ตอนที่ 84   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 84
ต๭นที่ 84 “ตกตะลึงมากหรือไม่” เฟยเอ๋อซ่อนความเหนื่อยหน่ายบนใบหน้า มองไปทางโหลวเหยนหมิงเบาๆ ยิ้มอะไรกัน ยามปกติเป็นท่านอ๋องหน้าชาอย่างเฉยเมย ยามนี้กลับยังยิ้ม? ยิ้มให้ผู้ใดกัน “ตกตะลึงมากจริงๆ” โหลวเหยนหมิงอย่างอืดอาด ก้าวมาเบื้องหน้าไม่กี่ก้าวยกมือขึ้นไปลูบไล้เค้าหน้าของเฟยเอ๋ออย่างจงใจมาก แต่กลับถูกเฟยเอ๋อเหลือบมองอย่างเย็นชา “ไปดูโขยงสาวงามของท่านนู่น มาเย้าแหย่ข้าให้น้อยลงหน่อย!” เฟยเอ๋อให้แววตาถูกสุขลักษณะแก่เขา ดึงแขนของสี่เอ๋อขึ้นและเดินออกไปด้านนอก “รอประเดี๋ยว” โหลวเหยนหมิงหมุนกายในบัดดล มองเงาร่างของเฟยเอ๋อ จนกระทั่งนางหยุดและหันหน้าไปมองเขาด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ จึงค่อยปริปาก “จะไปทั้งอย่างนี้? ไม่มีคำอะไรจะกล่าว?” “ท่านอยากให้ข้ากล่าวอะไร” เฟยเอ๋อกลอกตาขาว “จะว่าอย่างไรข้าเองก็ไม่ได้เห็นเจ้ามาหลายวันแล้ว ไม่เข้ามานั่งในตำหนักว่านฟางสักประเดี๋ยว ชายาหักหน้าข้าเกินไปหรือเปล่าเล่า” โหลวเหยนหมิงยิ้มเย็นอย่างฉับพลัน เฟยเอ๋อนิ่งงัน มองเขาอย่างไม่เข้าใจ เห็นว่าเฟยเอ๋อไม่เข้าใจ โหลวเหยนหมิงก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างตัวเบา หันหน้าไปบอกให้สี่เอ่อกลับไปก่อน ก่อนจะก้มหน้ามามองเค้าหน้าเล็กอันแสนคะนึงซึ่งไม่ได้เห็ฯมาหลายวันแล้ว “เข้าไปนั่งสักหน่อย!” “ข้าเหนื่อยแล้ว จะกลับไปพักผ่อนที่ตำหนักเยียนเฟย!” เฟยเอ๋อนึกอยากสะบัดปล่อยมือของเขา จะรู้ที่ใดว่าเขากลับใช้แรงฉุดมือของนาง ขณะเดียวกันที่นางกำลังเจ็บปวดนั้นก็ดึงนางเดินเข้าไปข้างใน เมื่อแม่นางไม่กี่คนด้านข้างได้เห็น ก็รีบตามเข้าไปด้วยสีหน้าแสบหนักทันที รั่วอวิ๋นกัดฟันกรอดมองไปที่โหลวเหยนหมิงที่กุมข้อมือของเฟยเอ๋อ แอบมุ่นคิ้ว และเดินตามเข้าไปในทันที “ท่านปล่อยข้านะ!” เฟยเอ๋อกระชากแขนกลับมาอย่างไม่ยอมความ โหลวเหยนหมิงกลับลากนางเข้าไปในอาคารของตำหนักว่านฟางราวกับไม่มีหัวใจก็ไม่ปาน มิหนำซ้ำเพิ่งจะเดินเข้าไป เหล่าผู้หญิงที่ตามหลังเข้ามาก็เร่งรุดก้าวไปข้างหน้าแล้วหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้สี่ตัวที่ถูกจัดวางเอาไว้ด้านใน เฟยเอ๋อนิ่งทื่อ เห็นว่าโหลวเหยนหมิงไม่ได้เอาความพวกนาง ราวกับว่าช่างโปรดปรานพวกนางจริงๆ อย่างนั้น ในอกก็พลันสับสนอึมครึมเล็กน้อย ออกแรงสะบัดมือของโหลวเหยนหมิงออก ครั้งนี้ โหลวเหยนหมิงเองก็ไม่ได้ลากนางอีกแล้ว ปล่อยให้นางสะบัดออก