ตอนที่ 86
ตนที่ 86
ฉับพลันแววตาก็ถูกห้องที่แสงไฟสว่างโร่ในส่วนลึกดึงดูดเข้าให้
เฟยเอ๋อก้าวไปข้างหน้าอย่างนวยนาด มองห้องที่สว่างห้องนั้น สดับฟังเสียงจากด้านในอย่างระแวดระวัง ช่างเงียบสงบนัก ราวกับไม่มีเสียงอลหม่านใดๆ ทว่าทั้งที่ด้านในสว่างอยู่แท้ๆ แต่กลับเงียบขนาดนี้...
มีเรื่องตกสะพรึงที่รบกวนผู้หญิงเหล่านั้นที่เล่นสนุกกันเมื่อสักครู่ คราวนี้เฟยเอ๋อจึงผลักประตูห้องอย่างระวัง เห็นว่าประตูห้องไม่ได้ล็อก จึงผลักออกอย่างเบามือ มองเข้าไปด้านใน
โหลวเหยนหมิงกำลังนั่งด้านหลังโต๊ะที่อยู่ด้านในอ่านจดหมายเหตุลับเกี่ยวกับการจับกุมของแคว้นเป่ยหมิง ยิ่งไม่ได้คาดคิดว่าเฟยเอ๋อจะปรากฏการอยู่ที่นี่อย่างฉับพลัน
ตอนที่เฟยเอ๋อเห็นโหลวเหยนหมิงนั่งอยู่ในสถานที่ราวกับห้องอักษรอยู่นั้น ก็ตกตะลึง ลืมเลือนจะคว้าธรณีประตู มองไปที่ผู้ชายที่กำลังมองของอย่างจดจ้องด้วยความแน่นิ่ง
โหลวเหยนหมิงแน่นิ่ง มุ่นคิ้วเงยหน้าไปมองยังคนที่บังอาจวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา เขาเคยเตือนผู้หญิงพวกนั้นแล้วแท้ๆ ขอแค่อยู่แน่ๆ นิ่งๆ ไม่อนุญาตให้มารบกวนเขา
ยามที่เห็นชัดว่าผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตูคือใคร โหลวเหยนหมิงหยัดกายลุกขึ้นยืนอย่างเต็มกำลัง “เฟยเอ๋อ?”
“ท่าน...” เฟยเอ๋ออ้าปากกว้างอย่างตะลึง ยืนแน่นิ่งอยู่หน้าประตูไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปหรือควรจากไปกันแน่ ฉากเบื้องหน้าไม่เหมือนกับที่นางจินตานาการเอาไว้เลยสักนิด เขาเพียงแต่ง่วนทำธุระของเขาอยู่ในนี้เท่านั้น ยิ่งไม่ได้ลงมือทำเรื่องอันใดให้นางต่ำต้อยเลย
โหลวเหยนมิงทอดถอนใจ วางของที่อยู่ในมือลง สาวเท้าเนิบเดินไปยังข้างประตูแล้วจูงนางเข้ามาในห้อง ยื่นมือไปปิดประตูลง
“ท่าน...หลายวันมานี้ท่านอยู่ที่นี่มาโดยตลอด?” เฟยเอ๋อมองแววอิดโรยจางๆ บนใบหน้าของเขาอย่างตกใจ ในใจอ่อนยวบลงมาชั่นขณะ
“เจ้าค้นพบจนได้!” โหลวเหยนหมิงยิ้มเจื่อนอย่างช่วยไม่ได้ โอบรัดเอวของนางเดินไปเบื้องหน้า ให้นางนั่งลงด้านข้างของมุมโต๊ะ
เฟยเอ๋อก้มหน้างุด ฉับพลันก็รู้สึกว่าเรื่องที่ผู้ชายตรงหน้าทำไม่ใช่เรื่องที่ทำให้คนเกลียดอย่างที่นางจินตนาการเอาไว้เลย “ท่านเพียงแค่สร้างภาพลวงตาขึ้นมา ทำให้ข้าหึงหวงใช่หรือไม่” เฟยเอ๋อเม้มปาก เหลือบตาขึ้นมองผู้ชายที่ยืนอยู่หน้ากาย
“ใช่” โหลวเหยนหมิงเองก็ไม่ได้พูดปด เพียงแต่เขาไม่คาดคิดว่าจะถูกนางจับได้รวดเร็วปานนี้
“ในเมื่อท่านสามารถไม่ไปแตะต้องผู้หญิงอื่น สามารถสนใจข้าได้ เหตุใดจะต้องให้ข้าเป็นชายาอ๋องผู้โง่เง่าด้วย?” เฟยเอ๋อนึกอยากลุกขึ้นยืน
โหลวเหยนหมิงกดนางเอาไว้ โน้มกายลงจุมผิตที่หน้าผากของนางอย่างแผ่วเบาหนึ่งครั้ง ก่อนจะกล่าวทอดถอนใจ “ข้าเพียงแต่อยากให้เจ้าได้รับบาดเจ็บน้อยลง!”
“เรื่องที่ท่านอยากแอบซ่อนข้า เป็นเรื่องที่จะทำให้ข้าได้รับบาดเจ็บ?” เฟบเอ๋อเหลือบตามองเข้าไปในดวงตาของโหลวเหยนหมิง
“อาจจะใช่” โหลวเหยนหมิงขมวดคิ้ว
เฟยเอ๋อขบเรียวปาก “ว่าตามจริง ข้าอยากรู้นักว่าเป็นเรื่องอะไร...”
“เฟยเอ๋อ!” โหลวเหยนหมิงโค้งกายขึ้นมาโอบเอานางเข้าไปกอด ทำให้นางแนบชิดบนเรือนกายของเขาอย่างแนบแน่น ก้มหน้าจุมพิตเบาๆ บริเวณใบหูของนาง “ไม่จะว่าอย่างไร เรื่องบางเรื่องข้าไม่อยากให้เจ้ารู้จริงๆ ขอเพียงเจ้าเชื่อมั่นข้าว่าตอนนี้จริงจังจริงใจต่อเจ้าจริงๆ ขอเพียงเจ้ายอมรับทุกอย่างในตอนนี้ทุกๆ วันอย่างว่าง่าย รอลูกของพวกเราคลอดอย่างมีความสุข เป็นแบบนี้ตลอดไป ไม่ดีหรือ”
จริงๆ แล้วเขาชอบผู้หญิงเบื้องหน้าคนนี้อย่างควบคุมไม่ได้ เทียบกับฉูเฟยเอ๋อคนก่อน ฉูเฟยเอ๋อในตอนนี้เขากลับรู้สึกว่านางเป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่ง สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ ก็คือการรักษาความอบอุ่นและหอมหวานเช่นนี้ต่อไป ส้วนเรื่องข้อตกลงระหว่างจักรพรรดิ ให้มันระเหิดหายกลายเป็นควันไปก่อนเถิด! ขอเพียงลืมเลือนเรื่องราวนี้สิ้นแล้ว ขอเพียงเฟยเอ๋อไม่รู้เรื่องนี้ ตอนนี้ชีวิตเช่นนี้ก็จะสามารถเก็บมันไว้ได้
“น่ารังเกียจ!” เฟยเอ๋อพลันฟุบในอ้อมอกของเขาและยิ้มออกมา ก้มหน้าไปสูดกลิ่นบนเรือนกายของเขาแผ่วเบา “วันนั้นข้าโกรธเพียงเพราะคืนก่อนท่านกับรั่วอวิ๋นจงใจทำต่อหน้าข้า ในอกยังมีความแค้น ยิ่งเพิ่มเรื่องตอนกลางคืนที่ท่านขืนใจข้า ดังนั้นวันถัดมาจึงไม่อยากไปทำความเข้าใจเรื่องราวใดๆ และโกรธอย่างฟัดเฟียด”
“เช่นนั้นตอนนี้เจ้าเข้าใจ?” โหลวเหยนหมิงก้มหน้ามองบนใบหน้าของนางที่ในที่สุดก็มีรอยยิ้มปรากฏออกมาอีกครั้ง
“ยังไม่เข้าใจ!” เฟยเอ๋อกลอกตาขาวใส่เขา “แต่ว่าข้าจะพยายามไม่ไปสนใจเรื่องพวกนั้นแล้ว เพียงแต่...ท่านจริงใจจริงๆ ก็ดีแล้ว!” สิ่งที่นางสนใจ เพียงแค่เขาจริงใจไม่จริงใจสินะ!
“เช่นนั้นเจ้ารู้สึกว่าข้าจริงใจหรือว่าไม่จริงใจ?” โหลวเหยนหมิงมองนางพลางยิ้มบาง
“โหลวเหยนหมิง ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านช่างน่างรังเกียจนัก!” เฟยเอ๋อไม่ตอบ แต่กลับมองเขาถมึง ยั่วยุไฟโทสะของโหลวเหยนหมิงออกมา
“ฮ่าๆ!” เฟยเอ๋อพลันฉีกมุมปากยิ้มออกมา เอากระหม่อมเล็กฝังเข้าไปในอ้อมอกของเขา สูดดมกลิ่นกายบนเรือนร่างของเขาอย่างเต็มเหนี่ยว “โกหกท่านแล้ว ข้ารักท่านเพียงนี้ จะรู้สึกว่าท่านน่ารังเกียจได้อย่างไร! อื้อๆ ไม่เลว บนเรือนกายไม่มีกลิ่นอายของผู้หญิงอื่น!”
