บทที่ 92 ปราสาทเพชรที่ไม่มีขาย   1/    
已经是第一章了
บทที่ 92 ปราสาทเพชรที่ไม่มีขาย
บ๗ที่ 92 ปราสาทเพชรที่ไม่มีขาย “ห้ะ!” หลี่ซูเจ๋ทำตาโต “แกยังมีน้องชายเหรอ แล้วอายุเท่าไรล่ะ” “อายุน้อยกว่าฉันไม่กี่ปี ยังเรียนหนังสืออยู่ หน้าตาดีอยู่นะ” ถังซินพูด “ฉันรู้สึกว่าเขาก็ควรจะหาแฟนสักคนได้แล้ว พวกแกแอดวีแชทไปลองคุยๆกันดูสิ” ที่สำคัญคือเมื่อก่อนตอนฟังกวนชิงเฟิงบอกว่าโรงเรียนของเขานักเรียนชายเยอะมาก นักเรียนหญิงมีไม่เท่าไร ยิ่งไปกว่านั้นเขาโตขนาดนี้แล้ว ถังซินกลัวว่าจะออกนอกลู่นอกทาง ยังไงมันก็แค่ลองคบๆกัน ทำความเข้าใจกันซักหน่อยก็ได้ ไม่ใช่แต่งงานสักหน่อย “น้องชายของแก จะต้องเหมือนแกแน่ๆ” หลี่ซูเจ๋ใช้มือดันๆถังซินพลางหัวเราะคิคิ หลี่ซูเจ๋เป็นคนคบคนที่หน้าตา พอได้ยินว่ารูปหล่อ อายุน้อยกว่าสองปีก็ถือรับได้ ในขณะกินข้าว หลี่ซูเจ๋ก็แอดวีแชทน้องชายของถังซินไปเรียบร้อยแล้ว ตามองโทรศัพท์เป็นระยะๆปากก็เอาแต่พูดว่าทำไมถึงยังไม่รับแอดฉันเนี่ย ท่าทางดูรีบร้อนยังกับอะไรดี ถังซินก็พูดขึ้น “ที่เขาเรียนอยู่คือโรงเรียนประจำ เข้มงวดมาก ไม่ใช่ว่าวันวันจะได้จับมือถือ แกอย่าเพิ่งใจร้อนสิ ถ้าเกิดวันเสาร์อาทิตย์นี้เขากลับมา เดี๋ยวฉันบอกแกเอง” หลี่ซูเจ๋ก็ได้แต่วางมือถือลง แต่ก็เงียบได้ไม่นาน ปากหล่อนก็เริ่มอยู่ไม่นิ่งแล้ว พูดถึงเรื่องบริษัท เรื่องที่ฝ่ายการวางแผนของหล่อนมีผู้จัดการย้ายมาใหม่จริงจริงแล้วก็คือ มู่จิ่นหลิง “ฉันได้ยินเรื่องซุบซิบมา ถึงได้รู้ว่ามู่จิ่นหลิงคนนี้จริงๆแล้วเป็นลูกสาวบุญธรรมของรองประธานซุน แล้วรองประธานซุนก็เป็นคนย้ายหล่อนจากบริษัทย่อยที่หวยเป่ยมาที่นี่” “แล้วก็ คนที่ชื่อเจียงจิ้งจากฝ่ายการแปลของพวกแกน่ะ ก็ไม่ใช่คนของรองประธานซุนด้วยหรอกหรอ ไอ้รองประธานคนนี้มันชั่วช้าจริงๆ คิดจะบริษัทฮุบมู่ซื่อไว้คนเดียวล่ะสิ” “มู่จิ่นหลิงเข้ามาทำงานที่บริษัทมู่ซื่อแล้วเหรอ?” ม่านตาของถังซินหดลงเล็กน้อย มู่จิ่นหลิงหล่อนรู้ว่าลูกสาวคนที่สองของบ้านท่านคุณปู่ตระกูลมู่ มู่หยางซิวก็เรียกหล่อนว่าคุณอา วันขึ้นปีใหม่เมื่อปีที่แล้วตอนที่ไปบ้านตระกูลมู่กับมู่หยางซิวก็เจอหล่อนครั้งนึง ดูเป็นผู้หญิงที่กล้าแสดงออกคนนึง