ตอนที่ 4 โรคเก่ากำเริบ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 4 โรคเก่ากำเริบ
ตอนที่ 4 โรคเก่ากำเริบ “ พระนางสนมเอกเพคะ!” ฝูเชว่ร้องตะโกนออกมาพลางรีบคุกเข่าลงที่เบื้องหน้าขอลู่เซียว นางร่ำไห้พลางเอ่ย “ฝ่าบาทเพคะ ขาของพระนางสนมเอกได้รับบาดเจ็บ มิสามารถคุกเขาได้จริงๆเพคะ เรื่องราววันนี้ล้วนเป็นความผิดของข้าน้อย หากฝ่าบาทจะลงโทษก็ลงโทษข้าน้อยเถิดเพคะ!” หลินหลิ่วเอ๋อส่งสายตายิ้มเยาะมาให้ข้า แต่นางกลับเสแสร้งเป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตาต่อหน้าของลู่เซียว “ฝ่าบาทเพคะ ในเมื่อขาของหลีเฟยได้รับบาดเจ็บก็มิเป็นอันใดหรอกเพคะ หม่อมฉันก็แค่คิดจะ....” นางก็แค่คิดอยากจะแสดงอำนาจต่อหน้าข้าก็เท่านั้น แม้แต่ขุนนางที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ก็ยัง คิดอยากวางอำนาจ แต่นี่นางเป็นถึงฮองเฮาแห่งแคว้นตงหลี “มิต้อง ให้นางคุกเข่าไป!” สีหน้าของลู่เซียวมิเปลี่ยน เขาเงื้อมมือขึ้นลูบศรีษะหลินหลิ่วเอ๋อเบาๆ สายตาที่มองนางเต็มไปด้วยความพึงพอใจ “ก่อนหน้านี้ข้าคงให้ท้ายนางมากเกินไป ในเมื่อตอนนี้เจ้าคือฮองเฮา ต่อจากนี้เรื่องราวในวังแห่งนี้ ข้ายกให้เจ้าเป็นผู้ตัดสินใจ” “หลิ่วเอ๋อขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ!” หลิ่วเอ๋อดีใจอย่างถึงที่สุด จนลืมใช้คำเรียก ‘หม่อมฉัน’ แทนตัวเองเสียแล้ว แต่ทว่าลู่เซียวดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่ยกมือขึ้นมาโอบรอบเอวของนาง “อากาศช่างหนาวเน็บยิ่งนัก เจ้าต้องระมัดระวังอย่าให้ร่างกายมิสบาย ไปเถิด ข้าจักไปส่งเจ้ากลับตำหนักเอง” ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่แม้แต่จะหันมามองข้าเลยแม้แต่น้อย และก็มิได้รับสั่งว่าให้ข้าคุกเข่าจนถึงเพลาใด เขาทำเพียงแค่ประคองคนรักใหม่ของตน และเดินจากไปข้างหน้าโดยมิหันกลับมามอง ในที่สุดสวนดอกเหมยที่คึกคักและน่าหลงใหลก็กลับสู่ความเงียบสงบ เมื่อรอจนทุกคนเดินจากไปไกลแล้ว ฝูเชว่ก็รีบวิ่งมายังเบื้องหน้าของข้าอย่างทุลักทุเล นางรีบยื่นมือมาประคองข้า “พระสนมเอกลุกขึ้นเถิดเพคะ พวกเขาไปหมดแล้ว ข้าน้อยจะไปส่งพระองค์กลับตำหนัก” หัวเข่าของข้าเปียกโชก อีกทั้งยังเริ่มเจ็บปวดเล็กน้อยจนเมื่อฝูเชว่ประคองข้าให้ลุกขึ้น ขาของข้าก็ซวนเซ ก่อนจะล้มลงตามเดิม “ พระสนมเอกเพคะ!” ฝูเชว่รีบร้อนประคองข้าไว้ จึงทำให้ข้าทรงตัวได้เล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าไปส่งยิ้มให้นาง “ข้ามิเป็นไร เจ้าสบายใจเถิด” เมื่อกลับมาถึงตำหนักหมิงจาว