และก็เดินไปข้างหน้าเพื่อนั่งในตำแหน่งหลัก คนที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายก็คือรั่วอวิ๋น ยืนมองเฟยเอ๋ออยู่ด้านหลังอย่างเย็นเยียบแวบหนึ่ง ก่อนเดินนวยนาดมานั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ด้านข้างของโหลวเหยนหมิง เฟยเอ๋อสำรวจมองคนกลุ่มนี้ที่นั่งลงไป เห็นว่าเก้าอี้นี้อยู่ในมีจำนวนพอดี ก็แม้กระทั่งเพิ่มตำแหน่งให้นางอีกคนก็ไม่มี “ทำไม? เหตุใดชายาไม่นั่ง” โหลวเหยนหมิงยิ้มเย็น เคาะหน้าโต๊ะเบาๆ เฟยเอ๋อเองก็ไม่ได้โต้แย้ง เพียงเหลือบสายตาขึ้น จ้องมองโหลวเหยนหมิงอย่างดุดันแวบหนึ่ง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นชายาก็อาจจะไม่อยากนั่ง ดูท่านน้องสาวของเจ้าเหล่านี้ล้วนกระหายแล้ว ไม่สู้ให้ชายาออกแรง รินน้ำชาให้ทุกคนสักหน่อย แสดงบทชายาข้าแห่งจวนอ๋องเหยนหมิงที่มีจิตใจเอื้อเฟื้ออาทรแห่งคุณธรรม!” โหลวเหยนหมิงปริปากอีกครั้ง มุมปากกระตุกแววยิ้มเย็นอย่างหนักหน่วง เฟยเอ๋อกำหมัด นางดูออกแล้ว เขาจะต้องจงใจแน่ แม้แต่พวกนางเองก็จงใจเช่นเดียวกัน ครั้งนี้ โหลวเหยนหมิงจะรอการตอบสนองแบบไหนอีก หรือต้องการให้นางอ่อนแอจริงๆ? เป็นไปไม่ได้! ฉับพลันเฟยเอ๋อก็มองไปทางโหลวเหยนหมิงอย่างเย็นเยียบ จากนั้นก็เดินไปข้างกายเขา หยิบเครื่องน้ำชาที่จัดวางอย่างดีบนโต๊ะขึ้น บนฝ่ามือพลันอุ่นขึ้น เฟยเอ๋อหันหน้าไปมองโหลวเหยนหมิงที่กุมมือนางเอาไว้อย่างกะทันหัน “หากว่าไม่ต้องการ สามารถปฏิเสธได้ ขอเพียงเจ้าว่าง่ายไม่ไปถามอะไรอีก!” โหลวเหยนหมิงขมวดคิ้ว กดเสียงต่ำและมองนาง เฟยเอ๋อกลับยิ้มเย็น ยกมือขึ้นสะบัดมองของโหลวเหยนหมิงออก ก้มหน้าต่ำมาจัดเตรียมจอกชาต่อไป จากนั้นก็รินน้ำชาเต็มจอก อันดับแรกก็หยิบชาจอกหนึ่งวางไว้ข้างกายของโหลวเหยนหมิง ไม่มองเขาแม้สักแวบ แลหมุนกายวางจอกชาอีกใบวางไว้ที่ข้างกายรั่วอวิ๋น “ขอบคุณ ลำบากพี่ชายาอ๋องแล้ว!” รั่วอวิ๋นจงใจแย้มรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา รับจอกชาเอาไว้ เฟยเอ๋อสำรวจมองนางเย็นเยียบแวบหนึ่ง หมุนกายไปหยิบถาดต่อ วางไว้บนโต๊ะเล็กๆของหญิงสาวสี่นางที่นั่งอยู่บนเก้าอี้คนอื่นๆ ตอนที่เพิ่งเดินไปถึงข้างกายของสาวชุดเหลืองคนนั้น นางพลันยกมือขึ้น มารับจอกชาไปโดยตรง เฟยเอ๋อนิ่งงัน และก็ไม่ได้พูดอะไร นำชาให้นาง ตอนที่กำลังจะหมุนกาย สาวชุดเหลืองพลันร้องลั่นออกมา มือดูเหมือนจะสั่นระริก สะบัดชาร้อนไหลไปตามกระโปรงของเฟยเอ๋อ ซ้ำยังลวกถึงต้นขาของนางด้วย เฟยเอ๋ออ้าปากค้าง รู้ว่านางจงใจทำ และกลับทำเพียงมองในแววตาที่แฝงแววยั่วยุของนาง