ตอนที่ 82
ตนที่ 82
เฟยเอ๋อไม่อยากลืมตา เพราะนางรู้ว่าโหลวเหยนหมิงยังอยู่บนเตียงของนาง ไม่ได้จากไป
ทั้งสองคน เอนกายอย่างเงียบเชียบ ต่างฝ่ายต่างคิดเรื่องราวของตนเอง
“คืนวานเรื่องที่อยู่ในรั่วอวิ๋นเก๋อ เหตุใดเจ้าไม่โวยวายสักฉาด”
เฟยเอ๋อนิ่งทื่อ เปิดเปลือกตามองทางเขา ที่แท้เขารู้ว่านางตื่นแล้ว แต่กลับไม่ทำลายการแสร้งทำของนางตั้งครึ่งค่อนวันเท่านั้นเอง
“อ๋อที่แท้ท่านก็แค่อยากฟังข้าโวยวายสักฉาด?” เฟยเอ๋อยันกาย ดึงผ้าห่มมาปกปิดบริเวณหน้าอก เอาเรือนผมยาวยุ่งเหยิงด้านหน้ากายรวบไปไว้ด้านหลัง สีหน้าเฉยชามองไปยังโหลวเหยนหมิงที่ใช้ท่อนแขนหนุนแทนหมอน
โหลวเหยนหมิงมองนางแวบหนึ่ง ยิ้มบางไม่เอ่ยวาจา พูดตามจริง เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่ เพียงแค่อยากได้ยินนางระเบิดอารมณ์ เช่นนี้เขาจึงไม่อาจไม่อดกลั้น เขาจึงไม่อาจมาตำหนักเยียนเฟยอีกอย่างควบคุมไม่ได้เช่นนั้นเฉกเช่นเมื่อคืนวาน
ตอนนี้เขาไม่เข้าใจตัวเองเอาเสียเลย วัตุประสงค์ก็ลุล่วงไปแล้ว แต่กลับยังคงอ้อยอิ่งกับฉูเฟยเอ๋ออยู่อีก
“โหลวเหยนหมิง ท่านช่างเด็กน้อยนัก! เฟยเอ๋อมองเขาอย่างดูแคลนโดยพลัน “ท่านต้องการเล่นฉากอุปรากรอะไร ฉากเมื่อวานนั่น ไม่ใช่ว่าแค่อยากให้ข้าร่ำไห้ยกใหญ่ออกมาต่อหน้าท่านกับรั่วอวิ๋นหรอกหรือ จากนั้นเล่า? หากว่าข้าทั้งร้องทั้งอาละวาดจริงๆ ท่านจะทำเช่นไรกับข้า การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของท่านนี้มันรวดเร็วเกินไปหรือไม่ แรกเริ่มก็ดีกับข้า ตอนนี้กลับมาทำร้ายข้ากะทันหัน หากว่าเพียงเพราะภาพแผ่นเดียว เช่นนั้นก็ทั้งน่าขันทั้งเด็กน้อยเกินไปแล้วกระมัง!”
โหลวเหยนหมิงเสตามองเฟยเอ๋อ เห็นว่าสีหน้านางขุ่นเคือง ก็ยกมือขึ้นนวดหัวคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ “แค่ยามสางก็อาละวาดขนาดนี้ นอกจากข้าแล้ว ยังมีใครสามารถรับเจ้าได้อีก!”
เฟยเอ๋อเงยหน้าโมโหจ้องมองเขา “เลิกมาไม้นี้กับข้า หากว่าไม่อยากพูด ก็รีบไสออกไปจากเตียงของข้า!”