แต่ตอนที่ท่านคุณปู่มู่ยังอยู่ที่บริษัทมู่ซื่อ ก็มีคำสั่งให้นอกจากคณะกรรมการแล้ว พวกตำแหน่งสูงๆก็ไม่ให้มีคนตระกูลมู่อยู่มากจนเกินไป ท่านก็เลยกระจายคนในตระกูลไปประจำตำแหน่งต่างๆในแต่ละมณฑล แล้วรองประธานซุนยังกล้าเอามู่จิ่นหลิงกลับมาบริษัทมู่ซื่อได้ยังไง? เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ หรืออยากจะเฝ้าดูท่าทีของมู่เฉินหย่วน? “ใช่น่ะสิ แกไปตุรกีได้ไม่กี่วัน หล่อนก็มาแล้ว” หลี่ซูเจ๋ยัดปีกไก่ไร้กระดูกชิ้นหนึ่งเข้าไปในปากจนแก้มปูดออก พูดในขณะที่มีปีกไก่อยู่เต็มปาก “เจียงจิ้งก็ประจบหล่อน วันวันสั่งแต่หว้ายม่ายแพงๆไปส่งฝ่ายการวางแผน มู่จิ่นหลิงให้หล่อนทำอะไรหล่อนก็ทำ อย่างกับพวกหมาที่ชอบเลียแข้งเลียขา” “หล่อนก็ต้องประจบสิ ที่จริงแล้วมู่จิ่นหลิงก็คือคนตระกูลมู่” ถังซินพูดขึ้น “ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้หล่อนจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายได้หรือไม่นั้น ก็ต้องให้มู่จิ่หลิงเข้ามาช่วยนี่แหละ” หลี่ซูเจ๋แสดงออกถึงความไม่พอใจ “หล่อนก็แค่เข้ามาในบริษัทก่อนแถมมีคนคอยหนุนหลังอยู่แค่นั้น ฉันได้ยินมาว่าหัวฝ่ายของพวกแกก็ต้องย้ายไปอยู่สาขาย่อยที่นิวยอร์ก จริงๆแล้วอยากจะเสนอชื่อแก ใครจะไปรู้พอเขาเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ส้มก็หล่นใส่เจียงจิ้งซะงั้น” “เอ้อ ซินซิน ประธานมู่ไม่ได้พูดอะไรบ้างเลยหรอ” หลี่ซูเจ๋โน้มตัวไปข้างหน้า ตามองถังซิน “พวกแกอยู่ด้วยกันที่ตุรกีนานขนาดนั้น ไม่มีเรื่องอะไรบ้างเลยเหรอ? ประธานมู่ไม่ช่วยหนุนหลังอะไรแกเลยหรอ” “ไม่มีนี่ ก็แค่ไปทำงานแค่นั้น” ถังซินตอบโดยไม่คิด พูดหยุดหลี่ซูเจ๋ก่อนที่หล่อนจะจินตนาการไปมากกว่านี้ “อย่าคิดไปเองอีกล่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับประธานมู่ จะให้เขามาหนุนหลังฉันทำไมล่ะ” ยังไงก็ตามการร่วมมือของพวกเราก็จบไปแล้ว หล่อนก็ไม่ได้ติดหนี้ชีวิตอะไรเขาแล้วด้วย “ก็แค่งานอ่ะเนอะ!” หลี่ซูเจ๋ยัดอาหารเข้าไปในปากอีกสองสามคำ “ยังไงความสัมพันธ์เมื่อก่อนของพวกแกสองคนก็คือลุงหลานนี่” “…..” “ฝ่ายของพวกเรามีมู่จิ่นหลิงเพิ่มเข้ามาอีกคนก็ช่างปะไร