บทที่ 156 คุณว่ามันเหมือนเนื้อหมูไหม
1/
บทที่ 156 คุณว่ามันเหมือนเนื้อหมูไหม
รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
(
)
已经是第一章了
บทที่ 156 คุณว่ามันเหมือนเนื้อหมูไหม
บ๗ที่ 156 คุณว่ามันเหมือนเนื้อหมูไหม พูดจบเธอถึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่จึงมองย้อนกลับไป มู่เฉินหย่วนกำลังถือกาแฟร้อนควันลอยยักคิ้วอยู่ นั่งวีลแชร์มองเธออย่างตื่นเต้นแต่ก็แกล้งทำเป็นนิ่ง “นี่ ประตูนี้...”ถังซินอยากจะบอกว่าประตูไม่ได้ล็อก จากนั้นก็พบว่าคีย์การ์ดอยู่ในมือตัวเองก็เลยอาย “ก็ได้ ฉันแตะการ์ดเข้ามาค่ะ” มู่เฉินหย่วนยิ้มแล้วถามหน้าตาย “คุณบอกว่าจะหาแม่บ้านให้ผมไม่ใช่เหรอ” “แม่บ้านพวกนั้นไม่ได้ฝึกอบรมในบริษัทแม่บ้านสักเท่าไหร่ ฉันกลัวว่าจะดูแลประธานมู่ไม่ดี” ถังซินถืออาหารที่ซื้อมากับกุหลาบสองต้นมาด้วย “อ๋อ จริงด้วย ล้านหกของคุณประธานมู่...เอ้ย กุหลาบค่ะ” เธอรีบเปลี่ยนคำพูด “บ้านฉันเล็กเกินไป นางฟ้าน้อยให้ฉันเอามาคืนคุณสองต้นค่ะ” “แค่กุหลาบเอง ไม่ต้องคืนก็ได้” มู่เฉินหย่วนพูดง่าย ๆ ราวกับว่าไม่ได้สนใจอะไร ถังซินได้ยินกลับคว่ำปากลง ไอ้นี่มันไม่ใช่กุหลายธรรมดามันคือเงินหยวนต่างหากล่ะ ถังซินไม่มีความกล้าที่จะบอกกับผู้ชายพันล้านว่าการปลูกของดอกกุหลาบพันธุ์นี้มันสิ้นเปลืองเงินเกินไปจึงตรงดิ่งไปเตรียมอาหารเช้าในครัวและพูดไปด้วย “ประธานมู่คะ ตอนเช้าถ้ายังไม่ได้กินข้าว เลิกดื่มกาแฟได้แล้วค่ะ เดี๋ยวทานโจ๊กนะคะ” “...” มู่เฉินหย่วนมองกาแฟในมือ ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วแอบวางลงเงียบ ๆ แล้วหนีไปห่าง ๆ พอเขาได้กลิ่นอาหารก็เข็นวัลแชร์เข้าไป พอเห็นถังซินกำลังจัดการพวกเครื่องใน เขาก็ทำหน้าทนไม่ค่อยได้ “นี่มันคืออะไร” “นี่คือไส้หมูไงค่ะ” ถังซินไม่ได้หันไป เลยไม่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของมู่เฉินหย่วนเป็นธรรมดา “ฉันไปซื้อมาที่ตลาดตอนเช้า สดมากเลยนะคะ เดี๋ยวฉันจะทำโจ๊กหมูค่ะ” มู่เฉินหย่วนสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า ผมไม่กินเนื้อหมู” “นี่ไม่ใช่เนื้อหมู นี่คือไส้ใหญ่หมูค่ะ” ถังซินเถียงกลับ เอาไส้ใหญ่หมูให้เขาดู “คุณดูสิ มันเหมือนเนื้อหมูไหมคะ” “คุณถัง นี่มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในตัวหมูนะ” มู่เฉินหย่วนหมุนวีลแชร์ถอยหลังนิดหน่อย น้ำเสียงรังเกียจมาก ถังซินอยากด่าคนมาก เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ถึงอยากย้ายมาดูแลลุงมู่ โอ๊ย จู้จี้จุกจิกจังเลย โตจนป่านนี้แล้ว กินแต่ของแพง ๆ จากภูเขากับทะเลหรือไง ทำไมไม่เบื่อบ้างเลยหรือไง “ป๊าบ” ถังซินเอาไส้ใหญ่หูโยนลงกะละมังล้างผัก เธอไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหนถึงยืดตัวตรงพูดกับมู่เฉินหย่วน “ประธานมู่คะ จะกินไม่กินคะ ถ้าไม่กินฉันจะสั่งข้าวกล่องจะได้ประหยัดเวลาฉันค่ะ” มู่เฉินหย่วนลืมตาขึ้น นัยน์ตาสีดำจับจ้องไปที่เธอ พอโดนจ้องถังซินก็รู้สึกกลัวปอดแหก ๆ แย่แล้ว ลุงมู่จะโกรธไหมนะ พอถังซินแบกหน้าอยากจะขอโทษก่อน มู่เฉินหย่วนก็หันวีลแชร์ออกจากห้องครัวไป ถังซินเอามือทาบอก ถอนหายใจเงียบ ๆ ตอนนี้มู่เฉินหย่วนต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ของที่ถังซินไปซื้อมาที่ตลาดล้วนสดมาก ๆ เมื่อคืนยังโทรไปหาคุณแม่ถัง ขอสูตรอาหารที่มีโภชนาการที่ดีจากเธอมาสองสามอย่างอยู่เลย ถังซินจัดการวัตถุดิบเสร็จก็เอาใส่ตู้เย็น พอเห็นโจ๊กในหม้อข้นแล้วก็เอาเครื่องในที่หมักเอาไว้ใส่ลงไป เอาตะเกียบยาวคน ๆ สองสามที ปิดไฟแล้วโรยต้นหอม กลิ่นโจ๊กหมูหอมไปทั่ว ถังซินใส่ถุงมือกันความร้อนยกหม้อออกมาวางบนโต๊ะอาหาร พอเห็นมู่เฉินหย่วนกำลังอ่านหนังสือพิมพ์ก็เลยเรียก “ประธานมู่คะ มาทานอาหารเช้าค่ะ” มู่เฉินหย่วนเข็นวีลแชร์ช้า ๆ มาที่ห้องอาหาร จ้องชามโจ๊กหมูที่ถังซินตักมาให้ ช้อนในมือแน่นิ่งไม่ขยับอยู่นาน เขาไม่ไม่ได้บอกว่าจะกินของแพง ๆ จากภูเขากับทะเล อาหารธรรมดาก็ดูดีเช่นกัน พอเขาพูด แม่บ้านก็ไม่กล้าพูดอะไร แต่ถังซินเอาอาหารน่ารังเกียจมาท้าทายความอดทนของเขา คราวแรกที่ทำโรตีไส้หมูก็หลอกว่าเป็นโรตีเนื้อวัว คราวนี้เป็นเครื่องในหมู แต่เขากันอดกลั้นเอาไว้ มู่เฉินหย่วนหันหัวหนี พอเห็นถังซินไม่กังวลใด ๆ กินอย่างเพลิดเพลิน เขาก็วางอีโก้ลง โจ๊กจืดอยู่แล้วพอมารวมกับเครื่องในหมูหมักทำให้รสชาติกลมกล่อม กินของร้อน ๆ ลงไปทำให้อุ่นท้องมากและรสชาติดีด้วย “ไม่เลวนี่” มู่เฉินหย่วนยัก ๆ คิ้ว เขากินโจ๊กแบบนี้เป็นครั้งแรก อร่อยกว่าที่เขาคิดไว้ อีกอย่างฝีมือถังซินก็ไม่เลวด้วย พอถังซินได้รับคำชมก็ยิ้มออกมา “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันฝึก...” บอกพูดไปได้ครึ่งหนึ่งเธอถึงนึกขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่น่าพูดสักหน่อย ถ้าเกิดประธานมู่คิดว่าเธอกำลังเห็นอกเห็นใจขึ้นมาจะทำยังไง เลยรีบหยุดพูดแล้วก้มหน้ากินโจ๊ก มู่เฉินหย่วนถามด้วยความสงสัย “ฝึกอะไร” “ไม่มีอะไรค่ะ ประธานมู่รีบกินเถอะค่ะ เดี๋ยวโจ๊กเครื่องในหมู่เย็นแล้วจะไม่อร่อยนะคะ” มู่เฉินหย่วนหรี่ตามองเห็นนิ้วกลางของเธอมีตุ่มพองแดง ๆ จึงคว้ามือเธอมาดูดี ๆ ตุ่มแดง ๆ ค่อนข้างใหญ่ เหมือนกับว่าโดนน้ำร้อนลวกมา พอคิดโยงไปถึงเมื่อกี้ที่ผู้หญิงคนนี้จู่ ๆ ก็หยุดพูดไป ก็เหมือนมีค้อนมาทุบใจเขาอย่างแรงสองที เธออยากให้ตัวเองได้กินโจ๊กหมูอร่อย ๆ เลยฝึกอยู่ที่บ้านนานมาก ไม่ทันระวังให้ดีจนโดนน้ำร้อนลวกมือเหรอ” พอโดนมู่เฉินหย่วนจับมืออย่างไม่ทันตั้งตัว