บทที่ 94 ถึงรู้ว่าเป็นถ้ำเสือแต่ก็ต้องเข้า
1/
บทที่ 94 ถึงรู้ว่าเป็นถ้ำเสือแต่ก็ต้องเข้า
รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
(
)
已经是第一章了
บทที่ 94 ถึงรู้ว่าเป็นถ้ำเสือแต่ก็ต้องเข้า
บ๗ที่ 94 ถึงรู้ว่าเป็นถ้ำเสือแต่ก็ต้องเข้า หนึ่งในตำรวจสองนายก็ยังไม่ไม่มีทีท่าว่าจะยอม กำลังที่จะพูดก็โดนกาวเหม่ยซีชิงพูดดักไว้ก่อน: “ถ้าพวกคุณจะพาตัวคุณถังไปสอบสวนก็ได้นะคะ แต่ว่าพวกคุณก็ต้องอธิบายให้ทางบริษัทและพวกเราเข้าใจอย่างละเอียดด้วยค่ะ” “ถ้าคุณถังถูกนำไป หุ้นของบริษัทก็จะเกิดการผันผวน แล้วถ้าคุณถังถูกปล่อยตัวออกมาเนื่องจากไม่มีความผิดด้วยล่ะก็ พวกคุณก็จะเสียชื่อเสียงต่อทุกคนและสื่อต่างๆ” ตำรวจสองนายเงียบกริบ จิตใจเริ่มสับสน พวกเขาโชคไม่ดีที่ได้รับมอบหมายให้มาทำงานงานนี้ บริษัทมู่ซื่อแห่งนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะมารุกรานได้ง่ายๆ ถ้าจะมาเอาตัวคนไปสอบสวนที่โรงพักจริงๆ คนที่จะโดนด่ากราดกลับไปก็คือพวกเขาเองนี่แหละ ตำรวจสองนายมองหน้ากันไปมา สื่อสารกันทางสายตา หลังจากนั้นไม่กี่วินาที หนึ่งในพวกเขาก็พูดขึ้น: “ถ้าท่านประธานมู่รับประกันว่าคุณถังไม่ได้ลงมือทำจริง งั้นทางเราก็เชื่อว่าคุณถังบริสุทธิ์” มู่เฉินหย่วนพยักหน้าตอบรับ ยังไม่ทันถึงสิบนาทีตำรวจทั้งสองนายพูดจบก็กลับไป เหลือแต่พวกพนักงานที่ยังยืนมุงดูอยู่ และถังซินที่ยืนอยู่อย่างเบลอๆงงๆ คิดไม่ถึงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเปลี่ยนแปลงไปย่างรวดเร็วขนาดนี้ “คุณถัง” ถังซินได้ยินเสียงเรียกชื่อทำให้ดึงสติกลับมา หล่อนหันไปมองมู่เฉินหย่วน แล้วรีบก้มหัวคำนับพร้อมพูดด้วยความสงบนิ่ง: “มีอะไรเหรอคะ ท่านประธานมู่?” มู่เฉินหย่วนตอบ: “การตายของหัวหน้าหลิวไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอไม่ต้องไปใส่ใจ ถ้าเกิดยังมีตำรวจมาหาเธออีกล่ะก็ ไม่ต้องไปกับพวกเขา แค่อ้างชื่อของฉันก็พอ เข้าใจไหม?” ทรวงอกของหล่อนร้อนผ่าว พยักหน้า: “เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณท่านประธานมู่มากค่ะ” “ไม่ต้องเกรงใจ” มู่เฉินหย่วนกับเลขากาวก็เดินจากไปทันที ฝ่ายการแปลนิ่งเงียบกันเกือบหนึ่งนาที พวกคนที่มุงดูอยู่ก็พากันมาถามถังซินด้วยท่าทางซุบซิบนินทา “ถังซินเธอสุดยอดมาก จู่ๆประธานมู่ก็มาช่วยพูดแทนเธอ” “เธอก็หย่ากับมู่หยางซิวแล้ว ประธานมู่ยังดูแลเธอดีขนาดนี้อีก ดีจริงๆเลยนะเธอเนี่ย” “ถังซินเธอไปศึกษาดูงานกับประธานมู่ตั้งครึ่งเดือน ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายต้องเป็นของเธอแล้วล่ะ?” “…..” ต่างคนต่างเข้ามารุมแซวถังซิน คำพูดไม่น่าฟังเลยสักนิด ถังซินเคยชินกับสถาณการณ์แบบนี้แล้ว ก็ไม่ได้โกรธอะไร กลับยิ้มๆพร้อมตอบกลับ: “งั้นรอประธานมู่มีเวลาว่าง ฉันจะนัดเขามากินข้าวและพูดคุยกันกับพวกเธอละกันนะ” พวกพนักงานก็สีหน้าก็เริ่มเปลี่ยน พากันหัวเราะแล้วก็พูดแต่ประโยคพวก “ก็แค่ล้อเล่นเองนี่นาต้องขนาดนั้นเลยหรอ” หรือไม่ก็ “แต่ไหนแต่ไรประธานมู่ก็คอยดูแลเธออยู่แล้วนี่” ถังซินได้แต่พูดด้วยความแดกดันอยู่ในใจ คนพวกนี้พอกับเจียงจิ้งล่ะไม่กล้าพูดสักคำ แต่พอกับหล่อนล่ะพูดออกมาแต่ละคำสกปรกเลอะเทอะสุดๆ เห้อ หล่อนนี่มันน่ากลั่นแกล้งมากเลยหรอ? ไม่นานกวนชิงเฟิงก็รีบเอาข้อมูลที่สืบมาได้ส่งให้ถังซิน ไม่เพียงแต่ที่ถังซินต้องการเท่านั้น แต่ยังสืบไปถึงเงินที่เจียงจิ้งได้รับมาและก็การที่หล่อนชอบไปปั่นความสัมพันธ์ระหว่างพวกพนักงานฝ่ายต่างๆด้วย ถังซินเซฟสองวิดีโอที่ดูจะร้ายแรงที่สุด ข้อมูลที่เหลือก็ส่งไปที่เมลของกาวเหม่ยซีแบบไม่ระบุผู้ส่ง ข้อมูลพวกนี้สามารถโค่นหล่อนลงจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายได้เลย เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเจียงจิ้งมาถึงบริษัท ก็ยังคงวางท่าทางหยิ่งทะนง แต่พอหลังจากที่ไปประชุมเสร็จแล้วกลับมา สีหน้าเริ่มซีด อย่างกับลูกหมาตกน้ำ ถังซินหยิบเอกสารเดินเข้าไปในห้องทำงานของหัวหน้าฝ่าย “คุณเจียงคะ เอกสารที่คุณต้องการฉันจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” หล่อนทำเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพียงแค่ยังไม่ได้ส่ง ไม่อย่างนั้นวันนี้ก็ไม่เห็นสีหน้าที่ทำให้หล่อนเห็นแล้วดีใจแบบนี้น่ะสิ “ถังซิน ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอมีความอดทนสูงเหมือนกันนะ” เจียงจิ้งจ้องไปที่ถังซินด้วยแววตาโกรธแค้น ตอนที่เพิ่งจะเริ่มประชุม หล่อนเสนอเรื่องที่ฝ่ายการแปลต้องการหัวหน้าฝ่ายหนึ่งคน คนตำแหน่งสูงกลับปัดทิ้งไม่สนใจหลังจากประชุมเสร็จ ก็ได้ยินคนพูดว่า เมื่อวานตอนที่หล่อนไม่อยู่บริษัท ตำรวจได้มาที่บริษัทเพื่อที่จะพาตัวถังซิน แต่ประธานมู่ดันมาช่วยถังซินซะก่อน ถังซินแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ หัวเราะเบาๆแล้วถามออกไป: “คุณเจียงหมายความว่ายังไงเหรอคะ” เจียงจิ้งใช้สองมือตบลงบนโต๊ะ ตอบด้วยความโกรธ: “ฉันรู้ว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูด! เธออย่าคิดว่านะว่าตีสนิทประธานมู่แล้วจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายตำแหน่งนี้ยังไงซะก็ไม่ตกเป็นของเธอหรอก” “ฉันก็ไม่ได้อยากได้ตำแหน่งนี้อยู่แล้วนี่คะ” ถังซินจ้องไปทางหล่อน “คนที่อยากได้ตำแหน่งนี้ก็มีแต่คุณนั่นแหละค่ะ คุณเจียง ดูจากท่าทางคุณตอนนี้ ความฝันคงพังทลายแล้วสินะคะ” “นี่เธอ!--” เจียงจิ้งกำลังจะง้างมือตบ แต่ว่าถ้าหล่อนตบถังซินก็เท่ากับว่าที่ถังซินพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง เจียงจิ้งขายหน้าเต็มทน มือที่ยกอยู่กำหมัดไว้แน่น แล้วก็เชิดหน้าขึ้นใส่ถังซินด้วยท่าทางดูถูก “แน่นอนว่าไม่ใช่! ฉันเหมาะสมกับตำแหน่งมากกว่าใคร คนตำแหน่งสูงเขาไม่โง่หรอก” ถ้าพวกเขาเลือกเธอล่ะก็ นั่นแหละถือว่า โง่ ! ถังซินพูดประชดอยู่ในใจ แล้วก็หันไปยิ้มด้วยอย่างจริงใจที่สุดกับเจียงจิ้ง “ฉันก็ว่างั้นแหละค่ะ หลังจากนี้ก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณเจียง” หลังจากรอถังซินเดินออกไป เจียงจิ้งเตะเก้าอี้ด้วยความโกรธสุดๆ แต่ดันเตะโดนนิ้วหัวแม่เท้าของตัวเอง เจ็บจนต้องสูดลมหายใจเข้าอย่างสุดแรง ในใจของเจียงจิ้งตอนนี้จงเกลียดจงชังถังซินถึงขีดสุด เข้ามาในบริษัทมู่ซื่อก็ช้ากว่าหล่อน แต่กลับฉลาดหลักแหลมขนาดนี้ ใครๆก็ชม แม้แต่หัวหน้าก็ยังปลื้ม แถมยังโชคดีได้แต่งงานกับมู่หยางซิว ได้กลายเป็นหลานสาวของประธานมู่อีก! เทียบกันแล้วหล่อนก็มาได้ด้อยไปกว่าถังซิน