บทที่ 93 พวกคุณคิดจะแตะต้องคนของฉันได้ตามอำเภอใจงั้นเหรอ
1/
บทที่ 93 พวกคุณคิดจะแตะต้องคนของฉันได้ตามอำเภอใจงั้นเหรอ
รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
(
)
已经是第一章了
บทที่ 93 พวกคุณคิดจะแตะต้องคนของฉันได้ตามอำเภอใจงั้นเหรอ
หังจากนั้นถังซินกับหลี่ซูเจ๋ก็ช่วยกันยกเอาปราสาทย้ายเข้าไปในห้องของถังซิน ถังซินพยายามเบี้ยงความสนใจของตัวเองไปจากปราสาทที่ระยิบระยับนั่น แต่ว่าหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว สายตาก็ถูกดึงดูดให้มองอีกแล้ว อีกทั้งยังอยากที่จะเดินเข้าไปใช้มือลูบๆคลำๆ ก็แค่ปราสาทเพชรหลังนึงไม่ใช่หรอ ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นมาก่อน จะตื่นเต้นอะไรเนี่ย? แต่ว่า….. ถังซินที่นอนอยู่บนเตียงพลิกตัวมามองปราสาทเพชรหลังนั้น แค่แสงเพียงเล็กน้อยนิดส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ทั้งปราสาทก็ส่องประกายระยิบระยับแล้ว ช่างดึงดูดสายตาคนเหลือเกิน แต่ว่ามันสวยจริงๆนะ -- กลับมาจากศึกษาดูงานครึ่งเดือน ถังซินช่วงเวลาเปลี่ยนไปเร็วมาก ตอนเช้าตื่นมาเตรียมอาหารเช้าพร้อมกับอาหารเที่ยง พอกินเสร็จก็นั่งรถไฟใต้ดินกับหลี่ซูเจ๋ไปทำงาน “ว่างสุดๆ!” หลี่ซูเจ๋ดูละครดึกเกินไป เอาแต่หาวตลอดเวลา แถมยังเล่นมือถืออีก ถังซินก็ได้แต่พูดอะไรไม่ออก “ซินซิน ต้องแชร์แล้วๆ!” หลี่ซูเจ๋รีบดึงสติกลับมาทันที เอามือถือยื่นให้ถังซินดู : “BC ออกรถคอลเลคชั่นใหม่แล้ว ตอนนี้รอที่จะสุ่มเลือกผู้โชคดีที่จะได้รับรถไปเลยหนึ่งคัน” ถังซินดูแค่แวบแรก ก็พูดขึ้น “ไม่เห็นมีอะไรน่าแชร์ตรงไหนเลย เรื่องที่ดีขนาดนี้ ก็หนีไม่พ้นคนในนั้นเอาไปกินกันเอง คิดว่าคนธรรมดาอย่างพวกเราจะได้เหรอ? ” “แหม แกช่วยแชร์ทำให้อัตรารางชนะมันต่ำๆก็ได้แล้วน่า” หลี่ซูเจ๋ก็รีบหยิบมือถือของหล่อนมาจัดการทันที “ฉันได้ยินมาว่าตัวแทนจาก BC ไม่เลวเลยนะ ก่อนหน้านี้ก็มีคนได้รถมาแล้ว” หลังจากที่แชร์ลงในเวยป๋อแล้ว หลี่ซูเจ๋ก็หัวเราะคิคิพร้อมกับเอามือถือคืนให้กับถังซิน “รออีกสามวันก็ประกาศผลแล้ว!” “ฉันล่ะเบื่อแกจริงๆ” หลังจากถึงบริษัท สองคนก็แยกกันในลิฟต์ ถังซินเดินแยกไปยังฝ่ายการแปล ครึ่งเดือนแล้วที่ไม่ได้มาบริษัท ที่ทำงานเปลี่ยนไปจนถังซินแทบจะจำไม่ได้ หลังจากที่เดินสำรวจไปรอบๆ หล่อนยังพบอีกว่าของที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของหล่อนมันไม่ใช่ข้าวของเครื่องใช้ของหล่อนแล้ว ประจวบเหมาะกับที่เจียงจิ้งมาพอดี ชุดกระโปรงรัดสะโพกสีแดงทั้งชุด ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแสดงถึงความหยิ่งทะนง“คุณเจียง นี่คุณเป็นคนเปลี่ยนรูปแบบของออฟฟิศและย้ายโต๊ะทำงานของฉันออกไปเหรอคะ?” ถังซินเอ่ยปากถามเจียงจิ้ง รอยยิ้มบนใบหน้าขาวใสให้ความรู้สึกเย็นชา “ฉันแค่ไปศึกษาดูงานกับท่านประธาน ไม่ใช่ลาออกค่ะ” สีหน้าของเจียงจิ้งยังคงไม่เปลี่ยน พูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงตำแหน่งสถานะที่สูงกว่า “อ๋อ กลัวว่าเธอยุ่งอยู่กับการศึกษาดูงาน ก็เลยไม่ได้บอกเธอเรื่องที่ฝ่ายเราประกาศรับสมัครพนักงาน ตำแหน่งพนักงานก็มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว โต๊ะของเธออยู่ตรงนั้นไง” นิ้วของหล่อนชี้ไปที่มุมมุมหนึ่งที่อยู่ใต้แอร์ หันเข้าหาหน้าต่างบานกระจก ถังซินทำตามองต่ำ ทำไมหล่อนถึงพูดจาเสียดสีได้ไร้ยางอายขนาดนี้? “คุณเจียงนี่ดีจังเลยนะคะ อุส่าหาที่ที่หน้าหนาวยังอุ่นหน้าร้อนก็เย็นสบายให้กับฉัน” ถังซินขยับริมปากตอบกลับอย่างรวดเร็ว ยิ้มอ่อนๆ “งั้นก็ขอบคุณคุณเจียงด้วยนะคะ” รอยยิ้มของหล่อนทำให้เจียงจิ้นหัวใจเต้นตึกๆราวกับว่ากำลังรู้สึกกลัว แต่ว่าพอกลับมาคิดแล้ว รออีกสักหน่อยหลังจากที่ถังซินกลับมาทำงาน หล่อนก็จะต้องมาร้องขอชีวิตจากหล่อน หล่อนจะกลัวถังซินไปทำไมล่ะ? คิดได้เช่นนี้เจียงจิ้งก็ยืดอกขึ้นหลังตรงอย่างมีความมั่นใจ : “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันจะไม่ปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับคนของฉันแน่นอน ใช่สิ ตอนนี้เธอก็กลับมาแล้ว งั้นก็ทำงานได้เลยละกัน หานจือ เอางานที่ฉันให้เธอทำก่อนหน้านี้มาให้ถังซินทำสิ” พนักงานคนนั้นตอบรับ ถังซินก็ไม่ได้พูดอะไร ยิ้มเล็กๆน้อย “ได้ค่ะ” พอถังซินเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานตรงมุมใหม่ด้วยสีหน้านิ่งเงียบ เจียงจิ้งมองดูหล่อนสักพักก็จากไป ผ่านไปไม่นาน หนักงานที่ชื่อว่าหานจือก็หอบกองเอกสารกองใหญ่เต็มๆสิบกว่าชุดมาให้ถังซิน ราวกับว่าดองมาหนึ่งเดือนเต็มๆ “ถังซิน คุณเจียงบอกว่าอาทิตย์ต้องทำให้เสร็จและส่งให้หล่อน” หานจือพูดพร้อมหยิบเอกสารสองชุดออกมา “เอกสารสองชุดนี้ค่อนข้างเร่งด่วน ต้องส่งพรุ่งนี้” เมื่อมองมองไปยังประตูกระจก เสียงหานจือค่อยๆเบาลง “ถังซิน เธอทนๆไปเหอะ เรื่องที่หล่อนได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายติดอยู่ที่บนกระดานน่ะ หล่อนเป็นคนไม่ยอมใคร อย่าไปยั่วยุหล่อนจะดีกว่านะ” “ฉันทราบแล้ว ขอบคุณนะ” พอถูกเพื่อนร่วมงานคนนี้เตือนด้วยความหวังดี ถังซินก็กลับมายิ้มๆ แต่หล่อนก็ไม่ใช่คนประเภทที่อดทนอดกลั้นซะด้วยสิ เอกสารที่ต้องจัดการก็ไม่เคยผ่านมือใครเลย ขยะสุดๆ แล้วต้องให้หล่อนมานั่งแก้รายชื่อใหม่ทีละชุดๆ เจียงจิ้งต้องการที่จะแกล้งหล่อนชัดๆ ถังซินจัดการเอกสารสองชุดเสร็จเรียบร้อยด้วยความใจเย็น สิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว หลังจากที่คาดว่ากวนชิงเฟิงน่าจะพักแล้ว ถังซินก็หยิบมือถือออกมา ส่งข้อความทางวีแชทไปหาเขา 【ชิงเฟิง ตอนนี้ใช้มือถือได้แล้วยัง ช่วยพี่หาข้อมูลหน่อยสิ】 โรงเรียนของกวนชิงเฟิงเข้มงวดมาก น้อยมากที่จะได้จับมือถือ ปกติถังซินรอข้อความตอบกลับนานมาก คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ออกไปอุ่นข้าวแปปเดียวเขาก็ตอบกลับแล้ว กวนชิงเฟิง:【ใช้ได้สิ ครูให้พักทั้งช่วงบ่ายเลย】 ครูคนนี้ก็ช่างพักได้ประจวบเหมาะพอดี ถังซินไม่รู้ว่ากวนชิงเฟิงก็ไปตุรกีด้วย แถมยังกลับมาก่อนหล่อนด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเขาออกจากงานบอดี้การ์ดแล้วก็ยังไม่ได้กลับไปโรงเรียน หล่อนส่งชื่อร้านอาหาร ชื่อโรงแรม เวลา แล้วก็ชื่อของเจียงจิ้งไปให้กับกวนชิงเฟิง ให้เขาลองดูว่าสามารถแฮกเข้าไปตรวจสอบข้อมูลในระบบของโรงแรมได้มั้ย กวนชิงเฟิง: 【พี่โดนรังแกมาใช่มั้ย】 ถังซินขำแล้วขำอีก เด็กคนนี้ฉลาดหลักแหลมซะจริง ถังซิน: 【อื้ม ดังนั้นถึงให้แกช่วยสืบหาข้อมูลไงล่ะ พี่อยากจะให้บทเรียนกับหล่อนสักหน่อยน่ะ】 กวนชิงเฟิง: 【เดี๋ยวจะส่งไปให้ในอีกครึ่งชั่วโมง】 เร็วขนาดนั้นเชียว? ถังซินรู้ว่าว่าที่กวนชิงเฟิงเรียนอยู่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เขาสุดยอดมากด้านการใช้คอมพิวเตอร์ ดังนั้นก็เลยให้เขาช่วยเรื่องนี้ แต่ว่าสืบข้อมูลจากโรงแรมยุ่งยากมาก แค่ครึ่งชั่วโมงมั่นใจได้ยังไงว่าจะสำเร็จ หล่อนถือข้าวที่อุ่นเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องชงกาแฟกลับเข้าไปในออฟฟิศ แต่กลับพบว่าในออฟฟิศมีตำรวจสองนายกำลังคุยอะไรบางอย่างอยู่กับพนักงานคนอื่นๆ เพื่อนร่วมงานคนนั้นพอเห็นถังซินกลับมาแล้วก็ชี้มาที่ถังซินพร้อมขยับปากบอกอะไรบางอย่างกับตำรวจ ถังซินขมวดคิ้ว สักพักก็เห็นตำรวจสองนายเดินเข้ามาหาตน ตำรวจหนึ่งนายแสดงหมายจับกุม น้ำเสียงนิ่งไม่สูงไม่ต่ำ “คุณถัง คุณถูกต้องสงสัยว่าฆ่าคน กรุณาเดินตามพวกเรามาครับ” ถังซินถาม: “ฉันฆ่าใคร?” “หัวหน้าฝ่ายของพวกคุณ คุณหลิวซืออวี่” “หัวหน้าหลิวตายเนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลว ไม่เกี่ยวกับฉันเลย” ถังซินขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม เรื่องมันก็ผ่านไปตั้งครึ่งเดือนแล้ว ทำไมตำรวจถึงยังมาหาหล่อนอีก? “จะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง ก็ไปคุยกันที่โรงพักครับ” พอเห็นถังซินไม่ยินยอม