บทที่ 139 เธอก็เป็นหมากตัวหนึ่งอย่างนั้นหรือ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 139 เธอก็เป็นหมากตัวหนึ่งอย่างนั้นหรือ
บ๗ที่ 139 เธอก็เป็นหมากตัวหนึ่งอย่างนั้นหรือ มู่เฉินหย่วนเพียงแค่รอฟังอย่างเงียบๆ และไม่ได้พูดอะไรอีก ถังซินฟังเสียงหายใจของเขา ในใจก็สงบขึ้นมา ผ่านไปสักพักถึงจะพูดออกมาด้วยเสียงที่ท้อใจ “คุณอา เหมือนฉันไม่เหมาะที่จะทำเรื่องพวกนี้จริงๆ ฉันทำให้เรื่องราวมันแย่มาก” “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คนงานเกิดอุบัติเหตุตายหรือเรื่องที่ผู้จัดการทุจริต… เรื่องง่ายขนาดนี้ ยิ่งผลงานของบริษัทมู่ซื่อเพิ่มมากขึ้น ทำไมฉันถึงแก้ไขไม่ได้?” “ฉันคิดว่าฉันล้มเหลวมาก” ต่อให้ตอนแรกที่พ่อกับแม่หย่ากัน ชีวิตก้าวเดินไปอย่างยากลำบาก ถังซินก็ไม่ได้รู้สึกเป็นทุกข์เท่าตอนนี้ เหมือนกับว่าเธอทำทุกข์อย่างได้แย่มาก ไม่ได้รับการยอมรับ “ถังซิน บนโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ความชำนาญที่สุดของผู้คนได้ประณามข้อเสียของคนอื่น” มู่เฉินหย่วนพูดขึ้น “เธอจะเหมาะสมกับอะไรก็ต้องออกไปลองทำ ไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะพูดอะไร” “ เธอเก่งมากแล้ว เมื่อตอนที่ฉันนอนหมดสติอยู่ ยังดูแลบริษัทมู่ซื่อได้ดีขนาดนี้ ลำบากมากจริงๆ ถ้าเธอคิดว่าทำไม่ได้แล้วจริงๆ ฉันจะให้เหวินซูและคนอื่นไปช่วยงานเธอที่บริษัท” มู่เฉินหย่วนอยากที่จะบังคับให้เธอได้โตเป็นผู้ใหญ่ บุกเบิกความทะเยอทะยานของเธอ แต่ก็ไม่อยากบังคับเธอจนถึงตาย เอาที่เหมาะสมก็พอ มู่เฉินหยวนกำลังจะบอกว่าให้เธอพักผ่อนซักไม่กี่วัน แต่ถังซินกลับพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องรบกวนคุณลู่ค่ะ ฉันสามารถแก้ไขได้ ประธานมู่คุณพูดถูก ถ้าฉันไม่ลองดู จะรู้ได้อย่างไรว่าขีดความสามารถฉันจะถึงตรงไหน” ได้ยินดังนั้น มู่เฉินหย่วนก็ยิ้มหัวเราะด้วยเสียงเบาๆออกมา ดูแล้วเขาน่าจะกังวลมากเกินไป ความสามารถในการต้านทานความกดดันของผู้หญิงคนนี้มีมากกว่าที่เค้าคิดไว้ ถังซินได้ยินเสียงหัวเราะของเขาอย่างไม่คาดคิด เสียงน่าดึงดูดนั้นทำให้เธอหูแดง “ประธานมู่ คุณ คุณหัวเราะอะไร?” “ไม่มีอะไร เมื่อเธอมีเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ก็สามารถถามฉันได้” มู่เฉินหย่วนเก็บอาการขำ “และก็ เอกสารที่ฉันให้เธอ เธอไม่เคยดูเลยใช่มั้ย?” “…ลืมแล้ว” ช่วงที่ผ่านมาถังซินนั้นยุ่งมาก แทบจะลืมเอกสารที่มู่เฉินหย่วนให้มา “พรุ่งนี้ฉันไปที่บริษัทจะรีบดูค่ะ กลัวว่ามู่เฉินหย่วนจะซักถามตนเอง ถังซินนั้นฉลาดในการเปลี่ยนเรื่องคุย เอาเรื่องเอกสารที่ไม่เข้าใจเอ่ยถามเขา มู่เฉินหย่วนฟังจบก็อธิบายให้เธอฟังด้วยความอดทน บริษัทซ่างเจียอยากที่จะร่วมมือกับบริษัทมู่ซื่อ แต่เห็นว่าหุ้นของบริษัทมู่ซื่อตกลงมา จึงอยากที่จะฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์ ผู้จัดการใหญ่ของพวกเขาเห็นแก่ได้ ไม่สนใจอาจจะเป็นเพราะว่า… มู่เฉินหย่วนกำลังสอนถังซินเรื่องทำอย่างไรถึงจะสังเกตสิ่งในใจของผู้อื่นจากสีหน้าและคำพูดได้ การเจรจากับผู้อื่น