ตอนที่ 79   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 79
ต๭นที่ 79 เฟยเอ๋อเดินตามเสี่ยวฟางจื่อมายังรั่วอวิ๋นเก๋อ เพิ่งจะเดินผ่านหน้าปรตูห้องของรั่วอวิ๋น เฟยเอ๋อพลันหยุดชะงักฝีเท้าลง ฟังเสียงด้านในด้วยใบหน้าซีดเผือด เสี่ยงครวญครางของรั่วอวิ๋น ลมหายใจหนักหยาบของโหลวเหยนหมิง ทั้งคู่สอดประสานเข้าด้วยกัน ไม่ต้องมอง ก็รู้ว่าด้านในนั้นเป็นฉากภาพเคี้ยวคดเพียงใด “เอ่อ...” เสี่ยวฟางจื่อมองเรือนร่างแข็งทื่อของเฟยเอ๋ออย่างค่อนข้างอึดอัดใจ เดินมาเบื้องหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ชายาอ๋อง ท่านอ๋องบัญชาว่าให้ชายาอ๋องไปรออยู่ในห้องเบื้องหน้า ประเดี๋ยวท่านอ๋องก็จะไปเสวยร่วมกับชายาอ๋อง” เฟยเอ๋อดึงสติกลับมา หันหน้าไปมองเสี่ยวฟางจื่อที่มีใบหน้าไม่เป็นธรรมชาติผู้นั้น คราวนี้จึงพบว่าตอนนี้ตนเองก็อาจจะมีสีหน้าจำพวกที่แม้แต่เสี่ยวฟางจื่อเห็นเข้าก็รู้สึกว่าไม่น่ามองก็ได้กระมัง เฟยเอ๋อยิ้มบาง แต่กลับเป็นรอยยิ้มจืดเจื่อน ต่อให้ไม่เข้าใจว่าไฉนโหลวเหยนหมิงจึงทำต่อนางเพียงนี้อย่างกะทันหัน แต่ว่าเขามักจะมีเหตุผลอยู่แล้วกระมัง...นางอดกลั้นแล้ว! เฟยเอ๋อกัดฟัน เดินไปยังห้องด้านข้างภายใต้สายตาพิศวงของเสี่ยวฟางจื่อ แม้กระนั้น ภายในห้องๆ นี้ กลับยิ่งได้ยินเสียงที่ทำให้คนใจเต้นแรงหน้าแดงเถือกซึ่งลอยมาจากด้านในห้องข้างๆ ได้ชัดกว่าเก่า เฟยเอ๋อนั่งลงข้างโต๊ะอย่างสงบเงียบ มองไปยังเครื่องสำรับที่นำมาวางไว้เรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่มีของที่เหมาะสำหรับนางในการทานยามนี้ โหลวเหยนหมิงไม่รู้ว่าหญิงมีครรภ์กินของมันเกินไปจะสามารถอาเจียนออกมาเชียวหรือ เสียงประเภทนั้นที่อยู่ในอีกห้องหนึ่งพลันหยุดลง เฟยเอ๋อนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ ตาหูจมูก หัวใจ ไม่ขยับเขยื้อน จนกระทั่งหลังจากธูปดับไปแล้ว ในที่สุดโหลวเหยนหมิงก็เดินเข้ามาในห้อง เดินเข้ามาในวิสัยทัศน์ของเฟยเอ๋ออีกครั้ง เฟยเอ๋อเหลือบตาขึ้น มองไปยังรั่วอวิ๋นที่อิงแอบกับเขาเดินเข้ามาด้วยกันอย่างไม่ประหลาดใจ ไม่เห็นเพียงแค่หนึ่งเดือนเศษ หญิงนางนี้ชุบรักษากายในรั่วอวิ๋นเก๋อยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ “เฟยเอ๋อ!” โหลวเหยนหมิงยิ้มให้แก่เฟยเอ๋อที่มองมายังพวกเขา ผละปล่อยรั่วอวิ๋น ให้นางนั่งลงด้านข้างเอง จากนั้นก็เดินมายังข้างกายของเฟยเอ๋อ โอบรัดเอวของนางไว้ จุมพิตเข้าที่พวงแก้มของเฟยเอ๋อ “ร่างกายหายดีแล้ว?” เฟยเอ๋อสะดุดลมหายใจ ยามนี้หากว่าโหลวเหยนหมิงระเบิดอารมณ์ต่อหน้านางสักตั้งก็ดี อย่างน้อยในใจของนางก็ไม่อาจทรมานเยี่ยงนี้ ทรมานถึงขึ้นแม้แต่เรี่ยวแรงที่นึกอยากจะอธิบายเรื่องในห้องอักษรคืนนั้นก็ไม่มี เฟยเอ๋ออดกลั้นสีหน้าที่ถูกโหลวเหยนหมิงจุมพิตอย่างสุดฤทธิ์ หน้าอกแต่มีความรู้สึกหนึ่งจำพวกอยากขย้อนออกมา มองออกถึงความแข็งทื่อของสีหน้าและเรือนกายสั่นระริกของเฟยเอ๋อ โหลวเหยนหมิงก็เย็นยิ้มอยู่ข้างหลังนาง หมุนกายไปนั่งอีกด้าน รั่วอวิ๋นกระวีกระวาดเข้ามา แอบชิดเข้าในอ้อมอกของโหลวเหยนหมิง เฟยเอ๋อทำเอาหูไปนาเอาตาไร่ เหลือบสายตามองไปในดวงตาลุ่มลึกคู่นั้นของโหลวเหยนหมิง “ชายาอ๋อง ทานอาหาร! ร่างกายเพิ่งฟื้นฟู ต้องการการบำรุงอย่างดี!” โหลวเหยนหมิงยิ้มบางมองที่นาง ดูเหมือนว่าจะคีบชิ้นปลาอันแสนคาวคลุ้งอันหนึ่งมาวางไว้ในชามเบื้องหน้าของเฟยเอ๋อ เฟยเอ๋อสูดลมหายใจลึกๆ หนึ่งเฮือก มองรั่วอวิ๋นที่ฟุบอยู่ในอ้อมอกเขา เป็นครั้งแรกที่สายตาเย้ยหยันมหาศาล และยังมองไปทางโหลวเหยนหมิงที่ยัดเยียดคีบเนื้อปลามาทางชามของนาง นางเองก็รับรู้ว่าตัวเองเริ่มจะควบคุมอาการสั่นเทาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว “นี่...ก็คือทางที่ท่านเลือก วิธีลงโทษข้าอย่างนั้นหรือ” เฟยเอ๋อข่มอารมณ์โกรธในอกเอาไว้ เหลือบสายตามองไปยังโหลวเหยนหมิง มือของโหลวเหยนหมิงหยุดค้าง หมุนและวางตะเกียบเอาไว้ด้านข้าง หน้าไม่เปลี่ยนสี ยังคงยิ้มบาง “ชายาอ๋องกำลังพูดอะไร” “โหลวเหยนหมิง ภาพแผ่นหนึ่ง กับคนหนึ่งคน สิ่งใดที่สำคัญกว่ากัน” เสียงเฟยเอ๋อสั่นเครือ มองยังโหลวเหยนหมิงที่อยู่เบื้องหน้า นางพลันไม่อยากอธิบายในบัดดล นางไม่จำเป็นต้องอธิบาย... โหลวเหยนหมิงยิ้มเจือจาง “เจ้าอยากพูดอะไร” “หากว่าข้าไม่ได้มีชีวิตกลับคืนมา และแม้แต่ภาพเหมือนแผ่นนั้นก็ไม่มีและตายไปทั้งอย่างนั้น จากนี้ไปก็มีหญิงสาวที่ท่านอาจจะหลงรักปรากฏขึ้น และนางก็เผาอาภรณ์ชิ้นเดียวที่ข้าหลงเหลืออยู่ ท่านจะใช้วิธีเดียวกันนี้ปฏิบัติต่อนางด้วยหรือไม่” โหลวเหยนหมิงมีสีหน้ายะเยือก จ้องเฟยเอ๋อเขม็ง “ไม่ใช่ ข้าอาจจะพุดผิดแล้ว!” ฉับพลันเฟยเอ๋อก็ยิ้มเย็นชา “ซีอวิ๋นคือซีอวิ๋น ข้าคือข้า บางทีข้าอาจจะคิดไปเองทั้งหมดเลยก็ได้ ถูกคนอื่นหลอกลวงอย่างโง่งมแล้วก็ยังไม่รู้อีก! จะมีคนไปทำร้ายใครเพื่อข้าเพียงเพราะภาพแผ่นหนึ่งหรืออาภรณ์ชิ้นหนึ่งได้อย่างไรกันเล่า!” โหลวเหยนหมิงหรี่ตาลงอย่างเย็นชา มองเฟยเอ๋อที่มีการตอบสนองอย่างที่เขาไม่ได้คาดคะเนถึงอย่างนี้ นางไม่ได้ควรจะร่ำไห้น้ำมูกน้ำตาไหลอย่างน่าสงสารดั่งคืนนั้นที่วิงวอนเขาอยู่ในห้องอักษร หรือว่าอธิบายเสียงดังสั่น ร้องไห้ดังลั่นออกมา จากนั้นเช่นนี้เขาก็จะสามารถลงทัณฑ์นางอย่างสาสม ทำให้นางไม่อาจออกจากตำหนักเยียนเฟยได้อีก ทำให้นางไม่อาจปรากฏกายต่อหน้าเขาได้อีกตลอดกาล ทว่านางในเบื้องหน้า