ตอนที่16 ตอบโต้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่16 ตอบโต้
ต๭นที่16 ตอบโต้ “ชายาของข้า ยังไม่ซื่อตรงจริงๆสินะ” มองแววตาดื้อรั้นของเฟยเอ๋อ แล้วโหลวเหยนหมิงก็หัวเราะเย้ยหยันออกมา เขาเดินสบายๆเข้าไปหานาง ใช้นิ้วเชยคางกลมมนของเฟยเอ๋อขึ้นมา กำลังจะขยับนิ้วคลอเคลียช้าๆ เฟยเอ๋อกลับแบะปากออกมา: “ขอบคุณที่ท่านมองความกรุณา” แต่ท่านพูดสิ่งที่ท่านต้องการจะพูดเถิด ไม่ต้องแสดงการกระทำจอมปลอบกับข้าเยี่ยงนี้ ขอประทานอภัยด้วย ข้าไม่ต้องการ แต่แล้วนางก็รู้สึกเจ็บปวดที่คาง เฟยเอ๋อมองเข้าไปในแววตาเหี้ยมโหดของโหลวเหยนหมิง อย่างตกตะลึง โหลวเหยนหมิงหัวเราะเย้ยหยัน บีบคางขาวเนียนของเฟยเอ๋ออย่างรุนแรง นางกัดฟันไม่ส่งเสียงร้องออกมา แต่น้ำตาที่กลั้นไว้กำลังจะไหลลงมา เขาจึงยอมปล่อยมือในที่สุด เมื่อมองเห็นรอยนิ้วมือบนคางของเฟยเอ๋อ ก็ยิ้มเยาะอย่างพอใจ น้ำตาร่วงลงสู่พื้นทันที เฟยเอ๋อยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าออกอย่างโกรธแค้น จ้องไปที่ดวงตาย็นชาของโหลวเหยนหมิง นางไม่ได้อยากร้องไห้ หากแต่เป็นเพราะเขาที่โหดร้ายเกินไป ความโหดร้ายเย็นชาของเขาสามารถทำให้คนเจ็บปวดจบกรีดร้องออกมาได้ โหลวเหยนหมิงขยับมุมปาก รับรู้ถึงความรู้สึกที่ได้แก้แค้นในใจ “แล้วท่านคิดว่าอย่างไร” เฟยเอ๋อเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน มองรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา ทำไมถึงโหดร้ายได้ถึงขนาดนี้ ยิ่งนึกถึงตอนเขาได้จูบนางทั้งร่างทั้งที่พยายามมองข้ามแล้ว ยิ่งรู้สึกเย็นเข้าไปในกระดูกสุดขั้วหัวใจ “แล้วเจ้าจะทำอะไร” โหลวเหยนหมิงกดเสียงต่ำ: “ไม่ใช่ว่าองค์หญิงเยียนเฟยต้องการให้ข้านึกถึงเจ้าตอนอยู่ในวังแห่งนี้ ต้องการให้ข้าจดจำว่ามีเจ้าเป็นชายาเช่นนี้หรือ” “ข้าไม่มีความคิดเช่นนั้น” เฟยเอ๋อโพล่งเสียงดัง “มันสายเกินไปที่จะให้ท่านลืมข้า เพราะเช่นนั้นข้าจึงหาหนทางที่จะไปให้ไกลจากปีศาจอย่างท่าน” “อ๋อ อย่างนั้นหรือ” โหลวเหยนหมิงแค่นหัวเราะ วาดสายตาไปยังชุดที่ไม่สามารถใส่ได้แล้ว ทั้งยังโดนเฟยเอ๋อวาดรูปเต่าใส่ หยิบชุดพุ่งเอาไปปรากฏต่อหน้าเฟยเอ๋อ “องค์หญิงผู้สง่างามแห่งราชวงศ์โหลงโฉงผู้มากความรู้ความสามารถ แต่ดูเหมือนจะไม่เคยวาดเขียนมาก่อน วันนี้ตัวข้าโชคดียิ่งนักที่ได้เห็นภาพวาดขององค์หญิง แต่ไม่คิดว่าจะเป็น...” “เป็นอย่างไร ก็เป็นเต่าไม่ใช่รึ เต่าของข้ามันทำไม ถ้าเก่งมากท่านก็วาดเจ้าเต่าออกมาให้น่ารักกว่าที่ข้าวาดสักตัวสิ” เฟยเอ๋อกล่าวเสียงต่ำ ถึงกระนั้นนางก็เคยเรียนการวาดภาพด้วยพู่กัน และการเขียนอักษรด้วยพู่กัน อีกทั้งยังศึกษาอย่างหนักด้านการใช้พู่กันในการวาดตัวการ์ตูนอีกด้วย ดูสิว่าเต่าน้อยของนางจะน่ารักขนาดไหน โหลวเหยนหมิงยกยิ้มมุมปาก ปรี่เข้าไปดึงข้อมือบาง ไม่สนใจว่าออกแรงน้อยมากแค่ไหน จะเจ็บหรือไม่อย่างไร แล้วลากแขนนางไปที่โต๊ะ “ท่านอย่ามาแตะต้องตัวข้า” พยายยามสลัดแขนออก ด้วยรังเกียจสัมผัสของเขา แต่เมื่อมองไปยังอีกฝากของโต๊ะก็เห็นภาพวาดเขียนหนึ่งภาพแขวนอยู่ นางชะงักไปชั่วขณะ เขาขจะให้เธอดูสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร โหลวเหยนหมิงหัวเราะออกมา ฉูเฟยเอ๋อสิบกว่ามาปีมาแล้วที่อาศัยอยู่ในวังแห่งนี้แล้วถือว่าตัวเองเป็นองค์หญิง ไม่เรียนรู้อะไรเลย แม้กระทั่งคุณสมบัติที่ผู้หญิงพึงมีก็ไม่มี ในเมื่อวันนี้นางตั้งใจที่จะกำเริบเสิบสานกับเขา ก็อย่ามาโทษว่าเขาไม่ให้เกียรติดูถูกนางเลย “เมื่อก่อนที่เจ้าจะแต่งงาน เข้ามาในวัง มิใช่เคยบอกฮ่องเต้หรือ ว่าสำหรับตนนั้น กู่ฉิน หมากล้อม การเขียน กาดวาด ล้วนเชี่ยวชาญทั้งหมด” โหลวเหยนหมิงทำหน้าพิจารณาด้วยความเย็นชา “สิ่งที่ข้าให้เจ้าดูในวันนี้ คือประโยคที่อยู่บนภาพมีความหมายว่าอย่างไร” เฟยเอ๋อมองเขม่นโหลวเหยนหมิง แล้ววาดสายตาวางรูปภาพแบบฝาผนัง แต่มันก็เป็นเพียงจดหมายรักที่ผู้หญิงคนหนึ่งเขียนให้ผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น ดูเหมือนว่าบรรยากาศโบราณนี้ จะไม่ได้ถูกอนุรักษ์ไว้ดังที่ผู้คนพูด เฟยเอ๋อหัวเราะ ไม่กล่าวสิ่งใดที่เกี่ยวกับความนัยของบทกลอนบนภาพ “นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ท่านพูดกับเพื่อนสาวในวัยเด็กของท่าน และสิ่งที่เพื่อนสาวในวัยเด็กของท่านเขียนแก่ท่านล่ะสิ” เฟยเอ๋อหัวเราะแล้วจุ๊ปาก มองไปยังโหลวเหยนหมิงที่กำลังตีหน้านิ่ง: “จุ๊จุ๊จุ๊ เขียนได้ไม่เลวเลย ตัวอักษรนี่ เป็นเส้นบรรจงเชียว แต่ละคำที่สื่อความในใจถึงท่านอ๋องผัเย็นชาผู้นี้ มันดีมากจริงๆ จุ๊จุ๊จุ๊” ความเจ็บแล่นมาที่ข้อมืออีกครั้ง คิ้วเริ่มขมวดเป็นปม อดทนต่อความเจ็บปวดซึ่งได้มาจากฝีปากของตนเอง มองโหลวเหยนหมิงที่บีบข้อมือนางอย่างรุนแรงเขม็ง “เจ้าอ่านตัวอักษรเหล่านี้ออก?” โหลวเหยนหมิงพยายามระงับความโกรธต่อผู้หญิงไม่รู้จักอายที่กล้ามาวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่ซีอวิ๋นเขียนต่อหน้าเขา ทั้งยังยั่วให้โมโหอีก มองหน้าเฟยเอ๋ออย่างไม่อยากจะเชื่อ ได้ยินเขาถามเช่นนั้นแล้ว เฟยเอ๋อก็ยกคิ้วขึ้น จริงๆแล้วฉูเฟยเอ๋อในอดีตคนนั้น