ในขณะที่พูดอยู่นั้นผู้พูดโทรศัพท์ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้พูดตอบอะไร มีเพียงเสียงของลมหายใจ มู่เฉินหย่วนชะงักงง เขาไม่ได้พูดอะไรอีกและวางสายโทรศัพท์ ในส่วนที่เหลือที่ยังพูดไม่จบก็ได้ส่งข้อความวีแชทไปให้เธอ ถังซินตื่นขึ้นมาวันต่อไป เมื่อเห็นมู่เฉินหย่วนส่งข้อความวีแชทมาถึงนึกออกว่าเมื่อวานฟังจนหลับไป เก้อเขินจนหน้าแดงไปหมด แอบด่าตนเองว่าเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบ ขายหน้าจริงเลย! หลี่ซูเจ๋ ยังกลัวว่าข่าวพวกนั้นจะรบกวนถังซิน จึงตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้า มีแผนว่าจะเอาไปให้เธอเพื่อปลอบใจ ผลลัพธ์คือถังซินนั้นอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก หลี่ซูเจ๋พูดขึ้นอย่างกลุ้มอกกลุ้มใจว่า “ระบบอารมณ์ของเธอดูดซึมเร็วขนาดนี้เลยหรอ?” เพียงแค่หลับหนึ่งตื่น ความทุกข์ใจอะไรก็ไม่มีแล้ว ถังซินพูดหัวเราะ สิ่งสำคัญคือการอบรมสั่งสอนของมู่เฉินหย่วนเมื่อคืน ให้ความเชื่อมั่นกับเธอเป็นอย่างมาก “ใช่แล้ว เธอคุยกับน้องชายฉันเป็นยังไงบ้าง” “อย่าพูดเลย ครั้งที่แล้วไม่ได้เจอ” หลี่ซูเจ๋ยกมือโบก และทำหน้าทุกข์ใจ “ฉันได้ไปรอเขาที่นั่นแล้ว สุดท้ายเขาบอกว่ามีธุระที่โรงเรียน จึงกลับโรงเรียนไปแล้ว” “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ามีธุระที่โรงเรียนจริงๆ” ถังซินเข้าใจกวนชิงเฟิง “น้องชายฉันปกติไม่ผิดนัดใคร รอให้ทำธุระเสร็จแล้ว ฉันจะนัดเขาออกมาเพื่อแสดงการขอโทษเธอ” หลี่ซูเจ๋ยิ้อมหัวเราะออกมา “ก็ได้ ฉันอยากกินหม้อไฟที่ตกคนหนึ่งหนึ่งพันหยวน และเขาจะต้องเป็นคนจ่ายเงิน” “คนหนึ่งสองพันหยวนก็ยังได้!” ถังซินมีเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะ จึงไม่ได้คุยอะไรมากกับหลี่ซูเจ๋ ทั้งสองคนกินอาหารเช้าแล้วก็รีบร้อนไปที่บริษัท แม้ว่าข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของเธอจะถูกปิดไปหมดแล้ว แต่ว่าเรื่องที่เกี่ยวกับผู้จัดการฝ่ายระหว่างประเทศทุจริตเงิน ลักพาตัวและค้าเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะนั้นรุนแรงมากยิ่งขึ้น ยังคงมีความร้อนแรงมากบนอินเตอร์เน็ต หุ้นบริษัทมู่ซื้อก็ยังคงตก กาวเหม่ยซีได้รายงานสถานการณ์ให้ถังซินฟัง ถังซินนั้นใจร้อน แต่ว่าใจร้อนไปก็ไม่มีวิธี หลังจากที่กลับห้องทำงาน เธอจึงหยิบเอกสารที่มู่เฉินหย่วนเคยให้เธอก่อนหน้านี้ขึ้นมาจากลิ้นชัก เมื่อเปิดดูเอกสาร ถังซินยังกำลังคิดอยู่ว่า คงไม่ใช่แผนงานที่ร่วมมืออะไรกับบริษัทอื่น หลังจากที่ดูเนื้อหาแล้ว เธอก็ชะงักหยุด ไม่ใช่แผนงานการร่วมมือ แต่เกี่ยวกับเรื่องหุ้นส่วนของบริษัทมู่ซื่อ เอกสารหลายฉบับในนี้เกี่ยวกับผู้จัดการใหญ่บริษัท ทุกคนต่างเป็นเพื่อนที่ดีกับมู่เฉินหย่วน เธอจำเป็นที่จะต้องไปเจรจากับพวกเขาซื้อหุ้นที่จำหน่ายไปแล้วใหม่ ถังซินมองไปที่เอกสาร พูดพึมพำในปาก เมื่อรอให้หุ้นของบริษัทมู่ซื่อตกลงมาจนหยุดเทรด ผู้ถือหุ้นบางคนต้องรับไม่ได้แน่นอน และโยนทิ้งหุ้นที่อยู่ในมือ ดังนั้นต้องหาคนซื้อธุรกิจ ผู้ถือหุ้นเก่าโยนทิ้งหุ้น ผู้ถือหุ้นใหม่รับช่วง