เรียวปากกลับกล่าวขอโทษ ไม่ได้ตั้งท่าอย่างจงใจ โหลวเหยนหมิงที่อยู่ด้านข้างทำเพียงขมวดคิ้ว กลับไม่ได้เอ่ยคำ “ชิวจี๋ ครั้งต่อไปต้องระวังให้ดี!” รั่วอวิ๋นกระตุกปากยิ้มบาง เฟยเอ๋อกะพริบตา สูดลมหายใจลึกๆ หลายๆ เฮือก ยกยิ้มออกมา มองหญิงชุดเหลือง “ข้าไม่เป็นไร!” กล่าวพลาง เฟยเอ๋อหมุนกายไปวางจอกชาใบสุดท้ายไว้ให้ด้านข้างของหมู่ตันในชุดแดง หมู่ตันกล่าวขอบคุณ ยกมือขึ้นรับจอกชา ประจวบกับตอนที่มือของเฟยเอ๋อยังไม่ทันผละปล่อย ฉับพลันจอกชาทั้งใบก็คว่ำใส่บนมือของนาง “อ๊าย!” เฟยเอ๋อร้องตกใจ ก้าวถอยหลังไป โหลวเหยนหมิงลุกขึ้นยืนและก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คราวนี้จึงเห็นรอยถูกลวกปื้นแดงบนหลังมือของเฟยเอ๋อ และเรื่อพุพองขึ้นหลายจุดอย่างรวดเร็ว “โอ้ว ขออภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจคว่ำถ้วยนะ! พี่ชายาอ๋อง ท่านไม่เป็นไรกระมัง!” หมู่ตันลุกขึ้นอย่างว่องไว ก้าวไปดูข้างหน้า โหลวเหยนหมิงกลับหันหน้ามาจ้องหมู่ตันอย่างยะเยือกเย็นแวบหนึ่ง ในอกหมู่ตันตกใจ หมุนกายกลับไปนั่งบนเก้าอี้แต่โดยดี มองไปทางรั่วอวิ๋นที่นั่งอยู่ด้านหน้าอย่างน้อยใจ “กลับตำหนักเยียนเฟยไปเรียกท่านหมอมาตรวจดู!” โหลวเหยนหมิงมุ่นคิ้วขึ้น ยกมือของเฟยเอ๋อขึ้นมองยังรอยบวมแดงด้านบนอย่างปวดใจ ในอกของเฟยเอ๋อปวดแสบจนต้องร้องขอชีวิต เหลือบสายตามองเข้าไปในดวงตาเปี่ยมแววปวดใจของโหลวเหยนหมิง แต่กลับยิ้มเย็นออกมากะทันหัน ออกแรงชักมือของตนเองกลับมา ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ไม่ต้องแสร้งประสงค์ดี นี่ไม่ใช่สิ่งที่ท่านต้องการหรอกหรือ” “เฟยเอ๋อ!” โหลวเหยนหมิงมุ่นคิ้ว “นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ท่านต้องการ ท่านไม่จำเป็นต้องสนใจข้า!” เฟยเอ๋อขบเรียวปาก มองโหลวเหยนหมิงด้วยแววตาเปี่ยมความเกลียดชัง “ไปหาท่านหมอก่อน หลีกเลี่ยงให้แผลลวกบนมือถูก...” โหลวเหยนหมิงก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แต่ยามที่ดวงตาของเฟยเอ๋อในที่สุดก็ปรากฏน้ำตาออกมานั้น กลับแข็งทื่อหยุดคำพูดที่อยากพูดเอาไว้ เฟยเอ๋อกลั้นน้ำตา ไม่อยากให้พวกมันร่วงลงมา มุมปากยกรอยยิ้มเย็นชาขึ้น หันหน้าออกไปไม่มองทางโหลวเหยนหมิงอีก ก่อนจะสาวเท้าวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว นี่ก็คือสิ่งที่เขาเคยบอกว่ารัก! นี่ก็คือสิ่งที่เขาเรียกว่าไม่ต้องเสียใจภายหลัง! นี่ก็คือคำเตือนของเขาหรอกหรือ อา...ช่างน่าขันจริงๆ! 
已经是最新一章了
加载中