ไม่น่าจะรู้จักประติดประต่อแปลถ้อยคำเหล่านั้นได้หรอก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเป็นองค์หญิงอยู่ดีฃ “อ่า ข้าลืมไป เจ้า ฉูเฟยเอ๋อไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมรับถ้อยคำดูถูกได้นี่ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในห้องข้า เจ้าก็รู้มาตั้งนานแล้ว ถึ้งแม้จะไม่เห็นภาพนี้ ก็คงมีคนเคยบอกเรื่องราวเหล่านี้กับเจ้าแล้วสินะ” โหลวเหยนหมิงสลัดแขนของเฟยเอ๋อออกอย่างเลือดเย็น ใบหน้าเต็มได้วยความดูแคลน นี่เขาดูถูกนางหรือ? เฟยเอ๋อช้อนสายตามองโหลวเหยนหมิง ดวงตาและสีหน้าปรากฏชัดเจนถึงความรู้สึกโดนทำลายความเคารพตัวเองของนาง ในชั่วขณะก็ลืมไปว่า เป็นเพราะตัวนางเองตั้งใจทำลายเสื้อผ้าของผู้อื่น จึงโดนพาตัวมาที่นี่ ฉูเฟยเอ๋อไม่สนใจในอดีตว่าตัวนาง เขียนหนังสือได้หรือไม่ อ่านหนังสือออกหรือเปล่า หันไปหยิบพู่กัน เงยหน้าสองแขนยกขึ้นกอดอกมองไปชายผู้นั้นที่ ‘โอ้อวด’ ฝีมือ ก้มหน้าลงเขียนตัวอักษรสี่ประโยคอย่างรวดเร็ว เป่าให้แห้ง แล้ววางแผ่ไว้บนโต๊ะ เฟยเอ๋อเงยหน้ามองเข้าไปในแววตางงงันเล็กๆของโหลวเหยนหมิง “โหลวเหยนหมิง อย่าคิดว่าตัวข้าดีแต่ยั่วโมโหเลย ดูตัวท่านเองที่ตอนนี้ทั้งเย็นชาทั้งห่างเหิน จนเกลียดในความเป็นตัวตนของข้า ระวังสักวันท่านจะตกหลุมรักฉูเฟยเอ๋อที่ไม่เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป” พูดจบ เฟยเอ๋อก็วางพู่กันลง หันหลังก้าวไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจว่าโหลวเหยนหมิงจะให้นางไปหรือไม่ เปิดประตูและเดินออกไปทันที ห้องที่ทำให้นางรู้สึกอึดอัดขนาดนั้น จนไม่สามารถอยู่ต่อไปได้หรอก โหลวเหยนหมิง ลังเลเล็กน้อยที่จะก้าวไปข้างหน้า มองตัวอักษรสี่ประโยค ที่ปรากฏบนกระดาษที่ว่างแผ่อยู่บนโต๊ะ ตัวอักษรของเฟยเอ๋อดูเรียบง่าย แต่ทว่าตัวเล็กสวยงามราวกับผ้าแพรไหม หยิบขึ้นมา บนกระดาษมีใจความว่า: มังกรอยู่น้ำตื้นย่อมถูกกุ้งเย้าแหย่ เสืออยู่ที่ราบย่อมถูกสุนัขกลั่นแกล้ง หากวันใดเสือได้หวนคืนป่าอีกครั้ง ครึ่งหนึ่งของฟากฟ้าจักต้องเป็นสีเลือด “นี่คืออะไร?” ตอบโต้? หรือว่านางกำลังจะบอกเขาเป็นนัยๆว่าสักวันจะกลับมาเอาคืน โหลวเหยนหมิงหรี่ตามองตัวอักษรเล็กๆสี่ประโยค สติค่อยๆหลุดลอยไป “ไม่มีทาง นางไม่น่าจะเขียนหนังสือได้” แม้ว่าบางคนจะสามารถบอกความหมายของบทกวีกับนางได้ แต่ฉูเฟยเอ๋อในอดีตไม่ฉลาดพอจะตอบโต้ด้วยวิธีนี้ได้อย่างเด็ดขาด และในอดีตฉูเฟยเอ๋อก็ไม่สามารถเขียนตัวอักษรที่ตัวเล็กประณีตแบบนี้ได้อีกแน่นอน 
已经是最新一章了
加载中