บทที่ 138 การจู่โจมที่ตัวบุคคล   1/    
已经是第一章了
บทที่ 138 การจู่โจมที่ตัวบุคคล
บ๗ที่ 138 การจู่โจมที่ตัวบุคคล “ เรื่องอะไร” กาวเหม่ยซีพูดขึ้นว่า นักข่าวกลุ่มที่ล้อมอยู่ที่ด้านนอกของบริษัท ไม่ได้มาเพราะเรื่องการตายของคนงาน ผู้จัดการทั่วไปแผนกระหว่างประเทศของบริษัทมู่ซื่อ ที่ชื่อหยวนเย่ ได้ทำการทุจริต” ถังซินขมวดคิ้ว ทุจริตเงินของบริษัทมู่ซื่อ พวกเขาจะเล่นอะไรกัน? “ปัญหามันอยู่ตรงนี้ค่ะ” กาวเหม่ยซีหยุดชั่วคราว และได้เริ่มพูดขึ้นอีกครั้ง “เขาขโมยเงินของบริษัทมู่ซื่อไปทำกาสิโน คลับเฮ้าส์ ต้องสงสัยว่ามีการเกี่ยวข้องกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานกระทำชำเราเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะประมาณร้อยกว่าคน” “และยังมีอีกเรื่องก็คือ ผู้หญิงที่อยู่ในคลับเฮ้าส์ของหยวนเย่ทั้งหลายเป็นคนที่ลูกน้องของเขาลักพาตัวมา ถูกพวกเขาและแขกทรมานจนตาย นับแล้วน่าจะมีประมาณห้าสิบกว่าคน” เรื่องนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงบนเวปไซต์ขนาดใหญ่เมื่อตอนตีหน้า เมื่อเวลาแปดโมงตำรวจได้มาที่บริษัทเพื่อสอบสวนสถานการณ์ ถังซินเดินโซเซจนเกือบสะดุดล้ม เมื่อเธอประคองจับไปที่กำแพง แทบจะหันหน้าไปมองไปกาวเหม่ยซี และทอดถอนหายใจ คุณพระช่วย ทำไมเรื่องนี้ถึงมาแตกเอาตอนนี้ จะทำให้บริษัทมู่ซื่อไม่สามารถมีชีวิตรอดได้เลยหรอ หลังจากที่ถังซินได้ถูกย้ายมาที่แผนกใหม่ ก็ให้ความสำคัญกับผู้บริหารและผู้ดำรงในตำแหน่งสูง ไม่ได้เข้าไปจัดการแผนกระหว่างประเทศ คิดไม่ถึงเลยว่า จะมีคนที่บังอาจมากขนาดนี้! ถ้าทุจริตก็แก้ไขด้วยการไล่ออก มีความผิดฐานทุจริต คนๆนี้ไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหนก็จะไม่ได้ทำในตำแหน่งสูง แต่หยวนเย่ใช้เงินที่ขโมยไปจากบริษัทมู่ซื่อ เปิดบ่อนกาสิโน ลักพาตัวและขายตัวผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แบบนี้จบเห่แล้ว ครึ่งเดือนก่อนมู่เฉินหย่วนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ กลุ่มบริษัทมู่ซื่อขาดผู้นำทำให้หุ้นตกลง กว่าที่จะกลับมาทำให้มั่นคงนั้นยากมาก ครั้งนี้ก็ยังมีเรื่องที่ยากอีก จำเป็นจะต้องแก้ไขอย่างไร? “พวกผู้ชายที่ถูกตำรวจจับ ได้ถูกทรมานจนรับสารภาพออกมาทั้งหมดแล้ว” กาวเหม่ยซีเอ่ยขึ้น เนื่องจากเรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทมู่ซื่อเข้าไปร่วมทำงานไม่ได้ ถังซินถอนหายใจลึก ควบคุมการเต้นของหัวใจ “เธอไปเรียกฝ่ายประชาสัมพันธ์และคณะทนายความเข้ามา” “ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ไม่นาน ถังซิน ฝ่ายประชาสัมพันธ์และคณะทนายความก็ได้เข้ามานั่งในห้องประชุม บรรยากาศดูจริงจัง เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันมาก ทำให้ทุกคนรับมือไม่ทัน แต่ละคนสีหน้าเคร่งขรึม ถังซินพูดอย่างใจเย็นขึ้นว่า “การกระทำทุกๆอย่างของผู้จัดการทั่วไปฝ่ายระหว่างประเทศที่ชื่อหยวนเย่นั้นรุนแรงและทำให้ชื่อเสียงของบริษัทมู่ซื่อได้รับความเสียหาย เรื่องนี้ทุกคนจะต้องจัดการให้ดี อย่าได้ประมาทเลินเล่อหรือชะล่าใจ” คนไม่กี่คนที่อยู่ในห้องประชุมได้ปรึกษาหารือกันเพื่อหาแผนรับมือเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงกว่า