บทที่ 148 เสียสติไปแล้ว   1/    
已经是第一章了
บทที่ 148 เสียสติไปแล้ว
บ๗ที่ 148 เสียสติไปแล้ว มู่เฉินหย่วนมองเหวินซูด้วยสายตาอันเย็นชาแว๊บหนึ่ง “ถังซินคือลูกน้องของฉัน เธอโดนรังแก ก็เท่ากับฉันโดนรังแกด้วย ฉันพูดแทนเธอมันก็สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ นายจะมานินทาอะไรนักหนาห๊ะ” “นอกจากคณะกรรมการบริหารแล้ว ตระกูลมู่มีใครบ้างล่ะที่ไม่ใช่ลูกน้องของพี่รอง” ลู่เหวินซูยิ้มตอบ “ผมยังไม่เคยเห็นใครโดนรังแกแล้วพี่รองไปช่วยเลยนี่น่า” มู่เฉินหย่วนคว้าป๊อปคอร์นยัดใส่ปากเขา “หุบปากซะ เดี๋ยวไปติดต่อประธานส้าวด้วย เข้าใจไหม” ลู่เหวินซูโดนอุดปากจนพูดไม่ออก จึงทำได้แต่พยัก ๆ หน้า เย่นจิ่งเหนียนส่าย ๆ หัว พูดด้วยความเสียดายมาก “ประธานหานกับพี่รองร่วมงานกันมาหลายครั้งแล้ว คราวนี้คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่เข้าใจความคิดของพี่รองเอาเสียเลย โอกาสหายากมากเป็นศตวรรษกว่าจะมีโอกาสทีแต่ก็ไม่เอา” “ยังดีที่แผนการของพวกเราสมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ” ลู่เหวินซูฝืนกลืนป๊อปคอร์นในปากลงไป “ถ้าผมไม่ได้เข้าไปร่วมด้วยอยู่ในนั้น ดูสถานการณ์นี้ก็คิดว่าตระกูลมู่จะต้องล้มลงแล้ว” เย่นจิ่งเหนียนมองมู่เฉินหย่วนแว๊บหนึ่งแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “ตอนนี้ฉันเข้าใจประโยคนั้นในหนังสือที่บอกว่า “โมโหสุดขีดเพราะแม่สาวสวยแก้มแดง” แล้วว่าแปลว่าอะไร” “ผมก็เข้าใจแล้วเหมือนกัน” ลู่เหวินซูยิ้มกว้าง “ผมนึกว่าพี่รองไม่สนใจผู้หญิงเสียอีก คิดว่าปล่อยเอาไว้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมกะจะไปผ่าตัดเอาก็ได้ หึหึ สุดท้ายก็ไม่เจอผู้หญิงที่ถูกใจ” “ตอนนี้นายจะไปผ่าตัดก็ได้นะ ฉันขาดผู้หญิงอยู่” “พี่สาว พี่เอาจริงเหรอ” รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่นจิ่งเหนียนยังคงรอยยิ้มไม่เปลี่ยน “หรือฉันทำให้นายก็ได้นะ นายก็รู้ฝีมือฉันดีนี่” “คิดไม่ถึงเลยว่าพี่สาม พี่จะวางแผนร้าย ๆ กับผมมาตลอด” ลู่เหวินซูส่าย ๆ หน้า ย่องไปหาวี่เหวินถิง “ผมไม่รักพี่หรอก พี่ตัดใจเสียเถอะ” พี่น้องอยู่ด้วยกันคุยกันได้ทุกเรื่อง อบอุ่นและคึกคักมาก วี่เหวินถิงกับมู่เฉินหย่วนยิ้มอย่างผ่อนคลาย หลังจากที่หยอกล้อกันสักพัก ลู่เหวินซูถอนหายใจแล้วพูดว่า “ผมว่าเมืองหนานเฉิงก็ไม่ใหญ่ ผมไปเดินเล่นหน้าประตูโรงพยาบาลทุกวัน ทำไมถึงไม่เจอน้องสาวน่ารัก ๆ คนนั้นอีกนะ ผมโพสท่ารอไม่ถูกหรือเปล่านะ” มู่เฉินหย่วนจิบชาแล้วจึงถาม “รักแรกพบอีกแล้วเหรอ” “เป็นรักแรกพบครั้งที่เก้าสิบแปดนะสิ” เย่นจิ่งเหนียนพูดเสริม รังเกียจลู่เหวินซูมาก “ฉันว่านายก็อย่าไปย่ำยีเขาเลย ถึงเขาจะดูเด็ก ไม่แน่ว่าอาจจะยังไม่เป็นผู้ใหญ่ก็ได้นะ” “แล้วไงล่ะ ผมรอได้น่า” ลู่เหวินซูนั่งตัวตรง “คราวนี้ผมเอาจริงนะ ตอนที่ผมสบตาเธอ มันก็มีความคิดแบบอยากจะแต่งงานกับเธอขึ้นมาเลยนะ” “...” ในห้องไร้ซึ่งเสียงใด ๆ อย่างฉับพลัน ดวงตาสองสามคู่มองลู่เหวินซูด้วยสายตาที่บ่งบอกว่า “สมองนายมีปัญหาแล้วละ” “โธ่เอ้ย ผมพูดจริงนะ พวกพี่ทำหน้าแบบนี้ได้ไงเนี่ย” ลู่เหวินซูพูดอย่างไม่พอใจ เย่นจิ่งเหนียนหัวเราะเยาะเย้ย “นายเจอผู้หญิงที่เป็นรักแรกพบทุกครั้งก็พูดแบบนี้ตลอด ถ้านายเอาจริง จำนวนครั้งการแต่งงานสามารถทำลายสถิติโลกของบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ได้เลยนะ” “คราวนี้รู้สึกไม่เหมือนคราวก่อนเหล่านั้นนะ” ลู่เหวินซูอยากจะอธิบาย แต่ก็ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกแบบนั้นได้เลยผลัก ๆ แขนมู่เฉินหย่วน “พี่รอง พี่ไม่อยากแต่งงานไม่ใช่เหรอ พี่ต้องมีความรู้สึกมากกว่าผมแน่นอน” วี่เหวินถิงที่เงียบ ๆ ไม่พูดไม่จาบีบแก้วเหล้าทันที เขาบีบแรงมาก รอยร้าวมากมายปรากฏขึ้นบนถ้วยอย่างเงียบ ๆ แต่คนอื่นกลับไม่สังเกตเห็นเลยสักนิด “ฉันกับจิ้งเหอเป็นแค่คนที่ร่วมงานกัน” มู่เฉินหย่วนพิงวีลแชร์อย่างเหนื่อยหน่าย แล้วพูดเรียบ ๆ “ฉันแต่งงานกับเธอทำให้คนในตระกูลมู่ระแวงกันน้อยลงนิดหน่อยได้ ส่วนเธอก็ใช้ชื่อเสียงของฉันคว้าหุ้นจากประธานซ่งมาได้” เย่นจิ่งเหนียนกระพริบตาปริบ ๆ พูด “หลังจากกลับมาแล้วฉันก็ดูข่าวเลยรู้ว่าคุณซ่งเก่งมาก เพียงแต่สถานะเป็นอุปสรรค เธอไม่ได้มีอำนาจอะไรจริง ๆ ในตระกูลซ่ง” “ให้ทำไงได้ล่ะ ใช้ใครให้เธอเป็นลูกสาวเมียน้อยละ” ลู่เหวินซูจนปัญญา “ถ้าพ่อเธอเปิดเผยรัรองแม่ของเธอเป็นภรรยาคนที่สองของเขาก็ไม่ต้องโดนซุบซิบนินทาหรอก” เย่นจิ่งเหนียนหัวเราะ ๆ “อยู่ในวงการธุรกิจประธานซ่งก็เป็นคนที่เขี้ยวลากดิน ใจคอโหดเหี้ยม ทำทุกอย่างได้เพื่อผลประโยชน์ อยู่ในบ้านก็เป็นเสียตัวเมีย ด้วยความกลัวคุณนาย แม้แต่ตอนที่รับซ่งจิ้งเหอกลับมาก็เลยพูดกับคุณนายไปไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นคุณนายก็ยังไม่พอใจ อนุญาตให้ซ่งจิ้งเหอใช้นามสกุลซ่งแต่ไม่อนุญาตให้เข้าตระกูลซ่งอันสูงส่ง ให้บอกกับคนอื่นว่าเป็นลูกสาวบุญธรรม” ลู่เหวินซูทำเสียง “ชิ” “คุณซ่งนี่ก็น่าสงสารเนอะ” มู่เฉินหย่วนดื่มชา ฟังสองคนตอบรับกันก็เริ่มอึดอัดใจ ฟังไปถึงตอนท้ายเขาก็ได้กลิ่นอะไร พูดอย่างเรียบ ๆ “ถ้าแต่งงานกับฉันก็ไม่น่าสงสารแล้ว” “ว้าว พี่รอง พี่อยากแต่งงานจริง ๆ เหรอ” ลู่เหวินซูช็อค “พี่บอกว่าพวกพี่เป็นแค่คนร่วมงานกันไม่ใช่เหรอ” มู่เฉินหย่วนพูด “ใช่ แต่ในเมื่อเธอไม่มีคนที่ชอบ ฉันก็ไม่มี แต่งงานดีที่สุดแน่นอนอยู่แล้ว ในฐานะที่เกี่ยวข้องกับตระกูลมู่ เธอก็ไม่ต้องทำตัวนอบน้อมก้มหัวให้ใครในตระกูลซ่ง” “พี่รองพี่ถามใจตัวเองให้ดีก่อนเถอะแล้วค่อยพูดใหม่?” ลู่เหวินซูหยิบมือถือออกมาแกว่งใส่เขา แล้วยิ้มอย่างมีพรุธ “พี่จูบคุณถังในห้องน้ำนะ อย่าบอกนะว่าอารมณ์ชั่ววูบเลยควบคุมตัวเองไม่ได้” มู่เฉินหย่วนทำหน้าเข้ม “ไอ้สี่ นายนี่มันนับวันยิ่งกวนตีนนะ” “พี่รองอยากหลอกตัวเองชัด ๆ” ลู่เหวินซูพูดอย่างกล้าหาญ แต่กลับย้ายไปอยู่ข้าง ๆ เพราะปอดแหก “หรือว่าพี่รองอยากมีเมียหลายคน เลยไม่ปล่อยมือเลยสักคนเหรอ” “ฉันเคยเห็นประโยคหนึ่งมาก่อน” เย่นจิ่งเหนียนมองไปที่มู่เฉินหย่วน พูดแซวเล่น “ถ้านายเงยหน้ามองผู้หญิงคนหนึ่ง ภายในสิบวินาทีแล้วอดที่จะจูบเธอไม่ได้ แสดงว่าชอบเธอ” “พี่รองตอนนั้นมองคุณถังกี่วินาทีเหรอ แล้วที่พี่รองบอกว่าพี่กับคุณซ่งเป็นแค่คนร่วมงานกัน แต่ดูท่าทางจะชอบคุณซ่งมาก พวกพี่ขึ้นเตียงกันแล้วหรือยัง” พอเย่นจิ่งเหนียนพูดจบ เสียงแตกร้าวก็ดังขึ้นมาจากข้าง ๆ เขา สองสามคนได้ยินเสียงก็หันไปดูจึงเห็นว่าแก้งเหล้าในมือของวี่เหวินถิงแตก เศษแก้วอันแหลมคมบาฝ่ามือของเขา เลือดสด ๆ ไหลหยดลงมา แต่ทว่าสีหน้าเขากลับดูเย็นชา ลู่เหวินซูร้องเสียงหลง ยื่นกระดาษทิชชูให้วี่เหวินถิงไปด้วย พูดด้วยความปวดใจไปด้วย “พี่นี่ก็ ผมอุตสาให้แก้วที่สั่งทำมาให้พี่ดื่มไวน์ พี่บีบจนแตกได้ไงเนี่ย แม่งเอ้ย ใบละหมื่นสามเลยนะ” เย่นจิ่งเหนียนถามยิ้ม ๆ “พี่ใหญ่กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ แม้แต่กำลังก็ควบคุมไม่ได้เลยเหรอ” “เปล่า แก้วไวน์มันบางเกินไป แค่บีบก็แตกแล้ว” วี่เหวินถิงพูดอย่างเย็นชา สายตานิ่งมาก “เป็นไปได้ไง !มันแพงมากเลยนะ จะแตกง่าย ๆ ได้ไง” ลู่เหวินซูหยิบขึ้นมาลองใช้แรงทั้งหมดลงมาที่ฝ่ามือแต่แก้วไวน์ก็ไม่มีแม้แต่รอยแคกร้าวสักเส้น ลู่เหวินซูหายใจถี่ พูดด้วยความมั่นใจ “พี่ใหญ่ เมื่อกี้พี่ต้องกำลังคิดถึงเทพอาร์เทมีสอยู่แน่ ๆ ถึงเสียสติจนทำแก้วไวน์แตก” มู่เฉินหย่วนถาม “เทพอาร์เทมีอะไร” “ก็ลายตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เรียงกันด้านในแหวนที่พี่ใหญ่ใส่อยู่ที่นิ้วนั้นไง” ลู่เหวินซูชี้ ๆ ไปที่นิ้วของวี่เหวินถิง ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วพูด “พี่รอง พี่ก็รู้นี่ กองกำลังพิเศษที่พี่ใหญ่สังกัดอยู่ก่อนหน้านี้เข้มงวดมาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพี่ใหญ่จะสวมแหวนที่สลักตัวอักษรภาษาอังกฤษที่นิ้วด้วย แค่มองก็รู้ว่าเป็นคนที่เรื่องราวอะไรแน่ๆ” “ทำไมไม่เคยได้ยินพี่ใหญ่เล่าเลยล่ะ” มู่เฉินหย่วนถามวี่เหวินถิงยิ้ม ๆ “แค่ภาษาอังกฤษอย่างเดียว ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก” วี่เหวินถิงลุกขึ้นจากโซฟา “พวกนายเล่นไปนะ ฉันกลับบ้านจัดการอะไรหน่อย” เย่นจิ่งเหนียนพูด “ถ้างั้นให้ไอ้สี่หาผู้จัดการขับรถไปส่งนายนะ” “ไม่ต้องหรอก มีรถมารับ” วี่เหวินถิงเดินออกไปเลย พอไปถึงประตูก็กลับหันมาพูดกับมู่เฉินหย่วนอีก “คุณซ่งไม่เลวเลยนะ ไอ้สอง ถ้าอยากให้ช่วยเหลือก็โทรมาหาฉันนะ” 
已经是最新一章了
加载中