บทที่ 104 ซุนหงอคงในกำมือเขา ไม่ว่าจะดิ้นอย่างไรก็ออกไปไม่ได้   1/    
已经是第一章了
บทที่ 104 ซุนหงอคงในกำมือเขา ไม่ว่าจะดิ้นอย่างไรก็ออกไปไม่ได้
บ๗ที่ 104 ซุนหงอคงในกำมือเขา ไม่ว่าจะดิ้นอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ แผนก Regulators หนะหรอ ถือว่าเป็นมือขวาของมู่เฉินหย่วนเลยนะ ไปไหนมาไหนในมู่ซื่อได้หมด ออร่าพุ่งกระจาย นางถังซินมีสิทธิ์อะไรที่จะคว้าตำแหน่งนี้ไว้เชียว มู่เฉินหย่วนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณมีปัญหากับการตัดสินใจของผมมั้ย” “ประธานมู่คะ คุณธรรมของถังซินไม่ดี ไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้หรอกค่ะ” เจียงจิ้งเหมือนเสียสติไปแล้ว ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ควักแฟรชไดร์ฟอันหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แล้วเสียบบนโน๊ตบุ๊ค ไม่นาน บนผ้าโปรเจคเตอร์ก็มีภาพฉายปรากฏขึ้นมา เป็นภาพที่ถังซินเล่นไพ่ที่ประธานเกาที่ห้องวีไอพีส่วนตัว ภาพคมชัดเจนอย่างยิ่ง ถ่ายเห็นหน้าเธออย่างชัดเจน “แหม ประธานเกา ฉันแทบจะเอาตัวเองไปเดิมพันแล้วนะ คุณจะใช้อะไรหละคะ ถ้าแค่เงินคงจะไม่ผ่านนะคะ” “ประธานซ่งคะ คุณจะลองเดิมพันสักหน่อยมั้ยคะ ไม่ ไม่หรอก ไม่เสียหรอกค่าา” “......” ภายในคลิปวิดีโอนั้น เสียงหัวเราะหวานหยดของผู้หญิงดังก้องไปทั่วห้องประชุม ถังซินโน้มไปหาผู้ชายคนนี้ทีคนนั้นที แลดูเป็นผู้หญิงปล่อยเนื้อปล่อยตัว ถังซินแสยะยิ้ม เธอเองก็ยังคิดอยู่เลยว่าเจียงจิ้งจะยอมให้ตัวเองไปคุยงานกับประธานซ่งที่ร้านเหมยจวงได้ไง ที่แท้เตี๊ยมกับประธานซ่งไว้เรียบร้อย ถ้าไม่ใช่มู่เฉินหย่วนมาเมื่อคืนนะ ต่อให้เธอชนะก็คงออกจากที่นั่นไม่ได้อยู่ดี ไม้นี้มาไม่ธรรมดาเลยนะ เจียงจิ้งชี้ไปทางถังซินด้วยน้ำเสียงโมโหคับแค้น “ประธานมู่คุณดูเองสิคะ ถังซินดูไม่สำรวมเลย ให้เธอไปช่วยคุยงานกับประธานซ่ง แต่เธอกลับใช้ร่างกายยั่วอ่อยผู้ชาย” “คนแบบเธอนะ อนาคตไม่รู้ว่าจะสร้างปัญหาทำให้มู่ซื่อเดือดร้อนขนาดไหน แล้วก็ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้จัดการของแผนกื Regulators ด้วย ประธานมู่ลองคิดดูดี ๆ นะคะ” มู่เฉินหย่วนนั่งนิ่ง ๆ ไม่เอ่ยปากพูดอะไร ถังซินรู้ว่าเขากำลังให้โอกาสตัวเองในแก้ไขปัญหาเอง แต่ก็จริง เรื่องนี้ควรจัดการโดยเธอ ยังดีที่เธอเตรียมตัวมาก่อนแล้ว “พี่เจียงคะ พี่จะเอาแค่ส่วนหนึ่งของเรื่องมาตีความทั้งหมดไม่ได้นะคะ” ถังซินยิ้มบาง ๆ “เมื่อคืนคุณพี่ให้ฉันไปช่วยคุยเรื่องงานกับประธานซ่ง ทุกคนในแผนกก็ได้ยินหมด” “ฉันช่วยประธานซ่งคุยเรื่องงานเสร็จ เขาว่าอยากจะขอบคุณฉันก็เลยลากฉันไปห้องเล่นไพ่ ช่วงก่อนหน้านั้นในคลิปที่ประธานซ่งรวนรามฉัน ทำไมพี่ไม่เปิดให้ดูบ้างหละคะ” “ตอนเล่นไพ่ ฉันคนเดียวต้องเจอกับสามคน ทำไมหรอคะ ฉันต้องโดนพวกเขากลั่นแกล้งโดยที่นั่งเงียบเฉยหรอคะ คุณพี่ก็ตลกเหมือนกันนะคะ คุณพี่อ่อนแอเอง