บทที่ 137 ฉันจะดูแลคุณไปทั้งชีวิต   1/    
已经是第一章了
บทที่ 137 ฉันจะดูแลคุณไปทั้งชีวิต
บ๗ที่ 137 ฉันจะดูแลคุณไปทั้งชีวิต มู่เฉินหย่วนได้ยินเธอพูดแล้วรู้สึกผิดปกติ คาดว่าเธอคงจะคิดถึงเรื่องขาของเขา จึงทำเสียง อืม และไม่ได้พูดอะไรออกมา ขณะที่เขาได้ทานข้าวเช้า ถังซินก็ได้พูดอยู่ตลอด เธอพูดให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องของบริษัท มู่เฉินหย่วนอดกลั้นขำไม่ได้ เรื่องของอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาไม่ได้บอกท่านมู่ แต่ว่าท่านมู่ฉลาดเฉียบแหลมขนาดนี้ คาดว่าน่าจะรู้แผนการของเขาอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ไปที่บริษัทเพื่อให้การหนุนหลังถังซิน ให้เธอได้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน “มู่ ประธานมู่? “มู่เฉินหย่วนกำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่ แต่ถังซินคิดว่าเขากำลังเศร้าหมองหลังจากที่เขาพบว่าสองขาของเขาไม่มีความรู้สึก จึงรีบพูดขึ้นมาว่า “หมอบอกแล้วว่า ขาของคุณแค่ไม่รู้สึกชั่วคราว สามารถหายได้” มู่เฉินหย่วนอยากที่จะหยอกล้อเธอขึ้นมากะทันหัน จึงพูดด้วยเสียงทุ้มๆขึ้นว่า “ถ้าไม่หายหล่ะ?” “เป็นไปไม่ได้” จมูกของถังซินเริ่มเจ็บแดงเหมือนกับจะร้องไห้ “ประธานมู่สองขาของคุณจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน ถ้า ถ้าไม่หาย ฉันจะดูแลคุณตลอดไป พาคุณเปลี่ยนที่ไปแต่ละประเทศ” “วางการแพทย์มีคนเก่งเยอะขนาดนี้ ต้องมีซักคนที่สามารถช่วยประธานมู่ได้” คำพูดของเธอ เหมือนกับก้อนกินที่ทุบหัวใจที่นิ่งสงบของมู่เฉินหย่วน สายตาที่เขามองเธอนั้นใสสะอาดและจริงใจ ในตาสะท้อนภาพเขา เธอจริงจังขนาดนี้ เธอทำเหมือนกับว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเขาจริงๆ เธอจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุด มู่เฉินหย่วนคิดถึงคำพูดของเย่นจิ่งเหนียนเมื่อคืนก่อน พี่รอง พี่เคยคิดมั้ยว่าถ้าเธอรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแผนของพี่ คือพี่กำลังโกหกเธอ แล้วเธอจะเป็นยังไง เริ่มแรก เขาไม่ได้เอาถังซินเข้ามาในแผนการ เพียงแค่อยากให้เธอช่วยแก้ไขเรื่องความร่วมมือในประเทศตุรกี แต่หลังจากที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันนาน เขาพบว่าบนตัวของผู้หญิงคนนี้นั้นมีจุดส่องสว่างมากมาย เธอฉลาดมาก มีความสามารถในการเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ตั้งแต่ที่ไปคุยงานที่หมู่บ้าน เขาก็เปลี่ยนแผนการ และยังลากถังซินเข้ามาอีกด้วย ก่อตั้งแผนกใหม่และเลื่อนขั้นให้เธอเป็นผู้จัดการ ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องเบื้องหลัง และเธอก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ งานที่มอบต่อให้เธอรับผิดชอบเธอได้ทำมันออกมาอย่างดีทั้งหมด เธอมีความสามารถในการแข่งขัน “ถังซิน” เขาไม่ได้ตะโกนว่า คุณถัง เขาตะโกนเรียกชื่อจริง เสียงนั้นทุ้มลึก และทำให้เธอชะงัก เรื่องของบริษัทมู่ซื่อ เย่นจิ่งเหนียนได้พูดกับฉันแล้ว “ลำบากเธอแล้วหล่ะ มู่เฉินหย่วนพูดขึ้น คุณโดดเด่นและยอดเยี่ยมมาก หลายครั้งที่จำเป็นจะต้องมีคนบังคับ ฉันหวังว่าเธอจะไม่เกลียดฉัน” ถังซินฟังไม่เข้าใจในประโยคช่วงหลัง