จึงประชุมกันเสร็จ ถังซินได้ออกไปตะลุยจัดการเรื่องอื่นต่ออีก หยวนเย่ ที่ทำงานอยู่ฝ่ายระหว่างประเทศของบริษัทมู่ซื่อได้โยกย้ายท่ายเทเงินของบริษัทมู่ซื่อ เปิดกาสิโน ลักพาตัวและขายตัวผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เรื่องนี้ทำให้บริษัทมู่ซื่อเกิดความทุกข์ยากจนแทบจะพังพินาศ ต่อเนื่องกันหลายวัน เวปไซต์ข่าวสำนักต่างๆ ต่างก็โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ หุ้นของบริษัทมู่ซื่อตกลงมากขึ้นทุกวันๆ จนกระทั่งครอบครัวของคนงานที่ตายก็รีบมาที่บริษัทมู่ซื่อ มายกโบกธงขาว และทำหน้าตาโกรธแค้นอยู่นอกอาคาร ประณามบริษัทมู่ซื่อว่าไม่มีคุณธรรม และเอาคำพูดวิจารณ์ยกขึ้นไปข้างบนให้สูงที่สุด ในเวลานี้ รองประธานซูนและคนอื่นๆเหมือนกับหายสาบสูญ ความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่ที่ตัวถังซิน และเธอยังต้องรับมือกับผู้ถือหุ้นพวกนั้นอีก เหนื่อยมากอย่างแท้จริง ถังซินรู้ว่ามู่เฉินหย่วนได้ดูข่าวบ้างแล้ว แต่ว่าเมื่อคุยกับเขา ได้ใช้น้ำเสียงที่ผ่อนคลายในการรับมือ รู้ว่าเขากลับไปพักผ่อนที่คฤหาสน์ ลู่เหวินซูและคนอื่นจะต้องดูแลเขา คณะทนายความของบริษัทมู่ซื่อนั้นเป็นคณะที่มีความสามารถมากคณะหนึ่ง ยอดเยี่ยมมากกว่าคณะทนายความอื่นในประเทศ สไตล์การทำงานนั้นเรียบร้อยว่องไวและเด็ดขาด พวกเขาได้แก้ไขปัญหาเรื่องคนในครอบครัวของคนงานที่เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ทนายความทุกคนมีความชำนาญมากที่สุด มีหน่วยงานสื่อมวลชนรับเงินจากบริษัทมู่ซื่อ จึงรู้ไปโดยธรรมชาติว่าต้องทำอะไร เพียงแค่เรื่องหนึ่งดูเงียบหายไปแต่ก็มีอีกเรื่องหนึ่งดังเป็นพลุแตกในโซเชียล นั่นก็คือข้อมูลเกี่ยวกับถังซินตั้งแต่เด็กจนโตได้โพสต์ลงบนอินเตอร์เนต ให้ผู้คนได้ชม รวมถึงเรื่องที่พ่อแม่เธอหย่าร้างกันไปหลายปีก่อน ที่บ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยมั่งคั่ง แต่เธอกลับเดินทางไปต่างประเทศ และเข้ารับการศึกษาที่สถาบันนิวคาสเซิล เรื่องนี้ที่ได้ฝ่าฝืนออกมาในข่าว เหมือนกับกำลังตบหน้าถังซิน หลังจากที่ปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน สิ่งที่เธอกลัวที่สุดคือถูกคนขุดเรื่องราวในชีวิต เธอได้พูดกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ไว้ก่อนแล้วว่า ติดต่อคนพวกนั้นและให้ปกปิดเรื่องราวในชีวิตเธอ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะก่อให้เกิดความยุ่งยาก แต่สุดท้ายเรื่องที่กังวลก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ถังซินเรียกประชุมนักข่าว เปิดเผยเรื่องราวในชีวิตแก่ทุกคน แต่คนภายนอกก็ไม่เห็นพ้องต้องกัน แค่ทุกคนค้นหาทางอินเตอร์เน็ตว่านิวคาสเซิลเป็นสถาบันแปลภาษาที่มีชื่อเสียงระดับโลก อยากที่จะเข้ารับการศึกษา ไม่เพียงแค่ผู้เข้าจะต้องฉลาด แต่จะต้องมีทุนทรัพย์ ถ้าอาศัยที่บ้านของถังซิน จะเข้าเรียนได้ยังไง? ถังซินพยายามอธิบายว่าพ่อแม่ได้ขายบ้านเก่า และยังมีทุนการศึกษา เอาหลักฐานออกมาให้ดู คนพวกนั้นก็ยังไม่เชื่อ จนกระทั่งเปลี่ยนรูปแบบมาตำหนิว่าวิชาชีพของเธอไม่ตรงกับตำแหน่ง ในเมื่อเธอเป็นนักแปล จะมาเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานได้อย่างไร