บทที่ 106 คุณนั่นแหละเป็นคนทำร้ายฉันมากที่สุด   1/    
已经是第一章了
บทที่ 106 คุณนั่นแหละเป็นคนทำร้ายฉันมากที่สุด
บ๗ที่ 106:คุณนั่นแหละเป็นคนทำร้ายฉันมากที่สุด “แต่หลุมนี่ลึกมาเลยนะ” หลี่ซูเจ๋จับแว่นให้ตรงและวิเคราะห์ต่อ “แผนกนี้ดูดีเลิศเลอไปหมด ทำอะไรที่มู่ซื่อก็ได้ แต่ว่าแท้จริงแล้วเกมอำนาจของมู่ซื่อซับซ้อนมากมาย” “ฉันมามู่ซื่อยังไม่ถึงสองเดือนก็รู้แล้วว่ามีพรรคพวกรองประธานซุน และ รองประธานเกาแล้ว เธอจะไปขุดคุ้ยอะไรเพื่อหาความจริง อาจจะไปขุดโดนระเบิดของพวกเขา ถ้าเกิดว่าเธอเกิดอะไรขึ้นทำไงหละ” หลี่ซูเจ๋พูดด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจ “ภายนอกประธานมู่ดูดีไปหมด แต่ทำไมเป็นคนใจดำอย่างงี้วะ” “ยากแค่ไหนก็ต้องทำแหละ” มาถึงขนาดนี้แล้ว ถังซินไม่ได้คิดอะไรมาก “เพราะยังไงก็ตามประธานมู่คงไม่กลับไปบริษัทลูกที่นิวยอร์ค จะเกิดอะไรขึ้นยังมีเขารับมือแทนอยู่” “แล้วสัมภาษณ์หละ เป็นไงบ้าง” ถังซินเม้มปากแล้วพูดขึ้น “ประวัติของคนพวกนี้ดีมาก ความสามารถก็เยี่ยม แต่ยังไงก็ตามเป็นคนของมู่ซื่อ ฉันก็เลยเลือกแค่หนึ่งคน ลองค่อยดูคนจากบริษัทเยนจินกับหวยเป่ยก่อน” ซึ่งเหตุผลนี้หลี่ซูเจ๋พอจะเข้าใจ “ถ้าเป็นอย่างงี้ คนของมู่ซื่อวุ่นวายจะตาย ไม่รู้ว่าคนไหนเป็นคนของรองประธานซุนหรือว่าคนของรองประธานเกา ส่วนทางบริษัทลูก คนที่เพิ่งจะเข้าทำงานได้ปีสองปีคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับพวกเขา” ประเด็นนี้คุยถึงตรงนี้จบ เพราะคุยต่อไปก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อ แต่หลี่ซูเจ๋พูดกับถังซินต่อว่า “ซินซิน น้องชายแกคนนั้นเป็นพวกชอบพี่สาวหรือเปล่าหนะ” ถังซินหัวเราะออกมา “เขาทำไมจ๊ะ” “เขาได้ยินว่าเธอแนะนำฉันมาแถมเราอยู่ด้วยกันอีก ก็ถามนู่นถามนี่ถึงแกอยู่ได้ โดนใครแกล้งบ้างหรือเปล่า แล้วยังให้ฉันพาแกไปเดินเล่นข้างนอกบ่อย ๆ อย่าเอาแต่มุ่งงาน” “พ่อแม่ฉันเลิกกันนานแล้ว จริง ๆ แล้วฉันเลี้ยงมันจนโตนั่นแหละ” ถังซินพูดขึ้น “น้องก็เลยค่อนข้างติดฉัน แต่ไม่มีอะไรนะ แกลองคุยเรื่องอื่นกับเขาสิ” หลี่ซูเจ๋อึ้ง “ขอโทษนะซินซิน ฉันไม่รู้มาก่อน” “ไม่ต้องขอโทษหรอก” ถังซินมองว่าเธอทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ “ความสัมพันธ์พวกเขาไม่ได้ดีมาก หย่าร้างกันก็ปกติ กลัวจะไม่หย่าต่างหาก โอเค มากินข้าวกันดีกว่าเนอะ” “ได้เลยจ้า ฉันยกกับข้าวออกไปให้” เรื่องที่พ่อแม่หย่ากันถังซินปากบอกว่าไม่สนใจ แต่พอถึงช่วงเข้านอนเธอก็อดคิดไม่ได้ เรื่องราวเก่า ๆ ไหลออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน “แกดูตัวเองสิ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากคลอดลูก ทำงานบ้าน แล้วทำอะไรเป็นอีกวะ” “ธุรกิจผมล้มเหลวหมด แกช่วยอะไรได้” “สิ่งที่เป็นข้อผิดพลาดที่สุดในชีวิตผมก็คือเอาคนไร้ประโยชน์อย่างแกมาเป็นเมีย” “......” เสียงด่าทอของผู้ชายคนนั้นราวกับดังขึ้นข้างหู ถังซินไม่กล้าหลับตา