ความเจ็บปวดที่ขาของข้าก็ประทุขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าโลกเดิมจะกำเริบขึ้นมา ฝูเชว่ร้อนรนวิ่งออกไปเชิญแพทย์หลวง แต่ทว่านางเพิ่งจะวิ่งไปถึงด้านหน้าของประตู แพทย์หลวงก็มาถึงก่อนแล้ว ยังคงเป็นแพทย์หลวงหูท่านเดิม ที่ลู่เซียวมอบหมายให้รักษาอาการป่วยของข้ามาโดยตลอด ฝูเชว่มองดูหมอหลวงหูฉีดยาให้ข้าอย่างเป็นกังวล แม้ว่าหมอหลวงหูจะกำชับเป็นรอบที่สิบว่าอาการบาดเจ็บที่ขาข้ามิได้รุนแรงเท่าใดนัก เพียงแค่ได้รับความเย็น แต่ทั้งใบหน้าของนางก็ยังคงรู้สึกมิสบายใจ “พระสนมเอกเพคะ ผู้เฒ่าผู้แก่กล่าวว่าฤดูหนาวมาถึงแล้ว ต่อไปพระองค์อย่าออกไปด้านนอกบ่อยเลยนะเพคะ เพื่อป้องกันมิให้ความหนาวเย็นเข้าสู่ร่างกาย แล้วอาการเก่าของพระสนมเอกจะกำเริบขึ้นมาอีกได้นะเพคะ” ข้ารู้สึกว่าวันนี้คำพูดของท่านหมอหลวงหูมากมายเป็นพิเศษ แต่เอ่ยไปเอ่ยมาหัวใจสำคัญก็มิมีสิ่งอื่นใด นอกจากให้ข้าอย่าออกไปด้านนอกบ่อย เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ สวนดอกเหมยในวันนี้ ฆ่าเลยตามองหมอหลวงโห พลางเลิกคิ้วถาม “ ลู่เซียวสั่งให้ท่านนำวาจาเหล่านี้มาเอ่ยกับข้าใช่หรือไม่?” ในเพลาที่เขาไม่อยู่เช่นนี้ ข้ามักจะเรียกชื่อของเขาโดยตรง หมอหลวงหูก้มศีรษะลงพร้อมกับตอบมิตรงคำถาม “ ข้าจำเป็นจะต้องต้มยาก่อน หลังจากนั้นหม่อมฉันจะนำมาให้พระองค์ด้วยตนเอง หวังว่าท่านพระสนมเอกจักดูแลร่างกายให้ดีพะยะค่ะ” ในความเป็นจริง ถึงเขามิพูดข้าก็รู้ การที่ข้าได้เป็นสนมเอกที่มีข้อยกเว้นเพียงผู้เดียวในวังแห่งนี้ แทบทุกคนมองข้าเป็นหนามยอกอก เหตุการณ์ที่ข้าถูกลงโทษให้คุกเข่าในสวนดอกเหมยวันนี้ สนมทุกนางในวังแห่งนี้ก็ล้วนเห็นด้วยตาของตน ดังนั้น ก็คงมิมีผู้ใดคิดที่จะไปเชิญหมอหลวงมาให้ข้า มีเพียงลู่เซียวเท่านั้น ข้ารู้ว่าวันนี้เขาจงใจมิบอกว่าให้ค่าคุกเข่านานเท่าใด เพราะเป็นการช่วยข้า และข้าก็รู้อีกว่าหลายปีมานี้ หมอหลวงหูรักษาร่างกายให้ข้า และหยูกยาทั้งหมดที่ใช้ก็มิเคยผ่านมือของผู้ใด ข้ารู้ดีว่าตำหนักจาวเหอแห่งนี้นอกจากข้าแล้ว ผู้คนทั้งหมดล้วนเป็นคนของลู่เซียว ในตอนกลางคืน ข้ายังคงถูกความเจ็บปวดรุมเร้าเข้ามา ข้านอนพลิกไปมายากที่จะข่มตาให้หลับ พลันก็รู้สึกว่าผ้าม่านบนเตียงของข้าถูกดึงให้เปิดออก กลิ่นน้ำหอมลอยเข้าที่จมูก หลังจากนั้นฝ่ามือคู่หนึ่งก็กดลงบนหัวเข่าของข้า ข้าเจ็บปวดจนร่างทั้งร่างสะดุ้งโหยง หมอหลวงบอกว่าไม่ร้ายแรงมิใช่หรือ? เหตุใดจึงเจ็บปวดถึงเพียงนี้?” เป็นลู่เซียวนั่นเอง เขามักจะชอบแอบย่องมาเงียบๆเช่นนี้เสมอ
已经是最新一章了
加载中