ความอบอุ่นของฝ่ามือนั้นทำให้ถังซินหน้าแดงขึ้นมา โชคดีที่มือถือบนโต๊ะดังขึ้นทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ได้ทันเวลา “ประ ประธานมู่คะ ฉันจะรับโทรศัพท์ค่ะ” ถังซินดึงมือออกมาหยิบโทรศัพท์แล้วรีบลุกขึ้น เป็นกาวเหม่ยซีโทรมานั่นเอง ผู้บริหารระดับสูงสองสามคนอยากจะคุยเรื่องขายอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลมู่ และเรื่องสาขาบริษัท อยากให้ถังซินวางเรื่องที่อยู่ในมือลงแล้วมาที่บริษัทก่อน ถังซินมองเข้าไปในห้องอาหารแว๊บหนึ่ง ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะมองมู่เฉินหย่วนอย่างไร เธอก็รู้สึกว่าเขาโดดเดี่ยว อ้างว้างมาก ไม่อยากให้เขาอยู่ที่วิลล่าคนเดียว อีกอย่างวัตถุดิบในตู้เย็น ถ้าไม่กินวันนี้ก็เสียของ ถังซินกัด ๆ ฟัน พูดกับกาวเหม่ยซี “ฉันยุ่ง ไปบริษัทไม่ได้ วีดีโอคอลประชุมดีไหม” “คุยต่อหน้ากับผู้บริหารระดับสูงจะดีกว่านะคะ บางเรื่องวีดีโอคุยจะไม่ค่อยชัดเจนค่ะ” ก็คือเธอต้องไปบริษัทให้ได้ ถังซินคิดไปคิดมา หันไปถามมู่เฉินหย่วนในห้องอาหาร “ประธานมู่คะ ผู้บริหารระดับสูงมีธุระอยากจะพบฉัน ฉันให้พวกเขามาประชุมกันที่นี่ได้ไหมคะ ถ้าไม่ได้...” “ได้” มู่เฉินหย่วนไม่ปฏิเสธ “ชั้นบนมีห้องประชุมเก็บเสียงโดยเฉพาะ” ถังซินพูดด้วยความซาบซึ้ง “ประธานมู่ คุณใจดีจังเลยค่ะ” “คุณคิดมากไปแล้ว” มู่เฉินหย่วนพูดช้า ๆ “ผมกลัวว่าตอนเที่ยงคุณจะกลับมาไม่ได้แล้วไม่มีใครทำอาหารให้ผมนะสิ” “...” พอสิบโมง กาวเหม่ยซีก็พาผู้บริหารระดับสูงสองสามคนมาที่วิลล่า นี่คือที่ส่วนตัวของมู่เฉินหย่วน นอกจากกาวเหม่ยซีที่ขับรถรับส่งเขาแล้ว ในบริษัทไม่มีใครรู้ ผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นยังคิดว่าเป็นบ้านของถังซิน ถังซินพาผู้บริหารระดับสูงเข้าห้องประชุม จากนั้น ประตูห้องประชุมก็ปิดแน่นไปทั้งบ่าย เช้านี้มู่เฉินหย่วนก็ไม่ได้ออกจากห้องนอน พอคุยกับวี่เหวินถิงเสร็จ เขาปิดโน้ตบุคถึงได้รู้ว่าตอนนี้เที่ยงครึ่งแล้ว แต่ถังซินกลับไม่ได้เรียกเขากินข้าว มู่เฉินหย่วนเข็นวีลแชร์ออกไปเจอกาวเหม่ยซีกลับมาพอดี “ประธานมู่” มู่เฉินหย่วนพยัก ๆ หน้า เห็นกาวเหม่ยซีมือไม่ว่างทั้งสองข้าง ดูเหมือนว่าได้กลิ่นหอมของอาหารด้วยจึงถาม “ตอนนี้ยังประชุมไม่เสร็จเหรอ” “ใช่ค่ะ ประธานถังคุยกับผู้บริหารระดับสูงสองสามท่านหลายเรื่อง ยังมีเรื่องสาขาบริษัทด้วยค่ะ” กาวเหม่ยซีตอบ “ฉันกลัวว่าทุกคนจะหิวก็เลยออกไปซื้ออาหารกลางวัน ท่านจะทานด้วยไหมคะ” “ไม่เป็นไร พวกคุณกินเถอะ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 156 คุณว่ามันเหมือนเนื้อหมูไหม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A