อย่าคิดว่าคนอื่นจะเหมือนพี่หมดนะคะ” “ที่ฉันทำแบบนั้นไปคือกำลังปกป้องตัวเองจากการกลั่นแกล้งของผู้อื่น อีกเรื่อง ฉันเป็นคนของมู่ซื่อ เป็นตัวแทนของมู่ซื่อ ถ้าฉันไม่ใช้กลยุทธ์อะไรเลย รอให้คนอื่นมาแหกหน้ามู่ซื่องั้นหรอคะ” แค่ไม่กี่ประโยคทำให้เจียงจิ้งอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก อายจนหน้าแดงก่ำ เธอหันหน้าไปหามู่จิ่นหลิงด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ มู่จิ่นหลิงขมวดคิ้ว เหมือนกำลังโทษเธอที่ไม่คิดอะไรก่อนทำอีกคน เธอเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถังซิน ต่อให้แกจะมีเหตุผลอีกมากมาย แต่ดูคลิปที่ฉายไปเมื่อกี้สิ ทุกคนไม่ได้ตาบอดนะ แกบอกว่าทำทุกอย่างเพื่อมู่ซื่อ แต่การที่แกทำแบบนี้ ไม่ได้กำลังทำร้ายชื่อเสียงของมู่ซื่อหรอ” “ผู้จัดการมู่ยังไม่ได้ดูคลิปเต็มก็รีบตัดสินแล้วหรอคะ เด็ดขาดจริง ๆ นะคะ” ถังซินหัวเราะลั่น ล้วงเฟรชไดร์ฟออกมาจากซองเอกสาร “ฉันจะให้ผู้จัดการมู่ดูว่าการทำร้ายชื่อเสียงมู่ซื่อเป็นยังไง” ถังซินโน้มตัวเบา ๆ ใช้นิ้วเคาะบนโน๊ตบุ๊คสองสามครั้ง โปรเจคเตอร์ดับลงและสว่างขึ้นอีกครั้ง เธอกดไปที่เล่นวีดีโอ ภาพที่เจียงจิ้งกำลังคุยกับผู้ชายบางคนที่ร้านอาหารปรากฏขึ้น จากนั้นทั้งสองยังไปโรงแรมด้วยกันอีก ภาพตัดไปที่เจียงจิ้งไปเตี๊ยมกับแผนกอื่นสร้างความแตกแยกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ภาพตัดไปอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นภาพที่เจียงจิ้งกำลังคุยอะไรบางอย่างกับคนที่มาแผนกล่ามใหม่ แล้วยื่นเอกสารไปให้เธอถ่ายเอกสาร จากนั้นเรื่องโครงการของบริษัทลลูกในพื้นที่หนึ่งถูกปล่อยไปออกสู่โลกภายนอก เจียงจิ้งหน้าซีดจนทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ เวลาทำอะไรเธอเองก็ระมัดระวังทุกครั้งแล้ว ทำไมถึงยังถูกจับได้อีก ถังซินเอาภาพพวกนี้มาจากไหน “แกนี่ช่างกล้าจริง ๆ เลยนะ กล้าไปยุ่งวุ่นวายกับบริษัทลูกในพื้นที่อื่นด้วยหรอห้ะ” มู่จิ่นหลิงหันไปจ้องเจียงจิ้ง เธอไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้ไมระวังอะไรเลย ทั้งไม่รอบคอบและโง่ด้วย ถูกคนอื่นจับได้เฉยเลย “ฉัน….ฉัน…..” เจียงจิ้งลนลานจนพูดอะไรไม่ถูก “ฉันก็รู้ว่ามันไม่ถูก ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ คือ.....คือ…..” เธอเหมือนกำลังกลัวที่จะต้องเสียงานตัวเองไป เหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างเพื่อลดโทษ มู่จิ่นหลิงนัยตาเข้มขึ้น ง้างมือขึ้นแล้วตบเข้าที่หน้าเจียงจิ้งอย่างแรยง “หุบปากซะเถอะ ทำเรื่องที่น่าอายแบบนั้นแล้วยังกล้าพูดอีก” เจียงจิ้งเอามือจับหน้าตัวเองไว้ รู้ว่าตัวเองเหมือนพูดอะไรผิด ไม่ใช่ว่าพูดไม่ได้ แต่ไม่กล้าที่จะพูดต่างหาก ถ้าเธอเปิดเผยคนเหล่านั้น หลังจากเธอออกจากมู่ซื่อไปก็จบข่าวแล้ว “เจียงจิ้ง แกทำอะไรแบบนี้ลงไป บริษัทคงเก็บเธอไว้ไม่ได้แน่ ๆ “ มู่เฉินหย่วนทำเป็นเหมือนไม่เห็นการกระทำของมู่จิ่นหลิง