โหลวเหยนหมิงเอียงหน้ายิ้มบางโดยพลัน กลิ้งหน้าเบาๆ ตรงแผ่นหลังของเฟยเอ๋อ “เหตุใดเจ้าจึงปรากฏกายอยู่ที่นี่โดยกะทันหัน ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าจะว่าง่ายขนาดนี้ ข้าจะสิ้นเปลืองแรงไปรวบรวมกลุ่มผู้หญิงเจี๊ยวจ๊าวนั่นทำไมกัน”
“นั่นเป็นเรื่องในจิตสำนึกท่าน!” เฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้น มองเขาด้วยแววตาเปี่ยมเสียดสี “ใครใช้ให้ท่านใช้วิธีโง่ขนาดนี้กัน! ใครจะคาดคิดว่าท่านอ๋องเหยนหมิงผู้สูงศักดิ์เองก็จะสามารถใช้วิธีโง่เง่าจำพวกนี้มายั่วโมโหคนกัน! หากไม่ใช่ว่าภายหลังท่านเรียกท่านหมอให้ไปดูแผลบนมือให้ข้า สี่เอ๋อยังพูดอีกว่าท่านสนใจข้าจริงๆ ข้าก็คงไม่วิ่งแจ้นมาดูท่านหรอก!”
“จริงหรือ” โหลวเหยนหมิงยิ้ม ก้มหน้าลงไปเชยมือที่ถูกห่อด้วยผ้าโปร่งของเฟยเอ๋อขึ้นมา ประทับจุมพิตเบาๆ “ยังเจ็บอยู่หรือ”
“ยดีขึ้นแล้ว!” เฟยเอ๋อแยกเขี้ยว มีมือที่ถูกลวกแล้วไม่เจ็บที่ใดกันเล่า เพียงแต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือในอกของนางไม่สบายใจแล้ว
“จริงหรือ” โหลวเหยนหมิงมุ่นคิ้ว เห็นว่านอกจากจะมีผ้าโปร่งแล้วยังมีรอยแดงจางๆ อยู่เล็กน้อยด้วย “ดูเหมือนว่าจะลวกอย่างรุนแรง วันพรุ่งยามข้าเรียกให้ผู้หญิงพวกนั้นออกไป ต้องการให้เรียกเจ้าออกไปลงโทษหมู่ตันกับชิวจี๋ผู้หญิงสองนางนั้นด้วยหรือไม่”
“ไม่ต้องแล้ว!” เฟยเอ๋อแสยะปาก อันที่จริงผู้หญิงสองคนนั้นเองก็เพียงแค่ถูกคนบงการอยู่ก็เท่านั้น เฟยเอ๋อจำได้ว่าตอนนั้นหลังจากก่อเรื่องแล้วหมู่ตันกับชิวจี๋ต่างมองไปที่รั่วอวิ๋นแวบหนึ่ง
ความคิดในใจพลันพังทลายลง เฟยเอ๋อนิ่งงัน เหลือบสายตามองโหลวเหยนหมิงที่ใบหน้าใหญ่ขึ้นเบื้องหน้าของตนเอง หน้าเรียงแดงเรื่อ “ท่าน ท่านอยากทำหรือ”
“เจ็ดแปดวันติดกันไม่ได้แตะต้องเจ้า เจ้าว่าตอนนี้ข้าอยากทำหรือไม่” โหลวเหยนหมิงยิ้มชั่วร้ายในบัดดล และโอบรัดเฟยเอ๋อเอาไว้อย่างที่ไร้การขัดขืน
“เอ้! ที่นี่คือตำหนักว่านฟาง ไม่ฝช่หมิงเวนโหลวของท่านและตำหนักเยียนเฟยของข้า...”
“ไม่มีปัญหา!” โหลวเหยนหมิงกอดนางเดินเข้าไปห้องด้านใน
“แต่ว่า...แต่ว่าตอนนี้ข้ามีมีบุตร...”
“ไม่มีปัญหา!” โหลวเหยนหมิงกดเฟยเอ๋อเข้าสู่เตียง ไม่สนการปฏิเสธของนาง มีครั้งไหนบ้างที่จะไม่บ่ายเบี่ยงไม่สิ้นสุดบ้าง
“ข้า...อื้อ...”