คุณอามู่ไม่ต้องออกมือก็สามารถเอาผู้ถือหุ้นบริษัทมู่ซื่อเปลี่ยนสายเลือดใหม่ได้ หมากกระดานนี้รอบคอบมาก จริงๆแล้วคุณอามู่รู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีสถานการณ์แบบวันนี้ ดังนั้นเมื่อส่งเธอกลับบ้าน จึงเอาเอกสารชุดนี้ให้เธอ ในเวลาที่เหมาะสมอยากให้เธอติดต่อผู้จัดการใหญ่เหล่านั้น คุณอามู่สามารถเดาแผนการของคนบางคนในตระกูลมู่ออก แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุทางรถยนต์หรอ? หรือว่าเขาไม่เคยคิดที่จะหลบอุบัติเหตุนี้อยู่แต่แรกแล้ว ใช้เรื่องอุบัติเหตุทำให้บริษัทมู่ซื่อพัฒนาขั้นสูงสุด ดังนั้นเธอก็เป็นหมากตัวหนึ่งหรอ? ถังซินหน้ามืดตาลาย มีความรู้สึกว่าถูกหลอก แต่ว่าไม่นานก็คิดขึ้นมาใหม่ว่า มู่เฉินหย่วนสามารถเดาเรื่องพวกนี้ได้ ก็เป็นเพียงโอกาสไม่กี่ครั้งที่คุณมู่ซื่อจะได้ลงมือกับบริษัทมู่ซื่อเท่านั้น เพราะว่าเขาเป็นเพียงแค่ลูกเลี้ยงของตระกูลมู่ คนในตระกูลมู่ไม่ยอมรับ อุบัติเหตุทางรถยนต์ก็ถือว่าเป็นคุณมู่ซื่อหรือใครที่ลงมือ ตอนนั้นสถานการณ์นี้ยากที่จะหลีกเลี่ยง และอีกหนึ่งสิ่ง ถึงแม้ว่าผู้ถือหุ้นจะไม่สามารถสนับสนุน โยนทิ้งหุ้นที่อยู่ในมือ ราคาหุ้นต้องต่ำมากอย่างแน่นอน และคุณมู่ซื่อและมู่เจิ้งเฉิงจะฉวยโอกาสซื้อได้ทันมั้ย ปกติสมองของถังซินนั้นคิดเร็ว ใช้เวลาเพียงนิดเดียวก็สามารถคิดได้หมด คิดเชื่อมโยงกับก่อนหน้าที่ได้มีการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น ท่าทางของมู่เจิ้งหย่าและมู่เจิ้งเฉิง บอกกับช่วงนี้ไม่ได้เห็นหน้า ไม่แน่ว่าเรื่องที่คนงานตายและเรื่องทุจริตของหยวนเย่นั้น เป็นฝีมือของทั้งสองคน ถังซินรีบต่อสายภายในหาฝ่ายเลขา “เลขากาว ช่วยนัดประธานถันของบริษัทฮ่วนจื่อให้ที” ได้ค่ะ หลังจากที่จัดการเรื่องของบริษัทเสร็จแล้ว ถังซินส่งวีแชทไปหาลู่เหวินซู ให้เขาคิดหาวิธีเปิดเผยข้อมูลลับของบริษัทมู่ซื่อ ในขณะเดียวกันก็รีบไปบ้านของผู้ถือหุ้นเหล่านั้น ตำรวจมาอย่างรวดเร็ว และได้เอาเรื่องที่หยวนเย่ทำทั้งหมดเปิดเผยสู่สาธารณชน ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะพิจารณาตัดสินคดี หุ้นของบริษัทมู่ซื่อตกลงอย่างรวดเร็ว แทบจะหยุดลง โรงงานที่ ฮวายปิ่ง เย็นจิง หางซี แทบจะปิดลงหมดแล้ว คนงานนับไม่ถ้วนแค่เพียงข้ามคืนก็ได้สูญเสียอาชีพการงาน ผู้จัดการใหญ่ของสาขาก็ถูกโยกย้ายงาน ในตอนนั้นทุกคนต่างลือกันว่าบริษัทมู่ซื่อต้องก้าวกระโดดแล้ว ต่อให้ข่าวเกี่ยวบริษัทมู่ซื่อจะแย่ขึ้นมาอีก ถังซินก็จะไม่สนใจ เธอให้คนไปซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงร่างกายชั้นหนึ่งมามากมาย และเอาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้กับเหล่าผู้ถือหุ้นเพื่อเป็นการขอโทษ แต่พวกเขามีท่าทางที่ต่ำต้อย ผู้ถือหุ้นเหล่านั้นได้ด่าถังซินอย่างรุนแรงก่อน ผู้หญิงอะไรยากที่จะสำเร็จงานใหญ่ เป็นบุคคลที่เป็นเกิดความหายนะ และโทรศัพท์ไปปรึกษาผู้ถือหุ้นคนอื่นอีกครั้ง บริษัทมู่ซื่อยินยอมซื้อหุ้นพวกนั้นกลับ ราคาสามารถตกลงกันได้ หลายคนไม่รอลังเลใจ คุยราคาที่เหมาะสม ก็สามารถขายหุ้นเก่าที่อยู่ในมือได้
已经是最新一章了
加载中