บทที่ 147 ลองหัวเราะให้ฉันเห็นอีกสิ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 147 ลองหัวเราะให้ฉันเห็นอีกสิ
บ๗ที่ 147 ลองหัวเราะให้ฉันเห็นอีกสิ “นายบอกว่าทำธุระเสร็จแล้วจะมาหาฉันไม่ใช่เหรอ ทำไมทำธุระนานจังล่ะ” มู่เฉินหย่วนตัดบทเขา แถมมองเข้มใส่เขาด้วย สายตาดูเย็นชาจนลู่เหวินซูหนาวสั่น “อ๋อ อ๋อ ใช่” ลู่เหวินซูพูดตะกุกตะกัก “มะ เมื่อกี้กำลังประชุมกับพวกผู้จัดการ” พอเห็นลู่เหวินซูท่าทีแปลก ๆ ไป ถังซินก็เงยหน้าไปมองเครื่องปรับอากาศ พูดด้วยความกังวล “อุณหภูมิก็ไม่ต่ำนะคะ คุณลู่ทำไมพูดเสียงสั่น ๆ ล่ะคะ” ลู่เหวินซูลูบ ๆ แขน “ผมรู้สึกหนาวมาก ผมอาจจะตัวเย็นมั้งครับ” “...” มู่เฉินหย่วนหลอกล้อกันก็รู้สึกไม่สบายใจ เลยจงใจพูดขัดจังหวะขึ้นมา “ผมส่งวีแชทหาเลขาเกาแล้ว คุณกลับรถที่จัดเอาไว้พิเศษไปบริษัทแล้วกันนะ” ถังซินถาม “แล้วประธานมู่ คุณจะทำยังไงล่ะคะ” “ผมมีธุระต้องทำนิดหน่อย เดี๋ยวให้เหวินซูส่งผมกลับไป” “ถ้างั้นก็ได้ค่ะ” ถังซินไม่ปฏิเสธอีกต่อไป เดิมทีเธอก็อยากจะกลับบริษัทอยู่แล้ว มู่เฉินหย่วนเรียกเลขาเกามา ช่วยประหยัดเวลาเธอไปได้ไม่น้อย “พี่รอง เธอเป็นผู้รักษาการประธานของตระกูลมู่ ก็ต้องเรียกประธานถังสิ” ลู่เหวินซูพูดล้อเล่น “พี่ยังเอาแต่เรียกเธอว่าคุณถังอยู่ได้ ดูห่างเหินมากจัง” พอถังซินได้ยินก็รีบโบกไม้โบกมือพูดอย่างประหม่า ๆ “ไม่ค่ะ ประธานมู่เรียกฉันว่าคุณถังดีออกค่ะ อีกอย่างทนโดนเรียกว่าประธานถังไม่ได้เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้น ประธานมู่คะ คุณลู่คะ ฉันไปก่อนนะคะ” พอถังซินหันตัวเดินจากไป มู่เฉินหย่วนหัวเราะเบา ๆ ทันที “ประธานถัง สู้ๆนะ” ถังซินเดินโซเซ เกือบล้มลง ตายแล้ว!โดนลุงมู่เรียกประธานถัง ทำไมฟังแล้วมันดูไม่เข้าหูเลยนะ เธอยิ่งก้าวเร็วขึ้นไปอีก แป๊บเดียวก็เหลือเงาแล้ว ลู่เหวินซูเห็นท่าทางของถังซินแล้วก็หัวเราะลั่นออกมา “พี่รอง เธอตลกมาก พระเจ้า ฮาชะมัดยาดเลย พี่เรียก “ประธานถัง” ทำเอาเธอตกใจจนเกือบเผ่นหนีไปแล้ว” มู่เฉินหย่วนมองเขาด้วยสายตาอันเย็นชา “ลองหัวเราะให้ฉันเห็นอีกสิ” “ผมไม่ได้หัวเราะนะ เมื่อกี้หน้ามันเป็นตะคริว” ลู่เหวินซูไอ ๆ เปลี่ยนเรื่องอย่างมีไหวพริบ “พี่ใหญ่กับพี่สามอยู่ในห้องส่วนตัวแหนะ มาพี่รอง ผมเข็นพี่ไปนะ” “ขอบใจนะ แต่ไม่ต้องหรอก” มู่เฉินหย่วนปัดมือเขาออกอย่างไม่เกรงใจ ใช้มือเข็นวีลแชร์เองเนียน ๆ ลู่เหวินซูอึ้งจนอ้าปากค้าง ทำไมพี่รองให้ถังซินเข็น แต่ไม่ให้เขาเข็น เขาน่ารังเกียจขนาดนี้เลยเหรอ เหมือนกับว่าได้กลิ่นอะไรบางอย่าง ลู่เหวินซูรีบใส่หูฟังแล้วพูดเบา ๆ “ฮัลโหล ๆ เหล่าเหอ นายรีบไปสืบดูสิว่าก่อนหน้านี้พี่รองอยู่ห้องไหน