สีหน้าเขานิ่งอย่างไร้อารมณ์ “พรุ่งนี้ไปรายงานตัวที่แผนกการเงินเพื่อเคลียร์ค่าจ้าง จบการประชุมเพียงเท่านี้ครับ” สิ้นประโยค มู่เฉินหย่วนนำเดินออกจากห้องประชุมก่อน ถังซินเพิ่งตั้งสติได้ หันไปเห็นเพียงแผ่นหลังของมู่เฉินหย่วนที่เดินออกไปจากห้องประชุม เธอรีบเก็บของแล้วตามไปหยุดมู่เฉินหย่วนได้ก่อนที่เขาจะเดินเข้าลิฟต์ “ประธานมู่คะ ไหนเราคุยกันก่อนหน้านั้นแล้วหนิคะ” “คุยอะไรก่อนหน้านั้นหรอ” มูเฉินหย่วนถาม สายตาจ้องไปที่ตัวเลขบนลิฟต์ “คุณบอกว่าคุณไม่อยากรับหน้าที่หัวหน้า ผมก็เลยหาคนมาจากเยนจิง ไม่ได้ทำให้คุณลำบากใจหนิครับ” “ประธานมู่ คุณอย่ามาสลับแผนซับซ้อนแบบนี้นะ” ถังซินกัดริมฝีปากด้วยความโมโหเล็กน้อย “ฉันไม่ได้เป็นหัวหน้า แต่ก็โดนคุณย้ายไปแผนก Regulators อยู่ดีไม่ใช่หรอคะ” “ฉันบอกแล้วว่าฉันต้องการแค่หาเงิน ไม่อยากมามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการแข่งขันใด ๆ พอคุณย้ายฉันไปที่นั่น เท่ากับว่าทุกคนในมู่ซื่อรู้หมดว่าฉันทำงานให้ใคร ซึ่งมันต่างจากที่เราคุยกันไว้ตั้งแต่แรก” มู่เฉินหย่วนมองไปทางเธอด้วยสายตามีเลศนัย “คุณถังครับ แล้วก่อนหน้านั้นคุณไม่ได้ทำงานให้ผมหรอครับ” แน่นอนว่าไม่ ก่อนหน้านั้นเธอทำเพื่อมู่ซื่อ ทำงานเพื่อมู่ซื่อแค่ได้เงินก็พอ แต่ทำงานให้มู่เฉินหย่วนเท่ากับว่าเธออยู่ข้างเดียวกับเขา ทำให้เธอกลายเป็นปรปักษ์ต่อรองประธานซุนและอำนาจของคนอื่น ๆ แน่นอนว่าชีวิตในการทำงานไม่สงบแน่ แต่คำพูดเหล่านี้ถังซินพูดไม่ได้ เพราะมู่เฉินหย่วนเป็นเจ้านายของเธอนั้นเป็นความจริง เธอได้แค่พูดว่า “ฉันเป็นแค่นักล่ามคนหนึ่ง ในสมองมีแต่ภาษาต่าง ๆ ไม่สามารถมาบริหารได้ ทักษะการกำเนินการต่าง ๆ ก็มีไม่พอ” “ถังซิน คุณมีความสามารถขนาดไหนผมเคยเห็นกับต” มู่เฉินหย่วนก้าวขึ้นมาอยู่ตรงหน้าเธอ ถังซินถอยไปข้างหลังตามสัญชาตญาณ แขนขาอ่อนแรง มู่เฉินหย่วนจ้องไปทางเธอ ไม่มีท่าทางใด ๆ “เอาเธอไว้ในแผนกล่ามก็เหมือนกับเอาปลาใหญไปไว้ในบ่อเล็ก ผมเสียดาย ไม่อยากเห็นไข่มุขล้ำค่าจมอยู่ในกองดิน” ถังซินตอบกลับ “ฉันอยากที่จะถูกหลบไว้ในกองดิน” “ถังซิน เรื่องของมู่ซื่อไม่ต้องให้ผมพูดคุณก็น่าจะสังเกตุได้นะครับ” ลมหายใจของผู้ชายแตะเบา ๆ บนแก้มของเธอ ทั้งแผ่วร้อนทั้งคันยุบยิบ “คนของผมอยู่ที่นิวยอร์คหมดเลย เรียกกลับมาไม่ได้ ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ” นัยน์ตาของเขาคมเข้มราวกับหลุมดำ ลึกจนมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เหมือนกำลังจะสูบคนเข้าไปได้ ทั้งสองคนเข้าใกล้กันใหม่ ทำให้เธอขนลุกซู่ไปทั้งตัว ก้าวถอยหลังไปอีกจนหลังชนประตู หัวใจเต้นรัว ราวกับจะหลุดออกมาจากอก ทุกครั้งที่เธอรับมือกับคุณชายมู่ ถังซินรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นซุนหงอคงที่อยู่ในกำมือของเขา ไม่ว่าจะดิ้นอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ ทำได้แค่เดินตามเขา ช่างน่าโมโหจริง ๆ 
已经是最新一章了
加载中