ตอนที่59
ตนที่59
“สารเลว!“
“ไอ้ไข่ไก่เน่า!“
“ไอ้ไข่เป็ดเน่าเฟะ!“
“ไอ้ท่านอ๋องตะพาบน้ำ!”
เฟยเอ๋อบ่นตั้งแต่เช้าจนสี่เอ๋อใส่ชุดให้นางหวีผมให้นางจนเสร็จนางก็ยังคงนั่งบ่นอย่างต่อเนื่อง
คาดไม่ถึงเลยว่าเขาอยู่กับนางทั้งวันทั้งคืนโดยที่ทำแต่เรื่องอย่างว่า...สวรรค์!ปฐพี!อายจะตายอยู่แล้ว!
ยิ่งน่าโมโหก็คือสี่เอ๋อก็เอาแต่หัวเราะตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หยุดอย่างกับว่าเห็นข้าโดนโหลวเหยนหมิงแกล้งแล้วนางดูมีความสุขมากเลย
“ท่านอ๋อง!”
โหลวเหยนหมิงที่พึ่งจะออกไปจากตำหนักเหยียนเฟยก็เห็นเสี่ยวฟางจื่อรีบเดินตามเข้ามารายงาน
“ท่านอ๋องหลิงเชียนเจว๋มาขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ!”เสี่ยวฟางจื่อรีบโค้งคำนับแล้วพูดขึ้น
“อืม”โหลวเหยนหมิงพยักหน้ารับเบาๆแล้วก็จับแขนเสื้อให้เรียบร้อยก็เดินตามเสี่ยวฟางจื่อไปที่หน้าตำหนัก
“ท่านอ๋องเหยนหมิงช่วงนี้สบายดีมั้ยพะยะค่ะ?”หลิงเชียนเจว่ที่ดูมียศก็เดินยิ้มเข้ามารับหน้ามองโหลวเหยนหมิงที่ยังคงมีความน่าเกรงขามอยู่ตลอดแล้วทักทายขึ้นมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“หลิงกงจื่อเชิญนั่ง!”โหลวเหยนหมิงยิ้มให้แล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆเขาแล้วก็เรียกเสี่ยวฟางจื่อมารินน้ำชาให้แขกทั้งสองคนแล้วจึงหันไปคุยกับหลิงเชียนเจว่:“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรท่านคงไม่มาหาข้าสินะครั้งนี้มีเรื่องอันใดหรือ?”
“อ๋อพอดีบ้านของข้าได้นำผ้าไหมชั้นดีเข้ามาเลยอยากเอามาให้ท่านอ๋องได้ชมท่านอยากจะซื้อไว้ให้แม่นางรั้วอวิ๋นซักสองสามผืนมั้ยเผื่อว่าข้าขายหมดแล้วถึงคิดได้ว่าอยากซื้อถ้าถึงตอนนั้นแม่นางรั้วอวิ๋นไม่พอใจจะทำเช่นไรท่านอ๋องก็คงจะลำบากเป็นแน่นะพะยะค่ะ?”หลิงเชียนเจว่หัวเราะออกมาพร้อมทั้งยกแก้วน้ำชาขึ้นมาจิบเบาๆ
“รั้วอวิ๋น?”โหลวเหยนหมิงขมวดคิ้วแล้วยิ้มออกมานิดหน่อย:“ตอนนี้ร่างกายของนางไม่ค่อยสู้ดีคาดว่าอีกนานก็คงจะออกไปข้างนอกยากคงจะใส่ชุดสวยสวยแบบนี้ไม่ได้ละ!ช่างเถอะงั้นก็เอามาไว้ให้นางสักสองสามผืน!”
หลิงเชียนเจว่ยิ้มเบาๆหันไปเรียกคนข้างๆให้จดบันทึกรายการไว้
โหลวเหยนหมิงกัดปากพลางคิดไปด้วยและเอานิ้วเคาะโต๊ะพักนึงแล้วก็พูดขึ้น:“สักหน่อยเจ้าบอกให้คนไปวัดสัดส่วนของชายาข้าด้วยตอนนี้ชุดที่นางใส่อยู่ก็มีแต่ชุดเมื่อก่อนที่เอามาจากในวังงั้นก็ใช้ผ้าไหมที่พวกเจ้าพึ่งนำเข้ามาตัดชุดให้นางสัก50ชุดก่อนถ้าไม่พอค่อยตัดเพิ่ม!”
