ตอนที่ 31 หญิงสาวผู้โง่เขลากลับกลายเป็นหญิงสาวที่ชาญฉลาด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 31 หญิงสาวผู้โง่เขลากลับกลายเป็นหญิงสาวที่ชาญฉลาด
ต๭นที่ 31 หญิงสาวผู้โง่เขลากลับกลายเป็นหญิงสาวที่ชาญฉลาด “พอดีเลยที่เจ้าพูดถึงเรื่องตัวอักษร“ โหลวเหยนหมิงยิ้มเบาๆมองเฟยเอ๋อที่เงยหน้าขึ้นพอดี แล้วจับข้อมือของนางไม่ให้ปฏิเสธได้แล้วเดินมาตรงโต๊ะของเขา เอากระดาษที่นางเขียนไว้ครั้งก่อนขึ้นมากางบนโต๊ะ เฟยเอ๋อชะงักไป เบิกตากว้าง พอเห็นก็นึกถึงตอนที่ตัวเองเขียนบทกลอนตลกในยุคศตวรรษที่21 ก็รู้สึกอยากจะหัวเราะออกมา เพราะอะไรนะหรอ?เพราะว่าเหมือนกับว่าตัวเองสามารถเขียนกลอนเกี่ยวับสงครามออกมาต่อหน้าเขาได้ “เจ้าไปหัดเขียนหนังสือได้ตอนไหน?“โหลวเหยนหมิงปล่อยมือนางออก หลังจากที่มาถึงโต๊ะ:”แล้วก็ ความหมายของกลอนนี้ คนอย่างเจ้าไม่น่าจะเขียนออกมาได้!“ “หึ!“ เฟยเอ๋อหัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ย แล้ววางสำรับที่ค่อนข้างหนักลงบนพื้น แล้วเอียงตัวเข้าไปใกล้หน้าของโหลวเหยนหมิงอย่างประชิดแล้วฉีกยิ้มออกมาอย่างบาดใจ:”พ่อแม่ของท่านไม่เคยสอนหรอ?ว่าไม่ควรดูถูกคนอื่น!“ “ข้าดูถูกองค์หญิงเหยนเฟยตอนไหน?” โหลวเหยนหมิงยิ้มเบาๆ แล้วถอยจนติดกับเก้าอี้ มองไปยังกิริยาท่างทางของนาง แล้วก็ขมวดคิ้วแน่น:“เอามือของเจ้าออกไป“ มือของนางตอนนี้วางทับหนังสือทำศึกของเขาพอดี เฟยเอ๋อมองตามสายตาของเขาที่ใต้มือของตัวเอง มีคัมภีร์หนังแกะอยู่เล่มนึง ไม่รอให้เขาบอก แล้วรีบดึงมือกลับออกมาทันที แล้วถอยหลังออกไปมอง คล้ายๆกับว่าเป็นของเล่นเด็ก โหลวเหยนหมิงหลี่ตามองนางด้วยความเยือกเย็น :“วางลงเดี่ยวนี้!“ เฟยเอ๋อชะงักไป เหล่มองเขาแว๊บนึง ยิ้มเชิงตำหนิเขา แต่ไม่ได้สนใจอะไรต่อ แล้วมองผ่านไปยังแผนที่ที่ดูแปลกๆ ข้างบนเขียนว่า ตะวันออกกับตะวันตก เป่ยหมิงบลาๆโจวบลาๆ... เรื่องที่เกี่ยงกับการทหารไม่เคยมีใครเคยเห็นนอกจากเขาและโหลวฮ่าวหมิง ถึงจะเป็นองค์หญิงก็ไม่สามารถดูได้ โหลวเหยนหมิงลุกขึ้น ท่าทางเหมือนผีเข้าผีออก เดินมายังด้านหน้าของเฟยเอ๋อ ทำเหมือนจะมาแย่งเอาหนังสือทหารกลับไป ติดตามความสนุกได้ในตอนถัดไป “สถานที่ผุพังนี่คือที่ไหน?