บทที่ 89 ประธานมู่ยังเรียกผมว่าเปียวเม่ยเลยนะ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 89 ประธานมู่ยังเรียกผมว่าเปียวเม่ยเลยนะ
บ๗ที่ 89 ประธานมู่ยังเรียกผมว่าเปียวเม่ย (น้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องทางฝั่งแม่) เลยนะ ระหว่างทางกลับเข้าไปในเขตเมือง ถังซินก็คุยกับผู้ช่วยจางจึงได้รู้ว่าสองสามวันก่อนหน้านี้เขาได้รับคำสั่งจากมู่เฉินหย่วนให้ซื้อโรงงานแห่งหนึ่งเอาไว้เลยเพื่อที่จะให้ชาวบ้านได้ปักหลักอยู่ที่นั่น ถังซินถาม “ซื้อโรงงานเหรอ ฟุ่มเฟือยเกินไปหรือเปล่า” “ไม่หรอก ตอนที่มาตุรกีเมื่อสองปีก่อน ประธานมู่ก็อยากจะได้โรงานนี้อยู่แล้ว” ผู้ช่วยจางพูด “พอมีโรงงานนี้แล้ว ตระกูลมู่ก็เปิดสาขาของบริษัทที่นี่ได้ง่ายแล้ว ส่วนการจัดหาที่อยู่ให้ชาวบ้าน เป็นเพียงเหตุสุดวิสัย โรงงานกับโรงเรียนใกล้กันมาก เด็ก ๆ พวกนั้นก็ไปโรงเรียนสะดวกด้วย” ถังซิน “อ๋อ” คำเดียว เธอคิดว่ามู่เฉินหย่วนซื้อโรงงานเพื่อชาวบ้านโดยเฉพาะเสียอีก เธอแค่คิดมากไปเอง ก็จริงสินะ นักธุรกิจคิดถึงผลประโยชน์เป็นอันดับแรกอยู่แล้ว แต่ว่าชาวบ้านเหล่านั้นก็ถือว่าเป็นเกราะป้องกันของตระกูลมู่ นึกถึงคืนนั้นที่มู่เฉินหย่วนดื่มเหล้า คิ้วถังซินก็กระตุก ๆ เธอลองถามหยั่งเชิงดู “ผู้ช่วยจาง คุณอยู่กับประธานมู่นานขนาดนี้ คุณรู้ไหมว่า ประธานมู่มีปัญหาสุขภาพอะไรหรือเปล่าคะ” ผู้ช่วยจางนึก ๆ ดู “ไม่มีนะครับ ประธานมู่ ไปเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลสามเดือนครั้ง ร่างกายก็แข็งแรงมากนะครับ” “คุณแน่ใจเหรอ” ถังซินสีหน้าดูประหลาดใจนิด ๆ ท่าทางของมู่เฉินหย่วนในตอนนั้นดูไม่เหมือนไม่ได้แกล้งนะ “อย่างเช่นว่าแพ้เหล้าอะไรทำนองนี้อ่ะค่ะ” “เหล้า...” ผู้ช่วยจางดันแว่นตาขึ้น นึกขึ้นมาได้ “มีครับ ประธานมู่ดื่มเหล้าดีกรีแรง ๆ ไม่ได้ ถ้าดื่มแล้วจะเกิดเรื่อง” ถังซินถามต่อ “จะเกิดเรื่องอะไรเหรอคะ” ผู้ช่วยจางไอ ๆ แล้วพูด “ประธานมู่จะเชื่อฟังมาก คนอื่นให้เขาทำอะไรเขาก็ทำ ดังนั้นเวลาที่ประธานมู่ไปงานเลี้ยงค็อกเทลผมก็จะตามไปด้วยตลอดเพราะกลัวว่าเขาจะเกิดเรื่อง” พูดจบ เขาก็หันหน้ามามองถังซินแว๊บหนึ่ง “คุณถัง หรือว่าประธานมู่ดื่มเหล้าเหรอครับ” ถังซินพยัก ๆ หน้า “แล้วประธานมู่ก่อเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ” “...ไม่ค่ะ” ถังซินเว้นจูบใต้แสงดาวนั้นเอาไว้ พูดแต่เพียง “ก็แค่เปลี่ยนเป็นคนที่เชื่อฟังมาก ฉันไปไหนก็ตามไปด้วย แล้ว แล้วก็ยังเรียกฉันว่าเมียจ๋า...ด้วย” “อ๋อ งั้นไม่เป็นไร” เรื่องที่ยากจะเอ่ยปากสำหรับถังซิน แต่เป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจสำหรับผู้ช่วยจาง “ประธานมู่ดื่มเหล้าดีกรีแรง ๆ แล้วชอบพูดจาเลอะเทอะ ประธานมู่ยังเคยเรียกผมว่าเปียวเม่ยเลยนะ” “เปียว เปียวเม่ยเหรอคะ” ถังซินอึ้งจนอ้าปากค้าง แทบไม่อยากจะเชื่อเลยสักนิดเดียว “ใช่ครับ ตอนนั้นผมก็งงเหมือนกัน พาประธานมู่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าบางคนก็เป็นแบบนี้ ที่แพ้อาหารบางอย่าง สติเลื่อนลอย จดจำได้แต่เรื่องภายในชั่วเวลาหนึ่ง” “คืนก่อนดื่มเหล้าหนึ่งวันประธานมู่ ผมเจอประธานมู่ดูหนังอยู่ที่บ้าน เฟ่ยเหวินลี่เล่นเป็นเปียวเม่ยของพระเอก คิดว่าประธานมู่คงจะลืมตัวละครนั้นไม่ลง จนเมาแล้วเรียกผมว่าเปียวเม่ย” “เฟ่ยเหวินลี่เป็นผู้หญิง แต่ผู้ช่วยจางคุณ...” ถังซินมองผู้ช่วยจางขึ้น ๆ ลง ๆ “คุณไม่เหมือนเฟ่ยเหวินลี่เลยสักนิด อีกอย่าง ทำไมประธานมู่ถึงเรียกฉันว่าเมียล่ะคะ” ผู้ช่วยจางแบมือทำท่าทางไม่รู้เรื่อง “อันนี้ผมก็ไม่รู้จริง ๆ อาจเป็นเพราะคุณถังสวยหรือเปล่าครับ” “...” โรงงานตั้งอยู่ในเขตเมืองทางเหนือที่เรียกว่า “แบ็กซ์เตอร์” ใหญ่กว่าที่ถังซินคิดเอาไว้มากและสะอาดมาก หลังจากที่รถออกจากลาน บ้านมาถึงโรงงาน ที่นี่มีหอพักเดียวแถมยังมีโรงอาหารอีกด้วย ถังซินนำเด็ก ๆ ไปกินข้าวที่โรงอาหาร เด็ก ๆ ในหมู่บ้านกินนกป่ามาตลอด จู่ ๆ ก็ได้มาเจอเนื้อไก่ เป็ด ปลาสด ๆ แถมยังมีผักสีเขียวสด ๆ อีก แต่ละคนกินข้าวไปสองสามชาม หน้าตาดูอิ่มอกอิ่มใจมาก ตกบ่ายพอแดดจ้าน้อยลง ถังซินก็ไปเด็ก ๆ ออกไปซื้อของ เมืองใหญ่แปลกตา ตึกระฟ้าสูงใหญ่ คนและรถราขวักไขว่ เด็ก ๆ ต่างก็อยากรู้อยากเห็นและปรับตัวได้เร็วมาก ตามถังซินจากร้านนี้ไปร้านนั้น ในมือถือของเต็มไปหมด ถังซินรู้ว่าเหลือเวลาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน หลังจากที่ซื้ออุปกรณ์การสอนกลับถึงโรงงานแล้วก็มาสอนภาษาตุรกีให้กับเด็ก ๆ โดยเริ่มจากสระพื้นฐานก่อน เด็ก ๆ แต่ละคนตั้งใจเรียนกันมาก ภาษาตุรกีเป็นภาษาหนึ่งที่อยู่ในตระกูลภาษาเตอร์ก เรียนง่ายกว่าภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศสที่เห็นบ่อย ๆ เพราะแต่ละตัวอักษรของมันมีเสียงที่แน่นอน อีกทั้งภาษาอังเกอร์ที่เด็ก ๆ พูดก็อยู่ตระกูลภาษาเตอร์กเช่นกันเวลาเรียนเลยสบายกว่าคนที่เพิ่งเริ่มเรียนใหม่ ๆ เพียงคืนเดียว เด็ก ๆ เรียนรู้สิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุดได้แล้ว เวลาสองทุ่มกว่า ๆ ถังซินยังคงจัดการการบ้านของเด็ก ๆ อยู่ ความคืบหน้าเร็วกว่าที่เธอคิด อย่างมากที่สุดก็อีกหนึ่งสัปดาห์ เด็ก ๆ เหล่านี้ก็จะไปโรงเรียนแล้วคุยกับนักเรียนคนอื่นได้อย่างไร้อุปสรรคได้แล้ว ตรวจการบ้านจนถึงชิ้นสุดท้ายถังซินก็รู้สึกง่วงมากเลยฟุบลงนอนไปบนโต๊ะ วันรุ่งขึ้น เมื่อประตูเหล็กด้านนอกโรงงานเปิดออกรถบัสท่องเที่ยวก็เข้ามา หลังจากที่รถบัสจอดหน้าหอพักแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านกับคนอื่น ๆ ก็ลงมาจากรถบัส คนในหมู่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านรุ่นแล้วรุ่นเล่าก็อยู่แต่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ เพราะว่าภาษาเป็นอุปสรรค เลยทำให้คนออกมาน้อยมาก ทันทีที่ได้เห็นสิ่งปลูกสร้างแบบนี้ ทุกคนก็เอ๋อไปเลย ผู้ช่วยจางก็พูดภาษาอังเกอร์ไม่ได้ เขาจึงถาม “ประธานมู่ ให้เรียกคุณถังลงมาไหมครับ” “คุณให้โรงอาหารเตรียมอาหารเช้า