“ท่านอ๋องไปมีพระชายาตอนไหนหรือพะยะค่ะ?”หลิงเชียนเจว่ยิ้มพลางๆแต่ก็ไม่ได้ดูจะสนใจเท่าไหร่แล้วก็หันไปบอกคนข้างหลังให้จดบันทึกไว้
โหลวเหยนหมิงก็ไม่ได้พูดอะไรในความคิดของเขาหลิงเชียนเจว่ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่ดูร่ำรวยมากแต่ก็เป็นแค่พ่อค้าคนนึงเท่านั้นวันที่เขาแต่งองค์หญิงเหยียนเฟยเข้ามาเขาตั้งใจที่จะกลั่นแกล้งนางโดยไม่ได้จัดงานใหญ่จนเอิกกะเริกฮ่องเต้ก็ไม่ได้ขัดว่าจะต้องจัดงานใหญ่โตดังนั้นหลายคนที่ไม่รู้ว่าเขาแต่งพระชายาเข้ามาใหม่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร
“เสร็จแล้วพะยะค่ะท่านอ๋องยังมีสิ่งที่ต้องการอีกมั้ยพะยะค่ะ?”หลิงเชียนเจว่ลุกขึ้นยืนแล้วพูดขึ้น
“ตอนนี้ยังไม่มีถ้าหากว่ามีคงไม่ต้องรอให้ข้าต้องเอ๋ยปากเองเจ้าก็เข้ามาหาข้าถึงตำหนักเองอยู่แล้ว!”โหลวเหยนหมิงยิ้ม
“ท่านอ๋องพูดก็ถูก!”หลิงเชียนเจว๋ก็ยิ้มออกมาอีกครั้งแล้วก็กำมือ:“ถ้าอย่างนั้นข้าน้อยต้องขอตัวก่อนนะพะยะค่ะ!”
“เสี่ยวฟางจื่อส่งแขก!”โหลวเหยนหมิงก็ลุกขึ้นมาพูดเสร็จก็เดินออกไปโดยไม่หันมามองหลิงเชียนเจว๋แม้แต่น้อย
หลิงเชียนเจว๋ก็ยิ้มให้พอเห็นว่าโหลวเหยนหมิงเดินออกไปแล้วเข้าก็หันหลังมากระซิบคุยกับลูกน้องด้านหลังทันที:“อาซื่อเจ้าว่าพระชายาที่โหลวเหยนหมิงพึ่งแต่งเข้ามาจะเป็นคนยังไง?”
“องค์ชายข้าน้อยไม่รู้ขอรับ!”อาซื่อลูบคอไปมา:“แต่คาดว่าหน้าตาคงงามราวกับเทพธิดาไม่ปานขอรับ!ข้าน้อยเคยแต่เจอรั้วอวิ๋นที่เป็นสนมของเขานางก็งามอย่างกะเทพธิดาเลยขอรับคาดว่าพระชายาของเขาก็คงสวยไม่น้อยหน้านางเป็นแน่!”
“จุ๊จุ๊!”หลิงเชียนเจว๋ทำปากจู๋แล้วก็เปิดพัดขึ้นมาโบกไปมา:“ถ้าถามข้านะคาดว่าก็คงเป็นคนที่ไม่ได้มีดีอะไรมากหรอก!”
“ใช่ขอรับองค์ชายพูดถูก....”
หลิงเชียนเจว๋ทำตากรอกไปมาแล้วจึงรวบพัดเคาะหัวอาซื่อไปครั้งนึงเพื่อให้จดจำ:“ครั้งหน้าเจ้าต้องเปลี่ยนคำพูดจำไว้กลับได้แล้ว!”
“องค์ชายพูดถูก....”