ตอนที่52เข้าวัง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่52เข้าวัง
ต๭นที่52เข้าวัง สามวันต่อมาเฟยเอ๋อถูกสี่เอ๋อพลิกตัวไปมาครึ่งค่อนวันในที่สุดสี่เอ๋อก็ปล่อยนางออกมาซะทีให้นางส่องดูตัวเองในกระจก หลังจากที่นางตะลึงตอนมองเห็นคนในกระจกก็พลันนึกถึงไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งจริงๆคิดไม่ถึงว่าใบหน้านี้ไม่แต่งหน้าก็ดูจิ้มลิ้มชวนมองแต่พอแต่งเติมสีสันลงไปแล้วยิ่งงดงามทำให้คนลุ่มหลงยิ่งนัก คนอื่นมองแล้วต้องอิจฉาริษยาคาดว่าสวรรค์คงมองว่าฉูเฟยเอ๋อในอดีตวาสนาดีแล้วยังสวยอีกก็เลยลิขิตให้มีชีวิตที่ลำบากแบบนี้ ในใจของนางก็คิดไปเรื่อยเปื่อยจนไม่รู้ว่าโหลวเหยนหมิงเดินเข้าตั้งตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วโอบที่เอวของนางอย่างแนบชิดพร้อมกับพยุงให้นางลุกขึ้นเฟยเอ๋อชะงักไปแล้วหันมามองโหลวเหยนหมิงพูดตามตรงพอได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับเขาขนาดนี้นางก็ยังรู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่ “แหะแหะ....”เฟยเอ๋อยิ้มแห้งแห้งพยายามจะออกจากการโอบของเขาแต่ก็ไม่สามารถขัดขืนรี่ยวแรงของเขาได้เลยเฟยเอ๋อเงยหน้ามองเขาอย่างไม่ค่อยพอใจแล้วอึ้งไปนิดนึงที่เห็นรอยยิ้มของโหลวเหยนหมิงที่กำลังมองตัวเองอยู่แล้วก็ทำได้แค่เดินตามเขาออกไปเพื่อตรงไปที่วังหลวง ตอนที่รถม้าของโหลวเหยนหมิงมาหยุดอยู่ที่หน้าพระราชวังเฟยเอ๋อที่นั่งอยู่บนรถม้ามองไปยังโหลวเหยนหมิงที่กำลังเปิดม่านแล้วยื่นมือมาเพื่อรับนางลงจากรถในหัวของนางก็ผุดความรู้สึกที่คุ้ยเคยขึ้นมาราวกับว่ามีความทรงจำที่เคยอยู่ที่นี่ค่อยๆปรากฎขึ้นมา หรือจะเป็นความทรงจำในอดีตของนางเริ่มกลับคืนมา?เฟยเอ๋อขมวดคิ้วแน่น “พระชายา?”โหลวเหยนหมิงเห็นนางแน่นิ่งไปไม่ขยับเลยมองสำรวจนางอย่างละเอียดยิ้มแล้วพูดขึ้น:“ลงมาเถอะถึงหน้าวังหลวงแล้ว!” “อืม”เฟยเอ๋อพยักหน้ารัวรัวแล้วยื่นมือไปจับบนมือของเขาทันทีโดยโหลวเหยนหมิงได้พยุงนางลงรถเฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้นมองประตูที่สวยสดงดงามแล้วมองเข้าไปข้างในพระราชวังที่มีความแตกต่างจากพระราชวังต้องห้ามอย่างมากสติถึงกับหลุดลอยไปขนาดโหลวเหยนหมิงพานางเข้ามาถึงตำหนักและมองเห็นฮ่องเต้ที่พระที่นั่งแล้วก็ยังไม่รู้สึกตัว “พระชายา?พระชายา?”โหลวเหยนหมิงมองเฟยเอ๋อที่อึ้งค้างจนลืมทำความเคารพฮ่องเต้แล้วเขย่าไหล่นางเบาๆ:“เฟยเอ๋อ!” “ห้ะ?”เฟยเอ๋อชะงักไปแล้วแวบหันไปมองโหลวเหยนหมิงที่ส่งสายตาลับๆให้นางถึงตอนนี้นางถึงรู้ว่าโหลวเหยนหมิงได้พานางเข้ามาถึงในตำหนักแล้วสี่ด้านเต็มไปด้วยโต๊ะยาวสองแถวคล้ายกับที่นั่งในห้องประชุมแล้วผู้ชายที่นั่งอยู่ที่สูงตรงกลางสวมชุดสีเหลืองลายมังกรตอนนี้กำลังอมยิ้มแล้วมองมาที่ตน “ถวายความเคารพฮ่องเต้”โหลวเหยนหมิงขมวดคิ้วมองเฟยเอ๋ออย่างไม่เข้าใจว่าทำไมแค่การคำนับฮ่องเต้ก็ลืมไปแล้ว “อ้อ!”เฟยเอ๋อพยักหน้ารับถึงรู้ว่าคนนั้นคือฮ่องเต้ที่ขนานนามกันถึงแม้ว่าจะหลงมาอยู่ในยุคที่ประวัติศาสตร์ไม่ได้จารึกไว้แต่ขนบธรรมเนียมก็คงต่างกันไม่มากพอคิดเสร็จเฟยเอ๋อก็รีบคุกเข่าแล้วทำตามบทในละครที่เคยแสดงเป็นองค์หญิงมาก่อนคำนับฮ่องเต้คำนับแล้วก็พูดขึ้น:“เหยียนเฟยคำนับฮ่องเต้ขอให้ฮ่องเต้อายุยืนหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!” “เฟยเอ๋อตามสบายเถอะ!”