เพราะเมื่อเธอหลับตาลงเธอก็จะเห็นภาพแม่ตัวเองน้ำตาไหลเป็นทางด้วยท่าทางอ่อนแอ บางทีเธอก็แค้น ผู้ชายคนนั้นทำธุระกิจล้มเหลวเอง มาโทษแม่ทำไม บางทีก็โกรธแม่ตัวเองที่อ่อนแอเกินไป โดนด่าโดนตียังไม่ยอมที่จะหย่า เธอแค้นจริง ๆ เมื่อพ่อแม่หย่าร้างกันจริง ๆ แม่ถังแบกภาระด้วยตัวคนเดียว ต้องดูแลน้องชายที่เพิ่งจะเกิดมาไม่นาน ถังซินพอจะเข้าใจว่าทำไมแม่ไม่ยอมเลิก เพราะว่าแม่คงจะกลัวว่าไม่มีเสาหลักที่จะพึ่งพา แต่ดีที่ทุกอย่างผ่านมาได้โดยดี ถังซินหันหลังมาก็เห็นประสาทเพชรเปล่งประกรายวิบวับ ปลอบความกังวลภายในใจเธอ เธอจ้องมันอยู่อย่างงั้นแล้วค่อย ๆ หลับตาลง เธอหวังว่าผู้ชายคนนั้นอยู่ตัวลำพังไปตลอดชีวิตจากใจจริง ..... หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ถังซินไปเลือกคนจากบริษัทลูกที่เยนจิงกับหวยเป่ยด้วยตัวเองพร้อมข้อมูลในมือ หลังจากสัมภาษณ์เสร็จในออฟฟิศ ถังซินลุกขึ้นจากเก้าอี้ “สำหรับประวัติและทักษะของเธอ ฉันพึงพอใจมาก” ถังซินยื่นมือให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ยินดีด้วยค่ะ คุณได้เข้าร่วม Regulators ของมู่ซื่อ หลังจากนี้เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้วนะคะ” หญิงสาวตื่นเต้นอย่างมาก รีบจับมือเธอไว้ “ขอบคุณผู้จัดการถังที่ให้โอกาสนะคะ” ถังซินเลือก 3 คนจากบริษัทที่เยนจิน 2 คนจากบริษัทหวยเป่ย ส่วนหญิงสาวคนนี้เป็นคนสุดท้าย ซึ่งจำนวนคนพอแล้ว หลังจบสัมภาษณ์เธอก็ออกมาเลย ด้วยความบังเอิญ เธอเจอกับมู่หยางซิวข้างล่างบริษัท “ถังซิน” มู่หยาวซิวมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาที่ซับซ้อน สูทสีเทาที่สั่งทำพอดีตัวทำให้หุ่นของเธอดูเพอเฟ็กต์ ผมยาวดำรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย มือข้างหนึ่งชันขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ ดูเหมือนผู้ดีอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่หุ่นดีแต่ดุดันข้างหน้าทำให้เขามีความรู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสองเพิ่งจะหย่ากันเดือนกว่า เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน เส่นห์ฟุ้งกระจาย ทำให้คนไม่กล้าจ้องมอง “ผู้จัดการมู่” ถังซินก้มหัวลงเบา ๆ ไม่ได้แก้ไขคำพูดเขา เธอแต่งงานกับมู่หยางซิวปีกว่า ก็ต้องมีความรู้สึกบ้าง เมื่อมาเจอกันหลังเลิกลากันไป ถ้าบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็แปลก ภายในใจยังคงมีความเจ็บปวดระยิบระยับเกิดขึ้น เห็นถังซินจะเดินอ้อมตัวเองไป มู่หยางซิวเดินไปขวางด้วยสัญชาตญาณ “ผมอยากจะกลับไปหาคุณที่เมืองหนานเฉินตลอด ถ้าคุณมาที่นี่แล้ว เราคุยกันหน่อยมั้ย” ถังซินหัวเราะ “ระหว่างเรามีอะไรต้องคุยอีกหรอคะ” “ผมอยากจะขอโทษคุณ” มู่หยางซิวพูดขึ้น ท่าทีดูดีกว่าเมื่อก่อนขึ้นเยอะ “คุยกันสักหน่อยนะครับ” ถังซินก้มมองนาฬิกา กลัวว่ามู่หยางซิวไม่ยอมให้ตัวเองไป เดี๋ยวพนักงานคนอื่นเห็นเข้าจะดูไม่ดีเท่าไหร่ ก็เลยตอบตกลงไป