ตอนที่ 75 นางต้องมีชีวิตรอด
1/
ตอนที่ 75 นางต้องมีชีวิตรอด
ชายาร้อยเสน่ห์
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 75 นางต้องมีชีวิตรอด
ตนที่ 75 นางต้องมีชีวิตรอด โหลวเหยนหมิงฉีกอาภรณ์ของเฟยเอ๋อออก ก่อนจะหยิบเอาผ้าห่มมาคลุมทั้งร่างของนางไว้ แต่กลับมองเห็นทั้งกระหม่อมของนางพันประสานกับคราบเลือดเข้าด้วยกัน สองมือพลันหยุดชะงัก และมองไปยังเฟยเอ๋อที่ยังคงไร้สติอย่างแข็งมื่อ เขาพลันคาดหวัง นางจะสามารถลืมตาขึ้นมาแผดด่ายกใหญ่ได้ครู่หนึง หรือว่ายืนขึ้นบนเตียงจ้องเขาเขม็งและอธิบายเรื่องเผาภาพวาดกับเขาแต่โดยดี เขาคิดมาแล้วทั้งคืน จนกระทั่งยามสางก่อนกลับมายังจวนอ๋องเขาจึงรู้สึกว่าควรจะให้โอกาสนางอธิบายสักครั้ง! “นี่ก็คือวิธรการคัดค้านของเจ้าหรือ ฉูเฟยเอ๋อ!” โหลวเหยนหมิงกัดฟัน จ้องดวงตานางเขม็ง “ลืมตาขึ้นมา อธิบายสิ! ตอนนี้ข้าต้องการฟังคำอธิบายของเจ้า เหตุใดเจ้าไม่พูดจา! แกล้งตายอะไรกันเล่า? ไม่ต้องคิดว่าข้าปวดใจไปจริงๆ เสียเล่า! ไม่ต้องคิดว่าเจ้าใช้วิธีเช่นนี้มาค้านแล้วข้าจะรับรู้ว่าเจ้าน้อยใจสักเท่าใด ข้าก็แค่ยังไม่...” “ท่านอ๋อง! ท่านหมอแล้วแล้วขอรับ!” เสี่ยวฟางจื่อเคาะประตูในฉับพลัน ตัดบทเสียงตวาดลั่นของโหลวเหยนหมิงภายในห้องลง โหลวเหยนหมิงปรับสภาพจิตใจให้มั่น หยัดกายลุกขึ้นก่อนเหลือบมองเฟยเอ่อบนเตียงแวบหนึ่ง และหมุนกายไปยังข้างประตูและเปิดประตูออก ท่านหมอยังไม่ได้เข้ามา ฉับพลันก็ถูกโหลวเหยนหมิงกระชากชุดเข้าให้ พลางกล่าวเสียงกดต่ำ “ช่วยให้นางมีชีวิตกลับมา!” “เอ่อ...” ท่านหมอขวัญกระเจิง “ท่าน ท่านอ๋อง...ให้หมอตรวจดูก่อนสักหน่อย!” “ท่านอ๋อง” เสี่ยวฟางจื่อย่นคิ้ว ก้าวมาเบื้องหน้าดึงท่อนแขนของโหลวเหยนหมิงเบาๆ มองไปยังดวงตาเปี่ยมเลือดคู่นั้นของโหลวเหยนหมิง ท่านหมอยอบกายเพื่อทำความเคารพต่อโหลวเหยนหมิง ก่อนหมุนกายรีบเดินไปยังด้านหน้าเตียง ตอนที่เห็นว่าสีหน้าของเฟยเอ๋อซีดขาวดุจกระดาษนั้น มือก็สั่นระริก รีบรุดเดินหน้าไปตรวจบาดแผลบนศีรษะของนาง โหลวเหยนหมิงหมุนกาย นึกอยากเดินไปดูสักหน่อย แต่เสี่ยวฟางจื่อกลับดึงเขาเอาไว้เบาๆ “ท่านอ๋อง...” เสี่ยวฟางจื่อมองไปทางโหลวเหยนหมิงพลางขมวดคิ้วลุ่มลึก “ท่านอ๋อง...ท่านอยากแสร้งเล่นละครสมจริงหรือ” “หมายความว่าอย่างไร” หัวใจโหลวเหยนหมิงสั่นไหว หันหน้าไปจ้องเสี่ยวฟางจื่อ “เมื่อครู่ตอนที่ท่านอ๋องกอดชายาอ๋องวิ่งเข้ามาในห้อง ความสับสนในแววตาท่านเมื่อเทียบกับตอนที่ได้ยินถึงการตายของแม่นางซีอวิ๋น มันช่างสุดระทมกว่ายิ่งนัก” เสี่ยวฟางจื่อมุ่นคิ้ว เขาคือคนที่นอกจากโหลวเหยนหมิงและจักรพรรดิแล้ว เป็นคนเดียวที่รู้ถึงสาเหตุที่โหลวเหยนหมิงเปลี่ยนพฤติกรรมต่อเฟยเอ๋อ เพียงเพราะว่าแต่เล็กจนโตเขาล้วนปรนนิบุติรับใช้อยู่ข้างกายโหลวเหยนหมิง ดังนั้นแผนการครั้งนี้ของโหลวเหยนหมิงเขาย่อมรู้เป็นธรรมดา โหลวเหยนหมิงนิ่งทื่อ มองไปทางสีหน้ากังขาสุดฤทธิ์ของเสี่ยวฟางจื่ออย่างตกตะลึง “ท่านอ๋อง ชายาอ๋องนาง...” ขณะที่ระหว่างโหลวเหยนหมิงและเสี่ยวฟางจื่อกำลังเต็มไปด้วยกลิ่นอายความกังขาอันเข้มข้น ท่านหมอที่ดูอาการเฟยเอ๋อตลอดพลันหมุนกาย มองไปทางโหลวเหยนหมิงด้วยแววไม่สงบ และยิ่งเพิ่มบทอันมีชีวิตชีวามากล่าวไถ่ถาม “ว่ามา” ความสับสนเต็มดวงใจได้ถูกการย้ำเตือนนี้ของเสี่ยวฟางจื่อพังทลายลง โหลวเหยนหมิงมองทางท่านหมอด้วยสีหน้าเย็นชา “อาการบาดเจ็บบริเวณศีรษะของชายาอ๋องสาหัสนัก มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ทั้งยังถูกควันไฟจู่โจม และเพิ่มเติมคือบนร่างกายได้ตั้งครรภ์เป็นเวลาหนึ่งเดือน ชะตาชีวิตรอมร่อนัก!” ท่านหมอเปิดปากอย่างช่วยไม่ได้ ยามที่เพิ่งได้ยินคำจากเบื้องหน้านั้น โหลวเหยนหมิงมุ่นคิ้วทำเพียงมองท่านหมออย่างเย็นเยียบ เขาย่อมรู้ว่านางเสียเลือดเป็นจำนวนมาก ทั้งคืนล้วนมีเลือดไหลตลอด แต่ยังคงมีลมหายใจหรือว่าเฟยเอ๋อึงฆาต เขาเพียงแต่อยากให้นางกลับมามีชีวิตก็เท่านั้น เมื่อได้ยินสี่คำที่ว่านางตั้งครรภ์แล้วนั้น โหลวเหยนหมิงตกใจ หันหน้าไปสบตากับเสี่ยวฟางจื่อ คิ้วมทั้งสองข้างก็เริกขึ้นอย่างมีนัยยะ “ไม่ว่าตอนนี้นางจะเป็นอย่างไร เจ้าเป็นหมอ รับผิดชอบให้นางมีชีวิตกลับมา!” โหลวเหยนหมิงกำหมัดแน่น นึกอยากจะไม่ปวดใจเพราะนางอย่างชาญฉลาด ทว่าปากหัวใจของเขากลับยังคงคับแน่นด้วยความทรมาน แม้ว่าคืนวานนางจะทำลายภาพวาดชิ้นสุดท้ายที่ซีอวิ๋นมอบให้เขาก่อนตายลง แม้ว่านางจะเผาภาพเหมือนของซีอวิ๋นที่เขาวางแผนจะเก็บรักษาเป็นสมบัติล้ำตลอดชีวิตไป ทว่าตอนนี้เห็นว่านางเป็นเช่นนี้ เขาพลันรู้สึกว่าเกลียดไม่ลง นึกอยากฟังคำอธิบายของนาง “แต่ว่าเด็ก...” ท่านหมอขมวดคิ้ว “แน่นอนว่าก็ต้องช่วยเด็กด้วย! ข้าต้องการให้ แม่ ลูก ปลอด ภัย!” โหลวเหยนหมิงมองท่านหมอที่ถอนใจสายหน้าผู้นั้นด้วยสีหน้าบึ้งตึงเย็นชา “หยุดพูดพล่าม รีบไปช่วยคนเร็ว! ช่วยคนได้แล้ว กองเงินกองทองก็แล้วแต่เจ้าจะเลือก!” ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดที่อยากให้นางมีชีวิตอยู่ต่อ ยามนี้ก็มีลูกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน เขาคนเดียวสามารถได้รับแผ่นป้ายอาญาสิทธิ์ทางการทหาร ฉูเฟยเอ๋อจะต้องมีชีวิตอยู่รอด จะต้อง ปลอดภัยไร้อันตราย! ท่านหมอเห็นแววที่มากกว่าอันตรายบนใบหน้าของโหลวเหยนหมิง คำพูดที่มาถึงเรียวปากแล้วก็ต้องกลืนกลับเข้าไป คนไข้ได้หลงเหลือแค่ลมหายใจสุดท้ายแล้ว ด้วยทักษะทางการแพทย์ของเขา ก็สามารถพูดได้เพียงว่าลองดูแล้ว ท่านหมอทำอะไรไม่ถูก หมุนกายเดินไปยังข้างเตียงต่อ ตรวจอาการบาดแผลบริเวณศีรษะของเฟยเอ๋อ หยิบเข็มเงินออกมาเย็บชีพจรนางเอาไว้ชั่วคราว พยายามห้ามเลือดอย่างสุดความสามารถ โหลวเหยนหมิงยืนอยู่ข้างประตู หมุนกายมองไปนอกประตู