เป้าหมายในการโจมตีทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่ถังซิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนที่ซื้อหุ้นของบริษัทมู่ซื่อ การใช้คำพูดเฉียบคมยิ่งกว่าคนภายนอกพวกนั้น ผู้ถือหุ้นต่างพิจารณาว่าจะจัดการประชุมหรือไม่ เพื่อที่จะเลือกผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานใหม่ ในตอนบ่ายข้อมูลทั้งหมดของถังซินแทบทั้งหมดได้ถูกปิดกั้น แต่ว่าคนที่โหลดเก็บรูปภาพไว้ก็ยังโพสต์ขึ้นอีก เวปไซต์ของสื่อต่างๆได้ถูกปิดคอมเม้นต์แล้ว ข่าวไม่ดีก็ยังมากมายเต็มไปทั่ว หลี่ซูเจ๋ไม่ให้ถังซินดูข่าว ใช้กำลังสุดความสามารถในการพูดปลอบ “ซินซิน เธออย่าไปฟังพวกนั้นพูดมั่วไร้สาระ วิชาชีพไม่ใช่แล้วยังไง ตอนนี้มีศักยภาพถึงจะได้รับความสนใจก่อน” ถังซินฝืนยิ้ม “ฉันไม่เป็นไร” ข่าวไม่ดีเยอะขนาดนี้ ถังซินดูแล้วรู้สึกมึนชา หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว เธอก็กลับบ้าน อาบน้ำสระผม สุดท้ายเหนื่อยล้าจนเอนตัวนอนบนเตียงและเหม่อมองไปที่ฝ้าเพดาน เมื่อรอบๆเงียบสงบลง ในหัวของถังซินก็ผ่านเข้ามาหนึ่งประโยค เธอไม่ไหวจริงๆหรอ เหมือนจะใช่นะ คุณอามู่เก่งขนาดนี้ ไม่ว่าบริษัทมู่ซื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขามีประสบการณ์ความชำนาญจึงสามารถจัดการปัญหาได้อย่างสบายมือ แล้วเธอหล่ะ? เรื่องราวอะไรกลับทำได้ไม่ดีซักอย่าง ทำให้บริษัทมู่ซื่อแย่ขนาดนี้ เธอเป็นแค่นักแปลคนหนึ่ง ทำได้แค่แปลก็เท่านั้น รู้เรื่องธุรกิจซะที่ไหน? ถังซินกลัดกลุ้มในใจ ทั้งวิตกกังวลทั้งร้อนใจ เธอต้องการระบายอารมณ์ออกมาอย่างด่วน จึงหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดวีแชทก็มองเห็นชื่อของมู่เฉินหย่วน เธอจึงลังเลที่จะกดลงไป ขาทั้งสองข้างของมู่เฉินหย่วนสูญเสียความรู้สึก ในใจคงรู้สึกกลัวและเป็นทุกข์มากกว่าเธอ ตนเองไม่ควรที่จะเอาเรื่องนี้ไปรบกวนเขา ถังซินฮึดสู้ขึ้นมาในใจ สุดท้ายเธอก็วางโทรศัพท์ลง เธอวางมือถือลงไปแค่ช่วงพริบตาเดียวหน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างขึ้นมาอีก เป็นมู่เฉินหย่วนที่โทรศัพท์เสียงเข้ามา ถังซินสไลด์หน้าจอรับสาย และเอามือถือขึ้นคุยที่ข้างหู “ฉันเห็นในข่าวแล้ว” มู่เฉินหย่วนพูดขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและเศร้าเล็กน้อย ฉันให้เหวินซูจัดการพวกหน่วยงานสื่อมวลชนที่โจมตีตัวบุคคลแล้วนะ เมื่อได้ยินเสียงของเขา ความน้อยใจที่อยู่ในใจก็หมดไป คัดเจ็บที่จมูก แทบจะร้องไห้ออกมา จากนั้นก็อดกลั้นไว้ ไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วง “ไม่น่าหล่ะ ข่าวหายไปเร็วขนาดนี้ ฝากบอกคุณลู่ว่าฉันขอบคุณ” ถังซินแกล้งทำเป็นพูดอย่างผ่อนคลาย “พรุ่งนี้ฉันจะประชุม เพื่อให้ผู้ถือหุ้นทั้งหลายไม่ต้องกังวล” “ถ้าหากไม่สบายใจก็มาพูดกับฉันได้” มู่เฉินหย่วนพูดขึ้น น้ำเสียงมีความรู้สึกผิดและเสียใจ “ขอโทษที่ให้เธอแบกรับเรื่องราวมากขนาดนี้ ลำบากเธอหน่อยนะ” “ฉัน ฉันจะไม่สบายใจได้ยังไง… “ถังซินอยากบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่พอเมื่อเริ่มพูด เสียงก็แหบไปหมด เหมือนกับอยากที่จะร้องไห้ออกมา เธอจึงกัดฟันไว้แน่น ไม่ได้ ร้องออกมาต้องขายหน้ามากแน่ๆ 
已经是最新一章了
加载中