“เจ้าทำใจได้หรือ” โหลวเหยนหมิงยิ้มชั่วร้ายขึ้นมาโดยพลัน มองเข้าไปในดวงตาของเฟยเอ๋อ
หากว่ามองไม่เห็นความรู้สึกของนาง เขาเองก็ไม่อาจรู้สึกว่าทุกอย่างล่วนอยู่ในกำมือของเขาได้อย่างมั่นใจขนาดนี้ แน่นอน นอกจากความรู้สึกจะเป็นสิ่งที่เขาไร้หนทางครอบครอง
“คนเลว!” เฟยเอ๋อโกรธขึ้นหน้า พลิกกายไปหยิบเอาหมอนปักดอกไม้ขว้างไปใส่ร่างของโหลวเหยนหมิง
โหลวเหยนหมิงตะแคงร่างเล็กน้อย เห็นว่าเฟยเอ๋อใช้มือทั้งสองข้างขว้างหมอน และทำให้ผ้าห่มตรงหน้าอกไหลร่นลงมาเช่นนั้น แววแรกแย้มก็ผุดเผย ร่องรอยเป็นจุดๆ บนเรือนกายปรากฏชัดให้เห็นถึงความเย่อหยิ่งทระนงของเขาเมื่อคืนวาน
ทันใดนั้น เฟยเอ๋อก็รู้สึกเพียงว่าช่วงเอวคับแน่น กายเปลือยเปล่าทั้งร่างก็ถูกโหลวเหยนหมิงกอดเข้าสู่อ้อมอก อวัยวะเปล่าเปลือยทั้งสองขนร่างกายก็ชิดประสานเข้าด้วยกันอย่างแนบแน่น
“ท่าน...” บนหน้าของเฟยเอ๋อเรื่อแดงชั่วขณะ มองแววแย้มยิ้มในดวงตาของโหลวเหยนหมิงอย่างโกรธอาย
“เรื่องภาพแผ่นนั้น ข้าไม่เอาความแล้ว! แต่ว่า...” โหลวเหยนหมิงมองพินิจใบหน้าเรียวเล็กอันงดงามของเฟยเอ๋อ กล่าวเสียงต่ำ “เจ้าต้องว่าง่าย เรื่องใดไม่ได้รับอนุญาตให้ถาม เรื่องใดไม่ได้รับอนุญาตให้ยุ่ง ข้าไม่ไปคิดถึงอดีตของเจ้าอีก เจ้าก็ไม่สามารถไปรบกวนเรื่องของข้า ขอเพียงอยู่ในตำหนักเยียนเฟยของเจ้าอย่างว่าง่ายเป็นชายาอ๋องดีๆ ทุกวันรอให้ข้ามาหาที่นี่ ดีหรือไม่”
แม้นว่าเฟยเอ๋อสามารถเป็นเช่นนี้ เขาก็จะข่มความรู้สึกที่วางไม่ลงซึ่งมีต่อนางเยี่ยงนี้ของตนเองเอาไว้ได้ ไม่ไปทำให้นางได้รับบาดเจ็บอะไรอีก รวมถึงในเรื่องที่นางสังหารซีอวิ๋น เขาก็สามารถเลือกที่จะลืมเลือนไปชั่วคราว
“ท่านว่าเป็นไปได้หรือ” เฟยเอ๋อผลักลำแขนของเขาออก พลิกกายและวิ่งลงจากเตียงอย่างไม่ปกคลุมอีกต่อไป สวมอาภรณ์ของตนเองด้วยความรวดเร็ว จึงค่อยมองไปทางผู้ชายที่ยันกายลุกขึ้นนั่งและใช้แววตาเยือกเย็นเล็กน้อยมองตนเองอย่างขึงขัง
“ข้าไม่ใช่ของเล่นของท่าน! และข้ายิ่งไม่ใช่นางสนมในวังหลัง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่มองอะไรเลย ไม่ถามอะไรเลย เพียงเพราะอยากได้รับความโปรดปรานในทุกคืน! ข้าไม่ใช่ผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่นี่เป็นท่อนไม้ใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีคุณงามความดี! หากว่าท่านหวังว่าจะมีผู้หญิงนางหนึ่งที่ไม่สามารถถามอะไรเลย ขอเพียงความโปรดปรานจากท่านก็พอ เช่นนั้นท่านก็ไปหารั่วอวิ๋น มาหาข้าให้น้อยลง!”
“เจ้าช่างใส่ใจรั่วอวิ๋น?” โหลวเหยนหมิงมุ่นคิ้ว
เฟยเอ๋อไม่เอ่ยคำ ทำเพียงจ้องเขาถมึงทึง กล่าวมาทั้งหมดเป็นเรื่องไร้สาระ มีผู้หญิงสักกี่คนที่ชื่นชอบการใช้สามีร่วมกันกับหญิงนางอื่น มิหนำซ้ำยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้าใจเรื่องราวทุกอย่างแบบนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว นางฉูเฟยเอ๋อยืนอยู่ข้างนี้ไม่หึงหวงสิน่าแปลก
“หากว่าเพียงเพราะการมีตัวตนของนางเจ้าจึงไม่เชื่อฟังคำ ข้าสามารถให้นางไปให้พ้นจากจวนอ๋องอย่างสงบได้ นับจากนี้ไปจะไม่ข้องแวะใดๆ กับนางอีก!” เขาได้อดกลั้นมาเพียงพอแล้ว! จะผิดก็ผิดที่เขาไม่ยอมรับหัวใจของตนเอง!
“โหลวเหยนหมิง...” เฟยเอ๋อย่นคิ้วมองเขาโดยพลัน ก้าวมาเบื้องหน้าหนึ่งก้าว มองแววตาของโหลวเหยนหมิงอย่างละเอียด “เหตุใดจึงไม่ให้ข้าไปยุ่งเรื่องของท่าน ท่านมีอะไรที่ข้าไม่อาจรับรู้หรือ ท่านมีเรื่องอะไรปิดบังข้าใช่หรือไม่”
“ไม่มี!” โหลวเหยนหมิงเบี่ยงศีรษะออก
เฟยเอ๋อกลับแสบจมูกขึ้นมาในบัดดล มองไปทางโหลวเหยนหมิงที่มีท่าทีไม่กล้าสบมองนางตรงๆ อย่างผิดหวังเมดวงใจ “ไม่กล้ามองข้า เช่นนั้นก็มีแล้ว!”