ไฉนจึงเงียบสงบเพียงนี้ เรียกเขาว่าฟุ้งซ่านอย่างใจเย็น เรียกร้องให้เขาเริ่มสงสัยในตำแหน่งในใจของเฟยเอ๋อขึ้นมาอย่างใจเย็น “สิ่งที่ท่านอยากให้ข้าเห็น ข้ามองเห็นแล้ว” เฟยเอ๋อปรนลมหายใจลุ่มลึกหายเฮือก และหัวเราะออกมากะทันหัน ยันกายขึ้นยืน และมองเนื้อปลาในชาม “ข้ากินไม่ลง! ท่านอ๋องและแม่นางรั่วอวิ๋นเชิญทานตามสบายเถิด!” กล่าวพลาง เฟยเอ๋อก็หมุนกายเดินไป “หยุดนะ!” โหลวเหยนหมิงปริปากอย่างเย็นเยียบในบัดดล เฟยเอ๋อหยุดชะงักฝีเท้า แต่กลับไม่ได้หมุนกายไปมองเขา แหงนหน้าขึ้นกลั้นน้ำตาเอาไว้อยู่ เสี่ยวฟางจื่อที่ยืนอยู่หน้าประตูมองเห็นสภาพของเฟยเอ๋อในยามนี้ ก็ก้มหน้างุดอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ทนมองอีกต่อไป ผู้หญิงที่หลงรักท่านอ๋องหนอ นอกจากซีอวิ๋นแล้ว หญิงนางอื่นจะมีสักกี่คนที่นับว่ามีความสุข? ยิ่งนับประสาอะไรกับนางที่เป็นหญิงซึ่งถูกมาดหมายเอาไว้แบบนี้แล้วกันเล่า “ข้าตั้งใจเรียเจ้ามารั่วอวิ๋นเก๋อที่นี่มากินข้าว เจ้ากลับไม่ซาบซึ้ง หรือว่ามันหยามหิ้งชายาอ๋องของเจ้ามากเกินไปแล้วกันเชียว” หัวใจเฟยเอ๋อกระตุก ฉับพลันก็หมุนกายไปมองโหลวเหยนหมิงอย่างบันดาลโทสะ “ความหมายของท่านคือข้าไม่จำเป็นต้องเป็นชายาอ๋องอีกต่อไปแล้วใช่หรือไม่” โหลวเหยนหมิงขมวดคิ้ว มองเฟยเอ๋อที่หมุนกายอย่างกะทันหัน “หากว่าท่านอยากให้นางเป็นชายาอ๋อง ก็แล้วแต่ท่าน! การลงทัณฑ์ของท่านมันเพียงพอแล้ว การบาดเจ็บสาหัสทางกายและยังเพิ่มการบาดเจ็บสาหัสทางใจในยามนี้อีก คงเพียงพอจะเติมเต็มภาพแผ่นนั้นของท่านได้แล้วกระมัง” เฟยเอ๋อกัดฟัน “โหลวเหยนหมิง ท่านทำเกินไปหน่อยแล้วกระมัง” “ข้าทำเกินไป?” โหลวเหยนหมิงยันกายลุกขึ้นในฉับพลัน มองนางอย่างเย็นชา “ข้าทำเกินไปที่ไหน ผู้หญิงที่มีใจริษยารุนแรงเช่นเจ้า ก็แม้แต่ภาพแผ่นเดียวยังทำได้ลงข้าเรียกคนมาช่วยชีวิตเจ้าอย่างหวังดี ยามนี้ก็ยังเรียกเจ้ามากินข้าวปลา ข้าทำเกินไปตอนไหน” “เฮอ...” เฟยเอ๋อยิ้มเย็นในทันใด มองดวงตาที่ไร้หวังนั่นของโหลวเหยนหมิง “ถือว่าข้าฉูเฟยเอ๋อรักคนผิด ความรู้สึกครั้งแรกในทั้งชีวิต ก็มอบให้กับผู้ชายเช่นท่านนี้อย่างจริงจังแล้ว!” โหลวเหยนหมิงไร้คำพูด ทำเพียงมองเฟยเอ๋อด้วยใบหน้าเสียดแทง “จุดประสงค์ของท่านในวันนี้ ไม่ใช่ว่าอยากให้ข้าขายหน้าสักฉาดหรอกหรือ ข้าได้เห็นเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นตอนนี้ท่านยังจะเอาอย่างไรอีก” เฟยเอ๋อเหลือบตา จ้องเข้าไปในดวงตาของโหลวเหยนหมิง “พูดสิ ท่านโหลวเหยนหมิงยังมีกลอุบายอะไรอีก รีบชักออกมาสิ! ทำให้ข้าได้ประจักษ์ว่าท่านอ๋องโหลวเหยนหมิงจะปฏิบัติต่อผู้หญิงที่ “มีใจริษยารุนแรง” อย่างไรกันแน่!” 
已经是最新一章了
加载中