ก็เพราะไม่อยากมองหญิงสาวที่นอนไร้สติไม่ยอมฟื้นบนเตียงนางนั้นอีกต่อไป ขอเพียงเห็นเลือดบนศีรษะของนาง มองเห็นดวงตาบวมเป่งเป็นเวลาเนิ่นนานอย่างเห็นได้ชัดนั่น หัวใจของเขาก็ควบคุมความเจ็บปวดไม่ได้! “ท่านอ๋อง รบกวนจัดหาสาวใช้สองสามนางเข้ามาเช็ดกายและเลือดตรงศีรษะให้ชายาอ๋องด้วยเถิด ไม่เช่นนั้นหากป้ายยาก็อาจจะมีสิ่งสกปรกติดปนเข้าไปกับตัวยาได้ จะร้ายแรงต่ออาการบาดเจ็บบนร่างกายของนางหนักกว่าเก่า” ท่านหมอมองบาดแผลบนกระหม่อมของเฟยเอ๋อ ก่อนหยัดกายลุกขึ้นเอ่ยปากกับโหลวเหยนหมิงอย่างเคารพอีกครั้ง “เรียกสี่เอ๋อของตำหนักเฟยเอ๋อผู้นั้นมา!” โหลวเหยนหมิงมองเสี่ยวฟางจื่อด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “และจัดหาสาวใช้มือไม้คล่องแคล่วสักสองนางตามมาปรนนิบัติด้วย!” “ขอรับ!” เสี่ยวฟางจื่อหมุนกายทำความเคารพ และเดินไปทางตำหนักเยียนเฟย โหลวเหยนหมิงสูดลมหายใจลึกหนึ่งเฮือก และมองท่านหมออย่างเฉยเมย “นางมีโอกาสรอดอยู่มากน้อยเท่าใด” “เรียนท่านอ๋อง หมอพูดตามความเป็นจริง...ชีวิตของชายาอ๋องครั้งนี้จะสามารถยื้อไว้ได้หรือไม่ หมอเองก็ยังไม่อาจรับประกัน...” โหลวเหยนหมิงย่นคิ้ว “จะต้องไม่ให้นางตาย!” “หมอพยายามสุดความสามารถ แต่ก็ต้องการพึ่งเจตนาการช่วยชีวิตของชายาอ๋องด้วย หากว่านางไม่อยากมีชีวิต เช่นนั้นต่อให้เป็นเทพเซียนก็ไม่อาจช่วยกลับมาได้ หากว่านางนึกอยากมีชีวิตต่อไปจริงๆ เช่นนั้นชีวิตของนางและเด็กในครรภ์อายุหนึ่งเดือน ก็ยังมีความหวังอยู่มาก!” “ข้าไม่อนุญาตให้นางตาย นางก็ไม่บังอาจตาย!” โหลวเหยนหมิงดวงตาถมึงทึง กวาดมองคนที่นอนไม่ไหวติงบนเตียงแวบหนึ่ง มือใต้แขนเสื้อก็กำแน่นขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนกัดฟันกล่าว “นางไม่กล้าตายแน่!” เสี่ยวฟางจื่อพาสี่เอ๋อและสาวใช้กลับมาพร้อมกัน สี่เอ๋อได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับชายาอ๋อง กำลังร่ำไห้อย่างกังวลอยู่ในตำหนักเยียนเฟย ดวงตาก่ำบวมอยู่ก็ถูกเสี่ยวฟางจื่อเรียกให้มาแล้ว โหลวเหยนหมิงมองสี่เอ๋อสาวใช้คนนั้นมีท่าทางทรมานอย่างข้างเตียงของเฟยเอ๋อ ก็หมุนกายไปและในอกก็พลอยไม่สบายขึ้นมาตามไปด้วย “ท่านอ๋อง พวกเราออกไปกันก่อนเถิด!” เสี่ยวฟางจื่อยืนอยู่ด้านหลังโหลวเหยนหมิงเปิดปากเอ่ยอย่างนอบน้อม โหลวเหยนหมิงหันหน้าไปใช้ปลายคางชี้ไปทางสาวใช้ไม่กี่นางซึ่งเตรียมจะไปเช็ดชำระกายให้แก่เฟยเอ๋อ โหลวเหยนหมิงพยักหน้า ก่อนมองท่านหมอที่ยืนอยู่ด้านข้างแวบหนึ่ง จนกระทั่งท่านหมอตอบสนองด้วยรอยยิ้มอึดอัดใจพลางยกกล่องโอสถมายืนอยู่นอกประตู จึงค่อยสาวเท้ายาวออกจากประตูห้อง ปิดประตูห้องให้สนิทเว้นระยะให้ระหว่างสาวใช้ข้างในและเฟยเอ๋อภายในห้อง
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 75 นางต้องมีชีวิตรอด
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A