ความรู้สึกเหมือนกับคืนวันที่เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ รู้สึกแปลก แต่คิดว่าถ้าถามออกมาอีก เขาจะต้องเป็นบ้าแน่นอน เป็นอย่างที่เธอคิดมั้ย น่าจะไม่ใช่หรอก มู่เฉินหย่วนไม่ควรเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่น มู่เฉินหย่วน เห็นคางของเธอสีขาวนวลและแหลม จึงใช้มือบีบ กลับไม่คาดคิดว่าจะมีเนื้อที่อ่อนนุ่ม ตอนนี้ความสนใจของถังซินได้มาอยู่ที่คางของตนเอง การกระทำที่กระชิดขนาดนี้ ทำให้หูของถังซินแดง เสียงที่ออกมาแข็งทื่อ “มู่ ประธานมู่” “คิดไม่ถึงว่าบนหน้าของเธอจะมีเนื้อเยอะขนาดนี้” ถังซินกำลังจะพูดโต้ตอบไปว่า “คุณจะบอกว่าฉันอ้วนอย่างนั้นหรอ?” จากนั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตู เธอจึงเกิดการตอบสนองโดยการตีมือของมู่เฉินหย่วนออก และเขยิบห่างออกมา ฝ่ามือตีลงไปอย่างหนักและเสียงดังฟังชัด ทำให้หลังมือของเขานั้นแดง ตอนนั้นบรรยากาศหยุดชะงัก “เอ๋ ประธานมู่คุณฟื้นแล้วหรอ?” พยาบาลเข้ามาเปลี่ยนยาตามเวลา เห็นมู่เฉินหย่วนฟื้นแล้วก็รู้สึกตื่นเต้น จึงทิ้งรถเข็นและออกไปเรียกหมอ ถังซินไม่กล้าหันไปมองสีหน้าท่าทางที่แสดงออกมาของมู่เฉินหย่วน เธอจึงก้มหน้ากินโจ๊ก ใครใช้ให้เขามาบีบคางเธอ สมควรตี! คนอย่างระดับมู่เฉินหย่วน โรงพยาบาลไม่กล้าที่จะไม่สนใจ จึงมีกลุ่มหมอเข้ามาอย่างรวดเร็วมาก แต่ถูกมู่เฉินหย่วนไล่ออกไปเพราะทำให้ห้องคนไข้แออัด ถังซินเห็นหมอตรวจร่างกายให้กับมู่เฉินหย่วน พูดเรื่องสองขาของเขาอย่างนุ่มนวล จึงแอบกำหมัด เธอจะไม่ทำให้คุณอามู่ต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต หลังจากที่มู่เฉินหย่วนได้ฟังรายงานอันยาวเหยียดของหมอแล้ว ก็ยังคงไม่ตื่นตระหนกอะไร เพียงแค่เอ่ยถามขึ้นว่า “”มีเพียงขาที่มีปัญหาใช่มั้ย ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันก็กลับบ้านไปพักฟื้น ฉันไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาล “ได้” ถังซินอยากจะพูดอะไรออกมา แต่เสียงโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น กาวเหม่ยซีได้โทรศัพท์เข้ามา งานที่บริษัทมู่ซื้อนั้นเยอะมาก แต่กาวเหม่ยซีก็จัดการแก้ไขได้อย่างเรียบร้อย ตอนนี้โทรศัพท์หาเธอ คาดว่าน่าจะเกิดเรื่องฉุกเฉิน ถังซินรับโทรศัพท์ เลขากาว มีเรื่องอะไรหรอ? ตอนนี้ฉันไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน “ประธานถังคุณรีบมาที่บริษัทเถอะ” กาวเหม่ยซีพูดขึ้น “ได้ อย่างนั้นอีกซักพักฉันจะออกไป” ถังซินเป็นเพียงแค่ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน แต่ถูกคนทั้งบริษัทเรียกว่า ประธาน เป็นอะไรที่แปลกมากๆ คิดว่าตนเองความสามารถไม่พอที่จะเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ เธอพึ่งนึกออกว่ามู่เฉินหย่วนได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว มีเรื่องอะไรก็น่าจะให้มู่เฉินหย่วนเป็นคนไปจัดการแก้ไข “ ประธานมู่” ถังซินมองไปที่มู่เฉินหย่วนที่อยู่บนเตียงคนไข้ หลังจากที่ลังเลอยู่นานก็พูดขึ้นว่า “เมื่อสักครู่เลขากาวโทรศัพท์เข้ามา บอกมาบริษัทมีเรื่อง คุณดูว่าคุณจะอยู่ที่นี่……” “ฉันเป็นแบบนี้ ไปบริษัทไม่ได้หรอก” มู่เฉินหย่วนรู้ว่าเธออยากที่จะพูดอะไร จึงพูดขัดเธอขึ้นมา “เรื่องของบริษัทเธอมีอำนาจรับผิดชอบทั้งหมด ฉันเชื่อใจเธอ” เมื่อถังซินคิดภาพที่เขาต้องนั่งรถเข็นไปบริษัท จะถูกสายตาของคนนับไม่ถ้วนที่ยินดียินร้ายกับความโชคร้ายของเขา จึงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา “ใช่ ถ้าคุณอามู่ไปแล้วคงจะถูกคนยิ้มหัวเราะเยาะ” “ถ้าอย่างนั้นฉันจะโทรเสียงไปหาคุณลู่” ถังซินหาวีแชทลู่เหวินซูในโทรศัพท์ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เธอไม่วางใจที่จะให้มู่เฉินหย่วนอยู่คนเดียวในห้องคนไข้ แววตาของมู่เฉินหย่วนซาบซึ้งใจ และพูด อืม ออกมา ไม่นานลู่เหวินซูและเย่นจิ่งเหนียนก็มา พวกเขาทำเหมือนว่าไม่ได้ทำอะไรกับมู่เฉินหย่วนเมื่อคืนนี้ เมื่อเห็นเขาฟื้นขึ้นมาแล้วก็แสร้งทำท่าทางแปลกประหลาดใจ แสดงออกอย่างชัดเจนและเนียนจนถังซินไม่ได้สงสัยอะไร พูดกับพวกเขาเล็กน้อยแล้วก็จากไป ระหว่างทางที่ขับรถไปบริษัท กาวเหม่ยซีได้โทรศัพท์เข้ามาหลายสาย แต่ถังซินไม่สะดวกรับ หลังจากรอให้รถไปถึงอาคารบริษัทมู่ซื่อ หน้าประตูนั้นถูกล้อมไปด้วยนักข่าวจำนวนมาก เมื่อถังซินเห็นว่าเรื่องราวนั้นรุนแรง เมื่อจอดรถที่ชั้นใต้ดินแล้ว จึงรีบเข้าไปในลิฟต์ “ประธานถัง” กาวเหม่ยซีที่รออยู่ เมื่อเห็นถังซินใส่ผ้าปิดปากเดินออกมาจากลิฟต์ จึงรีบทักทาย และเอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “คุณเป็นหวัดหรอคะ?” “อืม” ถังซินตอบอย่างลวกๆ แผลบนใบหน้านั้นดูโหดร้าย เธอไม่อยากทำให้พนักงานตกใจ และถ้าจะให้เธอเอาแผลให้ทุกคนดู เธอก็รู้สึกเก้อเขิน “ข้างนอกมีนักข่าวล้อมเต็มไปหมด เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” สวนน้ำที่เมืองหางซีได้เกิดเรื่องขึ้นแล้ว กาวเหม่ยซีได้รายงานให้เธอฟัง รถเครนคันหนึ่งเมื่อกำลังจะยกขนเส้นเหล็ก ลวดเหล็กที่อยู่ตรงหัวรถเครนได้หักลงกระแทกคนงานที่อยู่ข้างล่างตายหกคน เรื่องนี้ได้ออกข่าวในพื้นที่ คนในครอบครัวของคนงานได้นำโลงศพมาเรียงที่หน้าประตูของบริษัทที่เมืองหางซี และตะโกนส่งเสียงดัง ถังซินร้อนใจ ไม่นานก็สงบสติและถามขึ้นว่า “สาขาบริษัทได้ให้ค่าชดเชยมั้ย” “ทำตามสัญญาการได้รับบาดเจ็บในที่ทำงาน คนงานคนหนึ่งได้ห้าล้าน” กาวเหม่ยซีพูดขึ้น “แต่ว่าคนในครอบครัวของคนงานไม่พึงพอใจ อยากได้คนหนึ่งร้อยล้าน” “ร้อยล้าน?” พวกเขาตั้งใจมาก่อความไม่สงบ ถังซินหยุดก้าวเดิน และพูดด้วยสีหน้าเย็นชา ให้สาขาของบริษัทยึดตามสัญญาการได้รับบาดเจ็บในที่ทำงาน ถ้ายังมาก่อกวนที่สาขา ก็ให้ดำเนินวิธีการตามกฎหมาย” “ให้คนไปสืบมาหน่อยว่ารถเครนคันนั้นซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่ โรงงานที่ซื้อมา และวันเวลาที่ตรวจซ่อม เกิดปัญหาจากตรงไหน อะไร ก็ให้คนนั้นรับผิดชอบ” “ค่ะ” กาวเหม่ยซีรับทราบ ในใจแอบรู้สึกแปลกประหลาดใจ เผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้ ถังซินก็ยังอารมณ์สงบ มิน่าหล่ะหลังจากที่มู่เฉินหย่วนเกิดเรื่อง ได้ให้เธอดูแลบริษัทมู่ซื่อแทน และเธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดขนาดนี้ หลินเฉิงจี๋จะปล่อยเธอไปจริงๆหรอ เธอไม่เชื่อ จากนั้นก็เดินไปที่ห้องทำงานของประธานกับถังซิน กาวเหม่ยซีก็ได้เริ่มรายงานต่อ “ยังมีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ร้ายแรงกว่าเรื่องนี้มาก”
已经是最新一章了
加载中