ทำอะไร แล้วส่งวีแชทมาให้ฉันหมดเลยนะ” เขารู้สึกว่าพลาดละครฉากเด็ดอะไรไป หลังจากที่มู่เฉินหย่วนเปิดประตูเข้ามาในห้องจึงเห็นวี่เหวินถิงกับเย่นจิ่งเหนียนกำลังคุยกันอยู่ ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไร แม้แต่คนเย็นชาอย่างวี่เหวินถิงถึงกับยิ้มออกมาได้ “คุยอะไรกันน่ะ” มู่เฉินหย่วนถามยิ้ม ๆ มีเพียงแต่วี่เหวินถิงรวมอยู่กับคนอื่นสองสามคน เขาถึงเลิกระแวดระวัง ทำตัวตามสบาย “เล่นทำเอาพี่ใหญ่หัวเราะได้เลย” “พี่รอง” เย่นจิ่งเหนียนเห็นมู่เฉินหย่วนเข้ามาเอง รีบลุกขึ้นจากโซฟา “เหวินซูล่ะ” “นี่ นี่ ฉันอยู่นี่” ลู่เหวินซูโผล่ออกมาจากด้านหลังของมู่เฉินหย่วน อธิบายให้ตัวเอง “เมื่อกี้ผมจะเข็นพี่รองมาที่นี่ แต่พี่รองไม่ให้ผมเข็นเอง จะโทษผมไม่ได้นะ” เย่นจิ่งเหนียนมองเขาแว๊บหนึ่ง “นายทำให้พี่รองโกรธใช่ไหมล่ะ” “ฟ้าดินเป็นพยาน ผมเปล่านะ” ลู่เหวินซูร้องไห้เสียงดัง “พี่รองไม่ให้ผมเข็นจริง ๆ นะ ผมรู้สึกว่าพี่รองเห็นแฟนดีกว่าเพื่อนไปหน่อยนะ ให้คุณถังเข็น แต่พอเป็นผมกลับรังเกียจ” ทันใดนั้น สายตาสามคู่ในห้องก็มองไปที่มู่เฉินหย่วน แววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้ มู่เฉินหย่วนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พูดเรื่องเหลวไหลอะไรของนาย กลิ่นเหงื่อนายแรงมาก ฉันได้กลิ่นแล้วไม่โอเคเลย เดินไปหาที่นั่งไป” เข็นวีลแชร์ไปพักด้านใน เย่นจิ่งเหนียนไม่ได้ซักไซ้ไล่เรียงอะไร แล้วรินชาให้มู่เฉินหย่วน “ช่วงนี้ มู่เจิ้งหย่ากับมู่เจิ้งเฉิงแอบได้หุ้นตระกูลมู่มาไม่น้อย ราคาก็ไม่ต่ำด้วย” “ฉันว่าคุณป้าชอบถลุงเงินมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แถมลูกชายของแกก็ต้องการเงินเพื่อรักษาความสัมพันธ์ มีเงินอยู่ในมือไม่เท่าไหร่หรอก” มู่เฉินหย่วนพูดเรียบ ๆ “เงินส่วนใหญ่เป็นของมู่เจิ้งเฉิง” วี่เหวินถิงยักคิ้ว พูดเสียงเข้ม “มู่เจิ้งเฉิงเจ้าเล่ห์เพทุบาย อยากจะกินตระกูลมู่จริง ๆ ในสายตาของเขาไม่เหมือนมู่เจิ้งหย่าผู้เป็นน้องสาวที่ไม่ช้าก็เร็วเขี่ยเธอตกรอบไปได้” “เฮ้ย นั่นมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ประหยัดแรงพวกเราไง” ลู่เหวินซูพูดขำ ๆ แต่สีหน้าเย่นจิ่งเหนียนกลับหนักแน่น “พวกเราคาดเดาได้ และคาดว่ามู่เจิ้งหย่าก็คาดเดาได้เหมือนกัน อีกอย่างฉันอยากรู้มากว่า มู่เจิ้งเฉิงไปเอาเงินทุนหมุนเวียนมาจากไหน เขามีหุ้นเดิมของตระกูลมู่อยู่สิบห้าเปอร์เซ็นต์แล้วนะ” “ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพิ่งมีหกเปอร์เซ็นต์เองไม่ใช่เหรอ” ลู่เหวินซูสูดอากาศเย็นเข้าไปเต็ม ๆ “เขาติดต่อผู้ถือหุ้นไปกี่คนแล้วกันแน่นะ” มู่เฉินหย่วนกลับไม่กังวลอะไร