สีหน้าของตำรวจสองนายก็เริ่มเปลี่ยนไป มือล้วงไปหยิบกุญแจมือ มันก็คงต้องใช้กำลังแล้วล่ะ พนักงานจากฝ่ายการแปลก็เริ่มกรูกันเข้ามามุงดู ถังซินไม่อยากทำให้เรื่องมันวุ่นวายจนส่งผลกระทบให้กับบริษัทไปมากกว่านี้ แต่ก็แค่ไปโรงพักก็แค่นั้น หล่อนจึงไม่ขัดขืนยื่นสองมือออกมาให้ใส่กุญแจมือ ในขณะที่ตำรวจกำลังใส่กุญแจมือให้กับหล่อนอยู่นั้น ก็มีเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังออกมาด้วยความโกรธ “นั่นมันคนของฉัน คิดว่าพวกคุณจะพาไปตามอำเภอใจได้งั้นเหรอ?” มู่เฉินหย่วนสวมชุดสูทรูปร่างสูงโปร่งเดินเข้ามา สีหน้านิ่งขรึม หันเหลือบไปมองถังซิน หลังจากเดินเข้ามาแล้ว สายตาก็หันกลับมามองที่นายตำรวจ ข้างตัวเขามีกาวเหม่ยซียืนอยู่ ดูแล้วน่าเกรงขามพอๆกัน “ท่านประธานมู่นั่นเอง” นายตำรวจที่กำลังจะใส่กุญแจมือให้ถังซินก็หันไปก้มหัวคำนับกับมู่เฉินหย่วนและพูดว่า: “พวกเราก็เพิ่งจะได้รับรายงานจากเบื้องบนว่า คุณถังซินต้องสงสัยว่าฆ่าคน เลยมาพาตัวไปสอบสวนครับ” “ฉันรู้จักคนของฉันดี” มู่เฉินหย่วนกล่าว “วันที่เกิดเรื่องขึ้นกับคุณหลิว หล่อนก็กำลังคุยเรื่องงานกับฉันที่โรงแรมกว่างเหม่ย ฉันเป็นพยานให้หล่อนได้” เมื่อเจอแรงกดดันจากมู่เฉินหย่วน ตำรวจสองนายสีหน้าหยุดชะงัก “คุณมู่ครับ ถึงแม้จะบอกว่าถังซินไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่นั่นก็ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้นะครับ…..” มู่เฉินหย่วนหันหัวไปมองเลขาข้างๆตน กาวเหม่ซีก็เดินขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าวอย่างทันทีพร้อมพูดอย่างสุภาพ: “คุณตำรวจสองท่าน คุณหลิวเสียชีวิตเพราะกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลว ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นเรื่องตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อน ทางโรงพยาบาลก็ออกใบผลการวินิจฉัยแล้ว” “ถ้าเกิดถังซินเข้าไปเกี่ยวข้องกับการตายของคุณหลิวแล้วล่ะก็ ตอนที่เกิดเรื่องขึ้น พวกคุณก็ควรจะมาหาหล่อนแล้ว จนถึงตอนนี้คุณหลิวก็ถูกฝังไปแล้ว แม้แต่ภรรยาของคุณหลิวก็ยังทราบว่าคุณหลิวมักจะนอนดึก ดังนั้นเป็นเหตุทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลว หล่อนก็ยอมรับความจริงนี้ได้ พวกคุณก็ควรเลิกสืบนุ่นเสาะนี่ได้แล้วค่ะ จะเหนื่อยเสียเปล่า” ตำรวจสองนายถูกเลขาท่าทางเฉียบขาดคนนี้ตอกกลับจนพูดอะไรไม่ออก
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 93 พวกคุณคิดจะแตะต้องคนของฉันได้ตามอำเภอใจงั้นเหรอ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A