บทที่ 149 เขาเป็นเด็กน่าสงสารที่ไม่มีคนรักคนหนึ่ง
1/
บทที่ 149 เขาเป็นเด็กน่าสงสารที่ไม่มีคนรักคนหนึ่ง
รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
(
)
已经是第一章了
บทที่ 149 เขาเป็นเด็กน่าสงสารที่ไม่มีคนรักคนหนึ่ง
บ๗ที่ 149 เขาเป็นเด็กน่าสงสารที่ไม่มีคนรักคนหนึ่ง วี่เหวินถิงไปแล้วสักพักใหญ่ ในห้องก็เงียบลง เย่นจิ่งเหนียนหัวเราะขึ้นมาก่อน “อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี นี่คือครั้งที่สองที่ฉันเห็นพี่ใหญ่เสียสติ คราวนี้เห็นชัดเจนมากเลย” “ครั้งแรกคือที่ไหน” มู่เฉินหย่วนถาม “โรงพยาบาล” เย่นจิ่งเหนียนตอบยาว “ตอนนั้นซ่งจิ้งเหอมาเยี่ยมนายที่โรงพยาบาลแล้วเจอพี่ใหญ่เข้า พี่ใหญ่เก็บอาหารดีมากแต่ซ่งจิ้งเหอเก็บอาการไม่อยู่ ผมเลยเดาออกว่าพวกเรามีเรื่องบางอย่างกัน” “ที่แท้เรื่องที่พี่ไม่บอกที่โรงพยาบาลก็คือเรื่องนี้เองน่ะเหรอ” ลู่เหวินซูก็เข้าใจแล้ว “โธ่เอ้ย ทำไมพี่ไม่บอกผมล่ะ ทำเอาผมไม่สบายใจไปหลายวันเลย” เย่นจิ่งเหนียน “หึ” ใส่อย่างเย็นชา “นายมันโง่เอง แต่คราวนี้ยังถือว่าฉลาด รู้จักแกล้งเล่นละครตาม” “เล่นละครอะไร” ลู่เหวินซูงงนิด ๆ เย่นจิ่งเหนียนเอามือปิดหน้าผาก “ฉันประเมินไอคิวนายสูงไปเอง ฉันผิดเอง” “อ๋อ พี่พูดถึงประวัติของซ่งจิ้งเหอเหรอ” ซักพักลู่เหวินซูถึงจะตอบกลับ “ผมแม่งนึกว่าพี่สนใจซ่งจิ้งเหอ ใครจะไปรู้ละ ว่าพี่พูดให้พี่ใหญ่ฟัง” เขาโดนแขวะแล้วจึงพูด “แม่งเอ้ย พวกพี่วิเคราะห์เรื่องให้มันซับซ้อนขนาดนี้ไม่ปวดหัวหรือไง” “ฉันบอกแล้วไง นายมันโง่” เย่นจิ่งเหนียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่เชื่อก็ลองถามพี่รองสิ” ลู่เหวินซูหันไปมองทางมู่เฉินหย่วน มู่เฉินหย่วนไม่สนใจใด ๆ ทั้งสิ้น พูดอย่างจนปัญญา “ฉันไม่รู้ว่าเมื่อก่อนพี่ใหญ่มีอดีตกับซ่งจิ้งเหอ ถ้าฉันรู้ก็คงไม่ร่วมงานกับซ่งจิ้งเหอหรอก” “ไม่ พี่รอง พี่ทำแบบนี้กลับยิ่งดีนะ” เย่นจิ่งเหนียนหัวเราะเบา ๆ “นายก็เห็น พี่ใหญ่ห่างเหินกับผู้หญิงจะตาย น่าจะมีเรื่องกับซ่งจิ้งเหอ” “ดูจากรอยสักนั้นที่บนนิ้วพี่ใหญ่ ฉันคิดว่าเขายังคิดถึงซ่งจิ้งเหออยู่นะ พวกเราก็ใช้โอกาสนี้ ลองดูว่าพี่ใหญ่จะทนไปได้ถึงเมื่อไหร่สิ” มู่เฉินหย่วนครุ่นคิด สุดท้ายก็ “อืม” ออกมา ถือว่าเห็นด้วยกับแผนของเย่นจิ่งเหนียน “พวกพี่ยังว่าผมเล่นสนุกกับผู้หญิงอยู่เลย ผมว่าพวกพี่ยิ่งกว่าผมอีกนะ” ลู่เหวินซูพูดสบประมาท “โดยเฉพาะพี่รอง ใช้อุบัติเหตุทางรถยนต์มาหลอกคุณถังให้เป็นทาสรับใช้พี่” มู่เฉินหย่วนทำหน้าเคร่งขรึม ถ้วยชาในมือแตกภายในพริบตา น้ำชาในถ้วยนั้นหกใส่ขาของเขาทำเอาเย่นจิ่งเหนียนกับลู่เหวินซูตกใจจนตัวโยน ลู่เหวินซูพูดตะกุกตะกัก “แม่งเอ้ย กะ แก้วที่ผมสั่งทำมันเปราะขนาดนี้เลยเหรอ” “นายไม่ต้องติดต่อประธานส้าวแล้ว ให้จิ่งเหนียนไปแทน” มู่เฉินหย่วนพูดเรียบ ๆ ปัด ๆ ใบชาที่อยู่บนขา “นายไปช่วยฉันจัดการเรื่องอื่นที่เยนจิง” “พี่รองผมผิดไปแล้ว...” มู่เฉินหย่วนมองเขาแว๊บหนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หุบปาก คืนนี้นั่งเครื่องบินไปซะ” ลู่เหวินซูน้ำตาไหลนองหน้า แม่งไม่ยุติธรรมเกินไปแล้วนะ จากเรื่องโรงพยาบาลคราวนั้น เย่นจิ่งเหนียนแหย่พี่รองยังไง พี่รองไม่ว่าสักคำ วันนี้แค่พูดประโยคเดียวก็โดนถีบส่งให้ไปทำงานลำบากเลยเหรอ ถึงเขาจะดูเข้าใจ แต่เขาก็เป็นเด็กน่าสงสารที่ไม่มีคนรักคนหนึ่งนะ ... แม้ว่าวันนั้นจะเกิดเรื่องที่ไม่สบายใจขึ้นที่คลับ แต่ทว่าพอมีมู่เฉินหย่วนมาช่วยเหลือตำหนิมู่จิ่นเซียนและคนอื่น ๆ ถังซินก็เลยไม่ได้เอาเรื่องราวมาใส่ใจ คุณหานน้อยก็ส่งเมลมาขอโทษและนัดพ่อตัวเองให้เธอ ถังซินให้กาวเหม่ยซีไปร่างสัญญา พอจะไปตามที่นัดหมาย เย่นจิ่งเหนียนก็โทรศัพท์มาบอกว่าอยากเจอเธอสักครั้ง หลังจากที่ได้เจอแล้วถังซินถึงพบว่าไม่ได้มีเพียงเย่นจิ่งเหนียน ยังมีประธานส้าวจากบริษัทหลงเถิงด้วย หลังจากที่นังลงคุยกันแล้ว ถังซินถึงพบว่าคราวนี้ที่ประธานส้าวมาคุยเรื่องร่วมงานนั้นหมายถึงมู่เฉินหย่วน ให้ขายหุ้นเดิมที่เธอจะขายให้ประธานหานเปลี่ยนมาขายให้ประธานส้าวแทน ประธานส้าวคนนี้ก็ถือว่าอายุน้อยแต่มากความสามารถ ถ้าพูดถึงฝีมือการทำธุรกิจก็ถือว่าสูสีกับมู่เฉินหย่วนได้เลย เพียงแต่ไม่ค่อยถูกกันกับมู่เฉินหย่วน ทำงานแทนคนอื่นกำไรต้องสูงมาก