลย เมื่อคืนมู่เฉินหย่วนก็อยู่กับเธอตลอด ทำไมถึงจัดการเสร็จแล้วล่ะ หรือว่าตอนที่มามู่เสี่ยวซูก็คาดการณ์เรื่องเหล่านี้เอาไว้แล้ว 
已经是最新一章了
加载中