เหมาะสำหรับเอาไว้ขังพวกโจรจริงๆ แต่ก็เป็นสถานที่ที่อันตรายมากเหมือนกัน ทำได้แค่รอให้เขามายึดครอง!“เฟยเอ๋อพูดออกมา แล้วก็ทำเสียง จุจุจุ แล้วก็วางลงทันที โหลวเหยนหมิงมองเฟยเอ๋ออย่างไม่อยากเชื่อสายตา:“เจ้าดูวิธีการบุกโจมตีในผนที่นี้ได้ด้วยหรอ?“ “ไร้สาระ!“ เฟยเอ๋อมองเขาด้วยสายตาเอือม แล้วโยนแผนที่หนังแกะกลับไปให้เขา แล้วพูดขึ้น:”อ้นนี้ก็คือแคว้นเป่ยหมิอะไรนั่นไม่ใช่หรือ?เป็นแคว้นที่เหมาะกับการรุงรานโจมตี คาดไม่ถึงว่าอยากจะทัดเทียมกับแคว้นโหลงโฉงที่มีชื่อลือนาม พวกเจ้าก็ยังนอนหลับสบายกันได้เนาะ ตอนนี้ถึงอยากจะมาดูแผนที่บุกโจมตีพวกเขา!“ พูดไปก็เบะปากไป แล้วหันกลับไปยกสำรับ:”ช่างเถอะ ท่านก็ยุ่งเรื่องแผนที่ของท่านเถอะ ข้ายังต้องไปส่งสำรับของว่างต่อไม่มีเวลามาเล่นกับท่านหรอก ถ้าท่านอ๋องอยากจะฉีกหน้าข้า ได้โปรดพูดออกมาให้หมด อย่ามัวรีรอ!ถ้าไม่มีเรื่องอันใดแล้ว ข้าต้องขอตัว!“ โหลวเหยนหมิงไม่พูดอะไร แต่แค่สีหน้าเต็มไปด้วยความงุนงงที่มองดูนางไม่เหมือนกับว่าเป็นการเสเสร้งแกล้งทำ “ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย?“เฟยเอ๋อมองโหลวเหยนหมิงอีกรอบ เห็นว่าเขาไม่เปิดปากพูดต่อว่าอะไร ก้อนหินภายในใจก็ค่อยๆทยอยพังลง แล้วถือสำรับเบาๆหันหลังและโบกมือให้เขาพลางๆ:”ท่านอ๋องเพคะ ข้าไขอตัวเพคะ!ตอนเย็นนี้ข้าจะทำให้ท่านได้กินสิ่งที่ท่านไม่เคยลิ้มลองมาก่อน!“ เฟยเอ๋อหันหลังแล้วยิ้มออกมาจากห้องอย่างร่าเริง ตอนที่ปิดประตูจะออกมา ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ลึกซึ้ง นางรู้ดีว่า โหลวเหยนมิงคิดว่าเฟยเอ๋อเ)นผู้หญิงที่โง่เขลา คำพูดที่บอกว่า ปิดประตูจับโจรของนาง พอที่จะทำให้เขาสะดุ้งไปอีกนาน มองเห็นประตูที่พึ่งจะปิดไป โหลวเหยนหมิงขมวดคิ้วขึ้นทันทีแล้วค่อยๆคลายออก สายตาก็ยังมีความสงสัยอยู่ภายใน ผู้หญิงคนนี้...... เขาควรจะตามไปถามนางที่ตำหนักมั้ย ฮ่องเต้ส่งคนที่หน้าเหมือนเฟยเอ๋อมาหรือป่าว ไม่อย่างงั้นความรู้ขอฉูเฟยและทั้งหมดที่รู้ นางไม่น่าจะสามารถพูดออกได้ขนาดนี้?!เพราะตอนนี่เขารู้สึกอึ้งและทึ้งมาก ซึ่งมากกว่าการเขียนกลอนนั้น 
已经是最新一章了
加载中