พอเห็นโหลวเหยนหมิงพยุงเฟยเอ๋อเข้ามาในตำหนักโหลวโม่ชูก็ยิ้มออกมาอย่างไม่ปิดบังเห็นแบบนี้แล้วก็เหมือนเป็นบุพเพสันนิวาสที่ทำให้ต้องมาเจอกันและไม่ได้โหดร้ายอย่างที่คิดไว้ แต่ตอนนี้สิ่งที่เขากังวลก็คือโหลวเหยนหมิงแท้ที่จริงทำดีกับนางอย่างจริงใจหรือไม่ “ขอบพระทัยเพคะท่านพี่!”ทำความเคารพแล้วมองไปที่ใบหน้ายิ้มที่ดูมีสง่าราศีและฉลาดปราดเปรื่องไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปที่แท้ฮ่องเต้ก็ดูน่าเกรงขามอัจฉริยะและรูปงามหน้าหลงใหลแบบนี้นี่เอง “เข้ามานั่งเถอะ!”โหลวโม่ชูยิ้มพูดกับโหลวเหยนหมิงและเฟยเอ๋อด้วยสายตาที่เอ็นดูหลังจากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาพูดกับแขกที่เข้ามาร่วมในงาน เฟยเอ๋อถูกโหลวเหยนหมิงลากมานั่งที่ที่ไม่ไกลจากฮ่องเต้มากนักพอเห็นว่ามีของกินเฟยเอ๋อก็รีบเอาก้นวางลงไปทันทีไม่สนใจสายตาของโหลวเหยนหมิงที่มองนางอย่างตะลึง งานยังไม่ทันได้เริ่มเฟยเอ๋อก็ยัดเชอรี่ที่อยู่บนจานเข้าปากทันทีโดยที่ไม่แคร์สายตาของคนรอบข้างเลยสักนิดพอรู้สึกว่าสายตาของโหลวเหยนหมิงดูแปลกไปนางถึงหันออกมามองสีหน้าที่ไม่เข้าใจของโหลวเหยนหมิงที่นั่งข้างๆนางด้วยสายตาที่ระยิบระยับ ถ้าเทียบกับเฟยเอ๋อคนก่อนที่ดูหยิ่งยโสถือตนไม่น่าจะตะกละที่นั่งลงแล้วก็กินอย่างไม่สนใจสายตาคนรอบข้างแบบนี้?หรือว่าตอนนี้นางได้ทำอะไรที่มีพิรุธออกมา?เฟยเอ๋อหันมองโหลวเหยนหมิงอย่างอึ้งๆ:“มีอะไรหรือ?” “เจ้าหิวมากหรือ?”โหลวเหยนหมิงส่ายหน้าแล้วยิ้มเบาๆแล้วยกมือขึ้นมาโอบที่เอวของนางมองนางอย่างเอ็นดู หน้าของนางก็เริ่มแดงขึ้นเงยหน้ามองสายตาที่ดูอ่อนโยนล้ำลึกของฮ่องเต้ที่กำลังมองมาทางนี้แล้วนางก็รีบบีบเอวของนาง:“คนอื่นมองอยู่เพคะ!”โอ้นางยังไม่ทันได้บอกรักเขาด้วยซ้ำ?มาทำใกล้ชิดสนิทสนมกันอย่างนี้ต้องการให้ใครเห็นกันแน่? เฟยเอ๋อเริ่มอายเลยรีบวางเชอรี่ลงไปที่โต๊ะเหมือนเดิมแล้วหันไปมองค้อนโหลวเหยนหมิงนิดนึง:“เอามือท่านออกไปคนมากมายกำลังมองเราอยู่!ตอนแรกข้าก็หิวอยู่ตลอดทั้งวันข้ายังไม่ได้กินอะไรเลยเพราะมัวแต่ถูกสี่เอ๋อจับแต่งตัวทั้งวันตอนนี้ข้าหิวมากเลยอยากจะกินอะไรซักหน่อยท่านก็ทำให้ข้ากินไม่ลง!” โหลวเหยนหมิงยิ้มแล้วขมวดคิ้วหันไปมองที่ฮ่องเต้แล้วทำหน้าตาทะเล้นพูดขึ้นฮ่องเต้จึงพูดขึ้น:“ข้าก็อยากรู้ว่าองค์หญิงเหยียนเฟยเป็นอะไร?อยู่ดีดีทำไมหน้าถึงแดง?” “ห้ะ?”เฟยเอ๋อชะงักไปแล้วหันไปมองฮ๋องเต้ โหลวโม่ชูกระพริบตาส่งให้นางทีนึงเหมือนต้องการส่งสารอะไรบางอย่างมาที่นางเฟยเอ๋อมองเขาแวบนึงแต่ก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพยายามสื่อถึงนางแท้จริงก็พึ่งมาไม่ใช่ว่าสบตากันแวบนึงก็จะสามารถเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะบอกได้!เฟยเอ๋อแสยะยิ้มแล้วรีบก้มหน้าลงไปทันที พอกระพริบตาเสร็จนึกว่านางเขินอายไม่เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะบอกเลยก้มหน้าลงแต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากแล้วก็ยกแก้วขึ้นมาเพื่อเคารพแขกที่นั่งอยู่โต๊ะทั้งหลาย เฟยเอ๋อก็ก้มหน้าตลอดความรู้สึกที่หิวตอนนี้ก็หายไปหมดละไม่ได้ฟังตอนที่ฮ่องเต้ยกเหล้าขึ้นมากำลังพูดถึงเรื่องอะไรได้ยินแค่เสียงโหลวเหยนหมิงที่กำลังโอบเอวของนางอยู่และคุยกับฮ่องเต้เรื่องการทหารอย่างยาวเยียด 
已经是最新一章了
加载中