เดินออกจากบริษัทก่อนแล้วไปที่ร้านกาแฟข้าง ๆ ไม่นาน มู่หยางซิวตามเข้ามา เขาไม่แม้กระทั่งจะดูเมนู สั่งพนักงานที่เดินมาไปว่า “ลาเต้แก้วหนึ่ง โกโก้ร้อนแก้วหนึ่ง ขอบคุณครับ” เขายังจะเมนูที่เธอชอบได้งั้นหรอ ถังซินเงยหน้าขึ้นมามองมู่หยางซิวตรงข้าม ไม่ได้พูดอะไร สักพักเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ความหวานหอมบาง ๆ กระจายไปทั่วอากาศ ถังซินยกขึ้นแล้วจิบคำเล็ก ๆ พิงตัวลงบนเก้าอี้ “ผู้จัดการมู่ มีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ” “ผมได้ข่าวว่าคุณชายมู่จัดตั้งแผนก Regulators แล้วคุณถูกย้ายไปเป็นผู้จัดการหรอ” ขณะที่มู่หยางซิวพูด หัวคิ้วเขาขมวดขึ้น “คุณไม่ต้องไปหรอก นี่ไม่ใช่เรื่องอะไรดี ๆ ” “คุณกำลังเป็นห่วงฉันหรอคะ” ถังซินไม่รู้จะขำหรือว่าอะไรดี ก่อนที่จะเลิกกัน มู่หยางซิวเสแสร้งใส่เธอมาตลอด พอทั้งคู่หย่ากัน จู่ ๆ ก็มาเป็นห่วงขึ้นมาเชียว “ตระกูลมู่ซับซ้อนกว่าที่คุณคิด” มู่หยางซิวพูดขึ้น “อีกอย่างคุณก็รู้หนิ คุณชายมู่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับตระกูลมู่ หลังจากคุณปู่มอบมู่ซื่อให้เขา ทุกคนยิ่งไม่พอใจมากขึ้น” เขาชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “อีกอย่างเราทั้งคู่ก็เคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อน ผมแค่กลัวว่าคุณจะถูกทำร้าย” จริง ๆ แล้วสถานการณ์เขาที่หวยเป่ยก็ไม่ได้ดีมากนัก โดยเฉพาะครั้งที่แล้วเขายื่นมือไปช่วยมู่ซื่อและคนอื่น ๆ ถ้าไม่ใช่มู่เฉินหย่วนเห็นแก่ว่าเขานามสกุลมู่คงจะกำจัดเขาไปนานแล้ว เขาเพิ่งจะรู้สึกผิดหลังจากเลิกกับถังซิน นึกย้อนกลับไปทุกอย่างในวันวาน ถังซินก็ไม่ได้แย่ตรงไหน แต่แค่ทั้งคู่ไม่สามารถร่วมเตียงกันแค่นั้น และตอนนี้เธอดูดีไปหมด เหมือนว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดด้วยตัวเอง “มู่หยางซิว คุณนั่นแหละเป็นคนที่ทำร้ายฉันมากที่สุด” ถังซินมองไปทางเขา พูดไปด้วยสีหน้าราบเรียบ มู่หยางซิวรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร เขารู้สึกชาไปทั้งหน้า แต่ถังซินกลับไม่ค่อยได้รับผลกระทบอะไร เธอนึกถึงสายโทรศัพท์ ณ ตุรกีขึ้น จึงถามมู่หยางซิวไปว่า “คืนนั้นคุณโทรหาฉัน คุณรู้ใช่มั้ยว่าฉันอยู่ตุรกี ใครเป็นคนบอกคุณ คุณช่วยใครอยู่ คุณหนูมู่คนที่ 4 หรอ” “ไม่ใช่” มู่หยางซิวปฏิเสธ เหมือนไม่อยากบอกว่าตัวเองกำลังช่วยใครอยู่ ได้แต่พูดไปว่า “อีกไม่นานมู่ซื่อจะต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ ถ้าคุณยังจะช่วยอาทำงานต่อไป คุณเองก็จะโดนพัวพันเข้าไปด้วย” ถังซินเม้มปากแล้วสำรวจผู้ชายตรงหน้า เธอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะไม่รู้จักเขาซะแล้ว ก่อนที่ทั้งสองจะเลิกกัน เขาโกหกซ้ำซ้อน แถมยังร่วมมือกับมือที่สามจะทำให้ชื่อเสียงเธอแตกกระจายจนไม่เหลือซาก ทีนี้จะมาเป็นห่วงเธอ ช่างตลกจริง ๆ หรือว่านี่จะเป็นที่คนอื่นเขาว่า บางคนหย่ากันแล้วถึงจะรู้สึกเสียดายสินะ 
已经是最新一章了
加载中