เพียงแค่พูดว่า “หุ้นเดิมของตระกูลมู่ส่วนใหญ่อยู่ในมือของพ่อผม ถังซินได้รับหุ้นเดิมคืนมาส่วนหนึ่งแล้ว เขาก่อเรื่องไม่ได้หรอก” เย่นจิ่งเหนียนพยัก ๆ หน้าอย่างเข้าใจ ยิ้มแล้วพูด “ดูท่าทางพี่รองจะจัดการทุกอย่างแล้ว ตอนนี้พวกเราแค่รอให้ถังซินจัดการหลอกเอาหุ้นเดิมในมือของมู่เจิ้งเฉิงกลับมาก็สำเร็จแล้ว” “ใจเย็น ๆ ถ้าทำโจ่งแจ้งมากเกินไป พวกเขาก็รู้ตัวสิ” มู่เฉินหย่วนเคาะนิ้วที่หลังเก้าอี้ “ไอ้สี่ นายไปนัดประธานส้าวของบริษัทหลงเถิงหน่อยนะ บอกว่าฉันมีเรื่องขอให้เขาช่วย” “ทำไมต้องนัดเขาด้วยล่ะ” ลู่เหวินซูไม่เข้าใจ “เขาเป็นคนที่ยากที่จะตอบแทนบุญคุณ ถ้าเกิดเรื่องอะไรแล้วผมแก้ไขไม่ได้ขึ้นมาล่ะ” เย่นจิ่งเหนียนก็แสดงความสงสัยออกมาเช่นกัน “ใช่ พี่รอง พี่มีเรื่องกับพวกเราไม่เป็นไร แต่คุยกับประธานส้าว ยังไม่รู้เลยว่าต่อไปเขาจะขายแบบขาดทุนตัดหน้าพี่กลับไปเท่าไหร่” ในขณะนั้นเอง มือถือของลู่เหวินซูก็มีเสียงติ๊ดติ๊ด เขาแอบหยิบมือถือออกมาดู แป๊บนึงก็เงยหน้าขึ้นทำหน้าแบบเข้าใจขึ้นมาทันทีแล้วแอบไปสะกิดไหล่มู่เฉินหย่วนหัวเราะอย่างมีเลศนัย “อิอิ ผมรู้แล้วว่าพี่รองหาประธานส้าวทำไม” มู่เฉินหย่วนปัดมือของเขาออก “บอกแล้วไงว่าให้นายอยู่ห่าง ๆ หน่อยไม่ใช่เหรอ กลิ่นเหงื่อเต็มตัวเลย” วี่เหวินถิงถาม “ทำไมเหรอ” ลู่เหวินซูทำหน้าทะเล้นแล้วพูดว่า “คนที่มาเที่ยวคลับนี้คือพี่ใหญ่ พี่ว่าไงล่ะ พี่ใหญ่ลองเดาสิว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเพิ่งส่งข้อความไปให้พี่รองว่าอยากจะไปรับเขา หึ คิดไม่ถึงว่าเขาจะอยู่ที่คลับด้วย” “ผมคิดว่าพี่ใหญ่มีเซ็นส์รู้ล่วงหน้าได้นะ เลยมาที่คลับก่อนแล้ว ผลสุดท้ายพี่รองรู้ว่าคุณถังมาที่นี่ก็เลยให้คนพาตัวเองมาเพื่อมาช่วยหนุนหลังให้คุณถัง” มุมปากของมู่เฉินหย่วนหักลงนิด ๆ “นายเสียงดังเกินไปแล้ว หุบปากได้ไหม” เย่นจิ่งเหนียนหัวเราะ “ไม่เป็นไร พี่รอง พวกเราไม่รู้สึกว่าเสียงดังหรอก ไอ้สี่นายพูดต่อสิ” วี่เหวินถิงก็ทำท่าตั้งใจฟังเต็มที่ “ในเมื่อพวกพี่อยากฟังขนาดนี้ ถ้างั้นผมพูดต่อนะ” พอลู่เหวินซูได้ยินข่าวซุบซิบข่าวใหญ่ขนาดนี้ก็ รู้สึกตื่นเต้นมาก เล่าเรื่องคุณหานน้อยที่เกิดขึ้นในห้องทั้งหมดไปหกนาที ในตอนนี้ห้องเงียบมาก มู่เฉินหย่วนเอามือลูบ ๆ คิ้ว ไม่อยากพูดจา “นอกจากซือซือ ผมก็เพิ่งเห็นพี่รองหนุนหลังให้ผู้หญิงอีกคนอื่นเป็นครั้งแรก” เย่นจิ่งเหนียนพูดแซว “ดูท่าทางคุณถังจะเก่มากจริง ๆ พี่รองถึงได้ชื่นชมเธอ” “ไม่!ไม่!” ลู่เหวินซูส่ายหัวแล้วพูดตรง ๆ “ซือซือไม่ได้อยู่ในสถานะแบบนั้นโอเคไหม พี่เคยเห็นพี่รองสั่งสอนถังตี้ด้วยตัวเองเหรอ ไม่เคยใช่ไหมล่ะ”
已经是最新一章了
加载中