เพียงแค่โชคยังไม่ได้มาหาหล่อนเท่านั้น ต่อให้ตอนที่หัวหน้าฝ่ายต้องย้ายไปสาขาย่อยที่นิวยอร์ก คนที่เหลืออยู่ก็เอาแต่พิจารณาให้ถังซินเป็นหัวหน้าฝ่ายแทน ไม่สนใจหล่อนเลยสักนิด เป็นใครใครก็เกลียด เจียงจิ้งยิ่งคิดยิ่งโกรธ หยิบมือถือมาแล้วส่งข้อความบางอย่างไปหนึ่งข้อความ มุมปากยิ้มอย่างชั่วร้าย บ่ายสามโมงครึ่ง เจียงจิ้งเดินเข้ามาหาถังซินที่หน้าโต๊ะทำงาน “ถังซิน เธอวางงานที่อยู่บนมือลงก่อน” เจียงจิ้งพูดพร้อมกับโยนเอกสารหนึ่งชุดให้กับถังซิน “ประธานส้งจากบริษัทหวนหย่านัดหุ้นส่วนจากฟินแลนด์ทานข้าว อยากยืมตัวนักแปลจากบริษัทเราหนึ่งคน เธอไปสิ” ถังซินมองดูสีหน้าของเจียงจิ้ง ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงยังมองหล่อนด้วยแววตาโกรธแค้นแทบจะอยากเข้ามากระชากตัวหล่อน แล้วนี่กลับมาขอให้หล่อนช่วยด้วยท่าทีนิ่งสงบขนาดนี้? ไม่เสแสร้งก็แปลกแล้ว! “คุณเจียงคะ ฉันยุ่งมากๆ คุณไปหาคนอื่นดีกว่าค่ะ” ถังซินชี้ไปยังเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะทำงาน “เอกสารพวกนี้ล้วนเป็นเอกสารที่คุณต้องการเร่งด่วน ฉันเพิกเฉยไม่ได้หรอกค่ะ” “ไม่รีบๆ เอกสารพวกนี้ส่งช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร” เจียงจิ้งตอบแล้วก็แสร้งพูดต่อว่า: “ถังซิน หรือว่าเธอเห็นฉันแค่มาทำงานแทนหัวหน้า ก็เลยไม่เชื่อฟังฉันงั้นหรอ?” ถังซินรู้ดีว่าต่อให้หล่อนพูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงเจียงจิ้งก็ต้องให้หล่อนไปอยู่ดี “โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันไปเองก็ได้ค่ะ” พอเห็นถังซินตอบรับ ใบหน้าของเจียงจิ้งก็เผยรอยยิ้มเล็กๆอย่างมีเลศนัย “รีบๆไปเถอะ สถานที่ทานข้าวก็คือร้านเหมยจวงแถวๆตะวันออก ทางค่อนข้างไกล” พูดจบก็บิดเอวเดินจากไป ถังซินมองเอกสารพวกนั้นสักพักแล้วถอนหายใจ ไม่มีทางอื่นแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าเป็นถ้ำเสือแต่ก็ต้องเข้าไป พอถังซินมาถึงร้านเหมยจวง ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว ได้ยินมาว่าร้านเหมยจวงดูแล้วก็เหมือนกับสถานที่มานัดคุยเจรจาทางธุรกิจทั่วๆไปแต่กลับไม่เงียบสงบเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้นเสียงดังอึกทึกตั้งแต่สว่างยันค่ำ ไม่เพียงแต่เป็นที่กินข้าว ความบันเทิงต่างๆก็มีครบวงจร ขณะที่ถังซินลงจากรถปิดประตูกำลังจะเดินเข้าไปในร้าน ก็ได้ยินเสียงหัวเราะแว่วๆมาจากข้างๆ เสียงหัวเราะนั้นคุ้นมากจนทำให้หล่อนต้องหันหน้าไปดู หล่อนเห็นเฉียวมั่นหลัวทั้งตัวมีแต่ของหรูหราอู้ฟู่ มือเรียวยาวควงผู้ชายกำลังลุกออกมาจากรถ ผู้ชายอายุน่าจะห่างจากเฉียวมั่นหลัวอย่างน้อยสิบห้าปี ถังซินนึกว่าเฉียวมั่นหลัวติดแบล็คลิสต์หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอแยกกันกับมู่หยางซิวแล้วก็วิ่งไปเกาะเศรษฐีคนใหม่ได้เร็วขนาดนี้ ก็นั่นสินะ ถ้าไม่ใช้เล่ห์กลก็ไม่ใช่เฉียวมั่นหลัวน่ะสิ ขณะที่เฉียวมั่นหลัวเงยหน้าขี้นมา ก็มองเห็นถังซินเข้าพอดี แววตานั่นเย็นยะเยือกราวกับงูพิษ ดูอันตรายสุดๆ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 94 ถึงรู้ว่าเป็นถ้ำเสือแต่ก็ต้องเข้า
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A