ฝ่ายของพวกแกวุ่นวายซะขนาดนี้ ฉันว่าตอนหลังเอาคนยัดเพิ่มเข้ามาอีกสักสองสามคน บริษัทมู่ซื่อแห่งนี้อีกหน่อยก็ต้องเปลี่ยนคนแล้วล่ะ” “…..” “เอาเถอะ แกหุบปากเถอะ” ถังซินคีบปีกไก่ยัดเข้าปากของหล่อน “จะวุ่นวายไม่วุ่นวายแกไปยุ่งอะไรด้วยล่ะ เขามีเงินเดือนให้ก็พอแล้ว ถ้าขืนยังจะพูดมากอีกล่ะก็ พรุ่งนี้ฉันไม่ทำกับข้าวให้กินแล้วนะ” ด้วยความที่พรุ่งนี้ไม่อยากสั่งหว้ายม่ายแล้ว หลี่ซูเจ๋จำใจต้องเงียบปาก หลังจากที่ถังซินพูดจบ มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟก็ดังขึ้น หล่อนเดินไปหยิบมือถือที่ห้องรับแขก มันคือเบอร์ที่ไม่รู้จัก มู่หยางซิวอีกแล้วเหรอ? ถังซินสไลด์หน้าจอรับโทรศัพท์ “ใครคะ?” “คุณถังซิน ฉันคือเลขาของท่านประธานมู่ กาวเหม่ยซีค่ะ” ในสายมีเสียงของผู้หญิงตอบกลับอย่างสุภาพ “ดิฉันอยู่ที่ประตูทางเข้าอาพาร์ทเม้นท์ของคุณค่ะ รบกวนคุณลงมาหาดิฉันสักครู่ได้ไหมคะ?” “……ได้ค่ะ” ในขณะที่กำลังลงลิฟต์ ถังซินก็ครุ่นคิดด้วยความแปลกใจ ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงไม่ใช่ว่ากาวเหม่ยซีเพิ่งจะมาส่งหล่อนเองเหรอ ทำไมถึงกลับมาอีกแล้ว หรือว่ามีเรื่องด่วน? หล่อนไม่มีอะไรติดค้างกับคุณมู่แล้วไม่ใช่เหรอ? พอออกจากตึกอพาร์ทเม้นท์ ถังซินก็เห็นกาวเหม่ยซียืนรออยู่ที่ใต้บันได ดูมีระเบียบสะอาดตา ข้างๆมีกล่องกระดาษขนาดใหญ่หนึ่งกล่องความสูงประมาณหนึ่งเมตรกว่าๆวางอยู่ แล้วก็มีผู้ชายสองคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วย “ดึกขนาดนี้ยังต้องรบกวนคุณอีก” กาวเหม่ยซีโค้งคำนับเล็กน้อยให้ถังซิน แล้วเอียงตัวไปหยิบกล่องอันใหญ่จากด้านหลังออกมา “นี้คือสิ่งที่ประธานมู่ให้ดิฉันเอามาให้กับคุณค่ะ” “มันคืออะไรคะ?” “ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ แต่ว่ามันค่อนข้างหนักนะ ให้ทางเราช่วยยกขึ้นไปให้ดีกว่านะคะ” ถังซินอยากที่จะปฏิเสธ กลัวว่าถ้ารับแล้วจะต้องติดหนี้อะไรกับคุณมู่อีก แต่กาวเหม่ยซีดันยืนอยู่ตรงนี้ด้วยท่าทางประมาณว่า “ถ้าเกิดคุณถังไม่รับของสิ่งนี้ดินฉันก็จะไม่กลับ” ซะด้วยสิ หล่อนทำได้เพียงแต่ยิ้มมุมปากแล้วก็นำทางไปข้างหน้า หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที กล่องกระดาษสูงราวๆเมตรกว่าๆก็ส่งถึงห้อง กาวเหม่ยซีกับผู้ชายสองคนนั้นก็ไปแล้ว หลี่ซูเจ๋ถือชามเดินสำรวจรอบๆกล่อง หลี่ซูเจ๋ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ซินซิน นี่มันคืออะไรเนี่ย” “ฉันจะไปรู้หรอ” พอถังซินเห็นปิดผนึกมาซะแน่นขนาดนี้อย่างกับวัตถุโบราณ ก็ไปหยิบมีดมาหนึ่งเล่ม ตัดริบบิ้นกับแผ่นฟิล์มข้างบนออก หมดแรงไปเยอะมากกว่าจะเปิดกล่องนี้ได้ “ว้าว ตาฉันจะบอดแล้ว!” พอกล่องกระดาษเปิดลง หลี่ซูเจ๋จ้องด้วยความทึ่ง ถังซินก็อึ้งด้วยความตกใจ หลังจากที่กล่องกระดาษถูกแกะออก ข้างในคือปราสาทเพชรหนึ่งหลังที่วางอยู่ในตู้กระจก ทั้งปราสาทล้วนเป็นเพชรไม่ต่ำกว่าหมื่นเม็ด สะท้อนแสงประกายแวววาวอยู่ภายใต้โคมไฟ เกินกว่าที่จินตนาการได้ หลังจากอึ้งอยู่สักพัก หลี่ซูเจ๋ก็แสดงอาการออกมาก่อนด้วยความตื่นเต้นสุดขีด “ฉันรู้! นะ…นี่คือปราสาทเพชรของDisneyที่มันไม่มีขายนี่ โอ้ ใจดวงน้อยๆของฉันจะระเบิดออกแล้ว!” พอหลี่ซูเจ๋พูดมาขนาดนี้ ถังซินก็เริ่มที่จะประทับใจขึ้นมาบ้างแล้ว หล่อนยังคงอึ้งอยู่กับปราสาทเพชรในตู้กระจก ไม่อยากที่จะเชื่อว่าปราสาทที่Disneyเอาไว้แค่สำหรับจัดแสดง ตอนนี้ได้มาอยู่ที่บ้านของตัวเอง มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของหล่อน ในขณะนั้นเอง มือถือก็สั่นขึ้นสองครั้ง ถังซินกดเปิดจอมือถือ บนหน้าจอมีข้อความใหม่จากวีแชท มู่เฉินหย่วน : 【คุณถัง หวังว่าปราสาทหลังนั้นจะทำให้คุณฝันดีนะ】 ประโยคที่แสนเรียบง่าย คำศัพท์ไม่ได้สวยหรู แต่ปลายหูกลับแดง ใจเต้นแรงราวกับตัวเองโอบล้อมไปด้วยสายไหม หวานเกินจะบรรยาย “วู้ว ข้อความจากท่านประธานมู่” หลี่ซูเจ๋ไม่รู้ว่าโผล่มาเมื่อไร แอบหัวเราะคิคิ “ยังจะบอกว่าไม่มีอะไรกับท่านประธานมู่อีก เขาส่งของขวัญมาขนาดนี้ นี่เรียกว่าไม่มีอะไรงั้นเหรอ?” “ก็อาจจะเป็นของขวัญแสดงความขอบคุณก็ได้” ถังซินรีบเปลี่ยนสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ ดึงสติกลับมา “กินเสร็จแล้วรีบเอาจานไปล้างล่ะ ฉันขอตัวกลับเข้าห้องก่อน” “แล้วปราสาทเพชรนี้จะทำยังไง วางไว้ที่ห้องรับแขกจะไม่ถูกขโมยเหรอ?” “…..” 
已经是最新一章了
加载中