เห็นได้ชัดเลยว่าประธานส้าวปฏิบัติกับผู้อื่นอย่างไร ขณะที่เซ็นสัญญาระหว่างที่ถังซินไปห้องน้ำก็โทรศัพท์หามู่เฉินหย่วน “ประธานมู่ ทำไมคุณถึงเปลี่ยนใจอีกแล้วล่ะคะ” ถังซินถาม “คุณหานน้อยนัดประธานหานให้ฉันแล้ว ถ้าดูจากความร่วมมือแล้ว ฉันว่าประธานหานดีกว่านะคะ” “เขาไม่เห็นใครในสายตา บ้าระห่ำเกินไป” มู่เฉินหย่วนพูดเรียบ ๆ “ตอนนี้โลกภายนอกรู้กันหมดแล้วว่าคุณคือประธานของตระกูลมู่ ถ้าเขาเลิกสัญญาก็เท่ากับไม่เคารพผม พาร์ทเนอร์ประเภทนี้ถ้าไม่ทำก็ไม่เป็นไร” เขาพูดถึงขนาดนี้ แต่ถังซินกลับรู้ว่าเป็นเพราะว่าตัวเองโดนรังแกเขาเลยไม่ร่วมงานกับประธานหาน แก้มร้อนผ่าวนิด ๆ ใจเต้นเร็วขึ้นมา ถังซินพูด “แต่ประธานส้าวสนใจแต่ผลกำไรอย่างเดียว ถ้าให้เขาเป็นผู้ถือหุ้นตระกูลมู่ มีแต่จะส่งผลเสียต่อตระกูลมู่นะคะ” “เขาก็แค่อยากได้เงินเยอะหน่อยเท่านั้นเองให้เขาไปก็จบแล้ว” มู่เฉินหย่วนชะงักไป จากนั้นก็หัวเราะเบา ๆ “ทำไม ประธานถังคิดว่าผมจะเสียเปรียบเขาเหรอ” ราวกับมีเสียงลมหายใจเป่ามาที่ข้างหูถังซินทำให้ใบหูเธอแดงก่ำ “เปล่านะคะ ฉันก็แค่ถาม ๆ ดู ประธานมู่คะ ฉันวางสายก่อนนะคะ” ถังซินพูดจบก็วางสายเลย พอเห็นตัวเองแก้มชมพูระเรื่อขึ้นมาในกระจกก็ตบแก้มเบา ๆ ไปหนึ่งที ถังซินเธอนี่มันพูดมากจริง ๆ เลยนะ หลังจากที่เซ็นสัญญาเสร็จ ส่งประธานส้าวแล้วก็รู้สึกโล่งอกไปที เธอรู้ว่ามู่เจิ้งหย่ากับมู่เจิ้งเฉิงซื้อหุ้นเดิมจากผู้ถือหุ้นรายอื่นมาได้ไม่น้อยแล้ว เพียงแต่ว่าช่วงนี้เธอก็ไม่นิ่งเฉย หุ้นเดิมจากผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ก็อยู่ในมือของเธอทั้งหมดเช่นกัน อีกทั้งตามที่มู่เฉินหย่วนกำชับมา แอบหาคนขายทิ้งออกไปเงียบ ๆ แล้วเอาเงินส่วนหนึ่งโอนเงินทุนเข้าบัญชีของตระกูลมู่ ส่วนอีกส่วนหนึ่งแบ่งเอาไปไว้ในบัญชีลับ ก็แค่รอดูว่ามู่เฉินหย่วนจะเดินหมากต่อไปอย่างไรแล้ว “คุณถัง” เย่นจิ่งเหนียนเดินมาหาถังซิน แขนห้อยสูทมาด้วย “วันนี้ขอบคุณมากนะครับ ถ้าคุณถังมีเวลาว่าง ผมจะเลี้ยงมื้อเที่ยงคุณนะ” ถังซินรีบหัวเราะ “คุณเย่นเกรงใจไปแล้วค่ะ ถ้าไม่มีคุณฉันก็คงไม่ได้เจอประธานส้าว ฉันต้องเลี้ยงข้าวคุณสิคะ ถึงจะถูก” “ได้ ถ้างั้นผมไม่เกรงใจนะ” วันนี้ถังซินขับรถมา พอกำลังจะพาเย่นจิ่งเหนียนไปร้านอาหารก็ได้รับวีแชทจากเด็กชายตัวน้อยพอดี เธอถึงนึกออกว่ายังไม่ได้คืนจักรยานเสือภูเขาที่อยู่ท้ายรถเลย ถังซินตอบวีแชทเสร็จก็เห็นเด็กชายตัวน้อยกำลังฝึกร่างกายอยู่ข้างนอกพอดีเลยขอโทษเย่นจิ่งเหนียน “ขอโทษด้วยนะคะ คุณเย่น วันนี้เกรงว่าจะเลี้ยงข้าวคุณไม่ได้แล้ว ฉันต้องเอาจักรยานเสือภูเขาไปคืนน่ะค่ะ” “ไม่เป็นไรครับ ครั้งหน้าก็ได้ครับ” ถังซินรู้สึกเกรงใจเลยยืนกรานจะไปส่งเย่นจิ่งเหนียนกลับบ้านแล้วค่อยไปร้านอาหารฝรั่ง พอถึงร้านอาหารฝรั่งแล้วก็หาที่นั่งข้างหน้าต่าง ไม่กี่นาทีประตูร้านอาหารฝรั่งก็ถูกเปิดออก ร่างเล็ก ๆ เดินเข้ามา มองซ้ายมองขวา พอเห็นถังซินก็รีบเดินมาหา แล้วดึงหน้ากากลง ฉางผิงเรียกเสียงดัง “ พี่สาว พี่รอนานไหมครับ” “แค่สองนาทีเองจ้ะ” ถังซินยิ้มตอบ พอเขานั่งแล้วก็ส่งเมนูอาหารไปให้ “หนูช่วยพี่เอาไว้มาก วันนี้พี่เลี้ยงมื้อเที่ยงหนูนะ หวังว่าหนูจะไม่ปฏิเสธพี่นะ” “ถ้างั้นก็ขอบคุณนะครับพี่สาว” ฉางผิงเลยไม่เกรงใจสั่งอาหารที่ตัวเองชอบไปสองสามอย่าง พอพนักงานเสิร์ฟลงไปแล้ว ถังซินก็พูดขึ้น “หนูช่วยพี่เอาไว้สองครั้งแล้ว แต่พี่กลับยังไม่รู้จักชื่อของหนูเลย ขอโทษจริง ๆ นะจ้ะ พี่ชื่อถังซินนะจ้ะ จะเรียกพี่ว่าคุณน้าก็ได้นะ” “พี่สาวสวยมาก เรียกพี่สาวเพราะดีแล้วครับ” ฉางผิงปากหวานทำให้ถังซินร่าเริงมาก เด็กคนนี้นี่น่ารักจริง ๆ เลย ระหว่างที่คุยกัน ถังซินถึงได้รู้ว่าเด็กน้อยแซ่ซ่งอวี้ ชื่อฉางผิง “หนูยังเด็กมาก ต้องฝึกร่างกายข้างนอกทุกอาทิตย์เลยเหรอ” พอได้ยินเด็กน้อยบอกถังซินก็ประหลาดใจ “วัยอย่างหนูควรไปเรียนอนุบาลสิถึงจะถูก” สายตาของฉางผิงหม่นหมองลงแต่ไม่นานเขาก็ยิ้มแล้วพูด “คุณแม่บอกว่าผมฉลาด ไม่ต้องไปโรงเรียนอนุบาล อีกอย่างการฝึกร่างกายข้างนอก คุณครูกำหนดให้ผมเอง เป็นการฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย ไม่เหนื่อยหรอกครับ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 149 เขาเป็นเด็กน่าสงสารที่ไม่มีคนรักคนหนึ่ง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A