แล้วพาพวกเขาไปกินข้าวก่อน พวกเขาไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันเลย” มู่เฉินหย่วนพูด “ให้เธอพักผ่อนอีกหน่อยเถอะ ฟ้าสว่างแล้วค่อยว่ากัน” “ได้ครับ” ผู้ช่วยจางบอกมู่เฉินหย่วนว่าห้องที่เขาให้จัดการอยู่ที่ไหน จากนั้นก็ทำท่าทางสื่อสารกับหัวหน้าหมู่บ้าน สื่อสารอยู่นานมาก ในที่สุดก็พาสี่ห้าสิบคนไปโรงอาหารได้สำเร็จ ห้องพักในโรงงานล้วนไม่เลวเลย เพียงแต่ว่าไม่มีห้องน้ำส่วนตัว สีย้อมน้ำตาลอ่อนที่บนตัวมู่เฉินหย่วนก่อนหน้านี้ทำเอาทนไม่ไหวแล้ว เขาเลยหยิบเสื้อผ้าไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำใหญ่ชั้นสาม ห้องอาบน้ำใหญ่มืดมาก แต่กลับมีเสียงน้ำหยดลงพื้นเป็นสายราวกับฝนตก เหมือนกับว่ามีคนกำลังอาบน้ำอยู่ มู่เฉินหย่วนเปิดปิดสวิชไฟสองครั้งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สงสัยเป็นเพราะไฟเสีย โชคดีที่ในห้องอาบน้ำบนกำแพงมีหน้าต่างที่เป็นกระจกอยู่ เลยพอยังมีแสงเล็กน้อยส่องเข้ามา แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้คนมองเห็นได้ชัดเจน เขากระตุก ๆ คิ้ว พอได้กลิ่นกายก็เดินเข้าไปต่อ หาห้องที่อยู่ใกล้ที่สุด น้ำอุ่นพุ่งออกจากฝักบัวลงมายังเรือนร่าง ดูเหมือนว่ารูขุมขนจะเปิดกว้างไปทั้งตัว ห้องด้านในสุดที่อยู่ห่างจากเขาออกไปอีกหกห้อง ถังซินก็กำลังอาบน้ำอยู่เช่นกัน เมื่อคืนหลังจากที่เธอฟุบหลับไปบนโต๊ะ ไปชนเอาปลั๊กพ่วงอย่างไม่ทันระวังเข้าทำให้ปลั๊กพัดลมหลวม ตอนตีห้าครึ่งก็เลยร้อนจนตื่นขึ้นมา หลังชุ่มไปด้วยเหงื่อเลยหยิบเสื้อผ้ามาห้องอาบน้ำ หลังจากที่ได้อาบน้ำอุ่น ถังซินก็สบายไปทั้งตัว เธอใช้ผ้าเช็ดตัวนุ่งกระโจมอกออกมา เสื้อผ้าของเธอวางไว้ในล็อกเกอร์ชั้นวางของทั้งหมด ขณะที่เธอออกมา ห้องที่อยู่ตรงหน้าก็มีเงาคนหนึ่งออกมาเช่นกัน มองดูด้านหลังดูตัวสูงใหญ่ไม่เหมือนผู้หญิง ถังซินดึงผ้ารัดตัวแน่น พูดภาษาอังกฤษ “คุณคะ คุณเข้าห้องผิดหรือเปล่าคะ” ก่อนที่เธอจะเข้ามาก็มองสัญลักษณ์หลายรอบแล้วว่าห้องอาบน้ำหญิง สงสัยอีกฝ่ายจะเข้าห้องผิดแล้ว หลังจากที่ได้ยินเสียงเธอ อีกฝ่ายก็หันตัวมาทันที ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจแต่หลังจากนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น “คุณถังเหรอ” “ฉันไป!” หลังจากที่เห็นผู้ชายคนนั้นชัดเจน ถังซินหน้าเครียด มุมปากกระตุกไม่หยุด “ประธานมู่ สัญลักษณ์ผู้หญิงใหญ่ขนาดนั้น คุณมองไม่เห็นเหรอคะ” มู่เฉินหย่วนทำหน้าไม่ค่อยถูก “เมื่อกี้มืดเกินไป เลยไม่ทันได้สังเกตเห็น” “...” ในขณะนั้นเองก็มีเสียงหัวเราะสนุกสนานของสาว ๆ ลอดเข้ามาเบา ๆ ดูท่าจะมีสักสามสี่คน มู่เฉินหย่วนกับถังซินมองกันไปมองกันมา แล้วก็อึ้งกันไปทั้งสองคน นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดเสียจริง มู่เฉินหย่วนได้สติกลับมาก่อน เขาแค่เดินไปหาถังซินอย่างไม่ตื่นตระหนกแล้วลากเธอเข้าไปในห้องข้าง ๆ พอดึงม่านขึ้น สาว ๆ ด้านนอกก็เดินเข้ามาแล้ว 
已经是最新一章了
加载中