โหลวเหยนหมิงมุ่นคิ้ว ยันกายขึ้นสวมเสื้อนอกและเดินไปข้างหน้า
“ท่านหยุดนะ!” เฟยเอ๋อจ้องเขาอย่างโมโห “ไม่ต้องมาเข้าใกล้ข้า! ไม่ต้องใช้กลอุบายอบอุ่นและความปรารถนาอะไรมาทำให้ข้าปิดปาก! ท่านนึกอยากแอบซ่อนอะไร มีอะไรที่ข้าไม่อาจรับรู้” ยามนี้หัวใจเฟยเอ๋อสับสนมาก ผู้ชายคนหนึ่งที่นางรัก และยังเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่พร่ำบอกรักนาง ยามนี้กลับมีความลับที่นางไม่สามารถรับรู้ได้ กระนั้นความลับนั่น นางกลับรู้ว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับนางแน่
“เรื่องบางเรื่องรู้น้อยสักหน่อย จะมีประโยชน์ต่อตัวเจ้าเอง!” โหลวเหยนหมิงขมวดคิ้วขึ้น
“ฮ่า หลักการของท่านช่างมั่วเสียจริง!” เฟยเอ๋อแสยะปากอย่างเย้ยเยาะ ถอยหลังหนึ่งก้าว พยายามหลีกห่างลมหายใจที่ทำให้นางกระหายรักประเภทนั้นบนเรือนกายของโหลวเหยนหมิง “ไป ไสออกไปจากห้องของข้า”
“เฟยเอ๋อ!” โหลวเหยนหมิงมุ่นคิ้ว ในดวงตามีความเย็นเยียบเพิ่มขึ้น “โวยวายไร้เหตุผลไม่มีประโยชน์ต่อเจ้า!”
“ข้าไม่ได้โวยวายไร้เหตุผล!” เฟยเอ๋อยิ้มบาง “โหลวเหยนหมิง ท่านไสออกไปจากตำหนักเยียนเฟยให้ข้าเดี๋ยวนี้! ไป! ! !” กล่าวพลาง เฟยเอ๋อหมุนกายวิ่งไปบนเตียงเตรียมจะหยิบหมอนปักดอกไม้
โหลวเหยนหมิงเบี่ยงกาย กำข้อมือของเฟยเอ๋อเอาไว้ บังคับให้นางมาชิดสัมผัสเขา มองเข้ามาในดวงตาของเขา “ฉูเฟยเอ๋อ ข้าอดกลั้นต่อเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าอย่าได้ไม่ดื่มเหล้าศักดิ์สิทธิ์จะไปดื่มเหล้าคุก! หากว่าอาละวาดต่อไปจริงๆ คนที่จะทนทุกข์ทรมานก็คือเจ้า!”
“ไสไป! ! !” เฟยเอ๋อขืนลำแขน แต่กลับขืนไม่ขยับ หลบหลีกการกักขังของเขาไม่ออก ทำเพียงเงยหน้าขึ้น ลืมตาทั้งสองข้างที่คลอน้ำตา จ้องเขาอย่างดุดัน
โหลวเหยนหมิงย่นคิ้ว มองเข้าไปในดวงคาที่สิ้นหวังและน้ำตาของเฟยเอ๋อ จึงผละปล่อยมือในทันใด ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว มองนางอย่างลุ่มลึกแวบหนึ่ง ก่อนหมุนกายรีบเดินออกไป
ฉูเฟยเอ๋อ ในเมื่อตัวเจ้าเองนึกอยากยั่วโมโหข้า ไม่อยากรับควาสุขเช่นนี้แต่โดยดี เช่นนั้นข้าจะตอบตกลงเจ้า จะทำให้เจ้าเสียใจภายหลังอย่างที่เครื่องในขาดวิ่นเลยเชียว
เฟยเอ๋อทรุดกายลงอย่างแช่มช้า นั่งลงบนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง มองไปทางประตูห้องซึ่งถูกปิดสนิท น้ำตาก็ร่วงไหลลงมา...
นางเพียงแค่ ไม่อยากมีชีวิตท่ามกลางความหลอกลวงก็เท่านั้น...โหลงเหยนหมิง ท่านรู้ถึงหัวใจของผู้หญิงหรือไม่ ท่านเข้าใจว่าความรักคืออะไรจริงๆ หรือไม่